บ้านกรณ์วิภาค “อะไรนะ สร นายจะให้เราไปแทนนายเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า ถึงเราจะหน้าตาเหมือนกันแต่นายคิดว่าคุณปูเป้ เค้าจะจำไม่ได้หรือไง ว่าใครเป็นใคร ไม่เอาหรอก” “แต่นายต้องไป นะศวร ทำเพื่อเราหน่อยเห็นความเป็นพี่น้องกัน เราต้องไปเจอเอลี่จริงๆ เห็นเชอรี่บอกว่าเค้าโทรมาเลื่อนเวลา เราต้องไปแล้ว อย่าลืมนะเด
พัชราจอดรถ หน้าบ้านหลังใหญ่ตามคำบอกเล่าของเพื่อนสนิทที่นั่งเงียบมาตลอดทาง หญิงสาวหันไปมองเพื่อนสาวประเภทสอง ที่ปกติเป็นคนคุยเก่ง แต่วันนี้กลับเงียบสนิทตั้งแต่ออกจากห้างสรรพสินค้ามา พัชราเอื้อมมือไปจับที่มือของเพื่อนสาว พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ “ให้เราลงไปเป็นเพื่อนไหมเอลี่” “ไม่ต้องหรอก เราขอเวลาหน
“อะไรนะ ปูเป้จำนายได้งั้นเหรอ” “จำไม่ได้ เรื่องกำลังจะไปได้สวย ทานข้าวเกือบเสร็จว่าที่คู่หมั้นนายจำเราไม่ได้ ก็ทานกำลังเสร็จแล้ว แต่คุณย่าเรากับคุณหญิงจุฑามาส ที่มาประชุมงานอีกห้องมาเซอร์ไพร์ส งานเข้าแล้วสร คุณย่าโกรธมากๆ ตัวใครตัวมันแล้วกันนะนาย คุณย่าให้เราโทรมาตาม นายรีบตามมาเร็วที่สุด แค่นี้นะ”
สยามพารากอน หลังเวที ที่ทั้งนายแบบ นางแบบ กำลังถูกทั้งแต่งหน้า ทำผม เสียงตะโกนกันไปมา บรรยากาศแห่งความวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่สาวประเภทสองกำลังแต่งหน้าให้กับเพื่อนสนิท กอหญ้ามองหน้าเพื่อนสาว พลางเอื้อมมือไปจับแก้มเบาๆ “เอลี่ ยิ้มหน่อยสิ ตั้งแต่มาเอลี่ทำหน้าเศร้าตลอดเลย คิดถึงพี่สรเหรอ” “ทำไมเค้าต้อ
ปรีชยาตั้งใจเดินเฉียด เมื่อมองเห็นกอหญ้าที่นั่งข้างๆ กับ สาวประเภทสองที่หญิงสาวกำลังคลางแคลงใจความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนไม่ธรรมดาของว่าที่คู่หมั้นกับช่างแต่งหน้าคนนี้ “ปูเป้ ใครมาส่งยะ ไหนบอกจะให้ฉันไปรับ” กีกี้ กิติกา สาวไฮโซที่พึ่งกลับจากออสเตรเลียพร้อมๆ กับปรีชยาต่อว่าเพื่อนสาวทันทีที่เห็นหน้า ปร
สาวประเภทสองน้ำตาร่วงทันที ที่เลี้ยวเข้าห้องน้ำ “พี่สร ทำไมพี่สรทำกับเอลี่แบบนี้ จะทำให้เอลี่ขาดใจตายเลยใช่ไหม ให้ไปแต่งหน้างานพี่ แล้วเอลี่จะเป็นยังไง” สาวประเภทสองคร่ำครวญ ขณะที่นั่งในห้องน้ำ น้ำตาไหลภายในใจ เจ็บแปลบจนรู้สึกชาไปทั่วเรือนร่าง หญิงสาวพิงศีรษะกับผนังห้องน้ำ ขณะที่ทรุดตัวลงนั่งอย่
อีกนาทีต่อมา ทั้งออกาไนเซอร์ ผู้จัดการ ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่านางแบบสาวที่จะขึ้นเดินฟินาเล่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุต้องรีบไปโรงพยาบาลด่วน “ตายแล้วฉัน แล้วจะหาใครมาเดินล่ะเนี่ย ซวยจริงๆเลย” เสียงเจ๊จิ๋มบ่นเสียงดัง ความวุ่นวายหลังเวที ทำให้สาวประเภทสองรุ่นใหญ่ ปวดหัวขึ้นมาทันที รถพยาบาลมา
ภายในห้องฉุกเฉิน พยาบาลสองคนกับคุณหมอหนึ่งคนกำลังทำงานด้วยความตั้งใจ “เสียง Fetal Heart rate120-140 ค่ะหมอ” “แอดมิทไว้ก่อนนะ แล้วให้ยาตามนี้นะครับคุณน้ำ” อาจารย์หมอสมชายพูดน้ำเสียงเคร่งขรึม ขณะที่จดสั่งยาให้แผ่นชาร์ท ใบหน้ายังเคร่งเครียด “แค่เด็กหัวใจเต้น น้ำก็ยังมีหวังค่ะหมอ” “ก็ต้องให้คนไข้
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ