“คุณ...” ฉันใช้นิ้วชี้สะกิดไหล่เขาเบา ๆ ร่างใหญ่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว
“คุณ ๆ” ฉันเรียกเขาเสียงดังขึ้น และมันก็ได้ผลเขาขยับตัวหันมาหาฉัน ต่อเถอะได้โปรด…
“อะไร นอนเถอะมีประชุม” ใครจะไปหลับลง คุณพระ แกล้งกันแบบนี้เป็นรอบที่สองแล้ว ฉันนอนข่มตา ทำยังไงก็ไม่หลับ นอนกระสับกระส่ายกว่าจะหลับได้ก็ปาไปเกือบเช้า
พอเจ็ดโมงฉันต้องตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้คุณชายอีก ง่วงก็ง่วง
ฉันทอดไข่ดาวกับไส้กรอกเสร็จ เขาก็เดินออกมาจากห้อง จะออกไปทำงานพอดี หมั่นไส้ชะมัด“จะกินได้มั้ย?” เขานั่งลงจ้องอาหารเช้าที่อยู่ตรงหน้า สลับกับมองมาที่ฉัน ฉันไม่ตอบเขา รีบเดินตึงตังเข้าไปนอนต่อในห้อง ไม่รู้ว่าจะโกรธจะงอนเขาทำไม
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันฉันหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว แหงล่ะไม่ได้นอนทั้งคืน ปวดหัวสุด ๆ
‘ตึง’ เสียงไลน์เด้งขึ้นมา
LINE | ตาหน้าเมื่อย
[ตาหน้าเมื่อย: เตรียมตัวห้าโมงจะออกไปข้างนอก]
ฉันอ่านไม่ตอบฟอร์มอยู่ แต่ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดใหม่ และไม่ลืมกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งซื้อมาด้วย ยืนหมุนซ้ายขวาอยู่สักพัก ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
ว่าตัวเองจะมีปัญญาใส่ของแพง ๆ พวกนี้ใกล้ห้าโมง ฉันออกมาจากห้องก็เจอพี่นพยืนอยู่
“อ่าวพี่นพ นึกว่าอยู่กับคุณเซ็น เขามาถึงแล้วเหรอคะ”
“คุณเซ็นขับรถไปเองครับ เห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว เชิญคุณณีเวียเลยครับ”
พี่นพเดินนำไปกดลิฟต์ให้ สักพักลิฟต์ก็มาหยุดชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นห้าง จากนั้นพี่นพก็พาฉันเดินไปนั่งร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งติด ๆ กับประตู แถมคอยยืนข้างหลังฉัน เป็นบอดี้การ์ดให้อีก รู้สึกสวยขึ้นมาทันที
“อ้าว ลูกสาว!” ฉันละสายตาจากจอมือถือ มองไปตามต้นเสียง ก็ต้องเจอกับบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าฉันเกลียดที่สุดในโลก
“ใครลูกเธอ” แม่เลี้ยงหัวเราะคิกคัก กอดอกยืนมองฉันหัวจรดเท้า
“ปากดีเหมือนเดิมเลยนิ ไม่อด ๆ อยาก ๆ หรอกเหรอ หรือว่าไปขายตัวให้เสี่ยแก่ ๆ แถวนี้ ถึงมีกระเป๋าแพง ๆ ถือ มีลูกน้องคุม อิอิ”
เมื่อหล่อนพูดจาดูถูกฉันจบ แน่นอนทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียว เสียงซุบซิบเริ่มเข้าหูฉัน จนฉันทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนกอดอกจ้องหน้าหล่อนเขม็ง
“พี่นพ มีปืนมั้ย” ฉันหันไปพูดกับพี่นพเบา ๆ
“เอ่อ มีครับ แต่ใจเย็น ๆ นะครับคุณณีเวีย ที่นี่ห้างคุณเซ็นครับ” พี่นพคอยเตือนสติฉันอยู่ตลอดเวลา
ฉันคิดว่า หากหล่อนยังปากพล่อยไม่เลิกฉันจะเอาปืนจากพี่นพนี่ล่ะ กรอกปากหล่อนซะ! เมื่อฉันถือไพ่เหนือกว่า ฉันจึงหันไปแสยะปากใส่แม่เลี้ยงอสรพิษมองหล่อนกลับ จากหัว... จรดเท้า
“นี่... คุณ อย่าคิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนตัวเองสิคะ เอาเต้าไต่มาเป็นเมียน้อยพ่อฉัน จนแม่ฉันตรอมใจตาย ยังกล้าเนอะ มั่นหน้ามั่นโหนกมาดูถูกคนอื่น
ฉันจะบอกอะไรให้นะ อย่างน้อยฉันก็ไม่คิดแย่งผัวใคร!”‘เพี๊ยะ!’ หน้าฉันหันและชาไปข้างหนึ่งเพราะหล่อนตบหน้าฉันจัง ๆ โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว
“ลาเต้ร้อนพร้อมแล้วค่ะ”
ในขณะนั้นพนักงานสาวสวยก็มาเสิร์ฟกาแฟพอดิบพอดี
‘ซ่า’
“กรี๊ด… ร้อน นังเด็กบ้า ฉันจะฆ่าแก” หล่อนดิ้นทุรนทุราย วิ่งมาบีบคอฉัน พี่นพรีบจับหล่อนแยกไปจากฉันทันที ตอนนี้หล่อนเหมือนคนเสียสติยังพยายามวิ่งมาบีบคอฉันอีกรอบ
“ถ้าคุณแตะต้องคนของผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน!” คุณเซ็นเดินมาจากไหนไม่รู้ ประกาศกร้าวเสียงดัง สายตานิ่ง ๆ ของเขา จ้องหน้าแม่เลี้ยงเขม็ง
หล่อนมองซ้ายขวาเหมือนกับว่าตัวเองจะถูกทุกคนรุม โดยเฉพาะสายตาคนในร้านที่มองหล่อนเป็นตาเดียว
“เหอะ คอยดูเถอะนังเด็กปากดี ฉันจะปอกลอกพ่อแกจนหมดตัว
ให้พ่อแกตรอมใจตายตามแม่แกไปอีกคน นังเด็กใจแตก” สารเลว! ฉันหันไปคว้าปืนที่พี่นพ ก่อนจะรีบวิ่งตามหล่อนออกไป วันนี้ต้องตายกันไปข้างนึง“หยุดณีเวีย” ฉันถูกคว้ามาโอบไว้แน่น ก่อนที่คุณเซ็นจะแย่งปืนออกไปจากมือ
“ปล่อยคุณ! คุณไม่รู้เหรอกว่ามันทำอะไรกับแม่ ทำอะไรกับฉันไว้ แล้วนี่จะทำพ่อฉันอีก!” ฉันดิ้นสุดแรง หวังจะหลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงนี่ แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดฉันแน่น
ร่างสูงอุ้มฉันเดินไปขึ้นรถสปอร์ตหรูของเขา ก่อนจะรีบบึ่งรถออกมา
“ฮือ ๆ” อยู่ ๆ น้ำตาฉันก็ไหลเป็นทาง ถึงใจจะโกรธพ่ออยู่ แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อมาก เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะไปพ้น ๆ สักที ฉันก้มมองมือถือทั้งน้ำตา
ใจอยากจะกดโทรหา แต่อีกใจกลับไม่กล้าพอ“ไม่ต้องเครียด” มือหนาเอื้อมมากุมมือฉันไว้ ฉันหันไปมองชายข้าง ๆ และน้ำตามากมายก็ไหลออกมาอีกระรอก
“คะคุณ... ฉันเป็นห่วงพ่อ” นิ้วยาวตบไฟเลี้ยวเข้าจอดในปั๊มน้ำมันก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“อยู่ในรถนะ เดี๋ยวผมมา”
ประตูปีกนกรถหรูถูกเปิดออกเขาลงจากรถและเดินหายไป ฉันได้แต่นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถคนเดียว ใครเดินผ่านหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปรถเขากันใหญ่ โถ่... หวังว่าหน้าฉันจะไม่ไปแผ่หลาอยู่บนเฟซบุ๊กใครนะด้านเซ็น เขาไม่อยู่นิ่ง รีบ กดโทรศัพท์หาพ่อของณีเวียทันทีที่พ้นสายตาหญิงสาว(สวัสดีครับ)“คุณอาครับ พอดีวันนี้ณีเวียกับคุณนัทมีปากเสียงกัน” ปลายสายเงียบไปสักครู่ก่อนจะเดินหลบออกมาคุยส่วนตัว(ณีเวียเป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงเธอ) ปลายสายเสียงเริ่มสั่นเครือ เขาเป็นห่วงลูกสาวดื้อ ๆ ของเขาเหลือเกิน“ณีเวียเป็นห่วงคุณอามาก คุณนัทเขาขู่ณีเวียว่าจะปอกลอกคุณอา คุณอาดูแลตัวเองด้วยนะครับ” เสียงสะอื้นของปลายสายดังเล็ดลอดออกมาจากมือถือ เขาดีใจ... ที่ลูกสาวยังรักและเป็นห่วงเขาอยู่(ผมพอจะรู้ แต่ผมจำเป็นต้องอยู่กับคุณนัท เพราะเธอกำลังท้อง ที่ผมต้องดุณีเวีย ผมแค่ไม่อยากให้เธอเป็นเด็กก้าวร้าว แต่เธอกลับคิดว่าผมไม่รักเธอ)“ณีเวียรู้ไหมครับ? ว่าเธอกำลังจะมีน้อง”(ไม่รู้) เซ็นได้แต่ส่ายหน้าสงสารหญิงสาวจับใจ เธอจะรับได้หรือไม่ ถ้าเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องของเธอเกิดมาจากคนที่เธอเกลียดที่สุด“คุณอาไม่ต้องห่วงณีเวียครับ ผ
ตาฉันไม่ฝาดหรอก แตงโมกำลังหน้าแดงอยู่จริง ๆ“ณีเวียรู้จักทุกคนแล้ว เหลือเพื่อนพี่ครับชื่อเอสเอ้อ เพื่อนไอ้เซ็นด้วย” พี่ทีแนะนำฉันให้รู้จักพี่เอส เขาเป็นชายหน้าตาดีในระดับนึงเลยล่ะ ขาวสักลายเบา ๆ หล่อแบบแบดบอยไม่เหมือนคุณเซ็น หล่อเหมือนเจ้าชาย...ฉันรีบตบหน้าตัวเองให้หลุดจากความความคิดบ้า ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัว“ฮ่า ๆ น้องไม่ต้องตบตัวเองก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ เหมือนที่ไอ้เซ็นเล่าจริง ๆ ฮ่า ๆ” ฉันหันขวับไปมองหน้าตาหน้าเมื่อยทันที ไปนินทาอะไรฉันไว้อีก!“หุบปาก” เรียกเสียงหัวเราะของพี่เอสดังขึ้นอีกระรอก อะไรจะอารมณ์ดีขนาดนี้พ่อคุณฉันหันไปหาแตงโมที่หน้าแดงนั่งนิ่งอยู่ ไม่พูดไม่จาสักคำ“แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” แตงโมเงยหน้ามองฉัน ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ นางเงียบไม่สมกับเป็นแตงโมจอมแก่นที่ฉันเคยรู้จักเลยสักนิดน้ำหวานเดินไปนั่งข้างพี่ที บอกว่าอยากให้ฉันอยู่ข้าง ๆ คุณเซ็น แผนของนางล่ะ ที่จริงนางอยากนั่งใกล้ผู้ของนาง ข้าง ๆ ฉันอีกข้างเป็นแตงโมฝั่งขวาของแตงโมก็มีพี่เอสนั่งอารมณ์ดีอยู่‘ตึ๊ง’ ไม่นานเสียงไลน์ฉันก็ดังขึ้น พอก้มมอง ฉันต้องเงยหน้ามองน้ำหวานทันที อยู่ตรงข้ามกันแค่นี้จะไลน์มาทำไม
ฉันได้แต่กุมขมับ สงสารแตงโมจับใจ ฉันพยายามให้แตงโมผ่อนคลาย ให้นางกินน้ำเยอะ ๆ พักแอลกอฮอล์ไว้ก่อน“ขอตัวแป๊บนะ ขอคุยด้วยหน่อย” อยู่ ๆ พี่เอสก็ลุกขึ้นยืน ดึงแขนแตงโมออกไปด้วย และแน่นอน การนินทาจึงเริ่มต้นขึ้น“แก หรือจะอีกรอบวะ?” น้ำหวานป้องปากเหมือนกระซิบฉันคนเดียว ไม่ต้องหรอกน้ำหวาน สองหนุ่มที่เหลือเขาได้ยินแกหมดแล้ว! คุณเซ็นเริ่มหันมามองหน้าฉัน พี่ทีก็หันมองน้ำหวานเหมือนกัน“ไม่หรอกมั้งแก แตงโมไม่น่าทำแบบนั้นรอบสอง”“นี่ ก็พี่เอสไง เปลี่ยนกัน อิอิ” เมื่อน้ำหวานเผลอหลุดชื่อพี่เอสออกมา สองหนุ่มเพื่อนสนิทพี่เอสก็มองหน้ากันทันที“ตัวเอง มีอะไรจะเล่ามั้ย” พี่ทีเริ่มเปิดประเด็นอยากรู้อยากเห็น น้ำหวานจึงตัดสินใจบอกแค่ว่าสองคนนี้มีซัมติงกัน เล่ามากกว่านี้ มีหวังแตงโมได้อายขึ้นไปอีกพวกเรานั่งดื่มกันเรื่อย ๆ จนเริ่มดึก สองคนนั้นยังก็ไม่กลับเข้ามา เหล้าในมือยิ่งเข้ม ฉันที่เครียดอยู่ยิ่งกินเข้มขึ้นไปอีก ต่างจากคนข้าง ๆ และพี่ทีที่จิบ ๆ พอหอมปากหอมคอ กุลสตรี ณีเวียกับน้ำหวาน เริ่มเมาหัวราน้ำไปแล้ว“นี่ ๆ สองคนนั้นไม่มาสักที เรามาเล่นกลิ้งขวดตอบคำถามกานน” น้ำหวานเริ่มเอาขวดเปล่ามาตั้งบนโต๊ะ
“สามสิบนาทีมั้ง” เขาตอบนิ่ง ๆ ไม่เขินอายอะไรทั้งนั้น“โอ้โห เทพเซ็น ฮ่า ๆ” พี่ทีกับน้ำหวานตบมือให้คุณเซ็นอีกรอบ มีแต่ฉันที่นั่งนิ่งคิดวนเวียนอยู่ในหัวสามสิบนาทีนั้นกับใคร กับใคร กับใคร ลองนึก ๆ คำนวณ กับฉันถึงสามสิบนาทีมั้ย หรือไม่ถึง เอ๊ะ... หรือจะกับคนอื่น! แต่กับใครก็ช่างมัน ไม่เกี่ยวกับฉัน... แล้วกับใครวะ โอ้ย เลิกอยากรู้เรื่องของเขาได้มั้ย!ฉันหงุดหงิดเรื่องในสมองตัวเอง ก่อนคว้าเหล้ารินกระดกเพียว ๆ แก้วใหญ่“เห้ย แกเบา ๆ เป็นอะไรอยู่ ๆ ยกพรวด เดี๋ยวล้มตึงเหรอด” น้ำหวานพยายามดันตัวเองปรามฉัน ฉันไม่สนใจ รินมันอีกรอบไม่อยากคิดเรื่องนี้ ไม่อยากรู้โว้ย!“พอ ๆ เดี๋ยวก็เมาหรอก” คุณเซ็นคว้าแก้วจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ“เห้ยเซ็น กูทำให้บ้านมึงแตกเปล่าวะ” พี่ทีหัวเราะคิกคัก มีแต่ฉันวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันวุ่นวายใจทำไม หยุด ๆ ๆ หยุดคิด“เดี๋ยวหัวมึงจะแตก” คุณเซ็น หันไปด่าพี่ที ที่ยังหัวเราะชอบใจ พอเขาเผลอ ฉันรีบหยิบแก้วเหล้าที่รินไว้ยกมาดื่มพรวดเดียว เมา ๆ มันจะได้ลืม!ไม่นานน้ำหวานก็บอกว่าแตงโมไลน์มา ขอกลับก่อน นางไม่ไหวจริง ๆ ต่อไปคงจะเข็ดเรื่องชนแก้วไปทั่วอีกนาน พอฉันเมาน้ำหวานเมา เร
ฉันเชยชิมรสหวานจากลิ้นอุ่น ๆ เขาก่อนชั่วครู่ ก่อนจะดันมือเล็กกดร่างใหญ่นอนลงบนเตียง... ตอนนี้ฉันอยู่บนตัวเขา ฉันจะกินเขาเอง“นี่... ไม่ต้องห่วงเรื่องพ่อ ฉันจัดการให้แล้ว” ฉันขมวดคิ้ว สงสัย เขารู้จักพ่อฉันได้ยังไง และ จัดการอะไรเรื่องพ่อ“คุณรู้จักพ่อฉันเหรอ?” หน้านิ่ง ๆ พยักหน้าตอบ“รู้จักได้ยังไงคะ แล้วจัดการอะไร” เขาจะรู้จักพ่อฉันก็ไม่แปลก เพราะพ่อก็เป็นนักธุรกิจ ที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่รวย มีชื่อเสียงเท่าเขาก็เถอะ“รู้จักแล้วกัน ฉันส่งคนไปสืบห่าง ๆ ไม่ต้องห่วง พ่อเธอรู้ ว่าแม่เลี้ยงเธอคิดจะทำอะไร”ฉันอดยิ้มไม่ได้ ดีใจที่คนตรงหน้าทำหน้าที่แทนฉันหมดทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องร้องขอเขาเลย แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะถามอะไรเขาอีกแล้ว อยากกินเขามากกว่า“ขอบคุณนะคะ” ฉันก้มลงไปจูบเขาอีกครั้ง ฟังไม่ผิดหรอกคราวนี้ฉันเป็นคนเริ่มเกมส์ฉันระดมจูบ ก่อนจะปลดกระดุมเชิ้ตขาว ๆ ของเขาทีละเม็ด ริมผีปากเล็ก ๆ ฉันไม่รีรอเลื่อนต่ำ ลงมาสัมผัสแผ่นอกกว้าง ๆ ของเขา ผิวเนียนจังมือบางถอดเข็มขัดราคาแพงโยนลงบนพื้น ก่อนปลดกางเกงเขาออกทีละชิ้นแล้วฉันก็เจอ... มังกรใหญ่ของเขา มันแข็งชูชัน ตั้งคอผงาดรอสู้มือฉ
เขาจับมันถูไถตามร่องสวาท ก่อนจะค่อย ๆ ดันมันเข้ามา อื้ม... อึดอัดน้องสาวจัง“แน่น...” เขาแช่ไว้ ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูฉันเบา ๆฉันไม่ตอบ แต่มือสองข้างไปจับเอวเขาแล้ว ร่างใหญ่ค่อย ๆ ขยับ ให้แก่นกายใหญ่ ๆ เคยชิน“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ” เมื่อเข้าจังหวะ ฉันต้องลดมือสองข้างไปจิกผ้าปูที่นอน จิกหมอน จิกหลังเขา แรงสั่นสะเทือนช่วงล่าง ทำฉันครางกระเสร่า หายใจถี่หอบเหมือนตัวเองจะขาดใจตายตรงนั้นเขายกขาฉันขึ้นชิดกัน ก่อนจะโน้มตัวลงมา ส่งเอวหนาร่อนแก่นกาย ใหญ่ ๆ ของเขาเข้ามา อื้อ ลึกขึ้นไปอีก‘ปึก ปึก ปึก’ “อ๊ะ ๆ ไม่ไหวแล้วค่ะ” ฉันครางหน้ายู่ยี่ อยู่ไม่สุข หาที่ยึดเหนี่ยวตัวเอง เสียววูบวาบเหมือนตัวเองยืนอยู่หน้าผาสูง ๆ และกำลังตกลงมา หน้าหล่อ ๆ เขา มองมาผ่านเรียวขาสองข้างของฉัน ก่อนจะอมยิ้มเบา ๆ ฉันทนไม่ไหวเอามือไปบีบแขนกำยำของเขาแน่น ก่อนจะ กระตุก ตอดแก่นชายเขารัว ๆ ฉันหมดแรง นอนหายใจรวยรินอยู่ข้างล่างเขา ฉันเสร็จอีกรอบจนได้...อยู่ ๆ เขาล้มลงมานอนข้าง ๆ ฉัน ฉันได้ยินเสียงเหนื่อยหอบของเขา... เหนื่อยล่ะสิ“ขึ้นมาสิ ไม่ไหวแล้วเหรอ”เขายังไม่พอ ฉันไม่รอช้า เหมือนถูกสบประมาท ลุกขึ้นนั่งค่อมตัวเขา ก่อนจะจั
ฉันตื่นเช้ามาก็รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ เวียนหัวไปหมด เมื่อคืนฉันจำได้ว่าดื่มหนักมาก เล่นเกมส์หมุนขวดหมุนขวด แล้วอะไรต่อนะ นึก ๆ เห้ย! ดะ เดี๋ยวนะ! อยู่ ๆ ภาพเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมารัว ๆ ในหัวฉันเป็นฉาก ๆ แทบทุกฉาก แทบทุกตอน เมื่อคืน... เขากับฉันและฉัน ทะ ทำเขา โอ้ย… ฉันเริ่ม ฉันทำอะไรลงไป โถ่ชีวิต แอลกอฮอล์แผงฤทธิ์ใส่ฉันเต็ม ๆ อยากร้องไห้ ฉันจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้หน้าเขาเนี่ย“เป็นอะไร?” ฉันหับขวับไปที่ต้นเสียง ก็เจอเขานอนอยู่ข้าง ๆ ฉัน ล้อนจ้อนเหมือนกัน โอ้โหสภาพแบบนี้ก็มา... จะตอกย้ำฉันไปถึงไหนนะ อย่าพูดมันขึ้นมานะคุณเซ็น อย่าพูดขอร้อง!“ปะ เปล่า เวียนหัวเมาไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” ฉันทำหน้าอึน ๆ ทำเป็นแกล้งลืมเรื่องเมื่อคืนทั้งหมด เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่งกอดอกมองหน้าฉัน ฉันล่ะไม่อยากจะคิด อะไรอยู่ใต้ผ้าห่มเขามันตุง ๆ“เธอเมาก็ดีไปอีกแบบ อย่าไปกินเหล้าเมาแอ๋กับผู้ชายอื่นล่ะ”โล่งใจที่เขาไม่พูดมันออกมา ฉันมองไปที่นาฬิกา ก็ปาไปเที่ยงกว่าแล้ว... ตื่นสายทั้งคู่ คนข้าง ๆ ไม่ทำการทำงานรึไง“ไม่ไปทำงานเหรอ” เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูสักพัก ก่อนจะพิมพ์อะไรลงไปสักอย่าง“เหนื่อย เมื่อคืนไม่ค่อย
“สวัสดีค่ะ” ฉันกล่าวทักทายตอบตามมารยาท ก่อนจะก้มเล่นมือถือต่อ“เอ้อ แตงเรายืมมือถือหน่อยสิ พอดีแบตหมด โทรหาเพื่อนไม่ติดเลยอะ”แตงโมรีบหยิบมือถือตัวเองให้ ก่อนที่กายจะเดินออกไปคุยนอกร้าน“เขามองแกเหมือนจะกลืนกิน” น้ำหวานหันขวับมาบอกฉัน ฉันเหลือบตามองหน้าน้ำหวานแว๊บนึง“ฉันว่ากาย ชอบแกแน่ ๆ ฉันดูมันออก นี่! ถ้าแกกับคุณเซ็นไปไม่รอด กายมันก็น่าสนใจนะแก ถึงจะไม่หล่อ ไม่รวยเท่า แต่มันมีรีสอร์ตที่เชียงใหม่ด้วยนะ เลี้ยงแกได้สบาย” แตงโมขยับมากระซิบบอกสรรพคุณเพื่อนตัวเอง“หุบปากแตงโม ฉันไม่ยอมให้ณีเวียคบใครนอกจากคุณเซ็น ถ้าแกเชียร์เพื่อนแก แกมาตบกับฉันเลย” น้ำหวานโมโหตึงตัง อยู่ ๆ ท้าตบแตงโมกลางโต๊ะ เอ่อ... พอก่อนไหมเพื่อน ๆ“ฉันก็แค่บอกเฉย ๆ ก็เห็นกายมองไอ้ณีเวียตาไม่กระพริบ” แตงโมบ่นพึมพำ กับท่าทีของน้ำหวาน ที่จะกักกังฉันให้คุณเซ็นแค่คนเดียว“พอได้แล้ว ฉันยังไม่คบกับใครสักหน่อย” ฉันเอ็ดสองคนนั้นไป ก่อนที่กายจะเดินเข้ามาหาแตงโมพร้อมยื่นมือถือคืนให้ ยื่นมือถือให้แตงโมแต่ตามองฉันนี่นะ!“ขอบใจมากแก แล้วเจอกันนะณีเวีย” เขาหันมาบอกฉันก่อนจะยิ้มจนตาหยี๋ออกจากร้านไปฉันกับเพื่อน ๆ เดินเล่นในห้างไปเ
--- น้ำหวาน --- ฉันคลอดลูกมาเกือบปีแล้ว ตอนนี้ลูก ๆ สามคนกำลังนั่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคอกเด็กขนาดใหญ่ ในนั้นมี... เวียร์ ซินน์ ไออุ่น นาวา นาวิน และน้ำปั่น วันนี้เรานัดทานข้าวและมีปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่บ้านแตงโม เหล่าแม่ ๆ อย่างเรานั่งคุยกัน และมองดูลูกตัวเองเป็นระยะ “แง...” ไออุ่นร้องไห้ เมื่อนาวินดึงของเล่นออกจากมือ แตงโมหัวเราะ เบา ๆ แล้วเดินไปอุ้มลูกมานั่งตัก “เบา ๆ นะลูกเดี๋ยวโดนน้อง” และปรามน้องไออุ่นไปด้วย เพราะกลัวโดนน้องอีกคนที่อยู่ในท้อง ใช่ค่ะ แตงโมท้องอีกแล้ว! ท้องได้สามเดือนแล้ว ส่วนณีเวียกับฉันขอบาย เราขอพักก่อน ผ่าคลอดมา ยังเสียวท้องอยู่เลย อย่างอื่นก็ยังเสียวอยู่นะ ว่างก็กินกับสามี ว่างบ่อยก็กินบ่อย เฮ้อ... มันเป็นความสุขของชีวิตอีกอย่างหนึ่งจริง ๆ สามีสูตินารีแพทย์ของฉัน เดินไปอุ้มน้ำปั่นที่คอก ก่อนจะเดินยิ้มมาหาฉัน มองยังไงก็หล่อคุณพ่อคนนี้ “น้ำปั่น น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก” คุณพ่อสูตินารีแพทย์แซวลูกสาวคนเล็ก ลูกสาวตอบไม่ได้ ได้แต่ยิ้มและหัวเราะให้ผู้เป็นพ่อ แถมยังใช้แก้มป่อง ๆ ซบคลอเคลียพ่อของเขาอีก น้ำปั่นติดหมอนายหนักมาก! สงสัยคนที่ได้ยินเ
ฉันหันหาคุณพ่อคุณแม่ทันที “คุณพ่อคุณแม่ขับรถช้าเหมือนเต่า” หมอเท็นเดินตามฉัน และบอกมาหน้านิ่ง ๆ “โอ้ย! ปวดท้อง... ปวด! ไม่ไหวแล้ว!” ฉันกรีดร้อง! ทำไม ฉันไม่มีสามีวิ่งตามจับมือเหมือนชาวบ้านเขาเนี่ย ให้ตาย! มีแค่น้องสามีที่เหมือนมาแต่วิญญาณ ฮือ ๆ ไม่นานฉันก็ถูกเข็นเข้ามาในห้องคลอดแล้ว! ฉันหอบเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว และถูกพามาห้องนึง ก่อนที่พยาบาลจะตรวจอะไรต่าง ๆ นา ๆ เร็ว ๆ เถอะ! ฉันจะตายแล้ว! “พยาบาลฉันจะตายแล้วค่ะ ตามหมอ ตามหมอด่วน” ฉันส่ายหน้าไปมา ปวดท้องหน่วงมาก แขนสองข้างสั่นแทบจะไม่มีแรงแล้ว ลูกสามคน สามคนเลยนะเว้ย! “ค่ะ คุณน้ำหวาน เดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อนนะคะ ตอนนี้ห้องผ่าตัดยังไม่พร้อมค่ะ” ยังไม่พร้อม! รอให้ฉันตายก่อนใช่ไหม! “หะ! หวานจะตายก่อนไหม ไม่ผ่าก็ได้ คลอดธรรมชาติเลย หวานพร้อม ฮือ ๆ หวานทนไม่ได้แน่ ๆ” ฉันกุมท้องกรีดร้องบนเตียง “ไม่ได้ค่ะ คุณน้ำหวานมีทารกในครรภ์สามคน คุณน้ำหวานอาจจะช็อกได้ อดทนหน่อยนะคะ” อดทน! ใครจะไปทนได้!
ฉันนั่งมองหมวยน้อยกับณีเวีย ก็อดยิ้มตามไม่ได้ แตงโมคลอดธรรมชาติ! ไม่อยากจะเชื่อ ฉันหน่ะสิ สามคนในท้อง หากคลอดธรรมชาติฉันอาจจะขาดใจตายก่อน ตอนนี้ฉันท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ไม่ต้องถามว่าท้องใหญ่แค่ไหน มันใหญ่จนฉันเดินไม่ไหวเลยล่ะ ฮ่องกงถูกแคนเซิลถาวร ไม่มีกำหนดไป แต่ได้หุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์กับเบนซ์เอสคลาสเป็นของขวัญแต่งงานนะจ๊ะ ฉันนั่งคุยกับเพื่อนสักพัก เพื่อรอสามีออกเวร สลับไปห้องแตงโมบ้าง ห้องณีเวียบ้าง ณีเวียเจ็บแผลคุณเซ็นจึงเป็นคนเลี้ยงลูก วุ่นวายจนต้องเอางานมาทำที่โรงพยาบาล เห็นแล้วน่ารักดี แต่ก็แอบขำ ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ หมอนายเปิดประตูเข้ามา เดินมาตรวจแผลณีเวีย “อย่าหัวเราะดังนะ ระวังแผลฉีก” ณีเวียตกใจเอามือปิดปากทันที “ค่ะ อิอิ จะพยายาม” หมอนายยิ้ม แล้วเดินกลับมาหาฉัน เขานั่งลง เอามือสองข้างโอบท้องฉันไว้ “ไงครับ ลูกพ่อ” เท่านั้นล่ะ! ตุบ ๆ ฉันหลับตาปี๋ ฉันจุก! ลูกถีบหนักมาก รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวทันที เมื่อได้ยินเสียงพ่อเขา “โอ้ย เบา ๆ ลูก แม่จุกแล้ว” ฉันลูบท้องปราม ณีเวี
ฉันอยากจะบ้า อยากจะบ้าจริง ๆ ฉันทรมานมากตอนนี้ “ใช่สิสามชั่วโมงผ่าไม่ได้ แตงโมกินเยอะไหม” หมอนายถามฉันอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาข้อมือดู… “เรื่อย ๆ ค่ะ คุยไปกินไป ฮือ ๆ” ฉันหลับตาปี๋ ปวดทรมานไปหมด “งั้นประมาณ หกชั่วโมง ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดก่อน” ฮือ ๆ หกชั่วโมง กับยาแก้ปวด โอ้ย! แล้วมันหายปวดเป็นปลิดทิ้งมั้ยล่ะ! “หมอคะ เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ” ไออุ่นเริ่มถีบท้องฉันรัวแล้ว โอ้ยลูก! อย่าซน ใจเย็น ๆ ลูกแม่ปวด “ไม่ได้จริง ๆ ปกติ ต้องงดข้าวงดน้ำหนึ่งวันเต็ม ๆ” “หมอ แตง... โอ้ย ๆ แตงแจ้งตั้งแต่ฝากครรภ์แล้ว ฮือ ๆ ว่าจะผ่า ไม่คลอดธรรมชาติเด็ดขาด” หมอนายเดินมาใกล้ ๆ ฉัน “ทำไม คลอดธรรมชาติมันปลอดภัยกว่านะ แผลหายเร็วด้วยเจ็บแป๊บเดียว ปวดขนาดนี้ลองเบ่งดูก่อนไหม” ฉันกุมท้องนอนร้องไห้ ในใจนึกโกรธสามี ทำไมฉันต้องมาทรมานคนเดียวด้วย อิตาเอส! “หมอ... ฮือ ๆ ขอยาแก้ปวดก่อนค่ะ ๆ ด่วน” ฉันถูกเข็นไปอีกห้อง และได้ยาแก้ปวดเรียบร้อย อาการทุเลาลง แต่ถามว่ายังปวดไหม ปวดสิ! “พยาบาล
ฉันยืนมองณีเวียและคุณเซ็น ยิ้มกันมีความสุข ก็อดยิ้มตามไม่ได้เลย ลูก ๆ พวกเขาน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เยี่ยมเพื่อนและหลาน ๆ เสร็จ ฉันกับตาเอสก็ออกมาจากโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถฉันก็คิดวนเวียนอยู่เรื่องเดียว จะเจ็บแค่ไหนนะ! ณีเวียบอกกับฉันว่าตอนปวดท้องคลอด มันปวดมาก ปวดเหมือนจะตาย ตุบ ๆ นั่นไง พอนึกถึงเรื่องนี้ ลูกสาวตัวดีของฉันก็ดิ้นใหญ่ ฉันลูบท้องเบา ๆ จนสามีเอื้อมมือมาลูบด้วย “ลูกสาวพ่อ พร้อมหรือยัง” ถามแม่บ้างเถอะ! กลัวชะมัด “ฉันยังไม่พร้อม! อย่าเพิ่งสิ” ตาเอสหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มฉัน “หมวยเธอมันพลังช้างอยู่แล้ว เบ่งเลยสะใจ” “นายลองไปนอนเบ่งดูไหมล่ะตาบ้า!” เขาหัวเราะชอบใจ หน้ากวน ๆ หันมายักคิ้วให้ฉัน “หรือจะผ่าก่อน… จะได้ไม่ต้องเจ็บสองทาง” ฉันหันไปมองเขาทันที เจ็บสองทางงั้นเหรอ “ถ้าถึงกำหนดคลอดก็คลอดเลยสิ ถ้าไม่ปวดก่อน” เอ๊ะก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่สามีกวน ๆ ของฉัน ทำไมรู้ดีนัก “รู้ดีนะ” เขายักคิ้วยิ้มกริ่ม
23.56 ฉันเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น สามีนักธุรกิจของฉัน เขายังคงนั่งทำงานที่ห้องทำงานอีกฝั่ง ส่วนฉันตอนนี้ไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ว่าตัวเองท้องเสีย หรือจะคลอด ทำไมปวดท้องแบบนี้ ฉันค่อย ๆ จับผนังหวังประคองตัวเองเปิดประตู อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณเซ็นให้อุ่นใจ แต่ซ่า... นะ น้ำอะไร ฉันไม่ได้ฉี่ราดนะ หรือมันจะเป็น... เป็นน้ำคล่ำ! “กรี๊ด...” ฉันจับประตูกรี๊ดลั่น ดังทั้งเพนท์เฮ้าส์ จนสามีวิ่งออกมาจากห้องทำงาน “เป็นอะไร! เห้ย…” คุณเซ็นวิ่งมาประคองฉันทันที ตอนนี้ฉันเหงื่อท่วมตัว อาการปวดท้องหน่วงมันเริ่มหนักขึ้น หนักจนฉันพรรณนาออกมาไม่ได้! “ไม่ไหว ปวดท้องแล้ว ปวดแล้ว! ฮือ!” ฉันบีบมือเขาแน่น น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม คุณเซ็นรีบโทรหาคนขับรถ และโรงพยาบาลทันที “ผมเซ็นดิณภัทร! ณีเวียภรรยาผม เธอปวดท้องครับ หมอเจ้าไข้ หมอนาย ขอบคุณครับ” เขารีบวางสายแล้วโทรอีกครั้ง “นพเตรียมรถด่วน!” โอ้ย! อะไรนักหนา พาฉันไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้! ไม่ไหวแล้ว! “คุณ ไปโร
กว่าจะได้นอนคือเช้าค่ะ เช้าจริง ๆ หมอสูติคนนี้เขาไม่ได้เล่น ๆ เขากินฉันทั้งคืนเอาหล่ะ วันนี้มาถึงแล้ว ฉันจะได้รู้สักที ว่าลูกฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก่อนแต่งงานหมอนายให้ฉันเจาะเลือดไว้ เขาจะได้เอาไปตรวจความผิดปกติของโครโมโซม และเพศของลูก ๆ ในครรภ์แล้ววันนี้… ผลก็ออกแล้วค่ะ สามีสูตินารีแพทย์เข้าเวรบ่ายโมง ซึ่งฉันเองก็ต้องรอคิวเข้าไปพบเขาเหมือนคนอื่น ๆ“คุณน้ำหวานเหมือนคนท้องสี่ ห้าเดือนเลยค่ะ” พยาบาลพี่ภาเดินเข้ามาลูบท้องฉัน ฉันท้องโตขึ้นทุกวัน ลูก ๆ ทั้งสามคน คงตัวใหญ่ขึ้นมาก ทั้งที่ตอนนี้ฉันท้องเกือบสามเดือนเองส่วนณีเวียกับแตงโมท้องจะหกเดือนแล้ว ณีเวียเหมือนคนใกล้คลอดมาก ลูกสาวลูกชายดิ้นใหญ่“เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ เพื่อนหวานท้องแฝดสองคน ตอนนี้หกเดือนแล้ว ท้องโตมาก ท้องหวานคงโตกว่านั้น” พยาบาลพี่ภายิ้ม และทำท่านึกคิด“อ๋อ คุณณีเวียภรรยาคุณเซ็นใช่ไหมคะ รายนั้นแข็งแรงมากค่ะ ดิฉันทาเจลอัลตราซาวด์ให้ ถีบมือดิฉันไม่หยุดเลย ของคุณน้ำหวานเริ่มตอดหรือยังคะ” ตอดงั้นเหรอ“ยังไงคะ” ฉันถามสงสัย เอามือลูบท้องตัวเองไปด้วย“คุณหมอไม่ได้บอกเหรอคะ เด็กในครรภ์เขาดิ้นตลอดเวลาค่ะ อยู่ที่เราจะรู้สึกตัว
หมอนายไม่เมาเลยสักนิด พวกผู้ชายพวกนั้นไม่สามารถทำอะไรหมอนายได้ นอกจากไอ้ยาดองบ้า ที่ตอนนี้มันกำลังปั่นป่วนอยู่ในตัวเขา!น้ำหวาน อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดนะ“หวาน...” นั่นไงหมอสูติเดินมาจากด้านหลัง มือนุ่ม ๆ ค่อย ๆ ปลดกระดุมฉันออก ทีละเม็ดทีละเม็ด“คะ คุณหมอ มันออกฤทธิ์แล้วเหรอคะ” เขาไม่ตอบ แต่ก้มลงจูบไหล่ฉันเบา ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามแผ่นหลังมือนุ่มล้วงเข้ามาบีบอกตึง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เค้น ช้า ๆ ราวกลับ ปรารถนามันมาแสนนาน“อื้ม... หมอคะ” ฉันเงยหน้ามองเพดาน ยกมือขวาลูบไล้ต้นคออุ่น ๆ ของเขา เขาดึงชุดแต่งงานที่ปลดกระดุมเสร็จลงพื้น จนฉันตกใจหันไปจ้องหน้าสูตินารีแพทย์ที่แสนเร่าร้อนคนนี้“อยากกินหวานมากเลยตอนนี้” เขาพูดเบา ๆ ด้วยเสียงเซ็กซี่ฉันยิ้มกริ่มจ้องตาเขาไม่ละสายตา ฉันจ้อง... จ้องราวกับเชิญชวนให้เขาหิวกระหายตัวฉันมากขึ้นไปอีก“กินสิคะ หวานเป็นของคุณหมอแล้ว หวานเป็นภรรยาคุณ” เขาอมยิ้ม หน้าขาว ๆ เริ่มแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะช้อนตัวฉันอุ้มมาวางบนเตียงริมฝีปากสวยของหมอสูติ โน้มลงมาบดจูบฉันช้า ๆ เขาส่งลิ้นอุ่น ๆ แสนเร่าร้อนเข้ามา คลอเคลียหยอกล้อกับลิ้นฉันข้างใน หวานเหมือนเดิมสามีฉัน
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ฉันนั่งมองกระจกบานใหญ่ ที่ตอนนี้มีเครื่องสำอาง เครื่องประดับตั้งเรียงรายอยู่ ฉันสวมชุดไทยศิวาลัยสีโอรส ผมถูกเกล้าขึ้นปักปิ่นเรียบ ๆอกข้างซ้ายส่งเสียงดัง ‘ตึก ตึก’ ฉันตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก และมีพยานตัวน้อยถึงสามคนในท้อง“แกสวยมาก แกโชคดีที่เจอรักดี ๆ ต่อไปนี้มีแต่ความสุขแล้วนะ”ณีเวียกับแตงโม อยู่ในชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว สไบสีขาวนวล ผ้าถุงไทย ๆ สีฟ้าอ่อนอมเขียว มันอาจจะไม่เหมาะกับหน้าหมวย ๆ และหน้าจิ้มลิ้มน่าถนุถนอมนั้น แต่วันนี้เพื่อนเจ้าสาวของฉันสองคน ก็สวยเกินจะบรรยายเสียงขันหมากดังมาจากหน้าบ้าน ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนฉันต้องลุกขึ้นแอบมองผ่านหน้าต่าง เจ้าบ่าวรูปหล่อของฉันกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อแม่ น้องชาย ข้างกายมีพานสินสอดทองหมั้น ที่ญาติสนิททั้งหลายของเขาช่วยกันถือณีเวียกับแตงโมกำลังออกจากห้องฉันเพื่อไปกั้นประตูเงินประตูทองหมอนายผ่านประตูเงินประตูทอง ด่านแรกของเมย์และสายฝนด้านล่างมาแล้ว และตอนนี้เขาก็ขึ้นมาถึงหน้าห้องฉัน“หมอนายคะ รักน้ำหวานแค่ไหน” ฉันได้ยินเสียงแตงโมถามหมอนายหน้าห้อง“รักมากที่สุดเลยครับ มากจนบอกไม่ได้” ฉ