พี่ทีดูตกใจ แต่ก็แอบอมยิ้มเบา ๆ(เธอเป็นใคร มารับโทรศัพท์ทีได้ไง!)“เราชื่อน้ำหวาน แล้วเธอโทรหาแฟนคนอื่นทำไม”(แฟนคนอื่น? นี่! นี่แกใช่มั้ยที่แย่งทีไป)“อะไรใครแย่ง มีสมองก็เอาไปคิดใหม่ ฉันไม่ใช่พวกลักกินขโมยกิน และก็ไม่ใช่พวกที่มีแฟนอยู่แล้ว และไปเอากับคนอื่น เหมือน เหมือนใครนะ เอ… เหมือน เอ้อ! เหมือนเธอไง ใช่ ๆ เหมือนเธอ”(นี่! อย่ามายุ่งเรื่องของฉันนะ)“แล้วเธอมายุ่งอะไรกับแฟนฉันล่ะ”(ฉันไม่เลิกกับที ฉันจะไม่เลิกกับเขา เข้าใจไหม!)“หนาจัง”(อะไรหนา?)“หน้าเธอ”(แกอยู่ไหน! ฉันจะฆ่าแก กรี๊ด…)ฉันรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหู ปล่อยให้มันกรี๊ดให้จบ“กรี๊ดจบแล้วเนอะ... กรี๊ดเสร็จแล้วเป็นไงบ้าง สติยังมีนะ ไม่ได้บ้าใช่มั้ย?”(แกสิบ้า! ทีอยู่ไหน! ให้ทีมาคุยกับฉัน)ฉันหันไปมองพี่ที เขากำลังมองฉันอยู่“เนี่ย เขาอาบน้ำอยู่”(หน้าด้าน!)“ขอบคุณ”(แกทำอะไรกับเขา!)ฉันเอาโทรศัพท์ออกจากหูอีกครั้ง เพราะแสบหูเหลือเกิน“เอ้าอยู่ในห้องสองต่อสอง ทำอะไรดีล่ะ เธอก็เคยทำไม่ใช่เหรอ ทำมาถาม”(อีแรด!)“แรด แต่ฉันไม่ร่านนะ ฉันมีแฟน... ฉันก็มีอะไรกับแฟนฉันคนเดียว... อืม แต่ถ้าร่านเนี่ย... คงเหมือนเธอ มีแฟนอยู่แล้ว
ฉันหมดแรงลงไปนั่งกับพื้น ก่อนที่แฟนฉันจะก้มลงมาอุ้มขึ้นไปนอนบนเตียง แฟนฉัน ใช่แฟนฉันเอง สด ๆ ร้อน ๆ“กว่าจะตกลง” เขาบ่นพึมพำและกอดฉัน ฉันเหงื่อท่วมตัว ไม่ต้องนึกถึงเขานะ ท่วมมากกว่าฉัน แต่เขาคงชิน เพราะน่าจะออกกำลังกายเล่นกล้ามมาเยอะ“อย่านอกลู่นอกทางแล้วกันค่ะ อย่าหาว่าไม่เตือน”“ขู่แล้วเหรอ”“ค่ะ หวานรู้ว่าพี่ที ไม่ธรรมดา อย่าให้หวานจับได้นะคะ”นี่คือคำขู่สุดท้ายของฉันที่อเมริกา ฉันคบกับเขาและทำงานไปด้วย เขาส่งข้าวส่งน้ำดูแลฉันดีมาก ฉันเองก็ดูแลเขาดี เอาตัวเองไปเสิร์ฟให้เขาถึงเตียงแทบทุกวัน ไม่นานเขาเองก็ดูงานเรียบร้อย และกลับไทยมาก่อน จากนั้นเราวีดีโอคอลกันทุกคืน บางทีก็หลับไปพร้อม ๆ กันเหมือนเด็ก ๆ ฉันเองไม่ได้เห็นตุกติกอะไร เพราะเขาก็ไม่มีท่าทีแปลก ๆ เลย และวันนี้ฉันกลับมาถึงไทยแล้วโดยไม่บอกเขาพอถึงก็นัดเจอณีเวียเลย... แน่นอนณีเวียดราม่าอีกแล้ว! ทะเลาะกับพ่อ เหอะ ไม่ให้ทะเลาะได้ไงแม่เสียไม่ถึงเดือน พ่อพาเมียใหม่มาอยู่บ้านแล้ว จิกกัดมันไม่เลิก มันออกมาทำงานข้างนอกแต่ ซื่อบื้อไม่อ่านเอกสารให้ดี กลายเป็นว่า ไปเซ็นสัญญาเป็นคู่ควงเขาอีก... และเขาก็ไม่ใช่ใคร คุณเซ็นสุดหล่อ! ที่เป็นว่า
พอฉันช้อปปิ้งกับณีเวียเสร็จ ก็กะจะกลับบ้านเลย ไม่บอกพี่ทีหรอก ปล่อยมัน จะไปแรดที่ไหนก็ไปแต่พี่ทีก็ไม่ได้แรดที่ไหน อยู่ ๆ ก็ขับรถมาจอดหน้าฉันแล้ว“หวาน พี่หาตั้งนาน ป่ะพี่ไปส่ง” ฉันได้แต่ถอนหายใจจำใจขึ้นรถเขาตามเดิม“หวานหิวมั้ย” เขาเอื้อมมือมาบีบมือฉันเบา ๆ เหอะนั่นไงเดิม ๆ“ไม่ค่ะ ไม่หิว อยากกลับบ้าน” ฉันไม่สบตาสายตาเจ้าเล่ห์นั่น กลัวตัวเองใจอ่อน เพราะอยู่ที่นู่นก็ขาดมานานเหมือนกัน ฉันก็ต้องอยากบ้างล่ะ“พี่หิว...” เฮ้อ ฉันได้แต่ถอนหายใจ และตัดสินใจหันไปมองหน้าคม ๆ นั้น“หิวอะไรพี่ที เฮ้อ อยากเอาใช่มั้ย ไปค่ะ” เขาดูตกใจนิดหน่อยก่อนจะจับมือฉันไปหอม เออ อยากปลดปล่อยเหมือนกัน เอาก็เอาเขาพาฉันมาที่คอนโดเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมา ปกติเห็นแต่ในวีดีโอคอล เปิดห้องมาปุ๊บ สายตาฉันก็เริ่มสำรวจทันที...ไม่มีร่องรอยผู้หญิง ไม่มีกลิ่น ไม่มีเศษผม“ไม่เคยพาใครมาเหรอคะ? ปกติพาสาว ๆ ไปกินที่ไหน” เขามองฉันก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน“สาว ๆ อะไรหวาน นี่มันพื้นที่ส่วนตัว ใครก็มาไม่ได้หรอกนอกจากหวาน” ฉันเบะปาก พลางมองสำรวจรอบ ๆ“มาไม่ได้แล้วพาไปไหน?”“โรงแรม แต่แค่เมื่อก่อนนะหวาน เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว”ฉันไม่เชื
ตื่นเช้ามาฉันก็กระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ เปิดเทอมวันแรก แถมเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายด้วยดีใจสุด ๆฉันใส่กระโปรงทรงเอกับเสื้อนักศึกษารัด ๆ กว่าเดิม เอาสิ พี่ทีทำได้ฉันก็ทำได้เหมือนกัน ฉันไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นะย๊ะ ผู้ชายก็ต้องมองบ้างล่ะฉันมาเรียนปกติ เฮฮาเจอเพื่อนเม้าส์กันสนุกสนาน และวันนี้ดีหน่อยฉันเรียนเสร็จเร็ว เพราะส่งแค่หัวข้อ ผ่านไม่ผ่านก็คงรอดูคืนนี้ต่อไป‘ตึ้ง~’[T: หวานเรียนเสร็จยัง][ฉัน: เสร็จแล้วค่ะ มีอะไรเหรอคะ][T: ไปกินข้าวกัน พี่ไปรับ][ฉัน: ค่ะ มารับที่บ้านนะคะ]ฉันกดส่งและขับรถมาจอดไว้ที่บ้าน ฉันไม่อยากขับรถเองกลางคืน และไม่นานพี่ทีก็ขับรถมาจอด... เจอกันอีกแล้วนะ พ่อเสือของนายพราน!ฉันเปิดประตูขึ้นมานั่ง แน่นอนสายตามองสำรวจรอบ ๆ รถ แต่วันนี้แปลกรถเขาหอมและดูสะอาด ไม่เหลือร่องรอยกาลกิณีอะไรทั้งนั้น“เพิ่งให้คนเอารถไปล้างมา หอมมั้ยล่ะ” ต้องการปกปิดอะไรรึเปล่า หึ“อ่อค่ะ ดีค่ะหอม วันนี้ไปกินอะไรดี” ฉันถามพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมารัด ส่วนเขาเอาแต่จับมือฉันไปขับรถไป“หวานอยากกินซีฟู้ดไหม” อื้ม ซีฟู้ด ดี ๆ กลับมายังไม่ได้กินเลย“ค่ะ อยากกินปลาหมึกย่าง” เขาพยักหน้าก่อนจะขับรถไปจอดร
เมื่อคืนฉันไม่ได้คุยกับพี่ทีทั้งคืน และข่าวดีคือหัวข้อโปรเจคฉันผ่านแล้ว เย้!‘ตึ้ง~’[T: หวานทำอะไรอยู่]อยู่ ๆ พี่ทีก็ทักมาทำตัวปกติ สงสัยเมื่อคืนไปหาคนปลดปล่อยมาแล้ว[ฉัน: ไม่ได้ทำอะไรค่ะ][T: ไปเที่ยวกัน เดินเล่น ๆ][ฉัน: ค่ะก็ดี เดี๋ยวแต่งตัวรอ]ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวรอเขา ดูซิวันนี้จะจับอะไรได้ไม่เกินชั่วโมง นางก็มาถึงหน้าบ้านเรียบร้อย ฉันขึ้นรถมาก็สำรวจรถตามเคย ทั้งกลิ่น ร่องรอยต่าง ๆ“หวาน… พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว” อยู่ ๆ พี่ทีก็จับมือฉันมาแนบอก“ทำอะไรคะ”“พี่รู้ว่าผิด ที่เกินเลยกับเลขา แต่หวาน พี่ไล่เขาออกแล้วนะ พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว” ทำหน้าจริงจัง“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าทำอีกนะคะ” ฉันโน้มไปหอมแก้มเขา เหอะ ๆ แต่ใจไม่เชื่อเขาหรอก ฉันแค่อยากจะรู้ หากฉันให้อภัย เขามีโอกาสเขาจะทำมันอีกมั้ยวันนี้เรามาเดินเล่นช้อปปิ้งกัน เหมือนคนข้าง ๆ อยากเปย์ฉันไถ่โทษ“หวานอยากได้อะไรไหม” พี่ทีใส่สูทซะเต็มยศ เดินให้ฉันควงแขนช้อปปิ้งในห้าง อย่างกับเด็กเสี่ยเลยตอนนี้ แค่คนที่ควงหล่อและล่ำ“งบเท่าไหร่คะ” ฉันมองช้อปกระเป๋าระรานตา“แล้วแต่หวานเลย ไถ่โทษ” หืม ไถโทษ ง่ายจัง คงจะทนไม่ได้ที่ฉันไม่ให
ฉันจับมือนั้น ก่อนจะเอามันออกจากหน้าอกตัวเอง เมื่อคืนก็มากพอแล้ว เหนื่อย“พอแล้วค่ะ ไปอาบน้ำเถอะ” ฉันดูนาฬิกาก็จะเที่ยงแล้ว วันนี้พ่อกับแม่ฉันกลับมาจากฮ่องกง ขืนเอาแต่แรดกับผู้ชาย ไม่กลับบ้าน มีหวังโดนบ่นหูชาแน่ ๆ“เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ หวานหิวมั้ย พี่สั่งข้าวให้มั้ย ปวดหัวรึเปล่า” เขาเอื้อมมือมานวดกระหม่อมฉัน เนี่ยล่ะพอได้กินแล้วจะดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน“ค่ะ หิวค่ะ ขอข้าวต้มกุ้ง”ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางเล็ก ๆ ในกระเป๋าถือ มาทาบาง ๆ พอฉันแต่งตัวเสร็จ ก็แอบเอาเครื่องสำอางตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ วางไว้ในห้องน้ำ และโต๊ะเครื่องแป้งบ้างพอกรุบกริบ“หวานครับ ข้าวต้มมาแล้ว” ฉันรีบเก็บของออกไปกินข้าวต้มที่พี่ทีสั่งขึ้นมาให้ พอฉันออกมาเขาก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใส่สูทระหว่างฉันนั่งกินพี่ทีมาส่งฉันที่บ้านออกไปไม่นาน แม่กับพ่อฉันก็มาถึงพอดี รอดตาย“ไงลูกสาวแม่ ขอโทษนะลูกกลับมาต้องอยู่คนเดียว ร้านที่นู่นไม่ค่อยดีเลย พ่อกับแม่จัดการหลายอย่างเหนื่อยมาก” แม่วิ่งมากอดฉันกลม“เป็นไงบ้างลูก เรียนเทอมสุดท้ายแล้วผ่านยังหัวข้อ” พ่อเดินมาลูบหัวฉันอีกคน ที่ฉันก๋ากั่นได้ขนาดนี้ เพราะพ่อแม่ไม่ค่อ
“ไม่เอาหวาน ไม่เลิก ไม่เลิก” เขาตาแดงก่ำ จ้องหน้าฉัน ทวนคำซ้ำ ๆ จนน้ำตาไหลออกมา“หวานไม่ได้โง่นะ หวานรู้ทุกอย่างที่พี่ทำ! หวานให้โอกาสพี่เมื่อคืนนี้เอง ทำไมเหรอพี่ที หวานดีไม่พอ? หรือรสเซ็กส์ของหวานไม่ถูกใจพี่?” เขาจ้องฉันทั้งน้ำตา ต่างกับฉัน ไม่มีน้ำตาไหลมาสักหยด“พี่เลวเองหวาน...” เขาจับมือฉันแน่น“ใช่ พี่มันเลว เลวกว่าที่คิดไว้เยอะด้วย หวานพอแล้วค่ะ หวานขอไปเจอคนดี ๆ ดีกว่า พี่เลวเกินกว่าหวานจะรับไหว” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะชนไหล่หนา ๆ ไปหยิบกุญแจรถตัวเองบนโต๊ะเขาสะอื้นไห้อยู่ข้างเตียง“หวาน... พี่ไม่เลิกได้ไหม” ฉันไม่สนใจ ปิดประตูห้องใส่เขา ก้าวยาว ๆ ออกมา ก่อนที่น้ำตาที่กลั้นไว้ทั้งหมดจะไหลออกมาเป็นทางคำว่าเลว... คงจำกัดไม่หมดกับผู้ชายคนนี้ ฉันรักเขา... ฉันให้โอกาสเขา ทำไมเหรอ? ทำไมเขาไม่เห็นค่าโอกาสฉันเลย และทำไม... ทำไมเขาไม่เห็นค่าความรักฉันเลยฉันวิ่งออกมาจากคอนโดนั้นทั้งน้ำตา เปิดประตูขึ้นรถ ก้มหน้าจับพวงมาลัยแข็ง ๆ ไว้แน่น... ฉันปล่อยให้ก้อนสะอื้นก้อนสุดท้ายมันพรั่งพรูออกมาให้หมด ให้มันจบ! ให้มันจบที่ตรงนี้! กับคนคนนี้ ฉันพอแค่นี้ ฉันจะไม่ร้องไห้เพราะความเลวของเขาอีก มันไม่ค
“หมอช่วยหนูด้วยค่ะ!” ฉันดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ตาย ๆ แขนฉันเริ่มชาแล้ว ไม่น่าเลย“คนไข้รู้สึกตัวแล้วค่ะ” พยาบาลเดินไปเรียกหมอ หมอ หมอ ทำไมหมอหล่ออย่างนี้!คุณหมอเดินมาหาฉันก่อนจะส่งยิ้มใจละลายมาให้“ทำไมถึงกรีดข้อมือล่ะครับ ไม่ดีเลยรู้ไหม” ฉันไม่ตอบ เอาแต่มองหน้าหมอ“ไหนขอดูซิ” เขาจับข้อมือฉันขึ้นมา ก่อนจะใช้น้ำเกลือราด“ไม่ลึก ไม่ถึงเส้นเลือดใหญ่... เก่งจัง” ฉันทำตาปริบ ๆ มองแต่หน้าหมอ ไอ้ผู้ชายบ้า ๆ หน้าห้องเมื่อกี้ลืมไปหมดแล้ว“ไหวไหม” หมอเอามือค้ำเตียง ถามฉัน... จะไม่ไหวเพราะหมอทำแบบนี้ล่ะ!“ไหวค่ะ เอ่อ...” ฉันทำตัวไม่ถูกจริง ๆ“คุณหมอคะ คุณหมอจะออกเวรแล้ว ยังไงเดี๋ยวทางนี้ดิฉันจัดการเอง” พยาบาลเดินมาบอกหมอ ไม่ไปได้ไหม“เดี๋ยวผมขอดูเคสนี้ก่อนครับ” เย้ ฉันได้แต่ยิ้มให้ จนหมอเริ่มฉีดยาชา และนั่งเย็บแผลฉันเบา ๆ“เก่งจัง... ไม่เจ็บเหรอ” ฉันได้แต่ส่ายหัว ทำไมไม่กล้าสะดีดสะดิ้งเลยก็ไม่รู้“ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ เครียดอะไร” น้ำตาฉันเริ่มซึมหน่อย ๆ พอนึกถึงเรื่องนั้น“คุณหมอเจ้าชู้ไหมคะ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน“ไม่อ่ะ ปวดหัวตาย คนเดียวเกินพอแล้ว”“อิจฉา แฟนคุณหมอเนอะ มีแฟนซื่อสัตย์แบบนี้”“ผมไ
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
กว่าจะได้นอนคือเช้าค่ะ เช้าจริง ๆ หมอสูติคนนี้เขาไม่ได้เล่น ๆ เขากินฉันทั้งคืนเอาหล่ะ วันนี้มาถึงแล้ว ฉันจะได้รู้สักที ว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก่อนแต่งงานหมอนายให้ฉันเจาะเลือดไว้ เขาจะได้เอาไปตรวจความผิดปกติของโครโมโซม และเพศของลูก ๆ ในครรภ์แล้ววันนี้… ผลก็ออกแล้วค่ะ สามีสูตินารีแพทย์เข้าเวรบ่ายโมง ซึ่งฉันเองก็ต้องรอคิวเข้าไปพบเขาเหมือนคนอื่น ๆ“คุณน้ำหวานเหมือนคนท้องสี่ ห้าเดือนเลยค่ะ” พยาบาลพี่ภาเดินเข้ามาลูบท้องฉัน ฉันท้องโตขึ้นทุกวัน ลูก ๆ ทั้งสามคน คงตัวใหญ่ขึ้นมาก ทั้งที่ตอนนี้ฉันท้องเกือบสามเดือนเองส่วนณีเวียกับแตงโมท้องจะหกเดือนแล้ว ณีเวียเหมือนคนใกล้คลอดมาก ลูกสาวลูกชายดิ้นใหญ่“เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ เพื่อนหวานท้องแฝดสองคน ตอนนี้หกเดือนแล้ว ท้องโตมาก ท้องหวานคงโตกว่านั้น” พยาบาลพี่ภายิ้ม และทำท่านึกคิด“อ๋อ คุณณีเวียภรรยาคุณเซ็นใช่ไหมคะ รายนั้นแข็งแรงมากค่ะ ดิฉันทาเจลอัลตราซาวด์ให้ ถีบมือดิฉันไม่หยุดเลย ของคุณน้ำหวานเริ่มตอดหรือยังคะ” ตอดงั้นเหรอ“ยังไงคะ” ฉันถามสงสัย เอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย“คุณหมอไม่ได้บอกเหรอคะ เด็กในครรภ์เขาดิ้นตลอดเวลาค่ะ อยู่ที่เราจะรู้สึกตัว
หมอนายไม่เมาเลยสักนิด พวกผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรหมอนายได้ นอกจากไอ้ยาดองบ้า ที่ตอนนี้มันกำลังปั่นป่วนอยู่ในตัวเขา!น้ำหวาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดนะ“หวาน...” นั่นไงหมอสูติเดินมาจากด้านหลัง มือนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมฉันออก ทีละเม็ดทีละเม็ด“คะ คุณหมอ มันออกฤทธิ์แล้วเหรอคะ” เขาไม่ตอบ แต่ก้มลงจูบไหล่ฉันเบา ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามแผ่นหลังมือนุ่มล้วงเข้ามาบีบอกตึง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เค้น ช้า ๆ ราวกลับ ปรารถนามันมาแสนนาน“อื้ม... หมอคะ” ฉันเงยหน้ามองเพดาน ยกมือขวาลูบไล้ต้นคออุ่น ๆ ของเขา เขาดึงชุดแต่งงานที่ปลดกระดุมเสร็จลงพื้น จนฉันตกใจหันไปจ้องหน้าสูตินารีแพทย์ที่แสนเร่าร้อนคนนี้“อยากกินหวานมากเลยตอนนี้” เขาพูดเบา ๆ ด้วยเสียงเซ็กซี่ฉันยิ้มกริ่มจ้องตาเขาไม่ละสายตา ฉันจ้อง... จ้องราวกับเชิญชวนให้เขาหิวกระหายตัวฉันมากขึ้นไปอีก“กินสิคะ หวานเป็นของคุณหมอแล้ว หวานเป็นภรรยาคุณ” เขาอมยิ้ม หน้าขาว ๆ เริ่มแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะช้อนตัวฉันอุ้มมาวางบนเตียงริมฝีปากสวยของหมอสูติ โน้มลงมาบดจูบฉันช้า ๆ เขาส่งลิ้นอุ่น ๆ แสนเร่าร้อนเข้ามา คลอเคลียหยอกล้อกับลิ้นฉันข้างใน หวานเหมือนเดิมสามีฉัน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฉันนั่งมองกระจกบานใหญ่ ที่ตอนนี้มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับตั้งเรียงรายอยู่ ฉันสวมชุดไทยศิวาลัยสีโอรส ผมถูกเกล้าขึ้นปักปิ่นเรียบ ๆอกข้างซ้ายส่งเสียงดัง ‘ตึก ตึก’ ฉันตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก และมีพยานตัวน้อยถึงสามคนในท้อง“แกสวยมาก แกโชคดีที่เจอรักดี ๆ ต่อไปนี้มีแต่ความสุขแล้วนะ”ณีเวียกับแตงโม อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว สไบสีขาวนวล ผ้าถุงไทย ๆ สีฟ้าอ่อนอมเขียว มันอาจจะไม่เหมาะกับหน้าหมวย ๆ และหน้าจิ้มลิ้มน่าถนุถนอมนั้น แต่วันนี้เพื่อนเจ้าสาวของฉันสองคน ก็สวยเกินจะบรรยายเสียงขันหมากดังมาจากหน้าบ้าน ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันต้องลุกขึ้นแอบมองผ่านหน้าต่าง เจ้าบ่าวรูปหล่อของฉันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ น้องชาย ข้างกายมีพานสินสอดทองหมั้น ที่ญาติสนิททั้งหลายของเขาช่วยกันถือณีเวียกับแตงโมกำลังออกจากห้องฉันเพื่อไปกั้นประตูเงินประตูทองหมอนายผ่านประตูเงินประตูทอง ด่านแรกของเมย์และสายฝนด้านล่างมาแล้ว และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องฉัน“หมอนายคะ รักน้ำหวานแค่ไหน” ฉันได้ยินเสียงแตงโมถามหมอนายหน้าห้อง“รักมากที่สุดเลยครับ มากจนบอกไม่ได้” ฉ