Chapter 98 23.05 น. กัลป์เปิดประตูห้องนอนขวัญข้าวตามเวลานัดหมาย เขาเดินเข้าไปในห้องไร้แสงไฟ เธอปิดไฟหมดทุกดวง ซึ่งปกติจะเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ราวกับเป็นแสงนำทาง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเดินไปคนที่นอนบนเตียง กัลป์ชินกับห้องนี้ อีกทั้งปรับสภาพสายตาเพียงครู่เดียวก็จะชินกับความมืด เขามองขวัญข้าวที่นอนตะแคงหันหลังให้ ก่อนเอนตัวลงนอนซ้อนทับร่างสาว ลำแขนใหญ่รั้งเธอเข้ามาแนบชิด “ร้องไห้ทำไม” กัลป์ถามเมื่อได้ยินเสียงสะอื้น จึงพลิกตัวเธอให้หันมาทางตน “ขวัญยะ...อยากกลับบ้าน” ขวัญข้าวตอบ มีเสียงสะอื้น “หลังคุณกัลป์ตะ...แต่งงาน ขวัฐขอกลับบ้านนะคะ ขวัญคงทนยะ...อยู่ในบ้านนะ...นี้ไม่ได้” เธอทุ่มตัวร้องไห้ตั้งแต่เข้ามาในห้อง ร้องไห้ให้สมกับความเสียใจในอก ร้องระบายความรู้สึกอัดอั้นที่บอกหรือแสดงให้ใครเห็นไม่ได้ ห้องนี้จึงเปรียบเสมือนห้องที่เธอระบายทุกความรู้สึกได้อย่างเต็มที่ ขวัญข้าวร้องไห้นานร่วมชั่วโมง ผล่อยหลับไปไม่รู้ตัว ตื่นมาตอนสามทุ่มกว่าจึงลุกไปอาบน้ำ กลับมานอนที่เตียง เตียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความเศร้า ความเสียใจและความรัก ทำให
Chapter 99กัลป์มองหน้าวิรงรอง เขาไม่แสดงออกใดใดนอกจากมองเธอนิ่ง แต่เป็นวิรงรองที่ส่งยิ้มให้เขา ยิ้มอย่างมีเลศนัย แววตาไม่มีความรักให้รู้สึก มองเขาราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย แต่ก็ยังติดใจเรื่องหนึ่งว่า ดูท่าทางกัลป์ไม่แปลกใจที่เห็นเธอในห้องนี้ โดยเฉพาะมานั่งบนเก้าอี้ที่มีป้ายบริษัทคู่แข่งวางอยู่บนโต๊ะ กัลป์กับอดิสรควรมีสีหน้าตกใจมิใช่หรือ กลับไม่ใช่เช่นนั้น ทั้งสองไม่มีสีหน้าและแววตานั้นเลย...สักนิดเดียววิรงรองไม่สนใจหาเหตุผล วันนี้ต้องจบสิ้นทุกอย่าง ไม่ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ฝืนใจมานานหลายปี การสร้างภาพเป็นางฟ้านางสวรรค์ เห็นใจชีวิตศัตรู หรืออาจพูดได้ว่า เป็นตรงกันข้ามกับที่เธอเก็บซ่อนความรู้สึกแท้จริงไว้ และวันนี้จะเป็นวันที่กัลป์เสียใจ เจ็บปวดมากที่สุด เพราะถูกคนรักหักหลัง การแกะซองประมูลเป็นไปอย่างเข้มข้น การเปิดซองไม่ได้เรียงลำดับความใหญ่โตของบริษัทนั้นๆ เจ้าของโครงการมีความชัดเจนและยุติธรรมมาก หยิบซองเปิดดูราคาทีละซอง โดยมีเจ้าหน้าที่โครงการระบุตัวเลขลงไปโน้ตบุ๊กที่เชื่อมต่อกับทีวีจอใหญ่ ทุกคนจะเห็นตัวเลขของบริษัทที่ยื่นประมูล วิรงรองยิ้มเย็น มองดูตัวเลขสลับกับมอ
Chapter 100หัวสมองอันชาญฉลาดของวิรงรองทำงานอย่างหนัก ทุกครั้งที่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เธอคิดทางหนีทีไล่เผื่อไว้ด้วยเสมอ หากฉุกเฉินจะได้หลบหลีกหนีทัน ทว่าครั้งนี้เธอไม่คิดว่าจะมีภัยมาสู่ตัว จึงไม่ได้วางแผนสำรองใดไว้ ทุกอย่างจวนตัวมาก ศัตรูตรงหน้าคิดกำจัดตน แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เธอวางแผนทุกอย่างมาดิบดี รอคอยมาหลายปี และความสำเร็จก็งวดเข้ามาแล้ว จะพังตรงหน้าเธอไม่ได้“ฉันต้องการทนาย ฉันขอโทรหาทนายก่อน” เสียงวิรงรองดังขึ้น“คุณโทรได้เลยครับ แต่ระหว่างรอทนาย คุณต้องไปโรงพักกับผมเพื่อสอบปากคำครับ” นายตำรวจคนเดิมเป็นเจ้าของเสียง“ถ้าแน่ใจว่าตัวเองไม่ผิด ก็ไม่เห็นต้องกลัวใช่ไหมวิ แค่ไปโรงพักเอง ไม่ได้ก้าวขาเข้าคุกซะหน่อย แต่ถ้าเธอไม่ไป ฉันจะคิดว่า เธอคือผู้หญิงแสนชั่ว วางแผนทำร้ายน้องสาวของฉัน เป็นหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์ที่แท้จริง ไม่ใช่พ่อของเธอ” วิรงรองมองหน้ากัลป์ ศัตรูที่หมายทำให้ล่มจม ทว่าเกมพลิก เธอนี่แหละกำลังจนมุมและพ่ายแพ้ไม่มีทาง...“ไปก็ไปสิ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดไม่เห็นต้องกลัว” วิรงรองทำใจดีสู้เสือ เธอต้องนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว และคิดหาทางออกในใจมินตรามองดูเหตุการณ
Chapter 101ลิ้นจี่ถามด้วยความเป็นห่วง มือยังถือยาดมอังจมูกขวัญข้าว “ไม่เป็นไรแล้วจ้ะ ขอบใจลิ้นจี่มากนะ” คนที่บอกว่าไม่เป็นไรยังมีอาการเวียนหัวอยู่ แต่ก็ฝืนลุกขึ้นยืนเพื่อไปทำกับข้าวต่อ นั่นทำให้ขวัญข้าวทรงตัวไม่อยู่ ร่างโงนเงนจนต้องทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม “หนูว่าพี่ขวัญอย่าเพิ่งทำอะไรเลยนะ นั่งพักให้หายก่อน ส่วนเรื่องกับข้าวหนูจัดการเอง” ลิ้นจี่บอกด้วยความเป็นห่วง “หนูไปละลายยาหอมให้พี่ขวัญดีกว่า เผื่อดีขึ้น” “ปกติพี่ไม่เคยเป็นแบบนี้นะ นี่เป็นตั้งแต่เช้าแล้ว” ขวัญข้าวพูดขณะรับยาดมมาสูดดม “หนูว่า เรื่องเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรดาของมนุษย์ ต่อให้แข็งแรงแค่ไหน บทจะไม่สบายมันก็วิ่งเข้าหาตัวเร็วมาก แล้วก็ไม่แปลกที่พี่ขวัญจะเป็นลมหรือเวียนหัว วันๆ นึงหนูเห็นพี่ขวัญไม่เคยหยุดเลย คุณกล้วยไม้นอนหลับ พี่ขวัญก็ไปทำงานอย่างอื่น ไม่ได้พักตามคุณกล้วยไม้ ร่างกายก็เลยอ่อนเพลียเป็นลมอย่างนี้ไงล่ะจ้ะ” คนพูดคิดว่าไม่ใช่เรื่อแปลก “ก็คงเป็นอย่างนั้น” ขวัญข้าวรับคำเสียงเบา สีหน้าอิดโรย ขณะขวัญข้าวกำลังนั่งพัก ลิ้นจี่ทำหน้าที่ชงยาหอม ว
Chapter 102 สถานีตำรวจ ระหว่างรอทนายมาช่วยเหลือเรื่องคดี วิรงรองถูกนำตัวไปอยู่ในห้องประชุมขนาดเล็กภายในโรงพัก เพราะเธอไม่ให้ปากคำใดใดจนกว่าทนายจะมา ขณะนั่งรอประตูห้องเปิดกว้าง ธัญญ์ กัลป์และอดิสรเดินเข้ามาในห้อง ทั้งสามมองวิรงรองเป็นตาเดียว ทว่าคนถูกมองกลับนั่งหน้าเชิด โดยมีมินตรานั่งด้านข้าง “พวกคุณใส่ร้ายอะไรเพื่อนฉัน วิไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน” มินตราที่ไม่รู้เรื่องอันใด กระโดดปกป้องเพื่อนเต็มที่ “คอนดูนะ ถ้าคุณพ่อฉันส่งทนายมาล่ะก็ จะฟ้องให้ยับเลย” “ถ้าคุณรู้เรื่องทั้งหมด ผมเชื่อว่า คุณจะไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงคนนี้เลย” กัลป์พูด สายตามองไปยังวิรงรอง “ผู้หญิงหน้าเนื้อใจเสือ แสดงละครเก่งยิ่งกว่าดาราชื่อดังซะอีก หลอกคนได้แนบเนียนมาก แม้กระทั่งคุณก็ถูกหลอกเต็มๆ” “วิไม่มีทางเป็นไปตามข้อกล่าวหา ฉันรู้จักวิดี วิรวยมาก จะทำอย่างนั้นให้ตัวเองเดือดร้อนทำไม แค่เงินที่มีอยู่ก็ใช้ไม่ไหวแล้ว” มินตรารู้ด้านดีของวิรงรองเท่านั้น ด้านเลวถูกปกปิดไว้เป็นอย่างดี “ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณฟัง เพราะมั่นใจว่า เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผ
Chapter 103 “เรื่องคดียาเสพติดหรืออย่างอื่นฉันไม่สนใจหรอกนะ เรื่องที่ฉันสนใจที่สุดคือ เธอสั่งให้ไอ้ช้างข่มขืนกล้วยไม้ทำไม ในเมื่อคนที่เธอโกรธแค้นคือฉัน เธอสมควรลงความโกรธที่ฉันสิ” กัลป์ถามและอยากรู้คำตอบ “ส่วนเรื่องการตายของแฟนเธอ ถ้าเธอมีสมองคิดสักนิดจะรู้ว่า ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย มันเป็นความผิดของแฟนเธอที่ไม่ซื่อสัตย์ในการทำงาน ไม่ใช่ความผิดของฉัน”กัลป์จำได้แล้วว่า ธีรเดชคนรักวิรงรองคือใคร ธีรเดชคือบริษัทคู่ค้าที่ทำผิดสัญญา อีกทั้งยังทำให้สินค้าเสียหายเพื่อเรียกเงินประกัน เจ้าหน้าที่กัลป์จับได้ก็ให้สินบน กลบความผิดของตน ทว่าพนักงานคนนั้นไม่เล่นด้วย นำเรื่องนี้มารายงานกัลป์ กัลป์จึงทำตามสัญญา สั่งปรับบริษัทธีรเดชเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นสามร้อยล้านบาท และยึดสินค้าที่ส่งมาให้เขาทั้งหมด อีกทั้งยังดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมมูลค่าที่ธีรเดชสูญเสียราวห้าล้านบาทธีรเดชกลายเป็นคนหมดตัว ทำให้ครอบครัวเสียใจ หมดความภาคภูมิใจ เขาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทั้งที่ตอนนั้นสามารถหยิบยืมเงินวิรงรองได้ ทว่าจิตใจย่ำแย่ที่ทำให้บิดามารดาผิดหวัง ชื่อเสียงบริษัทป่นปี้ เขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น ก่อนเป่าสมองตัว
Chapter 104 “เธอมีสมองก็ไม่น่าโง่เลยนะ เธอคิดว่ายุคสมัยนี้อะไรมีอำนาจไปกว่าเงินล่ะ สองปีมานี้ฉันยังปิดข่าวได้เลย แล้วทำไมจะทำให้เรื่องนี้เงียบเชียบแต่เธอยังถูกดำเนินคดีได้ล่ะ เธออย่าลืมว่าฉันเป็นใคร รู้จักใครบ้าง ถ้าโง่คิดไม่ออกก็แล้วแต่เธอ” ธัญญ์บอกให้วิรงรองรู้ว่า ใครกันแน่ที่เหนือกว่า “อย่าลองดีกับฉัน เพราะเธอจะยิ่งแย่ ตอนนี้เธอไม่เข้าข่ายต่อกรกับฉันนะ เตรียมตัวชดใช้ความชั่วของตัวเองได้แล้ว เรื่องนี้ฉันจิกไม่ปล่อยแน่” “โชคดีนะวิและลาก่อน” กัลป์พูดยิ้มๆ ก้าวเดินออกจากห้องพร้อมธัญญ์และอดิสร ไปสมทบกบจักรภพที่กำลังเคลียร์เรื่องบางอย่างกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง “กรี๊ด...กรี๊ด...ไม่จริง ฉันไม่แพ้ ฉันไม่แพ้มัน...ฮือ”วิรงรองกรีดร้องลั่นห้อง ระบายความอัดอั้นและความพ่ายแพ้ของตน แพ้ชนิดที่ว่าไม่เป็นท่า เป็นการแพ้ที่ไร้การต่อกรใดใดด้วย แพ้ศัตรูไม่เท่าแพ้คนที่ตัวเองเกลียดชัง เพราะนั่นหมายถึงความปวดร้าวทรวงใน ตกอยู่กับวิรงรองเพียงคนเดียว เท่ากับว่าทุกเรื่องที่เธอวางแผนเป็นดิบดีสูญเปล่า วิรงรองไม่ได้อะไรเลยนอกจากน้ำตา นับตั้งแต่ทำให้ขวัญ
Chapter 105 รถยนต์สองคันแล่นมาจอดหน้าประตูบ้านธัญญ์ คันแรกเป็นของเจ้าของบ้าน คันที่สองเจ้าของรถมีนามว่าจักรภพที่ก้าวลงมาพร้อมคชาหรือต้นคนขับรถ วันนี้ธัญญ์กล่าวชวนจักรภพมากินข้าวเย็นที่บ้าน เลี้ยงขอบคุณที่เป็นส่วนร่วมให้แผนการจับวิรงรองกับบิดาและน้องชายให้กฎหมายจัดการ สตรีที่นั่งอยู่บนโซฟารับแขกทำให้ธัญญ์ถึงกับชะงักเท้า มองสีหน้าและแววตาวชิราภรณ์ อีกทั้งร่างเมียรักยังโอบล้อมด้วยพลังงานบางอย่างที่ธัญญ์รู้สึกได้ เขาชาวาบไปทั้งตัว รู้อารมณ์ภรรยาทันทีว่า นางกำลังโกรธ เป็นระดับความโกรธที่มากด้วย ยังไม่ทันที่ธัญญ์จะเอ่ยคำใด วชิราภรณ์ลุกขึ้นเดินมาหาลูกชาย ทำในเรื่องที่ใครไม่คาดคิด “เพี้ยะ...เพี้ยะ...เพี้ยะ...ไอ้ลูกชั่ว ไอ้ลูกเลว ฉันเลี้ยงแกมาไม่ดีหรือไง ทำไมแกถึงทำเรื่องแย่ๆ เลวๆ แบบนี้ ทำไม แกทำกับขวัญได้ยังไง ผีห่าซาตานตัวไหนมันสิงแก เพี้ยะ...อัก อัก อัก”วชิราภรณ์ตบหน้ากัลป์หลายครั้ง ต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงอย่างไม่เคยเอ่ยมาก่อน นั่นหมายความว่า นางสุดจริง อีกทั้งกำปั้นยังทุบไปบนอกลูกชายที่ทำหน้าตกใจ อยู่ในอาการงง ยืนเป็นหุ่นให้คนเป็นแม่ระบายอารมณ์โดยนึกไม่
Chapter 137 กัลป์ประคองร่างอุ้ยอ้ายของภรรยาออกจากห้องน้ำ เขาพาขวัญข้าวมานั่งบนโซฟาปลายเตียง หยิบยาดมขึ้นมาให้เธอสูดดม จากนั้นก็ลุกเดินไปหยิบผ้าเย็นในตู้เย็นมาหนึ่งผืน นำมาเช็ดหน้าเช็ดลำคอและแขนให้เธอ “มาแพ้ท้องอะไรตอนนี้นะ จะคลอดอยู่ไม่กี่วันแล้ว” กัลป์ไม่เหนื่อยที่ต้องดูแลขวัญข้าว เขาเป็นห่วงเธอมากกว่า “ขวัญจะนอนพักก่อนไหม ถึงเวลากินข้าวเย็นพี่จะขึ้นมาปลุก” “ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญไหวค่ะ” พูดไปสูดยาดมไป “พี่ว่าเรามีลูกกันแค่สองคนก็พอ ขวัญแพ้ท้องหนักมากทั้งสองท้องเลย พี่สงสาร”หลังจากคลอดลูกชายคนแรกนามว่ากรกันต์หรือน้องกรณ์ได้หนึ่งปีกว่า กัลป์กับขวัญข้าวมีลูกอีกคน ซึ่งท้องนี้เป็นลูกสาว ขวัญข้าวมีอาการแพ้ท้องเช่นเดิม อาเจียน เวียนศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลียง่าย แต่ไม่เหม็นหน้าสามีเหมือนท้องแรก กัลป์จึงดูแลขวัญข้าวได้เต็มที่ ดูแลมากกว่างานในบริษัทที่ให้อดิสรรับหน้าที่ผู้ช่วยรองประธานทำงานแทนอย่างที่รู้กันว่า ครรภ์แรกกัลป์ไม่ได้ทำหน้าที่สามีสักเท่าไหร่ มาท้องนี้เขาทุ่มเต็มที่ ทำหน้าที่พ่อและหน้าที่สามีไปพร้อมกัน ซึ่งทำได้ดีมากแม้ว่าจะเหนื่อยมากก็ตาม
Chapter 136พิมประภาจากไปนานหกเดือนแล้ว ทว่าจิตราวดียังทำใจยอมรับกับการจากไปของลูกสาวไม่ได้ แต่ก็ดีขึ้นบ้างในบางครั้ง เจษฏาต้องจ้างพยาบาลมาดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะคิดสั้นตา โดยมีสกลคอยช่วยดูแลภรรยาอีกคน“เรื่องบางเรื่องต้องให้เจอกับตัวถึงเข้าใจและสำนึก และบางครั้งว่าคนๆ หนึ่งจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว” วชิราภรณ์พูดอย่างคนอาบน้ำร้อนมาก่อน “พอดีป้าได้โสมมากจากเกาหลี ป้าฝากไปให้คุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะ”“ขอบคุณครับคุณป้า” คนรุ่นลูกยกมือไหว้ “ส่วนนี้เช็คครับคุณลุง”เจษฎาส่งเช็คที่ระบุจำนวนเงินสิบล้านส่งให้ธัญญ์ที่ยื่นมือมารับไว้ ก่อนธัญญ์ส่งคืนให้เจษฏา“ลุงยังไม่รีบใช้เงิน เจตต์เอาไปหมุนก่อนก็ได้ ตอนนี้ขยายตลาดไปจีนกับสิงคโปร์ไม่ใช่เหรอ ต้องใช้เงินเยอะ ขยายกิจการต้องมีเงินสำรอง” ธัญญ์พูดอย่างเข้าใจวงจรธุรกิจ“ผมพอมีครับ คุณพ่อบอกว่า ความซื่อสัตย์และการตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญครับ รับปากใครไว้ก็ต้องทำให้ได้ครับ”“ลุงรับไว้แล้วไง และให้เจตต์เอาไปหมุนต่อ ถือว่าเจตต์ไม่ผิดคำพูดนะ” ธัญญ์มีข้อโต้แย้ง “รับไปเถอะ ลุงอยากช่วยเจตต์จริงๆ เจตต์จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้มากกว่าลุง เราสองคนช่วยเหลือกั
Chapter 135 “พี่กัลป์อยากทำอะไรก็ทำสิคะ หมอไม่ได้ห้าม” กัลป์ละห่างลำคอระหง มือหยุดเคลื่อนไหว เงยหน้ามองคนพูด “ทำได้เหรอ ทำได้แน่นะ” เขาถามย้ำ รอลุ้นคำตอบ “ได้ค่ะ แต่อย่ารุนแรงนะคะ เดี๋ยวลูกตกใจ” ขวัญข้าวตอบ มองใบหน้าคมหล่อที่เวลานี้อาบด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วรอยยิ้มพลันหุบลง เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่ว่า พี่อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า ตั้งแต่ขวัญรู้ว่าท้องก็แพ้ไม่หยุด หน้ามืดเวียนหัวก็บ่อย แล้วท้องก็ใหญ่มากด้วย พี่ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด พี่ทนได้ ขอแค่พี่ได้กอด ได้หอมและได้จูบขวัญก็พอ” แม้ใจกัลป์อยากทำตามอารมณ์มากแค่ไหน ทว่าเขาคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเมียเป็นอันดับแรก แค่ได้ทำตามที่กล่าวไป กัลป์ก็พอใจแล้ว ขวัญข้าวยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้า หอมแก้มเขาฟอดใหญ่ “พี่กัลป์น่ารักที่สุดเลย” “แน่นอนอยู่แล้ว และน่ารักกับขวัญคนเดียว” เขาพูดจริงจากใจ จูบปากเธอหนักๆ ซ้ำๆ หลายครั้ง “รักที่สุดในโลกด้วย” “ขวัญก็รักพี่กัลป์ค่ะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ” “ครับ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ขวัญเสียใจและร้องไ
Chapter 134“ใช่ คงไม่เหงาแล้ว เราคงปวดหัวกับหลานจอมซนของเราน่าดูนะ” ธัญญ์พูดประโยคนี้วชิราภรณ์ก็รู้ว่า สามีตัดสินใจเช่นไร“แน่นอนค่ะ กัลป์ตอนเด็กๆ ซนหยอกซะเมื่อไหร่ เล่นเอาผึ้งหัวหมุนเลย หลานคนแรกของเราก็คงซนไม่ต่างกับพ่อ” ใบหน้าวชิราภรณ์อิ่มด้วยรอยยิ้ม“เรากลับบ้านกันเถอะ ให้กล้วยไม้อยู่ดูแลช้างต่อ” ธัญญ์เอ่ยบอกภรรยา ก่อนทั้งคู่จะเดินเคียงคู่กันกลับไปบ้านหลังใหญ่ ความคิดธัญญ์ตอนนี้เปลี่ยนไป เห็นทีเขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างเสียแล้ว กัลป์ก้าวเท้าเร็วๆ มายังบ้านหลังเล็ก เมื่อรู้จากพรรณพฤกษาว่า ขวัญข้าวเวียนหัวหนักมาก และเป็นลมไปเมื่อครู่ใหญ่ กัลป์ที่กำลังเดินทางกลับบ้านพอดีเมื่อมาถึงก็รีบมาบ้านหลังนี้ทันที กัลป์ร้อนใจมาก กลัวว่าเมียรักจะเป็นหนัก “แม่บัวครับ ขวัญเป็นไงบ้างครับ” กัลป์ถามบัวริน “ตั้งแต่เป็นลมไปเมื่อชั่วโมงก่อนก็ยังไม่ได้สติเลย ดีนะที่ตอนเป็นลมอยู่ในห้องน่ะ ไม่งั้นคงต้องให้นอนในห้องรับแขก” “ผมขึ้นไปดูขวัญก่อนนะครับ” ตอนนี้ขวัญข้าวหมดสติอยู่ เธอคงไม่เห็นหน้ากัลป์ จึงเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้ชิดใกล้สาวอันเป็นที่รัก พูดจบก็เดิน
Chapter 133 พรรณพฤกษามองใบหน้าคชา ชายหนุ่มที่พรากความสาว ความสดใสของตนไปเมื่อสองปีกว่าด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่มีความโกรธแค้นสักนิดเดียว ตอนนี้จิตใจเธอผ่องใสมาก ปรับชีวิตให้เป็นปกติ ไปเที่ยว ไปกินข้าว ไปดูหนังทำกิจกรรมหลายอย่างกับครอบครัวและเพื่อน เธอจำคำพูดก่อนเขาหมดสติในป่าได้ดี ราวกับว่ามันกลืนเข้าไปในความรู้สึก ไหลวนอยู่เช่นนั้น “ผมรักคุณ ผมขอโทษ”สองประโยคนี้แม้น้ำเสียงคชาจะเบาและขาดห้วง ทว่าพรรณพฤกษาได้ยินชัดเจน เธอเชื่อคำพูดคชา เชื่อว่ามาจากหัวใจที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เสี่ยงตายช่วยชีวิตตน เธอยังรู้ต่ออีกว่า คชาปลอมตัวเป็นต้นเข้ามาดูแลเธอ เพื่อชดเชยความผิดที่กระทำไว้ แม้พรรณพฤกษาจำเหตุการณ์ช่วงสติหลุดไม่ได้ แต่เธอก็เชื่อว่า คชาสำนึกผิดโดยแท้จริง และนับจากวันนั้นพรรณพฤกษาดูช่วยดูแลคชาทุกวัน วันหนึ่งนานกว่าสามชั่วโมง ช่วงแรกธัญญ์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรสาว เพราะอย่างไรเสียคชาก็เป็นคนชั่ว คนไม่ดีที่ไม่น่าเข้าใกล้ อีกทั้งยังเป็นคนข่มเหงพรรณพฤกษา จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแล แค่ให้อยู่บ้านหลังเล็กก็เพียงพอและถือว่าเมตตามากแล้ว“คุณพ่อขา กล้วยไม้เ
Chapter 132อาหารเย็นมื้อนี้พิเศษอีกแล้ว ขวัญข้าวมองปลานิลสามรสและผัดผักคะน้าน้ำมันหอย มีข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งจานแล้วน้ำลายสอ เธอรู้ดีว่าอาหารสองอย่างนี้ใครเป็นคนทำ ทว่าคนทำกลับนำมาให้ตนและอยู่ร่วมลุ้นไม่ได้ ผัดผักน้ำมันหอยใส่กุ้งสด แม้ว่าผักจะสุกมากไปหน่อยแต่หน้าตาก็น่ากิน ส่วนปลานนิลสามรส เธอไม่คิดว่ากัลป์จะทอดปลาได้สวย หนังปลาคลุมเนื้อปลาสวยงาม ไม่เละ “กัลป์ตั้งใจทำเลยนะ ขวัญชิมเลย มันลุ้นอยู่” อดิสรที่ยกสำรับอาหารมาให้คนท้องเจ็ดเดือนรีบพูด ในมือถือโทรศัพท์เครื่องจิ๋วราคาไม่จิ๋ว เปิดเป็นวีดิโอคอลให้กัลป์ได้ยินและได้เห็นภาพขวัญข้าวกินอาหาร คนลุ้นไม่ได้มีแค่สองคน จักรภพกับนพดลก็พลอยลุ้นตามไปด้วย ขวัญข้าวตักเนื้อปลาสามรสขึ้นชิม ก่อนตักอีกครั้งเพื่อกินกับข้าว ยังไม่มีคำตอบของคนที่นั่งลุ้น เพราะเธอกินข้าวกับผัดผักคะน้าอีกหนึ่งคำ “เป็นไงวะ ขวัญว่าไงบ้าง” กัลป์ส่งเสียงถามผ่านวีดิโอคอล “ขวัญกำลังกินอยู่ ยังไม่ตอบเลย” อดิสรพลิกมือถือให้กัลป์เห็นขวัญข้าวกินข้าว แต่ก็รีบหมุนกลับมาตามเดิมเพราะเกรงว่าคนท้องจะเห็นหน้ากัลป์ อาการเหม็นขี้หน้ากัลป์อาจ
Chapter 131 “อยากไปอยู่กับขวัญก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่หรอก”คนรู้ทันคือวชิราภรณ์ที่เวลานี้ไม่ลงโทษใดใดลูกชาย เพราะขวัญข้าวกำลังลงโทษกัลป์ เป็นการลงโทษที่หนักกว่าด้วย เห็นหน้าก็ไม่ได้ เข้าใกล้ยิ่งไม่ได้ เห็นหน้าทีไรวิ่งไปอาเจียนทุกครั้ง กรรมไม่แบของกัลป์ที่แท้ทรู “รายนั้นน่ะสมควรเป็นหมาเหงาหมาหงอย เป็นหมาอกแตกตายได้ยิ่งดี จะได้รู้สึกนึกบ้าง” คนพูดยังมีอารมณ์โกรธไม่หาย “แต่แค่นี้ก็มากแล้วนะคะ ทรมานใจและกายด้วย ทำอะไรก็ไม่ได้นอกจากแอบดู คอยมองอยู่ห่างๆ แต่เข้าใกล้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ขวัญจะหายแพ้หน้าพี่กัลป์ พูดถึงก็สงสารนะคะ” พรรณพฤกษาเห็นใจพี่ชายมาก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับขวัญข้าวคนเดียว่า จะหายเหม็นหน้ากัลป์เมื่อไหร่ “เหม็นขี้หน้าไปจนกว่าจะคลอดแหละดี จะได้เข็ดหลาบไม่ทำอย่างนี้อีก” คนเป็นแม่ยังไม่หายเคืองบุตรชาย แต่ก็ยอมรับว่าอีกใจก็เห็นใจและสงสารตามประสาแม่ “ไปหาขวัญกับพี่ช้างดีกว่าค่ะคุณพ่อ คุณแม่ กล้วยไม้ให้พี่มะนาวทำมะม่วงน้ำปลาหวานไปให้ขวัญด้วยค่ะ” สองสามีพยักหน้า ก่อนทั้งสามจ
Chapter 130ตั้งแต่พรรณพฤกษากลับมาเป็นคนเดิม และได้รับรู้เรื่องเหลือเชื่อหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องวิรงรอง คนรักของพี่ชาย สาวแสนดีซุกซ่อนความร้ายกาจไว้มากมาย รวมถึงเป็นคนจ้างวานคชาข่มเหงตน ที่แท้จริงแล้วเธอไม่ได้ถูกรุมโทรมดังเช่นเข้าใจ คชาจัดฉากว่าเธอโดนกระทำเช่นนั้น พรรณพฤกษาโดนคชาข่มขืนคนเดียว ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน หลังจากทั้งหมดพากันออกจากสวนลุงเฉิ่ม กัลป์ขับรถพาคชาไปส่งโรงพยาบาลเป็นอันดับแรก เนื่องจากคชาเสียเลือดมาก หายใจรวยริน แม้คชาเป็นคนทำร้ายน้องสาวตน ทว่าก็เป็นคนช่วยชีวิตพรรณพฤกษาจากชายใจชั่ว อีกทั้งเขาต้องการให้คชารับโทษจากทุกเรื่องที่ก่อไว้ การช่วยชีวิตคชาจึงเป็นเรื่องถูกต้อง คืนนั้นพูดได้ว่าเป็นวันอันเลวร้ายของบัวริน ขวัญข้าวถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัดหลังจากแพทย์นำกระสุนออกจากตัวได้สำเร็จ การถูกยิงไม่ส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ คล้อยหลังขวัญข้าวถูกพาเข้าไปในห้องดูอาการเพียงแค่ห้านาที บัวรินก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่า คชาถูกยิงและถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดด่วน อาการคชาค่อนข้างหนัก เสียเลือดมากและหมดสติ แพทย์ใช้เวลาผ่าตัดนานร่วมสี่ชั่วโมง กว่าจะเสร็จเรียบร้อย
Chapter 129 “กรี๊ด” ความตกใจเสียงปืน พรรณพฤกษากรีดร้อง ภาพความทรงจำตอนถูกจับตัวไปย้อนเข้ามาในหัว ราวกับว่าปลุกความทรงจำที่ถูกบางอย่างกดทับไว้ ความหวาดกลัวแน่นจิตใจ สายตาตื่นตระหนก คิดว่าตนเองถูกจับตัวไปที่ไหนสักแห่ง มือที่ห้อยอยู่จิกลงไปขาของคนที่แบกตนไว้ ทว่าเดชใส่กางเกงค่อนข้างหนา เขาจึงไม่เจ็บเท่าไหร่นัก เธอจึงเปลี่ยนมาทุบขาและลำตัวเดชแทน “ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล่อยนะ” “แม่งเอ๊ย!” เดชสบถจากความเจ็บปนรำคาญ ในใจคิดว่าหากพาพรรณพฤกษาไปด้วยอาจเป็นตัวถ่วง การหลบหนีล่าช้า ไปตัวเดียวแม้ไม่มีตัวประกันน่าคล่องตัวกว่า เดชจึงโยนร่างตัวถ่วงลงไปบนพื้น ดีที่ว่าพื้นตรงนั้นไม่มีหิน เป็นเพียงพื้นดินเปียกชื้น เธอเจ็บแต่ไม่มาก คลำบั้นท้ายไปมา “คุณกล้วยไม้มาหาผม” คชาบอกพรรณพฤกษาที่เงยหน้ามองเจ้าของเสียง แสงไฟจากไฟฉายทำให้เธอมองเห็นหน้าคชา ทว่ากลับจำไม่ได้ว่าคือใคร แต่น่าแปลกใจที่เธอเชื่อใจชายคนนี้มากกว่าเดช พรรณพฤกษาจึงลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าไปหาคชา “คุณกล้วยไม้ระวังครับ” เสียงคชาดังลั่น เมื่อเห็นเดชเล็งปืนมายังร่างสาว เขาก้าวเท้าวิ่งสุดชีวิต กอดพรรณพฤกษ