หลังจากที่ออกมาจากบ้านของแพทย์เฉพาะทางแล้ว เธอก็กลับมาที่คฤหาสน์เธอทิ้งตัวอยู่บนโซฟาด้วยความใจลอยเธอกำลังคิดอยู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับหานซินดีไหมอย่างไรซ่งลี่เฉิงกับหานซินก็เป็นสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานาน 20 กว่าปีแล้วเธอคิดว่าหานซินมีสิทธิ์ที่จะรู้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเตรียมจะโทรหาหานซิน แต่โทรศัพท์กลับสั่นขึ้นมาพอดี เป็นข้อความหานซินที่ส่งวิดีโอมานั่นเองรวมเป็นสองข้อความที่ส่งมาในวิดีโอเป็นซวงซวงที่ใส่ชุดเด็กทารกสีฟ้า เส้นผมสีดำบาง ดวงตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไรอยู่ แต่ท่าทางนี้ดูน่ารักมาก ๆ ‘ซวงซวงครบเดือนแล้ว เดือนนี้น้ำหนักขึ้นหกเจ็ดกรัม ใกล้จะสามกิโลกรัมแล้ว ลูกดูซิว่าอ้วนขึ้นไหม?’‘ดูเด็กคนนี้สิ หน้าตาเหมือนลูกเลยใช่ไหมล่ะ?’ ตั้งแต่ซ่งอวิ้นอวิ้นติดต่อกับหานซิน หานซินก็รู้ว่าซ่งอวิ้นอวิ้นหนีพ้นเงื้อมมือของกู้ฮว๋ายได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเจียงเย่าจิ่งอีกครั้งดังนั้นตอนนี้เลยยังไม่สามารถมาอยู่ด้วยกันได้ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกกับหานซินว่าเธอสบายดี ให้หานซินดูแลซวงซวงให้ดีเธอไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเป็นกังวล เธอจึงพยายามดูแลซวงซวงอย
ซ่งรุ่ยเจี๋ยโมโหจนพูดติดอ่าง “เธอ เห็นคนจะตายก็ไม่คิดจะช่วยไม่ใช่เหรอไง? แล้วจะมาที่นี่ทำไมอีกล่ะ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิม “ฉันมาเอาปูนปลาสเตอร์ออก”“หึ อย่างที่คิด เธอมันนางมารใจร้าย!“ ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้สึกโมโหมากและกำลังจะอ้าปากพ่นคำด่าซ่งลี่เฉิงอยากเจอเธอเธอกลับทำตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนี้!“คุณผู้หญิงของพวกเราดีมากพอแล้วค่ะ ไม่งั้นก็ไม่มาหา…”“ป้าหวู่” ซ่งอวิ้นอวิ้นขัดจังหวะการพูดของป้าหวู่ เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟังถึงสิ่งที่เธอทำและเขาก็เป็นลูกชายของไป๋ซิ่วฮุ่ย!ซ่งรุ่ยเจี๋ยมีความคิดเป็นของตัวเอง เธอไม่จำเป็นต้องสนใจสิ่งที่เขาคิดด้วยซ้ำ!ซ่งลี่เฉิงได้ยินเสียงพูดคุยจากตรงประตูห้องคนไข้ เขาจึงตะโกนว่า “อวิ้นอวิ้นเหรอ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นเม้มริมฝีปากก่อนจะตอบ “ฉันเอง”“เข้ามาก่อน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับแก”ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้อยากเข้าไป ก่อนจะเอ่ย “คุณพักผ่อนเพื่อฟื้นตัวไปก่อนเถอะค่ะ”“อวิ้นอวิ้น!” ซ่งลี่เฉิงเพิ่มเสียงให้หนักขึ้น “ต้องให้ฉันลุกจากเตียงไปหาแกไหม?”“พ่อ ไม่ต้องเรียกเขาแล้ว ใจเขาโดนหมากินไปแล้ว” ซ่งรุ่ยเจี๋ยยังคงด่าเธอ“โอหัง ทำไมแกพ
“พอได้แล้ว!” ซ่งลี่เฉิงด่าเธอไป๋ซิ่วฮุ่ยตะคอกซ่งอวิ้นอวิ้นโดยไม่สนใจคำพูดของซ่งลี่เฉิง “เธอเป็นลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว ออกไปแล้วก็ออกไปแล้ว อย่าแม้แต่ที่จะคิดถึงสมบัติตระกูลซ่งเลย เพราะสมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของรุ่ยเจี๋ย”“ฉันยังไม่ตาย เธอก็คิดจะครองสมบัติทั้งหมดของบ้านแล้วงั้นสิ เธอกำลังแช่งให้ฉันตายใช่ไหมล่ะ?” ซ่งลี่เฉิงรู้สึกโกรธ ถ้าเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ก็คงเป็นเพราะไป๋ซิ่วฮุ่ยนั่นแหละ!ไป๋ซิ่วฮุ่ยลูบหลังของเขาอย่างไม่เต็มใจ “คุณพูดอะไรกันคะ คุณเป็นที่พึ่งของฉันนะคะ”ตอนนี้เธอยังไม่อยากให้ซ่งลี่เฉิงตาย เพราะยังไม่ได้โน้มน้าวให้เขาเขียนพินัยกรรมเลย!ซ่งอวิ้นอวิ้นเหลือบมองไป๋ซิ่วฮุ่ย ก็ดูออกว่าเธอนั้นอยากได้สมบัติของตระกูลซ่งมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เมื่อเธอออกมาจากห้องพักคนไข้ก็พูดกับป้าหวู่ว่า “ไปกันเถอะค่ะ”ป้าหวู่เข็นเธอออกไปเธอได้ถอดเฝือกที่ขาออกแล้ว คุณหมอบอกว่าอีกไม่กี่วันเธอก็จะสามารถเดินได้คล่องแล้ว แต่ว่ายังไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ชั่วคราว อย่างเช่น วิ่ง กระโดดเชือก หรือกีฬาที่ใช้ขาในการออกกำลังกายเมื่อเธอถอดเฝือกเสร็จแล้วก็ไปพบกับผู้เชี่ยวชาญ
“เกิดขึ้นเมื่อไหร่?”ฝั่งนั้นปรากฏเสียงของฮั่วซุน “ผมก็เพิ่งได้รับข่าวมาครับ น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดเมื่อสองวันก่อน”“หาคนไปตามหากลับมาให้ได้” เขาพูดเสียงเข้ม“ครับ”หลังวางสายโทรศัพท์ เขาก็วางโทรศัพท์กระแทกโต๊ะดัง ปึง!เสียงดังสนั่น บ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในขณะนี้ซ่งอวิ้นอวิ้นถาม “เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงอารมณ์เสียขนาดนี้?”เฉินเวินเหยียนถูกคนช่วยออกมา และคนที่ช่วยเธอออกมาก็คือเศรษฐีรุ่นที่สองที่เธอเคยแอบชอบมาก่อนเมื่อถูกซ่งอวิ้นอวิ้นจ้องมอง แต่เจียงเย่าจิ่งไม่ยอมบอกเธอ “ไม่มีอะไร”เขาจะไม่ยอมให้เฉินเวินเหยีนมีความสุขเด็ดขาดเพราะการหลอกลวงของเธอ ทำให้เขาได้ฆ่าลูกของตัวเอง!ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้คิดอะไรมาก คงเป็นแค่งานของเขาที่ไม่ราบรื่น ก็เลยก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จเจียงเย่าจิ่งก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก พอดีกับที่พ่อบ้านเฉียนเดินเข้ามา“คุณผู้ชาย นายท่านต้องการพบคุณครับ เชิญคุณกลับไปกับผมที่คฤหาสน์ต้นตระกูล”เจียงเย่จิ่งพูด “เข้าใจแล้ว”เขาพูดกับซ่งอวิ้นอวิ้นว่า “เธอพักผ่อนอยู่บ้านนะ”ขาของเธอยังไม่หายดีซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้าพ่อบ้านเฉียนเดินตามหลังเจียงเย่จิ่
พ่อบ้านเฉียนเดินเข้ามา “นายท่านครับ นายน้อยกำลังโกรธใช่ไหม?”นายท่านเจียงถอนหายใจ “ยังต้องพูดถึงอีกหรือไง”การแสดงออกของเจียงเย่าจิ่งก็ชัดอยู่แล้ว!“นายน้อยไม่ยอมหย่า อาจจะเพราะว่าคงมีใจให้คุณผู้หญิงแล้วใช่ไหมครับ?” พ่อบ้านเฉียนเดานายท่านเจียงก็คิดย่างนั้น “ฉันผิดเองที่ไม่ได้ดูซ่งอวิ้นอวิ้นให้ดีว่าเป็นคนยังไง แล้วยังพาเธอไปอยู่ข้างกายของเย่าจิ่งอีก ดูท่าแล้วจะให้เย่าจิ่งหย่ากับเธอคงไม่ง่ายแน่”“นายท่านก็รู้ว่าอารมณ์ของนายน้อยเป็นอย่างไร สิ่งที่เขาไม่อยากทำ จะให้เขาทำคงเป็นเรื่องยาก” พ่อบ้านเฉียนพูดนายท่านเจียงพูดขึ้น “นายลืมแล้วหรือ เจียงเย่าจิ่งก็อ่อนแอเป็น”นายท่านเจียงพูดขึ้น “คุณหมายถึง…”“สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุด ผมจำได้ตอนที่เขาอายุสิบขวบ เขาตกลงไปในสระน้ำหลังภูเขา มีเด็กผู้หญิงผิวขาวคนหนึ่งเข้ามาช่วยเขาไว้ ภายหลังเขาตามหาเธอ ผมก็ได้ไปตามหาแทนเขาแต่ว่าวันนั้นมีคนอยู่ในบ้านเยอะมากเลยทำให้หาไม่เจอ”“ก่อนหน้านี้หาไม่เจอ ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังคงหาไม่เจอใช่ไหมครับ?” พ่อบ้านเฉียนพูดขึ้นนายท่านเจียงมองพ่อบ้านเฉียน “หาเจอหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือเย่าจิ่งเชื่
ในตอนที่สับสนอยู่นั้น เธอก็มองเห็นว่าที่อยู่บนร่างของเธอนั้นคือเจียงเย่าจิ่ง“คุณ… เป็นอะไรเนี่ย?” เธอถามเจียงเย่าจิ่งเหมือนจะไม่ได้ยิน เขาออกแรงฉีกเสื้อผ้าของหญิงสาวเขาเหมือนกับสัตว์ดุร้าย บ้าคลั่งและถูกครอบงำซ่งอวิ้นอวิ้นดิ้นไม่หยุด แรงที่มีอยู่ก็ไม่สามารถสู้เขาได้!เธอรู้สึกหนาว เพราะเสื้อผ้าเธอถูกถอดออกร่างกายของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาดวงตาของเธอมีน้ำตารื้น และเสียงก็แหบแห้ง “เจียงเย่าจิ่ง คุณทำกับฉันได้ยังไง?”“ประโยคนี้ฉันควรเป็นคนถามมากกว่า เพื่อหย่ากับฉันเธอถึงกับให้พ่อมาคุกเข่าขอร้องเลยเหรอ ซ่งอวิ้นอวิ้นเธออยากหย่ามากใช่ไหม!?” เสียงของเขาที่เอ่ยออกมานั้นมันช่างเย็นชาซ่งอวิ้นอวิ้นอึ้ง ซ่งลี่เฉิงถึงกับไปคุกเข่าขอร้องนายท่านเจียงอย่างนั้นเหรอ? เพื่อช่วยให้เธอได้หย่า?เธอรู้สึกหายใจไม่ออกเจียงเย่าจิ่งบีบกรามของเธอด้วยความโกรธ “ฉันยังทำดีกับเธอไม่พอใช่ไหม? ใจของเธอมันขาดความอบอุ่นใช่ไหม? ฮะ?”ซ่งอวิ้นอวิ้นจ้องมองเข้าไปในตาของเขา ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ความอ้างว้าง ความเจ็บปวดเธอเม้มปากแน่น คิดว่าจะพูดอย่างไรกับเขาดี คำพูดมันติดอยู่ที่ปากแต่ไม่รู้คว
สาเหตุมาจากเขาเองแต่ว่าเธอเด็ดเดี่ยวมากที่อยากจะหย่ากับเขา เขาทั้งอดทน ทั้งปรับตัว แต่ก็รับไม่ได้ที่เธอจะหย่ากับเขา แล้วยังให้พ่อตัวเองไปขอร้องปู่ของเขาอีก เพียงเพื่อให้ได้หย่ากับเขาแค่เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นจะหย่าก็รู้ได้ว่าเธอนั้นแน่วแน่แค่ไหนนั่นคือนิสัยของเธอเจียงเย่าจิ่งยิ่งไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ถ้าพูดไปแล้ว เธอจะไม่เกลียดเขามากกว่าเดิมเหรอ?“หรือจะลองทดสอบดูไหมครับว่าคุณผู้หญิงจะสนใจคุณไหม?” ฮั่วซุนเสนอ“จะทดสอบยังไง?” เจียงเย่าจิ่งหันมาถามฮั่วซุนพูดขึ้น “ถ้าหากเขาแค่เกลียดคุณ งั้นถ้าคุณอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เขาต้องสนใจแน่นอน ถ้าเขารู้สึกดีกับคุณ ต้องหึงแน่ ๆ ครับ”เจียงเย่าจิ่งขมวดคิ้ว “นี่มันแผนอะไรของนายกัน?”ฮั่วซุน “...”เขาคิดว่าแผนของตัวเองนั้นเป็นแผนที่ดีไม่ใช่แผนที่แย่สักหน่อย?“ถ้างั้นมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม?ถ้าอยากลองใจเธอว่ารู้สึกยังไงกับคุณ ก็มีเพียงวิธีนี้แหละครับ” ฮั่วซุนมั่นใจเจียงเย่าจิ่งคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “งั้นเรื่องนี่นายต้องเป็นคนจัดการ แต่ว่ายิ่งเร็วยิ่งดี”“เข้าใจแล้วครับ” ฮั่วซุนพูด“อ้อ หาเฉินเวินเหวียนเจอหรือยัง?”เจียง
สายตาของซ่งอวิ้นอวิ้นนั้นมองไปที่มือของเจียงเย่าจิ่งที่โอบเอวสาวน้อยคนนั้นเธอหรี่ตาลง หัวใจเหมือนถูกตะขอเกี่ยวอย่างไงอย่างงั้น มันรู้สึกเจ็บปวด“เธอมาหาฉันเหรอ?” เจียงเย่าจิ่งมองมาที่เธอเขาไม่กล้ากะพริบตา กลัวจะพลาดทุกสีหน้าของเธอที่แสดงออกมาซ่งอวิ้นอวิ้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ไม่ใช่ ฉันแค่ผ่านมา”“ฉันมีธุระต้องทำ ไปก่อนนะ” พูดเสร็จเธอก็รีบหันหลังขึ้นรถไป แล้วให้คนขับออกรถไป แล้วยังสั่งอีกว่า “เร็วหน่อย!”เธออยากจะรีบออกไปจากที่นี่เร็ว ๆรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เธอไม่กล้าจะมองไปที่ประตูเลย กลัวว่าจะเห็นเจียงเย่าจิ่งที่โอบกอดผู้หญิงคนอื่นอยู่ตอนนี้เธออยากจะตบหน้าตัวเองสักสองที!เธอตั้งใจที่จะไปหาเขา!“เขาเป็นศัตรูของเธอนะ!” เธอพึมพำกับตัวเอง แล้วยิ้มหยัน “ซ่งอวิ้นอวิ้นฉันว่าเธอบ้าไปแล้ว เธอโดนวางยารึเปล่า ถึงไปชอบผู้ชายที่ฆ่าลูกตัวเองน่ะ!”“คุณผู้หญิง…” คนขับรถมองเธอผ่านกระจกมองหลังเธอดูหงุดหงิดแล้วยังพูดคนเดียวอีก ดูเหมือนจะไม่ปกติแล้วนะ?ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร”“กลับคฤหาสน์ไหมครับ?” คนขับ
เจียงเย่าจิ่งรีบเดินออกไปโดยไม่ลังเลสักนิด! เบื้องหลังของเขาคือเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวของหยางเชี่ยนเชี่ยน ฮั่วซุนรู้สึกสับสน เจียงเย่าจิ่งไม่ใช่คนโหดเหี้ยมแบบนั้น โดยเฉพาะคนที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก "คุณเจียงครับ?" เจียงเย่าจิ่งชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ไปบอกมู่ฉินว่าฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกชายเธออีก" เมื่อสักครู่นี้เขาไม่แยแส เพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงละครตบตาของมู่ฉินกับหยางเชี่ยนเชี่ยน นี่เป็นการแสดงละครตบตากันชัด ๆ เพียงแต่มู่ฉินให้สัญญากับหยางเชี่ยนเชี่ยนว่าเธอจะไม่ถูกข่มขืน นั่นเป็นแค่คำหวานของเธอเท่านั้น เธอรู้ว่าการจะทำให้เจียงเย่าจิ่งเชื่อนั้น ลำพังแค่การแสดงละครตบตาย่อมหลอกเขาไม่ได้ ดังนั้นตั้งแต่ตอนที่หยางเชี่ยนเชี่ยนตอบตกลงที่จะเล่นละครฉากนี้กับมู่ฉิน เธอก็ถูกลิขิตให้ต้องเสียความบริสุทธิ์แล้ว! ฮั่วซุนพยักหน้าอยู่เงียบ ๆ จากนั้นเขาก็รีบกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว น้ำเสียงของหยางเชี่ยนเชี่ยนฟังดูน่าสลดใจ แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องนำความมาบอกกล่าว มู่ฉินยิ้มราวกับคาดเอาไว้แล
ฮั่วซุนไม่มีทางเลือกนอกจากบอกเจียงเย่าจิ่ง เจียงเย่าจิ่งชะงักแล้วหันมามองฮั่วซุน "นายว่ายังไงนะ?" ฮั่วซุนทวนคำอีกครั้งแล้วพูดว่า "เขาคิดจะจับตัวหยางเชี่ยนเชี่ยน ทำยังไงดีครับ?" เจียงเย่าจิ่งยื่น "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" มู่ฉินพูดตรงเข้าประเด็น "ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอตกน้ำ หยางเชี่ยนเชี่ยนช่วยเธอไว้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าตอนนั้นเธอจมน้ำไปซะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของลูกชายฉันแล้ว เป็นหล่อนที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของฉัน เธอคิดว่าฉันจะปล่อยหล่อนไปงั้นเหรอ?" "ต้องการอะไรก็ว่ามา" เจียงเย่าจิ่งพูดตามตรง "เอาล่ะ ในเมื่อเธอตรงไปตรงมาขนาดนั้น ฉันก็จะไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเธออีก หยางเชี่ยนเชี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของเธอใช่ไหมล่ะ? ฉันขอแลกเธอกับลูกชายของฉันว่ายังไงล่ะ?" มู่ฉินเอ่ยขึ้น หลังจากได้พบหยางเชี่ยนเชี่ยน เธอก็รู้ว่าหยางเชี่ยนเชี่ยนชอบเจียงเย่าจิ่ง ดังนั้นตอนนี้ทั้งสองคนจึงบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ตอนที่กำลังดำเนินแผนการครั้งนี้ มู่ฉินคิดว่าเธอสามารถใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มาแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจียงเย่าจิ่งยอมปล่อยลูกชายของเธอไป "ลูกชายของคุณไม่ไ
เมื่อซ่งรุ่ยเจี๋ยได้ยินเสียง เขาก็รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ใต้ผ้าห่ม เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนทั้งซ่งอวิ้นอวิ้นหรือหานซินก็ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา! หานซินวางอาหารเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง "เธอหิวหรือยัง? รีบมากินอาหารเช้าเถอะ" เมื่อหานซินพูดจบ เธอก็ค่อย ๆ หยิบอาหารที่เตรียมไว้ออกมา "ผมไม่อยากกิน ผมอยากอยู่คนเดียว" ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของซ่งรุ่ยเจี๋ยฉายแววเย็นชา ไม่ได้แสดงความเสียใจออกมานัก หานซินคิดจะเกลี้ยกล่อม แต่ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขัดจังหวะหานซินได้ทันเวลา "แม่คะ ให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ" หานซินกล้ำกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมกลับลงไปแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "อาหารอยู่ตรงนี้นะ เธอหิวเมื่อไหร่ก็มากินล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยไม่พูดอะไร หานซินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "เฮ้อ" "พอเถอะค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นดึงตตัวหานซินออกไป "รุ่ยเจี๋ย นายก็พักผ่อนด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นปิดประตูห้องพักผู้ป่วยแล้วบอกหานซินวว่า "รุ่ยเจี๋ยต้องการเวลาทำใจ เขากินอะไรไม่ลงหรอกค่ะ อย่าไปเกลี้ยกล่อมเขาเลย ไป๋ซิ่วฮุ่ยเป็นแม่ของเขา เขาคงรับไม่ได้ไปสักพัก นี่เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้" หานซินเข้าใจแล้ว "แม่รู้ แม่เป็น
ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า "พี่มาแต่เช้าขนาดนั้น คงรู้เรื่องนั้นแล้วใช่ไหม?" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้ปิดบัง "ใช่" แววตาที่ไร้ชีวิตชีวาของซ่งรุ่ยเจี๋ย มองไปทางอื่นโดยไร้จุดมุ่งหมาย "ตำรวจมาถามเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วถามว่าผมได้เจอแม่หรือเปล่า" ซ่งอวิ้นอวิ้นฟังอยู่เงียบ ๆ ที่จริงเขารู้แก่ใจว่าเมื่อไป๋ซิ่วฮุ่ยถูกใครสักคนพาตัวออกไปก็หมดทางรอดแล้ว "นายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่รู้ว่าจะปลอบใจเขาอย่างไรดี ซ่งรุ่ยเจี๋ยเงยหน้าขึ้น "แม่ผมตายเมื่อคืนนี้ พี่รู้เรื่องเร็วขนาดนั้นได้ยังไงกัน?" "ฉัน..." พอนึกถึงสิ่งที่เจียงเย่าจิ่งพูด เธอก็เปลี่ยนเปลี่ยนคำพูดเป็น "ฉันเพิ่งจะได้ยินตำรวจพูดถึงรู้น่ะสิ" "อ้อ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรู้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่ชัด ๆ เธอกำลังปิดบังอะไรสักอย่างใช่ไหม? ทำไมต้องปิดบังด้วยเล่า? เพราะเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเขาคือเจียงเย่าจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลยล่ะ? ตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้ใช่ไหม? เขากำหมัดที่อยู่ใต้ผ้าห่มแน่น พลางรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจ "ผมเสียใจด้วยนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยเสียงเบา ซ่งรุ่ยเจี๋ยยิ้มเหยีย
พ่อบ้านเฉียนรวบรวมคำพูดแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "ตอนนี้นายน้อยไม่มีอะไรต้องกังวล ดังนั้นเขาจึงประชันหน้ากับพวกเราได้เต็มที่ แต่ถ้าหลังบ้านเกิดไฟลุกไหม้ เขาก็จะเสียสมาธิแล้วพวกเราก็จะมีโอกาสขึ้นมา" "โอ้ พ่อบ้านเฉียนพูดถูก" มู่ฉินเห็นด้วยยิ่งนัก เธอถองข้อศอกใส่สามีตัวเอง "พูดอะไรบ้างสิ" เจียงอวี้จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก แต่… พวกเราจะจุดไฟหลังบ้านเจียงเย่าจิ่งได้ยังไงล่ะ นั่นต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่รึไง?" นายท่านเจียงยังคงเงียบ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจียงเย่าจิ่งกับซ่งอวิ้นอวิ้นจะมีความสัมพันธ์ที่ดี ประกอบกับมีลูกเพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนแนบแน่นขึ้นไปอีก "ไม่เห็นจะยากเลย พวกเราก็แค่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้งลงไปท่ามกลางความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนเสียก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?" ถึงแม้ว่ามู่ฉินจะย่างเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ยังคงอยู่ ประกอบกับการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้ยากจะมองอายุที่แท้จริงของเธอออก เธอกลอกตาดำขลับ "ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง มือที่สามถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่สุดเลยเชียวล่ะ ถ้ามีมือที
ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ได้รีบเข้านอนทันที แต่กลับไปหาซวงซวง ป้าหวู่พาซวงซวงเข้านอนแล้ว แต่เธอก็ยังอยากตรวจสอบดูให้แน่ใจ ตอนนี้ซวงซวงหลับลึกไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงย่องเบาออกมา เมื่อกลับมาที่ห้องนอน เธอก็นั่งตรงขอบเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงอีกต่อไป เธอกุมศีรษะแล้วครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น นอกจากหลินหรุ่ยกับตระกูลเจียงแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร หลังจากเจียงเย่าจิ่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เห็นซ่งอวิ้นอวิ้นนั่งอยู่ตรงขอบเตียง ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามากอดเธอแล้วนอนลงบนเตียง จากนั้นก็พลิกตัวอยู่เหนือร่างของเธอ จูบที่พร่างพรมลงมาทั้งดูดดื่มและเร่าร้อน ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นไปได้สวย ซวงซวงก็ร้องไห้ขึ้นมา พวกเขาทั้งสองคนต่างตะลึงงัน ซ่งอวิ้นอวิ้นเป็นฝ่ายที่มีท่าทีตอบสนองก่อนแล้วผลักเขาออกไป "ซวงซวงอาจจะหิวก็ได้" "ป้าหวู่จะป้อนเขาเอง" "แต่…" ก่อนที่เธอจะทันได้พูดให้จบประโยค เธอก็โดนจูบ สกัดกั้นคำพูดของเธอจนหมดสิ้น! ทุกสิ่งทุกอย่างพรั่งพรูออกมา! ราตีช่างแสนยาวนาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความรักใคร่เร่าร้อน! …… คฤหาสน์ต้นตระกูลเจียงเปิดไฟสว่างจ้า คราวนี้แผนใส่ร้ายเจียงเย่าจิ่
"ทำไมเธอยังไม่นอนอีกล่ะ?" เจียงเย่าจิ่งเดินเข้ามา "ฉันทำให้เธอตื่นหรือเปล่า?" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยขึ้นมาว่า "เปล่าหรอก ฉันกำลังรอคุณอยู่น่ะ" เมื่อเธอพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้ามากอดเขาไว้ จากนั้นก็แนบใบหน้าเข้ากับหน้าอกของเขา การเคลื่อนไหวของเธอทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกประหลาดใจเสียจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ยิ้มพลางถามว่า "เธอเป็นอะไรไปน่ะ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นบอกว่าไม่มีอะไร "ฉันก็แค่อยากจะกอดคุณ" เจียงเย่าจิ่งก้มมองเธอ "ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำแล้วเธอค่อยมากอดก็ได้ ตอนนี้ฉันสกปรกจะแย่" ซ่งอวิ้นอวิ้นไม่ยอมปล่อยแล้วกอดเขาให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองคนบดเบียดเข้าหากันอย่างแนบแน่น เจียงเย่าจิ่งถามเสียงเบาว่า "เธอเป็นอะไรไป?" ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอไม่ปกติเลยล่ะ? ซ่งอวิ้นอวิ้นลูบหน้าอกของเขา "นับจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าอยู่ที่ไหนฉันก็จะเป็นบ้านให้คุณเอง ฉันจะรักคุณให้มาก ๆ" เจียงเย่าจิ่งหลุบตาลง ท่ามกลางแสงสลัวรางเลือน เขายังมองเห็นประกายในดวงตาของเธอและเนื้อตัวที่สั่นระริกอยู่บ้าง น้ำเสียงทุ้มของเขาปะปนความแหบพร่าเล็กน้อย "ซ่งอวิ้นอวิ้น วันนี้เธอเป็นอะไรไปกันแน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ล้างมือแล้วไปหาซวงซวง เห็นเพียงป้าหวู่ที่กำลังอุ้มเขาอยู่ "ป้าหวู่" เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ป้าหวู่ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณผู้ชายบอกให้ป้ามาที่นี่ เพราะไม่มีใครคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ เลยค่ะ" เจียงเย่าจิ่งเป็นห่วงเรื่องตามหาตัวคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงเรียกป้าหวู่ให้มาที่นี่ ซ่งอวิ้นอวิ้นดีใจที่ได้ยินว่าป้าหวู่มาที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์ ป้าหวู่ดีกับเธอมากทีเดียว เธอเป็นคนจิตใจดี "มีป้าหวู่อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นเอ่ยพลางยิ้มให้ เธอรับซวงซวงมาจากอ้อมแขนของป้าหวู่ จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาพอดี ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ก็ยับย่น ซ่งอวิ้นอวิ้นรู้ว่าเขาคงจะอึเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา "เหม็นหรือเปล่าจ๊ะ?" ป้าหวู่จึงพูดว่า "เดี๋ยวป้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เองค่ะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นอยากจะทำเอง เธอรู้สึกว่าตนเองติดค้างลูกชายมาโดยตลอด เพราะเธอไม่มีเวลาดูแลเขานัก ตอนนี้เธอมีเวลาแล้ว "งั้นป้าจะเอาน้ำมาให้นะคะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นตอบตกลงแล้ววางซวงซวงลงไป เธอทิ้งผ้าอ้อมที่ใช้แล้วลงถังขยะ จากนั้นก็หยิบกระดาษมาเช็ดก้นของ
ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบกลบเกลื่อนว่า "ไม่มีอะไรหรอก..." "จริงเหรอ?" ซ่งอวิ้นอวิ้นยื่นน้ำที่รินแล้วให้เขา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกว่าไม่เชื่ออยู่ชัด ๆ ซ่งรุ่ยเจี๋ยหลบสายตาแล้วรีบหาข้ออ้างขึ้นมาว่า "เป็นเรื่องในบริษัทน่ะ ส่วนเรื่องเมื่อคราวก่อนก็แก้ปัญหาได้แล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพยักหน้า "นายรับมือได้ดี" "แต่วิธีการก็เป็นความคิดของพี่อยู่ดี" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น เขารู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง เขาต้องยอมรับว่าซ่งลี่เฉิงช่างมีสายตาแหลมคม ถึงให้ซ่งอวิ้นอวิ้นมาดูแลบริษัท ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ถนัด แต่เธอก็เรียนรู้หลาย ๆ สิ่งได้รวดเร็ว! "ฉันแก่กว่านายไม่กี่ปี ฉันถึงต้องใคร่ครวญให้มากหน่อย อีกไม่กี่ปีนายน่าจะล้ำหน้าฉันไปแล้ว" ซ่งอวิ้นอวิ้นพูดให้กำลังใจ อันที่จริงแล้ว นับตั้งแต่ซ่งลี่เฉิงตายไป ซ่งรุ่ยเจี๋ยก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซ่งรุ่ยเจี๋ยแทบไม่เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ผมไม่เป็นไรหรอก พี่น่าจะกลับไปดูแลซวงซวงก่อนนะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยเอ่ยขึ้น "ได้ ถ้านายมีเรื่องอะไรก็ติดต่อฉันได้ตลอดนะ" ซ่งอวิ้นอวิ้นลุกขึ้น "อย่าลืมดื่มน้ำล่ะ" ซ่งรุ่ยเจี๋ยรีบยื่นมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมายกถ้วยชาขึ้นมา "ผมไม่ลื