“พ่อกับแม่พี่เข้าใจความรักของเรา พ่อแค่ขอเวลาให้คุณย่าปรับตัว และให้เวลาท่านบ้าง ท่านไม่พึ่งทราบว่า พี่ไม่ชอบผู้ชายทั้งๆ ที่หมั้นกันมาหลายปี และคบกันมาเป็นสิบปี เป็นใครก็ช๊อคทั้งนั้น จะให้ท่านรับเราได้แค่ข้ามวัน มันคงเป็นไปไม่ได้ พัชเข้าใจพี่ไหม” พัชราเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลอย่างขัดใจ “พี่
“ชอบดอกไม้หรือเปล่า” “ชอบค่ะ สวยดี” “ญ่ารู้สึกเป็นยังไงบ้าง ยังอ่อนเพลียอยู่ไหม” “นิดหน่อยค่ะ นอนจนเบื่อ ญ่าก็เลยว่าจะเดินมาดูอะไรหน่อย” “ก็ดีนะ พี่ขอโทษนะช่วงนี้พี่ไม่มีเวลาให้ญ่าเลย ญ่าน้อยใจไหม” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยถามอย่างสุภาพ อ่อนโยน “ไม่ค่ะญ่าเข้าใจว่าพี่หมอกำลังมุ่งมั่นในการทำงาน แต่
“แยม ช่วยอะไรผมหน่อย ด่วนที่สุด ขอดอกไม้ทุกชนิดเอาแบบดีที่สุด ด่วนที่สุด ที่ห้องนี้เลยนะขอบใจมาก” กริชชัยกดปิดสนทนา แล้ววางมือถือไว้ที่เตียงนอน กอหญ้าเดินกระเผลกออกมาจากห้องน้ำ กริชชัยเดินเข้าไปช่วย คราวนี้หญิงสาวยอมให้ประคองแต่โดยดี กอหญ้าหันไปกล่าวขอบคุณเมื่อชายหนุ่มประคองมาจนถึงเตียงนอน เมื
กอหญ้ากระซิบเบาๆกับกริชชัยว่า “อย่าบอกแม่คุณนะ ว่าญ่าอยู่โรงพยาบาล ญ่าไม่อยากให้ป้ารินทร์เป็นห่วง” “ไม่บอกก็ได้ มีรางวัลให้หรือเปล่า” กริชชัยส่งสายตาเจ้าชู้ แววตาสดใส กอหญ้าจ้องตอบใบหน้าร้อนผ่าว ก่อนใช้มือหยิกที่ต้นแขนเล็กน้อย “โอ๊ย..............”เสียงกริชชัยร้องโหยหวน “เป็นอะไรตากริช” เสียงคุ
“เชิญครับ” กริชชัยลูบเส้นผมตัวเองและจับมือหญิงสาวเบาๆ กอหญ้าดึงมือออกใบหน้าแดงซ่านไม่เข้าใจตัวเอง เมื่ออยู่ใกล้ชายหนุ่มเหมือนน้ำมันใกล้ไฟ มันพร้อมจะลุกไหม้ได้ตลอดเวลา นางพยาบาลสาวเดินเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้ม “ดิฉันมาต่อสายน้ำเกลือให้ค่ะพี่น้ำสั่งมา เมื่อกี้พี่น้ำจะมาเองนะคะ แต่ติดต้องออกไปข้างนอกค่ะ”
เสียงต้นน้ำหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางนายแพทย์อนวินท์ที่ทั้งหยักไหล่แล้วทำหน้าแขยง นายแพทย์อนวินท์ตะลึงเมื่อมองเห็นสาวน้อยที่เป็นทั้งผุ้ร่วมงานและเป็นเสมือนน้องสาวอีกคน ภาพรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมันทำให้โลกสว่างไสว นายแพทย์อนวินท์จ้องมองหน้าสาวน้อยรุ่นน้องนิ่งนานจนต้นน้ำชะงักแล้วลูบผมแก้เขิน “เออ พี่หมอ
“อ้าว ใครจะรู้ล่ะพี่กริช ก็พี่หมอเป็นแฟนกอหญ้านี่นา” กริชชัยมีใบหน้าบึ้งตึง ต้นน้ำอมยิ้มเมื่อทุกอย่างเดินไปตามแผนที่วางไว้ หญิงสาวเดินไปใกล้ๆพี่ชายก่อนแบมือ ทำน้ำเสียงออดอ้อน “พี่กริช ยืมโทรศัพท์หน่อย น้ำมีเรื่องจะคุยกับพี่ตาลด่วนมากๆ” “แล้วโทรศัพท์ของเธอล่ะ” น้ำเสียงกริชชัยยังเคร่งขรึม “ข้า
หนึ่งวันหลังจากกอหญ้าออกจากโรงพยาบาล คุณหญิงมณีจันทร์ก็ได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านเช่นกัน คุณหญิงอยู่บ้านได้แค่วันเดียวก็มีเพื่อนมารับไปปฏิบัติธรรมต่อทางเหนือตามเจตนารมณ์ โดยท่านไม่ฟังคำทัดทานของบุตรชายและลูกสะใภ้ แต่กลับขอร้องให้ทุกคนอนุโมทนากับท่าน ธมกานต์ ตรีรินทร์มองหญิงชราอย่างห่วงใย แต่มิอาจต
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ