“จะพาลูกหนีไปไหน” เสียงดังเข้มของอนาคินดังขึ้น เมื่อคริมากำลังจูงมือลูกสาวตัวน้อยเดินออกมาจากบ้าน หลังของเธอสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ส่วนมืออีกข้างก็หิ้วกระเป๋าใบใหญ่อีกหนึ่งใบ อนาคินคิดไว้แล้วว่าคริมาต้องพาลูกหนีอย่างแน่นอน เขาก็เลยมาดักรอเธอที่หน้าบ้าน และเขาก็คิดไม่ผิด คริมากำลังจะพาลูกหนีไปจริงๆ“ฉันก็จะพาลูกหนีไปจากที่นี่ยังไงล่ะ..หนีไปจากคนเลวๆ อย่างคุณที่มาแย่งลูกของฉันไป”“คิดจะขัดคำสั่งศาลเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามออกไป“ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น..ไม่มีใครมาสั่งฉันได้”“อยากติดคุกงั้นสิ!” อนาคินเอ่ยเสียงแข็ง“คิน..ตาว่าใจเย็นๆ กันก่อนดีกว่านะ ค่อยๆ พูดกัน ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว” เสียงของพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาเอ่ยขึ้น ชายชรามาที่บ้านไม้บนเนินเขาพร้อมกับลูกสาวและลูกเขย รวมถึงหลานสาวคนโต ตอนนี้ทุกคนรับรู้เรื่องทั้งหมดแล้วและพากันมาที่นี่“ผมคงใจเย็นไม่ได้หรอกครับคุณตา ครีมกำลังจะพาลูกหนี ครีมไม่ยอมทำตามคำสั่งของศาล”“พ่อเลี้ยงขา..เห็นใจครีมเถอะนะคะ ครีมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลูก พ่อเลี้ยงบอกคุณคินว่าอย่าเอาลูกของครีมไปได้มั้ยคะ ฮือ ฮือ” คริมาร่ำร้องออกมา เธอคุกเข่าเกาะขาของพ่อเลี้ยงไว้
หลังจากวันที่อนาคินพาตัวลูกสาวของเธอไป คริมาก็อยู่อย่างหมดอาลัยตายอยาก เธอเอาแต่ร้องไห้ ยามกินก็ไม่ได้กิน ยามนอนก็ไม่ได้นอน หญิงสาวร้องไห้ทั้งคืนทั้งวัน จนร่างกายเริ่มซูบผอม และไร้เรี่ยวแรง จนในที่สุด คริมาก็เป็นลมหมดสติไป พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาพาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการของเธอนั้นหนักพอสมควร ทางด้านร่างกายไม่เท่าไหร่ แต่ทางด้านจิตใจนั้นหนักหนาสาหัสมาก พูดง่ายๆ ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่คือการตรอมใจ ด้วยการไม่กินข้าว กินน้ำ ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อน และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ ถ้าขืนยังปล่อยไว้แบบนี้ อีกไม่นาน เธอก็จะจากโลกนี้ไปเปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ เปิดขึ้นเผยให้เห็นดวงตาที่ยังพร่ามัวและงุงงง คริมามองไปรอบๆ ห้อง ที่นี่โรงพยาบาล เธอเป็นอะไร? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?“นะ น้ำ อยากกินน้ำ” น้ำเสียงแหบแห้งพยายามเอ่ยออกมา จนพ่อเลี้ยงที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ยินจึงรีบลุกขึ้นมา“หนูครีมฟื้นแล้วเหรอ..อยากดื่มน้ำใช่ไหม แป๊บนึงนะเดี๋ยวฉันเอาให้” จากนั้นขายชราก็เทน้ำใส่แก้วและหยิบหลอดใส่เข้าไปด้วย เขาถือแก้วน้ำให้หญิงสาวดูดน้ำจากหลอด“เป็นยังไงบ้าง” ชายชราเอ่ยถามอีกครั้ง“น้องเค้กล่ะคะ?” คริมาไม่ต
วันนี้คริมาตื่นสายกว่าปกติ เพราะกว่าเธอจะได้นอนก็เกือบรุ่งสาง หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว หญิงสาวจึงขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกจากบ้านตรงไปยังสำนักงาน คริมากลับเข้าไปทำงานหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลได้สองวัน เธอทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะเธอมามากแล้ว โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนา คนที่มีบุญคุณท่วมหัว ไม่ว่าเธอจะเจอกับเรื่องร้ายแรงแค่ไหน พ่อเลี้ยงก็ไม่เคยปล่อยให้เธออยู่เพียงลำพัง เธออยากจะเรียกพ่อเลี้ยงว่าพ่อเสียด้วยซ้ำ แต่เธอไม่กล้าทางด้านอนาคินหลังจากที่เขากลับไปกรุงเทพฯ ชายหนุ่มยังไม่หยุดเรื่องการทำไวน์ เขาให้น้าเบิ้มช่วยเป็นธุระจัดการเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำไวน์ให้ และวันนี้เขาก็จะไปดูความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้างก่อนที่อนาคินจะเข้าไปที่โรงบ่มไวน์ เขาแวะมาที่สำนักงานก่อน เพราะรู้ว่าวันนี้คริมาต้องมาทำงาน“ตัดสินใจได้หรือยัง?” เสียงของอนาคินเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในสำนักงาน คริมาหันไปมองซ้ายขวาไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเขาและเธอ“ยังมีเวลาคิดอีกตั้งสองวัน จะมาเร่งทำไม” คริมาแย้งออกไป“เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องคิดนานเลย..ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่เป็นไร งั้นพี่ไปทำงานก่อน คิดได้เมื่
คฤหาสน์สุดหรูแห่งหนึ่ง“แม่ต๋า แม่ต๋า” เด็กหญิงเค้กวิ่งมาหามารดาทันทีที่รู้ว่าคริมามาที่นี่“น้องเค้ก..ลูกแม่” คริมาโผเข้ากอดลูกสาวด้วยความรักและความคิดถึง เธอหอมแก้มลูกทั้งซ้ายทั้งขวา ก่อนจะกอดแน่นๆ อีกครั้ง“น้อนเค้กคิกถึงแม่ต๋า”“แม่ก็คิดถึงน้องเค้ก..คิดถึงที่สุด” พูดจบคริมาก็จูบไปที่หน้าผากของลูกสาว น้ำตาคลอออกมา“สวัสดีค่ะ” คริมายกมือไหว้บิดามารดาและพี่สาวของอนาคิน“ยินดีต้อนรับนะหนูครีม อยู่ที่นี่ได้ตามสบายเลย ไม่ต้องเกรงใจนะ” เสียงของคุณหญิงพิมพิกาเอ่ยออกมา“ขอบคุณคุณหญิงมากๆ นะคะ ที่เมตตาครีมกับลูก” คริมาคลี่ยิ้มออกมา“คุณยงคุณหญิงอะไรกัน..เรียกแม่สิหนูครีม” คุณหญิงพิมพิกาแย้งขึ้นมา“ครีมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณคิน..ครีมขออนุญาตเรียกคุณลุงกับคุณป้านะคะ”“แบบนั้นก็ได้จ่ะ ตามใจหนูครีม” คุณหญิงพิมพิพาถอนหายใจเล็กน้อยในความดื้อของหญิงสาวคริมาขอนอนห้องเดียวกับลูกสาวซึ่งห้องของเด็กหญิงเค้กก็อยู่ติดกับห้องของอนาคินอย่าหวังว่าจะได้นอนกับลูก..อนาคินคิดในใจค่ำคืนนี้อนาคินมาส่งลูกสาวเข้านอน เขาอ่านหนังสือนิทานให้ลูกสาวฟังทุกคืนก่อนนอน“วันนี้น้องเค้กอยากฟังนิทานเรื่องอะไรคะ?”
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไป คริมาก็ต้องไปทำหน้าที่นางบำเรอให้เขาทุกค่ำคืนด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน ยกเว้นวันที่เธอมีประจำเดือนเท่านั้นที่เธอจะได้นอนกอดลูกได้อย่างเต็มอิ่มและค่ำคืนนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาให้เธอโละชุดนอนเด็กน้อยของเธอทิ้งและซื้อชุดนอนที่ไม่ได้นอนให้เธอใหม่หลายชุด แต่ละชุดมันช่างเซ็กซี่จนคริมาไม่กล้าที่จะใส่ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อคลุมตัวยาวแต่มันก็ไม่สามารถปิดบังความเซ็กซี่ได้เลยสักนิดเดียว“ครีมใส่ชุดแบบนี้แล้วสวยเซ็กซี่ดีนะ..พี่ชอบ” อนาคินพูดพลางยิ้มออกมาในขณะที่เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้าง“ใส่ชุดไหนสุดท้ายก็ต้องถอดเหมือนกัน..ไม่รู้จะซื้อให้มันสิ้นเปลืองทำไม” คริมาบ่นออดแอด“นั่นน่ะสิ! งั้นก็ถอดเลย ถอดเสร็จแล้วก็เดินมาหาพี่”“ไม่” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง“ครีมเป็นนางบำเรอของพี่ ครีมก็ต้องทำตามที่พี่สั่ง” เขาพูดเสียงเข้มคริมาถอนหายใจดังเฮือก พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังคลออยู่ไม่ให้ไหลออกมา รู้สึกเกลียด รู้สึกขยะแขยงร่างกายของตัวเองที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้หญิงสาวค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมตัวยาวออกอย่างช้าๆ โดยปล่อยทิ้งลงไปที่พื้นอย่างไม่สนใจ จากนั้นมือบางค่อยๆ ปลดสายชุดนอนสาย
คริมานั่งมองหน้าลูกสาวตัวน้อยนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่บนเสื่อที่ปูบนพื้นสนามหญ้าเรื่องที่เกิดขึ้นคริมาโทษว่ามันเป็นความผิดพลาดของเธอคนเดียวที่ไม่ป้องกันให้ดีกว่านี้ เพราะเขาบอกกับเธอตั้งแต่คืนแรกแล้วว่าเรื่องการป้องกันให้เธอเป็นคนรับผิดชอบ เพราะเขาไม่อยากใช้ถุงยางอนามัยกับเธอหญิงสาวคิดไม่ตกว่าจะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อย่างไรดี เพราะเธอและเขาต่างก็ทำหน้าที่ของพ่อกับแม่เท่านั้น เธอและเขามิได้เป็นสามีภรรยากัน เธอเป็นเพียงแค่นางบำเรอของเขาเท่านั้น ถ้าเขารู้ว่าเธอท้องอีก เขาคงจะคิดว่าเธอตั้งใจจะจับเขาเป็นแน่ถ้าเธอไปจากที่นี่..เธอก็ต้องห่างจากลูกสาวตัวน้อยของเธอ คริมารู้ดีว่าเขาสามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกสาวตัวน้อยได้ดีกว่าเธอ อนาคตของลูกคงจะดีกว่าถ้าต้องอยู่กับแม่อย่างเธอ เพราะเธอเองก็มีวุฒิการศึกษาแค่มัธยมปลาย คงไม่สามารถทำงานที่มีเงินเดือนสูงๆ ได้ แต่การอยู่ห่างจากลูกมันทรมานจิตใจยิ่งนัก และที่สำคัญถ้าเธอไปแล้ว เขาคงไม่ยอมให้เธอได้เจอลูกอีกยิ่งคิด..ก็ยิ่งเครียดแต่ถ้าจะให้เธอทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง เธอก็ทำไม่ได้ ตอนนี้มันเหมือนกับว่าเธอต้องเลือกลูกคนใดคนหนึ่งถ้าเลือกคนแร
หลังจากที่อนาคินหลับใหลไปด้วยความอ่อนเพลียเพราะสูญเสียพลังงานไปเยอะ คริมาพยุงร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรง ขาที่ยังสั่นเทาค่อยๆ เดินออกมาจากห้องของเขาและเดินเข้าไปในห้องที่ติดกัน ลูกสาวของเธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเจ้าหญิงคริมารีบเก็บเสื้อผ้าและเอกสารสำคัญใส่กระเป๋าหิ้วใบใหญ่ เธอต้องรีบไปจากที่นี่ในตอนนี้ เพราะมันเป็นเวลาที่ทุกคนในคฤหาสน์หลังนี้ต่างหลับใหล เธอมิอาจรอให้ถึงรุ่งสางได้เธอโน้มตัวลงค่อยๆ บรรจงจูบไปที่กระหม่อมของลูกสาวตัวน้อย น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างท่วมท้น ถ้าลูกสาวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอคงจะร้องไห้อย่างหนัก คริมามีทางเลือกแค่สองทาง และทางที่เธอเลือกคือทางที่ดีที่สุดแล้วเธอปาดน้ำตาที่เอ่อออกมาและรีบเดินออกจากห้องไปทันที ถ้าอยู่นานกว่านี้เธอกลัวว่าตัวเองอาจจะเปลี่ยนใจเธออาจจะเป็นแม่ที่ใจร้ายที่ทิ้งลูก..แต่เธอมิอาจเป็นแม่ที่ใจร้ายที่ฆ่าลูกได้เช่นกันลาก่อนนะ..ลูกรักของแม่แม่อยากให้หนูรู้..ว่าแม่คนนี้รักหนูที่สุดดวงใจของแม่..ถ้าโลกนี้ไม่ใจร้ายเกินไปนัก..สักวันแม่อาจจะได้กลับมากอดลูกอีกคำสั่งลาสุดท้ายของผู้เป็นมารดาที่มอบให้กับลูกสุดที่รักคริมาเดินออกมาจากประตูรั้วเล็
อนาคินหัวเสียเป็นอย่างมาก เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าคริมาไปจากที่นี่แล้ว หลังจากที่เขาร่วมรักกับเธอและเธอเองก็ตอบสนองเขาอย่างถึงพริกถึงขิงจนเขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจยอมเป็นนางบำเรอให้เขาต่อ แต่เธอกลับหนีหายไป..ทิ้งลูกให้ร้องไห้หาแม่คริมาเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมาก.. ไม่สงสารลูกเลยหรือยังไงกัน..ตั้งแต่ที่คริมาจากไป บ้านนี้ก็แทบไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหญิงเค้กเลย มีแต่เสียงร้องไห้หาแม่ จนผู้เป็นบิดาทนไม่ไหว เขาตัดสินใจตามหาคริมาอนาคินขับรถตระเวนหาหญิงสาวไปทั่วกรุงเทพฯ หวังว่าจะเจอเธอที่ใดที่หนึ่ง เขาใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาเขาไม่คิดว่าเธอจะกลับไปที่ไร่พรรณิภาอีก แต่เขาก็ไม่มั่นใจ เขาไม่อยากโทรไปถามคุณตา เพราะกลัวว่าคุณตาจะช่วยคริมาปิดบังเขา อนาคินจึงเดินทางไปที่ไร่พรรณิภาด้วยตัวเอง“อ้าวคืน..มาคนเดียวเหรอลูก แล้วหนูครีมกับน้องเค้กไม่ได้มาด้วยเหรอ?” พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาถามออกไปเมื่อเห็นหน้าหลานชายแต่ไม่เห็นคริมากับเด็กหญิงเค้ก“ครีมไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับคุณตา?” อนาคินไม่ตอบหากแต่เป็นฝ่ายถามกลับ“หนูครีมจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..คินก็ถามแปลกๆ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น บอกตา
สองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ
“มีความสุขกันจริงๆ เลยนะ..ไอ้คี” สิ้นเสียงของ อนาคิน ทั้งคีตะและคริมาที่กำลังนั่งคุยกันใต้ร่มไม้ต่างก็ตกใจหันไปมองอนาคินที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเขา“ไอ้คิน..มึงมาได้ยังไง” คีตะมีสติก่อนจึงถามออกไป“กูก็ตามมึงมาไง..ถ้ากูไม่ตามมึงมากูก็คงไม่รู้สินะว่ากูมันเป็นแค่ไอ้งั่งตัวหนึ่งเท่านั้น”“มึงฟังกูอธิบายก่อนนะ..ไอ้คิน”“ฟังเหรอ? มึงจะให้กูฟังอะไร เพื่อนรักกับเมียกูแอบคบชู้กันอย่างนั้นเหรอ” อนาคินตะโกนเสียงดัง“นี่คุณ..มันจะมากไปแล้วนะ” เสียงของคริมาปรี้ดขึ้นมา“มากเหรอ สำหรับผู้หญิงชั่วๆ อย่างเธอมันไม่มากไปหรอก ทิ้งลูกทิ้งเต้าเพื่อมาอยู่กับชู้ แถมยังมีลูกกับมันอีก เธอทำได้ยังไงครีม เธอทำแบบนี้ได้ยังไง ลูกร้องไห้หาเธอทุกวัน เธอไม่รู้บ้างเลยเหรอ เธอไม่รักลูกเลยใช่มั้ยถึงทำตัวทุเรสแบบนี้ ทำไมฮะ? ที่ฉันเอาเธออยู่ทุกวันมันไม่พอหรือยังไง ถึงต้องมาให้ไอ้คินมันเอาต่อจากฉัน?” เขาระเบิดอารมณ์ใส่เธอไม่ยั้งทันใดนั้นกำปั้นของคีตะก็พุ่งเข้ามาใส่มุมปาก ของอนาคินทันทีผลัวะ! ผลัวะ!เสียงต่อยตีกันเป็นพัลวันระหว่างคีตะกับอนาคิน ไม่รู้ใครเป็นใคร คริมาตกใจกับภาพตรงหน้า เธอพยายามเข้าไปดึงแขนของอนาคินให้หย
ทางด้านคริมา หลังจากที่เธอได้มาอยู่ที่บ้านของ คีตะได้หนึ่งเดือนแล้ว หญิงสาวเริ่มจะปรับตัวได้แล้ว คีตะจ้างแม่บ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ เขาพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ นี้ ตอนนี้อายุครรภ์ของเธอยังอยู่ในไตรมาสแรก หมอจึงนัดเดือนละหนึ่งครั้งและแน่นอนว่าคีตะจะเป็นคนพาเธอไปหาหมอเอง และทุกสัปดาห์เขาจะมาเยี่ยมเธอพร้อมกับซื้อของบำรุงครรภ์มาให้เธอ จนเธอรู้สึกเกรงใจแต่ก็มิอาจห้ามปรามได้ เพราะถึงเธอจะห้ามแต่เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี“ครีมอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง? โอเคหรือเปล่า?”“โอเคค่ะ..พี่คี ครีมอยู่ได้สบายมากค่ะ”“ขอบคุณพี่คีมากๆ นะคะ สำหรับทุกๆ อย่าง”“ไม่เป็นไร..พี่เต็มใจ”“พี่คินทานข้าวมาหรือยังคะ..วันนี้ครีมทำกับข้าวหลายอย่างเลยค่ะ”“ยังเลย กำลังหิวพอดีเลย แหะ แหะ” คีตะยกมือเกาหัวเมื่อเสียงท้องร้องดังขึ้นมาอับอายขายหน้าชะมัดเลย..มาร้องอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ คีตะคิดในใจก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆ ให้เธอ“งั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”จากนั้นทั้งสองคนก็รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย คีตะเติมข้าวถึงสองครั้งด้วยกัน เขาอิ่มจนพุงกาง“ครีมทำอาหารอร่อยนะ..ดูสิ พี่กินซะเยอะเชียว” คีตะเอ่ยชม ฝีมือการทำอาหารขอ
อนาคินหัวเสียเป็นอย่างมาก เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าคริมาไปจากที่นี่แล้ว หลังจากที่เขาร่วมรักกับเธอและเธอเองก็ตอบสนองเขาอย่างถึงพริกถึงขิงจนเขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจยอมเป็นนางบำเรอให้เขาต่อ แต่เธอกลับหนีหายไป..ทิ้งลูกให้ร้องไห้หาแม่คริมาเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายมาก.. ไม่สงสารลูกเลยหรือยังไงกัน..ตั้งแต่ที่คริมาจากไป บ้านนี้ก็แทบไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหญิงเค้กเลย มีแต่เสียงร้องไห้หาแม่ จนผู้เป็นบิดาทนไม่ไหว เขาตัดสินใจตามหาคริมาอนาคินขับรถตระเวนหาหญิงสาวไปทั่วกรุงเทพฯ หวังว่าจะเจอเธอที่ใดที่หนึ่ง เขาใช้เวลาอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาเขาไม่คิดว่าเธอจะกลับไปที่ไร่พรรณิภาอีก แต่เขาก็ไม่มั่นใจ เขาไม่อยากโทรไปถามคุณตา เพราะกลัวว่าคุณตาจะช่วยคริมาปิดบังเขา อนาคินจึงเดินทางไปที่ไร่พรรณิภาด้วยตัวเอง“อ้าวคืน..มาคนเดียวเหรอลูก แล้วหนูครีมกับน้องเค้กไม่ได้มาด้วยเหรอ?” พ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาถามออกไปเมื่อเห็นหน้าหลานชายแต่ไม่เห็นคริมากับเด็กหญิงเค้ก“ครีมไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับคุณตา?” อนาคินไม่ตอบหากแต่เป็นฝ่ายถามกลับ“หนูครีมจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..คินก็ถามแปลกๆ หรือว่าเกิดอะไรขึ้น บอกตา