ซ่งอวิ้นอวิ้นยิ้มเสิ่นจือเชียนขอให้เธอพักผ่อนให้มาก ๆ แล้วเขาก็ออกไปพร้อมกับอันลู่ซ่งอวิ้นอวิ้นยังไม่ค่อยง่วง เธอจึงลุกขึ้นเพื่อจะออกไปหากู้ฮว๋าย แต่เธอยังไม่ทันได้ออกไป กู้ฮว๋ายก็เข้ามาพอดีเขายิ้มเล็ก ๆ มองดูก็ไม่ได้มีอะไรแย่ใบหน้าของซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้แสดงอะไรออกมา เพียงแค่ถามออกไป “ฉันจะได้เจอลูกเมื่อไหร่?”“ฉันเคยพูดไปแล้วว่าหลังจากที่แต่งงาน เธอดูว่าเธอชอบอันไหน”เขาเอาการ์ดแต่งงานมา ให้เธอเลือกอันที่เธอชอบซ่งอวิ้นอวิ้นคิดว่ากู้ฮว๋ายนั้นเป็นคนแปลกประหลาดเธอก็พูดไปแล้วว่าไม่ได้ชอบเขา ที่ยอมแต่งงาน ก็เป็นเพราะลูก เธอคงบ้าไปแล้วใช่ไหม?แล้วยังจะให้เลือกการ์ดเชิญอะไรอีก?“คุณเลือกเองเลยก็แล้วกัน ไม่ต้องมาถามฉันหรอก”ซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งลงตรงโซฟากู้ฮว๋ายพูด “งั้นก็ได้ ฉันจะเป็นคนจัดการเอง รอให้การ์ดเชิญทำเสร็จ ฉันจะเอาไปให้เจียงเย่าจิ่งเป็นคนแรกเลย”ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่มีอารมณ์จะสนใจเขา ได้แต่นอนพิงโซฟาอย่างเหนื่อยล้า“เธอไม่สบายเหรอ?” กู้ฮว๋ายเดินมา คิดจะนั่งข้าง ๆ ซ่งอวิ้นอวิ้น เธอก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีกู้ฮว๋ายขมวดคิ้ว “เกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นอารมณ์ไ
เจียงเย่าจิ่งได้ยินชื่อของซ่งอวิ้นอวิ้น ก็ละสายตาจากเอกสาร แล้วเงยหน้าขึ้นมองครั้งนี้กู้ฮว๋ายทำสำเร็จ เขาจงใจเปิดรูปให้เจียงเย่าจิ่งดู อีกทั้งยังมีชื่อของทั้งสองคนอีก “เห็นแล้วใช่ไหม?”เจียงเย่าจิ่งสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่แสดงอาการใด ๆ “กู้ฮว๋าย ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นผู้หญิงที่ฉันไม่เอาแล้ว นายชอบ ก็เอาเธอไปสิ”กู้ฮว๋ายรู้ว่าเจียงเย่าจิ่งนั้นแกล้งทำ แล้วก็ไม่สนใจคำพูดเสียดสีของเขา “ผู้หญิงที่คุณไม่เอา ถ้าคุณไม่ถือสา ผมก็ไม่สนใจว่าเธอเคยมีชายอื่นมาก่อน พูด ๆ ไปแล้ว หลังจากนี้เธอเป็นของผมแล้ว ผมได้เธอมาก็ต้องขอบคุณประธานเจียงที่ปล่อยมือจากเธอ คุณวางใจได้ ผมจะรักเธอให้มาก ๆ”“นายไปได้แล้ว!” เจียงเย่าจิ่งเซ็นเอกสารแล้วโยนเอกสารไปยังที่ข้าง ๆ กู้ฮว๋ายยิ้มเมื่อรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านหน้าไป ดูเหมือนเขาจะต้องการปะทะเป็นพิเศษ “วันเสาร์นะ ประธานเจียงอย่าลืมล่ะ”เจียงเย่าจิ่งยกมุมริมปากขึ้น ส่วนโค้งนั้นดูค่อนข้างดุร้ายกู้ฮว๋ายเอาการ์ดแต่งงานวางไว้ “งั้นเจอกันวันเสาร์นะ”พูดเสร็จกู้ฮว๋ายก็ผิวปาก และเดินออกจากห้องทำงานของเจียงเย่าจิ่งไปประตูปิดลง ใบหน้าที่เรียบนิ่งของเจียงเย่าจิ่ง ก็แปรเปลี่ยนเป็น
ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเจียงเย่าจิ่งกับหยางเชี่ยนเชี่ยนจะไม่ปกติ แต่ทุกครั้งที่ได้ยินหยางเชี่ยนเชี่ยนเรียกชื่อเจียงเย่าจิ่งแบบนี้ ก็ทนไม่ไหวที่จะต้องขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้จะทำตัวเป็นเจ้าของเขาเหรอ?อยู่บริษัทเรียกชื่อแบบนี้ได้เหรอ?ไม่รู้ทำไม ฮั่วซุนถึงรู้สึกชอบหยางเชี่ยนเชี่ยนไม่ลงเลยพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “ประธานเจียงก็อารมณ์แบบนี้อยู่แล้ว”พูดเสร็จก็รีบเดินไปไล่ตามไปสองก้าว “ผู้จัดการฮั่วคุณอย่ารีบเดินไปสิ คุณว่าถ้าฉันเข้าไปตอนนี้ เขาจะยังโมโหอยู่ไหม?”“เธอก็ลองดูสิ” ฮั่วซุนยิ้มแล้วพูดเขารู้ตอนนเจียงเย่าจิ่งยังโมโหอยู่ ยังไม่หายแน่นอน ใครเข้าไปก็ต้องกลัวจนหัวหดหยางเชี่ยนเชี่ยนก็ฉลาดเหมือนกัน “ฉันค่อยเข้าไปดีกว่า ถ้าเขายังโมโหอยู่ ฉันเข้าไป ก็เหมือนหาเรื่องให้ตัวเอง”ฮั่วซุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฉลาดดีนี่”“ฉันก็แค่ไม่อยากทำให้เย่าจิ่งโกรธ” พูดจบก็เดินกอดเอกสารเดินไป……เป็นเพราะการปรากฏตัวของกู้ฮว๋าย วันนี้ก็เลยเป็นวันที่แย่ของเจียงเย่าจิ่ง!อีกทั้งไม่มีสมาธิจะทำงาน แล้วยังอาจจะทำให้ตัดสินใจอะไรพลาดไปได้ เขาก็ไม่มีอารมณ์จะทำงานต่อ ก็เลยจะกลับเร็วขึ้นหน่อยคฤหาสน์ในตอนนี้
“เจียงเย่าจิ่ง?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยทนไม่ไหว “พี่ นั่นไม่ใช่พี่เขยเหรอ? ก่อนหน้าเขายังช่วยจัดการให้พี่ ทำไมจู่ ๆ ถึงทำแบบนี้กับพี่?”“รุ่ยเจี๋ย คุณพูดอะไร? เจียงเย่าจิ่งแต่งงานเมื่อไหร่ หรือว่าคุณกับพี่สาวคุณ?” เจ้าหน้าที่ขนส่งถามอย่างตกใจอย่างไรก็ตามเรื่องการแต่งงานของซ่งอวิ้นอวิ้นกับเจียงเย่าจิ่งนั้น จัดแบบเล็ก ๆ มีคนรู้ไม่เยอะ ก็เหมือนกับเจ้าหน้าที่ขนส่งที่ยิ่งไม่รู้อะไรเลยซ่งอวิ้นอวิ้นยิ้มแล้วอธิบาย “เมื่อกี้รุ่ยเจี๋ยดื่มมานิดหน่อย คุณอย่าไปฟังที่เขาพูดเลย”พูดเสร็จก็ลากซ่งรุ่ยเจี๋ยเข้าไปในห้องทำงาน และให้เจ้าหน้าที่ขนส่งไปทำงานต่อ “เรื่องนี้ พรุ่งนี้ค่อยคิดหาวิธี”“อื้ม ได้” เจ้าหน้าที่ขนส่งไม่ได้คิดอะไรมาก กับคำพูดของซ่งรุ่ยเจี๋ยที่น่าจะเมาจริง ๆ“พี่” ซ่งรุ่ยเจี๋ยขมวดคิ้ว “พี่ลากฉันมาทำไม? อีกอย่างพี่ก็แต่งงานกับเจียงเย่าจิ่ง…”“ซ่งรุ่ยเจี๋ย” ซ่งอวิ้นอวิ้นขัดเขา “ฉันกับเขาเราหย่ากันแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้ห้ามไปพูดแบบนี้ข้างนอก เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันกับเขาเคยแต่งงานกัน”“ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง “แม้แต่ลูกของเขาเขาก็ไม่เอาเหรอ?”“เขาไม่รู้ว่าลูกเป็นของเขา” ซ่
“ฉะนั้นฉันก็จะให้นายไปหาเน็ตไอดอลมา ตอนนี้การขายของออนไลน์กำลังฮิต ใช้เวลาไม่นาน” ซ่งอวิ้นอวิ้นตัดสินใจ“ได้ ฉันจะติดต่อให้”“อืม”ซ่งอวิ้นอวิ้นวางสาย แต่ยังไม่ออกจากบริษัท แต่หาคนที่เชื่อถือได้สองสามคน แอบเอาสินค้าออกไปจากบริษัท เจียงเย่าจิ่งต้องการกดดันเธอ ถ้าเขารู้ว่าเธอจ้างเน็ตไอดอลมาขายสินค้าของเธอ เขาก็อาจจะสร้างปัญหาเพิ่ม อย่างไรก็ตามเขามีทั้งเงินและอำนาจดังนั้นเรื่องนี้ควรปิดเป็นความลับเมื่อจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จ ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว เธอกลับบ้านอยากจะพักสักหน่อย ก็ถูกช่างแต่งหน้าที่กู้ฮว๋ายจ้างมาดึงไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วบอกว่าจะแต่งหน้าให้กับเธอเธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้อย่างง่วงนอน เปลือกตาก็ปิดลงซ่งรุ่ยเจี๋ยเทกาแฟให้เธอหนึ่งแก้ว แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เธอ “พี่…”“รุ่ยเจี๋ย ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ตอนนี้นายมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ” ซ่งอวิ้นอวิ้นมองเขา “เรื่องในครั้งนี้ ฉันมอบหมายให้นายจัดการ ขอแค่สัญญามันเหมาะสม นายก็เซ็นสัญญาได้เลย แต่ต้องทำอย่างลับ ๆ นายก็บอกกับทางบริษัทว่าฉันกำลังหาวิธีอยู่”“ทำไมต้องปิดบังทุกคนด้วย?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องปิดบัง“ป้องก
สีหน้าของเจียงเย่าจิ่งเปลี่ยนเป็นเย็นชา ยิ่งมองยิ่งแย่ลงบรรยากาศรอบ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเย็นลง“ซ่งอวิ้นอวิ้น เธอคิดว่ากู้ฮว๋ายจะชอบเธอจริง ๆ เหรอ? เธออย่าลืมนะ ว่าเธอเคยแต่งงานกับฉันมาก่อน แล้วฉันก็เคยนอน…”“เจียงเย่าจิ่ง!” ซ่งอวิ้นอวิ้นขัดจังหวะเขา“ทำไม ทนไม่ได้เหรอ?” เจียงเย่าจิ่งยื่นมือไปหาเธอ “ตอนนี้ไปกับฉันยังทันนะ”ซ่งอวิ้นอวิ้นยิ้ม “เจียงเย่าจิ่ง ฉันยังจำที่คุณพูดกับฉันตอนที่หย่ากันได้ แล้วใบหย่าของเราก็ทำไปแล้ว ส่วนคุณในตอนนี้ก็มีหยางเชี่ยนเชี่ยนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? คุณมาหาฉันไม่กลัวเธอหึงเหรอ? ใช่สิ ฉันได้ยินว่า คุณเอาของที่มีค่าที่สุดให้เธอด้วย ดูแล้วคุณคงจะชอบเธอมาก ยินดีกับคุณด้วยนะ ที่เจอคนที่คุณชอบ”“ฉันก็แค่เอาของคืนเจ้าของเดิม” เขาอธิบายออกไปโดยไม่รู้ตัวซ่งอวิ้นอวิ้นเลิกคิ้ว “ของที่มีค่าของคุณ ที่แท้ก็เป็นเธอ ดูแล้วพวกคุณใกล้ชิดกันมาก”เจียงเย่าจิ่งเม้มริมฝีปาก เขาไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างไรก็ตามก็เป็นคนที่เคยช่วยเขาไว้ตอนเด็กไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่จัดการหางานให้เธอตามที่นายท่านเจียงร้องขอ“สามีของฉันใกล้จะมาแล้ว คุณรีบไปเถอะ” เดิมทีนั้นซ่งอวิ้นอวิ้นเหนื่อย แต่เ
“พวกเราแต่งงานกันจริง ๆ นะ? โกหกตรงไหนกัน? รอให้งานแต่งเสร็จ พวกเราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน” ก่อนหน้านี้กู้ฮว๋ายอยากให้เป็นเรื่องโกหกเขามาที่นี่ก็เพื่อซ่งอวิ้นอวิ้น ส่วนเจียงเย่าจิ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญกู้ฮว๋ายไม่อยากข่มขู่อะไรซ่งอวิ้นอวิ้นมากนัก “ขั้นตอนมันง่ายมาก ไม่นานก็เสร็จแล้วโอเคไหม? ทุกอย่างอยู่ในคำขอของเธอ”ซ่งอวิ้นอวิ้นมองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไร“ตอนนี้ก็สายแล้ว เราไปกันเถอะ” กู้ฮว๋ายพูดถึงแม้จะจัดงานแต่ง แต่ว่าก็ไม่ได้มีชีวิตชีวาและรื่นเริงคงมีแค่กู้ฮว๋ายคนเดียวเท่านั้นที่มีความสุขซ่งอวิ้นอวิ้นพูดอย่างเจ็บปวด “ก็ได้”มาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องอาย อีกทั้งงานแต่งก็ใกล้จะจบลงแล้ว เธอก็สามารถพบกับลูกได้แล้วเธอเดินออกไป หานซินก็เดินลงมาข้างล่างพอดีก่อนหน้านี้เธอไม่ยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบแต่ว่าพอเห็นเธอใส่ชุดแต่งงานออกไป ก็ทนไม่ไหว“อวิ้นอวิ้น”ซ่งอวิ้นอวิ้นหันกลับไปแล้วยิ้ม “แม่ วันนี้เป็นงานแต่งของฉัน แม่ต้องมีความสุขสิ”หานซินจะดีใจได้อย่างไร เธอไม่ร้องไห้โฮก็ดีเท่าไหร่แล้วกู้ฮว๋ายโอบไหล่ของซ่งอวิ้นอวิ้น แล้วพูด “คุณน้า ผมจะดูแลซ่งอวิ้นอวิ้นใ
เวลานี้กู้ฮว๋ายปกป้องซ่งอวิ้นอวิ้นอย่างมาดแมนแต่ว่าเขาถูกเอาใจมาโดยตลอด ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ นอกจากนี้ผู้ชายที่มานั้นมีแต่ร่างสูงใหญ่กำยำ เพียงแค่ใช้แรงเล็กน้อยก็สามารถทำให้กู้ฮว๋ายกระเด็นออกไปจากซ่งอวิ้นอวิ้นได้อย่างง่ายดาย!พวกเขาดึงซ่งอวิ้นอวิ้นออกมาจากรถ“พวกนายเป็นใคร?” ซ่งอวิ้นอวิ้นจับประตูไว้แน่นไม่ยอมลง“พวกผมเป็นใคร คุณไม่จำเป็นต้องรู้ คุณก็แค่ตามพวกเราไปก็พอ พวกเราไม่ทำอะไรคุณแน่นอน แต่ว่าถ้าคุณขัดขืน พวกเราก็อาจจะทำ” ใบหน้าของชายคนนั้นเรียบนิ่ง ไม่ได้แสดงอะไรออกมาเลยซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยมือ อย่างไรก็ตามเธอยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้!คิดว่าตนเองนั้นพึ่งใครไม่ได้!พวกเขาถูกใครส่งมากันแน่?“กลางวันแสก ๆ แบบนี้ พวกนายคิดจะทำอะไร?” กู้ฮว๋ายโมโห พวกเขาไม่ได้คิดจะทำร้ายใคร เพียงแค่มาเพื่อจับซ่งอวิ้นอวิ้น ดูแล้วคงจะมาหาซ่งอวิ้นอวิ้นโดยเฉพาะ“พวกเราเป็นใครไม่ใช่เรื่องของคุณ” ชายคนหนึ่งจับกู้ฮว๋ายไว้ไม่ให้ขยับไปไหน แล้วพูดขึ้น “รีบพาเธอไป อย่าเสียเวลาเลย”ซ่งอวิ้นอวิ้นถูกลากออกไปจากรถอย่างแรง และถูกยัดเข้าไปในรถฮัมเมอร์กู้ฮว๋ายทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างกังวล! แต่กลับทำ
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื