“พวกเราแต่งงานกันจริง ๆ นะ? โกหกตรงไหนกัน? รอให้งานแต่งเสร็จ พวกเราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน” ก่อนหน้านี้กู้ฮว๋ายอยากให้เป็นเรื่องโกหกเขามาที่นี่ก็เพื่อซ่งอวิ้นอวิ้น ส่วนเจียงเย่าจิ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญกู้ฮว๋ายไม่อยากข่มขู่อะไรซ่งอวิ้นอวิ้นมากนัก “ขั้นตอนมันง่ายมาก ไม่นานก็เสร็จแล้วโอเคไหม? ทุกอย่างอยู่ในคำขอของเธอ”ซ่งอวิ้นอวิ้นมองเขาแต่ไม่ได้พูดอะไร“ตอนนี้ก็สายแล้ว เราไปกันเถอะ” กู้ฮว๋ายพูดถึงแม้จะจัดงานแต่ง แต่ว่าก็ไม่ได้มีชีวิตชีวาและรื่นเริงคงมีแค่กู้ฮว๋ายคนเดียวเท่านั้นที่มีความสุขซ่งอวิ้นอวิ้นพูดอย่างเจ็บปวด “ก็ได้”มาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องอาย อีกทั้งงานแต่งก็ใกล้จะจบลงแล้ว เธอก็สามารถพบกับลูกได้แล้วเธอเดินออกไป หานซินก็เดินลงมาข้างล่างพอดีก่อนหน้านี้เธอไม่ยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบแต่ว่าพอเห็นเธอใส่ชุดแต่งงานออกไป ก็ทนไม่ไหว“อวิ้นอวิ้น”ซ่งอวิ้นอวิ้นหันกลับไปแล้วยิ้ม “แม่ วันนี้เป็นงานแต่งของฉัน แม่ต้องมีความสุขสิ”หานซินจะดีใจได้อย่างไร เธอไม่ร้องไห้โฮก็ดีเท่าไหร่แล้วกู้ฮว๋ายโอบไหล่ของซ่งอวิ้นอวิ้น แล้วพูด “คุณน้า ผมจะดูแลซ่งอวิ้นอวิ้นใ
เวลานี้กู้ฮว๋ายปกป้องซ่งอวิ้นอวิ้นอย่างมาดแมนแต่ว่าเขาถูกเอาใจมาโดยตลอด ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ นอกจากนี้ผู้ชายที่มานั้นมีแต่ร่างสูงใหญ่กำยำ เพียงแค่ใช้แรงเล็กน้อยก็สามารถทำให้กู้ฮว๋ายกระเด็นออกไปจากซ่งอวิ้นอวิ้นได้อย่างง่ายดาย!พวกเขาดึงซ่งอวิ้นอวิ้นออกมาจากรถ“พวกนายเป็นใคร?” ซ่งอวิ้นอวิ้นจับประตูไว้แน่นไม่ยอมลง“พวกผมเป็นใคร คุณไม่จำเป็นต้องรู้ คุณก็แค่ตามพวกเราไปก็พอ พวกเราไม่ทำอะไรคุณแน่นอน แต่ว่าถ้าคุณขัดขืน พวกเราก็อาจจะทำ” ใบหน้าของชายคนนั้นเรียบนิ่ง ไม่ได้แสดงอะไรออกมาเลยซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยมือ อย่างไรก็ตามเธอยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้!คิดว่าตนเองนั้นพึ่งใครไม่ได้!พวกเขาถูกใครส่งมากันแน่?“กลางวันแสก ๆ แบบนี้ พวกนายคิดจะทำอะไร?” กู้ฮว๋ายโมโห พวกเขาไม่ได้คิดจะทำร้ายใคร เพียงแค่มาเพื่อจับซ่งอวิ้นอวิ้น ดูแล้วคงจะมาหาซ่งอวิ้นอวิ้นโดยเฉพาะ“พวกเราเป็นใครไม่ใช่เรื่องของคุณ” ชายคนหนึ่งจับกู้ฮว๋ายไว้ไม่ให้ขยับไปไหน แล้วพูดขึ้น “รีบพาเธอไป อย่าเสียเวลาเลย”ซ่งอวิ้นอวิ้นถูกลากออกไปจากรถอย่างแรง และถูกยัดเข้าไปในรถฮัมเมอร์กู้ฮว๋ายทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างกังวล! แต่กลับทำ
สิ่งที่เขารู้ เขาคิดว่าซ่งอวิ้นอวิ้นนั้นฉลาดมาก ทำอะไรก็เป็นระเบียบมาก!ครั้งนี้เป็นแผนการของเธอรึเปล่า?เธอออกจากตระกูลซ่งแล้วหายไป คงจะคิดว่าไม่อยากให้เขากับหานซินลำบากจริง ๆ แล้วคนที่จับเธอไปเธอเป็นคนจัดการหรือเปล่า?เธอไม่อยากแต่งงานกับกู้ฮว๋าย ต่อหน้าแค่ทำเป็นยอมเหรอ?ยิ่งคิดซ่งรุ่ยเจี๋ยก็คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!กู้ฮว๋ายเดินออกมา นั่งอยู่ในรถคิดแล้วคิดอีก ใครเป็นคนจับซ่งอวิ้นอวิ้นไปกัน?เขาก็ยังคิดไม่ออกจริง ๆ ในหัวก็คิดออกแต่ชื่อของเจียงเย่าจิ่งเขาเบิกตากว้าง จะเป็นเขาเหรอ?“ใช่ ต้องเป็นเขาแน่ ๆ !” กู้ฮว๋ายตบเท้า ทำไมเขาเพิ่งคิดได้?นอกจากเจียงเย่าจิ่งจะมีอำนาจมากแล้ว ก็ยิ่งทำให้เขาหาร่องรอยไม่พบ ไม่อย่างนั้นใครกันที่จะมีแผนการ และความสามารถแบบนี้ล่ะ?พอเข้าใจแล้วเขาก็รีบสตาร์ทรถ ขับไปที่เทียนจูกรุ๊ปครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถของเขาก็จอดอยู่ใต้ตึกเทียนจูกรุ๊ปเขาเข้าไปด้วยความโกรธ แต่คนที่อยู่ตรงแผนกต้อนรับขวางเขาไว้!เขาขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน เขาก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงานของเจียงเย่าจิ่ง ผลักประตูเข้าไปอย่างแรง“เจียงเย่าจิ่ง!”กู้ฮว๋ายเรียกชื่อเขาแล้วตบลงไปที่โต๊ะทำ
เจียงเย่าจิ่งหันไปมองเขา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรฮั่วซุนเข้าใจแล้ว“ประธานเจียง” ฮั่วซุนแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวัง “ในเมื่อคุณยังชอบซ่งอวิ้นอวิ้น แล้วคุณก็ยังให้หยางเชี่ยนเชี่ยนทำงานในบริษัท ผู้หญิงทุกคนชอบน้อยใจ คุณซ่งเห็นต้องไม่ชอบแน่นอน แบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกคุณนั้นพัฒนาหรอก”เจียงเย่าจิ่งพูดเสียงเย็น “เธอเป็นคนแนะนำฉันให้กับผู้หญิงคนอื่น นายคิดว่าเธอจะยังรู้สึกอะไรกับฉันอีกเหรอ?”ฮั่วซุนพูดไม่ออกใช่แล้วถ้าเกิดชอบจริง ๆ ก็คงไม่สามารถทนได้ที่เห็นผู้หญิงคนอื่นอยู่กับผู้ชายที่ตัวเองชอบหรอก?อารมณ์ในโลกนี้ ก็ต้องมีความเกลียดชังอยู่แล้วหลังจากรักคนคนหนึ่งไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะแบ่งผู้ชายของตนเองให้กับคนอื่นได้!“ประธานเจียง ถ้าเธอไม่มีใจ งั้นทำไมไม่ปล่อยให้เธอแต่งงานกับกู้ฮว๋ายล่ะครับ การบังคับกันแบบนี้มันไม่ดีเลย ถ้าเกิดคุณกักขังเธอไว้ แล้วจะให้อยู่ไปตลอดเลยเหรอ?”ใบหน้าของเจียงเย่าจิ่งเย็นชา “เธอไม่ชอบฉัน ฉันก็จะไม่ยอมให้เธออยู่กับผู้ชายคนอื่น”ฮั่วซุน “...”ถ้าตัวเองไม่ได้ ก็จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นได้เหรอ?ในใจของเขานั้นกลับสงสารซ่งอวิ้นอวิ้น ในเวลาเดี
เจียงเย่าจิ่งทนไม่ไหว “ฉันยังมีธุระ เธอก็ไปจัดการเรื่องของเธอเถอะ”หยางเชี่ยนเชี่ยนลังเล “คุณปู่เป็นผู้อาวุโส เขาเรียกพวกเราไป ควรที่จะ…”“ฉันจะอธิบายให้เขาฟังเอง” เจียงเย่าจิ่งไม่อยากจะพูดกับเธออีก จึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงาน แล้วเดินตรงไปที่ห้องประชุมหยางเชี่ยนเชี่ยนตามเขามา “ทำไมคุณถึงเย็นชากับฉันได้ขนาดนี้?”เจียงเย่าจิ่งขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองเธอ “ทำไม ฉันก็หางานให้เธอทำแล้ว ยังจะต้องรับผิดชอบเธอไปตลอดงั้นเหรอ?”หยางเชี่ยนเชี่ยน “...”“ไม่ใช่…” เธอรีบอธิบายอย่างชัดเจน “ฉันได้ยินคุณปู่พูดว่าจี้หยกอันนั้นเป็นของเด็กผู้หญิงที่เคยช่วยคุณไว้ในตอนเด็กทำหาย จี้หยกอันนั้นเป็นของฉันเอง ฉันก็จำไม่ได้ทั้งหมด แต่ฉันยังจำตอนเด็กได้ ฉันตกน้ำเพราะว่าช่วยคุณไว้ คุณทำกับคนที่ช่วยคุณไว้แบบนี้เหรอ ไม่ใส่ใจกันเกินไปหน่อยเหรอ? ไม่แยแสฉันเลย” “งั้นเธออยากจะให้ฉันทำยังไง?” เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเย็น ไม่รอให้หยางเชี่ยนเชี่ยนพูดเขาก็หัวเราะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “เธอเคยช่วยฉัน ฉันก็หางานให้เธอทำ แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ? เธอยังต้องการอะไรอีก?”หยางเชี่ยนเชี่ยนส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการอะไร…”“ไ
ซ่งอวิ้นอวิ้นมึนงง มีสติเพียงเล็กน้อย แต่กลับลืมตาไม่ขึ้น!รู้สึกเหมือนจมลงไปในความลึก แต่เธอไม่สามารถหลุดพ้นจากสิ่งที่มืดมิดได้ ก็เลยทำให้หลับไปอีกครั้งเจียงเย่าจิ่งเห็นว่าเธอยังไม่ตื่น ก็รู้สึกโล่งใจถ้าเธอตื่นมาต้องโวยวายอย่างแน่นอนคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเจียงเย่าจิ่งค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้นนอกจากชุดเจ้าสาวที่อยู่บนตัวเธอ ก็ทำให้เขาคิดว่ามันน่าสนใจเธอสวมมันแล้วดูสวยขนาดนี้ เพื่อตกไปอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่น เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็ซีดลง!ผู้หญิงคนนี้!เขาโน้มตัวลง ใช้มือดึงชุดแต่งงานของเธอออก จ้องมองร่างเปลือยเปล่าของเธอ ดวงตาของเขามืดลง และก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบปากของเธอ หลังจากนั้นก็เอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอเขาหยิบชุดเจ้าสาว แล้วปิดประตูห้อง เดินไปที่ประตูแล้วเอาชุดเจ้าสาวส่งให้ยามที่อยู่ตรงประตู “เอาไปทิ้งซะ”“ครับ” ยามก็ถือออกไปเจียงเย่าจิ่งกลับเข้าห้องไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดผ้าห่มออกแล้วนอนไปบนเตียง เขากอดซ่งอวิ้นอวิ้นไว้ แล้วกอดเธอไว้แน่น กระซิบข้างหูของเธอที่เพลิดเพลินกับการนอนอย่างเงียบ ๆ ในอ้อมกอดของเขาตอนนี้มืดมากเจียงเย่าจิ่งก็หลับไปอย่างรว
“คุณเป็นคนทำให้พี่สาวผมหายตัวไป ตอนนี้ยังจะอยากให้พวกเราช่วยอีกเหรอ? ผมไม่ตกลงกับคุณหรอก!” ซ่งรุ่ยเจี๋ยพูดด้วยความโกรธกู้ฮว๋ายพูดอย่างใจเย็น “ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าซ่งอวิ้นอวิ้นถูกลักพาตัวไปจริง ๆ พวกคุณอยากได้ซวงซวงคืนกลับไปเร็ว ๆ ก็ควรช่วยกันหา หาซ่งอวิ้นอวิ้นไม่เจอฉันก็ไม่คืนเด็กให้พวกนายแน่ ผมมีเบาะแสนึง ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเจียงเย่าจิ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีหลักฐาน ถ้าเกิดพวกคุณหาเบาะแสของเจียงเย่าจิ่งหรือหลักฐานมาได้ ผมก็จะหาซ่งอวิ้นอวิ้นเจอ และจะคืนเด็กให้พวกนาย พวกคุณคิดว่ายังไง?”“กู้ฮว๋าย คุณทำแบบนี้กับซ่งอวิ้นอวิ้น คุณคิดว่าเธอจะชอบคนแบบคุณเหรอ? เธอเป็นแม่ เพื่อลูกของตัวเองเธอทำได้ทุกอย่าง คุณจับลูกเธอมา เธอก็แค่เกลียดคุณ!” หานซินบอกด้วยความโกรธ!กู้ฮว๋ายไม่สนใจ พอดีกับเมื่อเริ่มเขาก็คิดถึงผลที่ตามมาแล้ว! จุดประสงค์จะพิสูจน์ให้เห็นถึงวิธีการ นี่คือสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเจียงเย่าจิ่ง!“ผมจะตามหาเธอต่อ” กู้ฮว๋ายเรียกคนมา “ส่งแขก!”ซ่งรุ่ยเจี๋ยและหานซินถูกไล่ออกไป!“กู้ฮว๋าย คุณขโมยเด็กไป คุณต้องไม่ตายดีแน่!” ซ่งรุ่ยเจี๋ยตะโกน!กู้ฮว๋ายทำเป็นไม่ได้ยิน และไม่ได้สนใ
หานซินอธิบาย “เธอดูเถอะ เขากับผู้หญิงคนอื่นกำลังทะเลาะกัน จะมีเวลาไปจับอวิ้นอวิ้นเหรอ? บางทีเธออาจจะพูดถูก อวิ้นอวิ้นหนีงานแต่งไป”หานซินคิดว่าเธอรู้จักผู้ชายเป็นอย่างดีอาจเป็นเพราะเธอแต่งงานกับซ่งลี่เฉิง ชายที่หักหลังเธอ ทำให้เธอคิดว่าผู้ชายนั้นเป็นคนหลอกลวง คนแบบเจียงเย่าจิ่งเป็นคนที่อยากได้อยากมี และมีผู้หญิงที่ติดตามเขาอยู่ ก็คงเหมือนปลาที่ติดเบ็ดนับไม่ถ้วนใช่หรือไม่?!เขาจะขวางรถงานแต่งของซ่งอวิ้นอวิ้นเหรอ?ถ้าเกิดเขารู้สึกอะไรจริง ๆ แล้วทำไมถึงหย่ากับซ่งอวิ้นอวิ้น?ถ้าเกิดพวกเขารักกันจริง ๆ ซ่งอวิ้นอวิ้นจะปิดบังเขาเรื่องซวงซวงทำไม?มันชัดเจนอยู่แล้ว เจียงเย่าจิ่งเป็นคนโหดเหี้ยม ซ่งอวิ้นอวิ้นถึงยอมแพ้ เพื่อซวงซวงถึงยอมแต่งงานกับกู้ฮว๋ายคิดถึงตรงนี้ จู่ ๆ เธอก็นึกได้เรื่องหนึ่ง “ซ่งอวิ้นอวิ้นคงไม่ทิ้งซวงซวง แล้วหนีไปคนเดียว!”“บางทีพี่อาจจะอยากหนีไปด้วยตัวเองก่อน จากนั้นค่อยหาวิธีช่วยซวงซวงหรือเปล่า?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยพูดหานซินคิดแล้วคิดอีก ก็ดูหมือนจะเป็นไปได้“งั้นพวกเราควรกลับเหรอครับ?” ซ่งรุ่ยเจี๋ยถามหานซินพยักหน้า “กลับกันเถอะ คงจะไม่ใช่เขาหรอก ถ้าเป็นเขา พวกเราไปถาม
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื