ที่โรงพยาบาล พยาบาลจอย และ ต้นน้ำกำลังตรวจเช็คชาร์จ หญิงสาวกำลังเขียนรายงาน ขะมักเขม่นโดยไม่รู้ตัวว่าจะมีภัยมาประชิดตัว “อาทิตย์นี้ ขึ้นเวรดึกอดไปเที่ยวกับแฟนเลยอ่ะ” พยาบาลจอยแอบบ่นก่อนหยิบมือถือมาอ่านข้อความ “นี่ ไม่มีอะไรทำเหรอ เดี๋ยวก็โดนพี่ชุลี หัวหน้าพยาบาลดุเอาหรอก” “ช่วงนี้พี่ชุลีติดเคสสำ
อนวินท์ชะงักเล็กน้อย แต่สะกดใจพูด “ต่อไปไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกันอีกไม่มีพี่ไม่มีน้อง ต่อไปเราคือผู้ร่วมงานธรรมดา คุณต้นน้ำ พิพัฒนพงค์ อย่าลดตัวมาเป็นพี่น้องกับคนต่ำต้อยกำพร้ามาจากบ้านนอกอย่างผม ให้ผมอยู่ในส่วนของผม ไม่ต้องมานับญาติกัน เราจะคุยกันแค่เรื่องงาน เกี่ยวข้องกันเรื่องงานไม่ต้องมาสงสารกันอีก
บ้านพิพัฒนพงค์ เช้าวันนี้ กอหญ้าตั้งใจจะขอหยุดงานเพื่อรอคุยกับพี่สาวบุญธรรมเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานที่ยังข้องใจ หลังจาก ไปลางานคุณสมสมัยเรียบร้อย กอหญ้ากลับมานั่งรอพี่สาวคนสนิทในห้องนอน หญิงสาวนั่งรออย่างกระวนกระวาย ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ พบไดอารี่เล่มโปรดที่มักเห็นพี่สาวเขียนทุกคืน กอหญ้าพ
แฟชั่นโชว์ผ่านไปอย่างราบรื่น ช่างภาพจากสื่อสำนักต่างๆ ถูกเชิญมาทำข่าวการโปรโมทสินค้าและแฟชั่นโชว์พิเศษ หลังจากเดินแฟชั่นเสร็จ ปีเตอร์และกอหญ้าถูกเรียกให้ไปสัมภาษณ์นักข่าวหน้างาน ปีเตอร์เดินจับมือกอหญ้า เพราะหญิงสาวใส่รองเท้าส้นสูงพอสมควร ระหว่างเดินมาถึง แสงแฟลชวูบวาบจนกอหญ้าตะลึง “ทำไมนักข่าวเยอะ
ต้นน้ำเดินเรื่อยๆ มาจนถึงล็อคเกอร์ส่วนตัว หญิงสาวหยิบชุดกระโปรงลูบไล้น้ำตาไหลด้วยความปวดร้าว ยิ่งนึกถึงใบหน้าและท่าทางที่เย็นชา ของนายแพทย์อนวินท์ยิ่งทำให้ต้นน้ำปวดร้าว สายตาที่เยือกเย็น กิริยาที่ห่างเหินทำให้ต้นน้ำทั้งอึดอัดและปวดร้าว “ตกลงเขาใช่คนคนเดียว ที่ทำให้เธอหันเหมาเรียนด้านพยาบาลเพื่อจะไ
เมื่อจอดรถเสร็จหญิงสาวหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินลงไปกดกริ่ง ก่อนจะกดอีกครั้ง บานประตูก็เลื่อนเปิดอัตโนมัติ รถบีเอ็มสปอร์ตสีขาว จอดนิ่งที่โรงรถ แสดงว่าเจ้าของบ้านมาถึงแล้วอยู่รอด้านในแล้ว ต้นน้ำเดินเข้าไปในโซนบริเวณบ้าน มือสั่น ขาสั่นด้วยความตื่นเต้น เหมือนเดินเข้าแดนประหารเมื่อเข้าสู่บริเวณ
นายแพทย์หนุ่มโยนร่างบางลงบนที่นอนขนาดคิงส์ไซด์ อย่างไม่ใยดีด้วยอารมณ์ทั้งโกรธและแค้นปนกัน มือก็ปลดกระดุมเสื้อผ้าของตนเอง พร้อมสลัดเสื้อออก แววตาดุดัน ริมฝีปากเม้มแน่น ต้นน้ำมองดูชายหนุ่มที่เธอแอบหลงรักและเฝ้าเอาใจใส่ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ด้วยแววตาตื่นกลัวรวดร้าว ผิดหวัง ““พี่หมอ อย่าทำแบบนี้ พี่หมอที
เมื่อเสร็จสิ้นกามกิจ ถึงสามครั้งติดกัน ต้นน้ำรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่างกาย หญิงสาวนอนคว่ำร่างกายเพราะอีกฝ่ายใช้ท่อนขาก่ายมาที่ร่างกายของตนเอง ราวกับกลัวว่าตนเองจะหนีหาย น้ำตาของหญิงสาวไหลรินจนหมอนเปียก ต้นน้ำรอจนชายหนุ่มกรนเบาๆ อย่างอ่อนเพลีย ก็น่าหรอกที่จะเพลียก็เล่นเมคเลิฟกันสามครั้งทั้งดุดัน และอ่อน
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ