ร้านอาหารตรงข้ามโรงพยาบาล เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศดูอบอุ่น มีโต๊ะ จัดเป็นโทน ฟ้าขาว ทำให้ร้านดูมีบรรยากาศที่สดใส กริชชัยพากอหญ้า มานั่งร้านนี้โดยเลือกมุมร้าน เป็นโซนที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว กอหญ้านั่งลงตรงข้าม อย่างไม่ค่อยเต็มใจ หญิงสาวมีใบหน้าบูดบึ้ง ภาพเหตุการณ์เมื่อวานยังฝังอยู่ในสมอง มันยังวนเวียน
“จะทำ จะทำไม” กอหญ้าประสานสายตากร้าว กริชชัยใช้มือประคองใบหน้าหญิงสาว ก่อนจะก้มลงจูบอย่างรุนแรง กอหญ้าทั้งดิ้นทั้งผลัก ยิ่งดิ้นดูเหมือนอ้อมกอดจะแน่น รัด จนหญิงสาวแทบหายใจไม่ออก ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากบดขยี้อย่างแรง ไม่มีความนุ่มนวล ประหนึ่งการลงโทษ กอหญ้าทั้งเจ็บ ทั้งแสบที่ริมฝีปาก กอหญ้าทั้งทุบหน้า
“ว่าไงจ๊ะ สาวน้อยเป็นลมเลยเหรอสงสัยอยากเป็นคนไข้ของพี่หมอใช่ไหมจ๊ะ” นายแพทย์หนุ่มนั่งที่เตียงนอน มือจับที่มือของหญิงสาวอย่างทะนุถนอม กริชชัยทำเสียงกระแอม เป็นผลทำให้นายแพทย์หนุ่มวางมือกอหญ้าก่อนลุกขึ้นยืน ปรับสีหน้าเล็กน้อย “ญ่าเป็นอะไรคะ” “เธอเป็นลมนะสิ ยัยบ๊อง ไม่รู้ตัวเหรอว่าเป็นลม” ต้นน้ำ
“บ้า นี่ออกไปนะอึดอัด” กอหญ้าผลักที่ต้นแขนของชายหนุ่ม “ไม่ไป อย่ามาไล่ให้ยากเลย” กริชชัยจ้องมองกอหญ้าระยะประชั้นชิด ถอนหายใจยาว ก่อนพูด “พี่ขอโทษสำหรับเมื่อวาน ทุกอย่าง พี่ขอโทษที่เราทะเลาะกัน ขอโทษที่ใช้คำรุนแรงกับญ่า ขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้ญ่าไม่สบายวันนี้ ถ้าเมื่อคืนพี่ให้ญ่าเฝ้าคุณย่า วันน
“ค่ะ รีบๆไปเลย” “อ้าว ไล่เหรอ” กริชชัยก้าวเข้ามาพร้อมจับแก้มหญิงสาวประคอง อย่างหยอกเย้า พร้อมกับหอมแก้มซ้าย ขวา อย่างเมามัน “นี่แหน่ะ นี่แหน่ะ ไล่ดีนักต้องโดนแบบนี้” กริชชัยจูบไซ้ซอกคอ เป็นผลให้กอหญ้าดิ้นไปมา ด้วยความเสียวซ่าน “บ้า...ไปได้แล้ว” “ไปแล้วครับ คิดถึงพี่บ้างนะจ๊ะ” กริชชัยส่
“แล้วถ้ามันเป็นจริงได้ล่ะ” “ไม่มีวัน เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า เท้าเอลี่เป็นอะไรทำไมพันผ้าขนาดนั้น” กอหญ้าทักเมื่อสาวประเภทสอง เอาเท้าแกว่งไปมา “อุบัติเหตุนิดหน่อย ตอนแรกนึกว่าซวยแต่ตอนนี้มันคือ “อุบัติเหตุรัก” นะญ่า ...” “ยังไง...ไม่เข้าใจ” “อยากรู้ไหม จะเล่าให้ฟัง” นัยน์ตาของกระเทยสาวเล
“พ่อกับแม่พี่เข้าใจความรักของเรา พ่อแค่ขอเวลาให้คุณย่าปรับตัว และให้เวลาท่านบ้าง ท่านไม่พึ่งทราบว่า พี่ไม่ชอบผู้ชายทั้งๆ ที่หมั้นกันมาหลายปี และคบกันมาเป็นสิบปี เป็นใครก็ช๊อคทั้งนั้น จะให้ท่านรับเราได้แค่ข้ามวัน มันคงเป็นไปไม่ได้ พัชเข้าใจพี่ไหม” พัชราเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลอย่างขัดใจ “พี่
“ชอบดอกไม้หรือเปล่า” “ชอบค่ะ สวยดี” “ญ่ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง ยังอ่อนเพลียอยู่ไหม” “นิดหน่อยค่ะ นอนจนเบื่อ ญ่าก็เลยว่าจะเดินมาดูอะไรหน่อย” “ก็ดีนะ พี่ขอโทษนะช่วงนี้พี่ไม่มีเวลาให้ญ่าเลย ญ่าน้อยใจไหม” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยถามอย่างสุภาพ อ่อนโยน “ไม่ค่ะญ่าเข้าใจว่าพี่หมอกำลังมุ่งมั่นในการทำงาน แต่
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ