โรงแรมไอเฟลสตาร์ ระหว่างพักดื่มกาแฟ รสสุคนธ์รีบเดินตรงไปที่กริชชัย ก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือให้เจ้านายหนุ่ม “คุณลิลลี่โทรมาสิบรอบแล้วค่ะคุณกริช บอกให้โทรกลับบอกว่ามีธุระด่วนมากค่ะ” รสสุคนธ์เอ่ยรายงาน กริชชัยเลิกคิ้ว ก่อนจะกดโทรหานางแบบสาว “อืม ว่าไงลิลลี่มีอะไรกับผมหรือเปล่า” “ดีใจด้วยนะคะว่าที่คุ
กอหญ้ากัดริมฝีปากนิ่งเงียบ “พูดมาสิ คุณจะบอกผมเมื่อไหร่ ว่าคุณท้องจะรอให้ท้องมันโตขึ้นมาก่อนใช่ไหม” “พูดสิ” กริชชัยบีบที่ต้นแขนกอหญ้าด้วยความโมโห “ก็คุณบอกให้ฟังคุณ” “ตอนนี้ผมบอกให้คุณพูด พูดมาสิ” กริชชัยจ้องหน้า ใบหน้าห่างกันแค่คืบเดียว “ญ่าตั้งใจจะบอกข่าวดีกับคุณตั้งแต่ที่ญี่ปุ่น ที่ร้านอาหา
กอหญ้าแทบจะไม่เชื่อสายตาเมื่อชายหนุ่มที่เช็ดผมให้กับตนเองตรงหน้า คือ กริชชัย พิพัฒนพงค์ คนที่เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย เชื่อมั่นในตนเอง ที่ใครๆ ก็ว่าเค้าเป็นผู้ชายที่เย็นชา แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งเป่าผมให้กับตนเอง ซึ่งเป็นเพียงลูกสาวของแม่บ้านแม้ว่าตอนหลังจะได้เป็นลูกบุญธรรมของบ้านหลังนี้แต่กอหญ้าก
โรงแรมไอเฟลสตาร์ ยาริกา ลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นกอหญ้าเดินออกจากลิฟท์ผู้บริหาร หญิงสาวส่งยิ้มให้ภรรยาของเจ้านาย วันนี้กอหญ้าสวมชุดคลุมท้องสีหวาน ทำให้หญิงสาวดูสวยงามและน่าถนุถนอม “สวัสดีค่ะคุณแยม คุณกริชว่างหรือยังค่ะ” “ว่างค่ะ ประชุมผู้บริหารพึ่งเสร็จค่ะ” “งั้นญ่าขอเข้าไปพบหน่อยนะคะ มาเซอร์ไพร์สค่ะ
บ้านกรณ์วิภาค “อะไรนะ สร นายจะให้เราไปแทนนายเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า ถึงเราจะหน้าตาเหมือนกันแต่นายคิดว่าคุณปูเป้ เค้าจะจำไม่ได้หรือไง ว่าใครเป็นใคร ไม่เอาหรอก” “แต่นายต้องไป นะศวร ทำเพื่อเราหน่อยเห็นความเป็นพี่น้องกัน เราต้องไปเจอเอลี่จริงๆ เห็นเชอรี่บอกว่าเค้าโทรมาเลื่อนเวลา เราต้องไปแล้ว อย่าลืมนะเด
พัชราจอดรถ หน้าบ้านหลังใหญ่ตามคำบอกเล่าของเพื่อนสนิทที่นั่งเงียบมาตลอดทาง หญิงสาวหันไปมองเพื่อนสาวประเภทสอง ที่ปกติเป็นคนคุยเก่ง แต่วันนี้กลับเงียบสนิทตั้งแต่ออกจากห้างสรรพสินค้ามา พัชราเอื้อมมือไปจับที่มือของเพื่อนสาว พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ “ให้เราลงไปเป็นเพื่อนไหมเอลี่” “ไม่ต้องหรอก เราขอเวลาหน
“อะไรนะ ปูเป้จำนายได้งั้นเหรอ” “จำไม่ได้ เรื่องกำลังจะไปได้สวย ทานข้าวเกือบเสร็จว่าที่คู่หมั้นนายจำเราไม่ได้ ก็ทานกำลังเสร็จแล้ว แต่คุณย่าเรากับคุณหญิงจุฑามาส ที่มาประชุมงานอีกห้องมาเซอร์ไพร์ส งานเข้าแล้วสร คุณย่าโกรธมากๆ ตัวใครตัวมันแล้วกันนะนาย คุณย่าให้เราโทรมาตาม นายรีบตามมาเร็วที่สุด แค่นี้นะ”
สยามพารากอน หลังเวที ที่ทั้งนายแบบ นางแบบ กำลังถูกทั้งแต่งหน้า ทำผม เสียงตะโกนกันไปมา บรรยากาศแห่งความวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะที่สาวประเภทสองกำลังแต่งหน้าให้กับเพื่อนสนิท กอหญ้ามองหน้าเพื่อนสาว พลางเอื้อมมือไปจับแก้มเบาๆ “เอลี่ ยิ้มหน่อยสิ ตั้งแต่มาเอลี่ทำหน้าเศร้าตลอดเลย คิดถึงพี่สรเหรอ” “ทำไมเค้าต้อ
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ