ตอนที่ 5ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง อิทธิฤทธิ์ตื่นเช้ามาเขามองไปทั่วบ้านไปพบเจอใครสักคน แม่ของเขาก็หายไปด้วย เมื่อเดินออกมามองที่หน้าบ้าน ก็พบเพียงรถของเขาที่จอดอยู่คันเดียว ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาที่ห้องครัวเพื่อจะดูว่ามีใครทำอาหารไว้ไหม แต่สิ่งที่เขาเจอคือรอยเลือดหยดที่หน้าตู้โชว์ที่อยู่ข้าง ๆ ประตูห้องครัว อิทธิฤทธิ์รู้สึกใจคอไม่ดีเพราะเขาจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง จึงคิดว่าต้องมีใครเป็นอะไรแน่ ๆ จึงพยายามโทรศัพท์หามารดาแต่ปลายสายปิดเครื่อง “ไปไหนกันหมด แล้วแม่มาปิดเครื่องอะไรตอนนี้” คนตัวใหญ่สองมือเท้าเอว เพราะคิดไม่ออกว่ามารดาของเขาและวนิดาจะไปไหน เขาเดินเข้าไปในห้องครัว สภาพอาหารที่วางอยู่ มันคืออาหารที่ไม่ได้ทำใหม่ ฤทธิ์ยิ่งมั่นใจ ว่าทั้งสองคนไม่ได้เพิ่งออกจากบ้านไปแต่คงจะไปตั้งแต่เมื่อคืนหรือตอนเช้ามืด “นึกออกแล้ว” อิทธิฤทธิ์พูดกับตัวเองเมื่อคิดว่าเขาสามารถไปหาทั้งสองคนได้ที่ไหน เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวและขับรถไปที่บ้านของวนิดาทันที บ้านหลังใหญ่แต่ดูเก่ามาก เงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ ลานบ้านก็ไม่
ตอนที่ 6ความโดดเดี่ยวที่ไม่เคยรู้สึก เช้านี้อิทธิฤทธิ์บอกตัวเองว่าเขาจะต้องถามมารดาให้รู้เรื่องให้ได้ ว่าคืนนั้นที่เขาเจอโสรยากับสามีและเขาดื่มจนเมามาก เขากลับมา ทำร้ายอะไรวนิดาจนถึงขั้นเลือดออกแบบนั้น “แม่ครับบอกผมเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มก้มกราบลงไปที่เท้าของมารดา ศิริเองชักเท้าหนีด้วยความตกใจ “ลุกขึ้น ลุก ๆ นี่แกจำไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นแม่จะเล่าให้แกฟัง” ชายหนุ่มรีบนั่งลงข้างมารดา ด้วยความดีใจที่ในที่สุดเขาจะได้เข้าใจเรื่องราวสักที “ไหน ๆ แกจะให้แม่เล่า แม่ขอพูดทุกเรื่องเลยได้ไหม” ศิริตั้งใจจะคุยเปิดอกกับลูกชายในเกือบทุกเรื่องในวันนี้ เพราะเธอต้องการให้อิทธิฤทธิ์ทำให้เธอมั่นใจ ว่าเขาเหมาะและพร้อมที่จะเป็นพ่อคน “ได้ครับ แม่พูดมาเลย เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มสักหยด เช้านี้ผมมีสติพร้อมคุยและรับฟังทุกอย่าง ” คนเป็นแม่ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ จึงตัดสินใจเปิดอกที่จะคุยกับอิทธิฤทธิ์ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่นิดาท้อง “แม่ไปต่อรองขอวนิดามาให้เป็นเมียของลูก เพราะมองเห็นในความเป็นเด็กด
ตอนที่ 7ตามหาความจริง ศิริรับรู้ทุกอย่างที่ลูกชายกำลังพยายามติดตามว่าวนิดาไปอยู่ที่ไหน เธอจึงตัดสินใจให้นวลย้ายไปอยู่ดูแลลูกสาว เพื่อที่ตัวเธอเองจะได้ไม่ต้องไปกลับบ่อย ๆ เพราะกลัวจะพลาดให้ลูกชายตามรอยได้สักวัน วนิดาท้องโตขึ้นทุกวัน เธอลุ้นอยากให้เด็กในท้องเป็นผู้ชายเพราะเธอฝันอยากมีพี่ชายเหมือนคนอื่น ตัวเธอเองก็โหยหาความรักจากพ่อ พอมามีสามีก็กลับโดนทำร้ายทั้งกายและหัวใจ ศิริจะไปหาลูกสะใภ้เฉพาะวันที่ต้องพาเธอไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเท่านั้นซึ่งตอนนี้เดือนละสองครั้งแต่ถ้าท้องใกล้คลอดหมอจะนัดบ่อยขึ้น อิทธิฤทธิ์ไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับของมึนเมาอีกเลยตั้งแต่วนิดาหายตัวไปจากบ้านของเขา จนตอนนี้ก็สองเดือนแล้ว บ่อยครั้งที่ศิริเกือบจะหลุดเปิดปากบอกความจริงเพราะสงสารลูก แต่เธอก็คิดว่าถ้าฤทธิ์อยากรู้เขาต้องพยายามมากกว่านี้ ชายหนุ่มใช้เวลาในทุกวัน ค่อย ๆ คิดว่าเขาจะไปตามหาภรรยาของเขาได้ที่ไหน เมื่อเขาเลิกเมามีสติเพิ่มขึ้น เขาก็คิดได้ว่าต้องมีอะไรมากกว่าที่มารดาบอก แม่ของเธอถึงได้เอาวนิดาไปไว้ที่อื่นแทนที่จะแค่พาเธอไปส่งบ้าน อิทธิฤทธิ์ตัดสินใจไปที
ตอนที่ 8ทวงความเป็นสามี อิทธิฤทธิ์ขับรถออกจากบ้านไปแล้ว ศิรินอนไม่หลับเพราะเธอกำลังคิดไปว่า ถ้าลูกดันไปมีความรักกับผู้หญิงคนอื่น แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดี ไม่ได้มีอะไรที่จะต้องไม่ชอบ แล้ววนิดากับลูกเธอจะให้ทั้งสองคนอยู่ในฐานะอะไร พรุ่งนี้เช้า หญิงวัยใกล้ชราคงต้องยอมบอกความจริงทั้งหมดให้ ลูกชายรู้ เพราะเธอกลัวทุกอย่างจะสายเกินไป อิทธิฤทธิ์ขับรถมาจอดใกล้ ๆ กับบ้านของตากับยาย จากสภาพภายนอกที่เห็น เขาก็รู้ทันทีว่าข้างในมีคนมาอาศัยอยู่ ลานบ้านที่เคยเต็มไปด้วยใบไม้หนา ตอนนี้ก็มองแทบไม่เห็นสักใบ ต้นไม้ดอกไม้ก็ดูสดชื่นขึ้น ไฟข้างบ้านก็ถูกเปิดไว้ อิทธิฤทธิ์ยิ้มด้วยความดีใจ ที่เขาสามารถตามหาภรรยาเจอด้วยตัวเขาเอง การปีนเข้าบ้านตากับยายไม่ใช่เรื่องยาก เพราะตอนเป็นเด็ก ชายหนุ่มทำประจำ และเรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้ เพราะอิทธิฤทธิ์ตั้งใจปิดเป็นความลับ เพราะตากับยายชอบทำโทษเขาโดยการปิดประตูไม่ให้เข้าบ้านเวลาที่เขาชอบแอบไปเล่นน้ำ แต่สุดท้ายเขาก็ปีนขึ้นมานอนในห้องสบาย แล้วปีนกลับลงไปใหม่เหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่บนบ้านเลย บนบ้านมีห้องนอนหลายห
ตอนที่ 9เคราะห์กรรม เช้าแล้วคุณนายศิริตื่นมาไม่พบรถของลูกชาย เขานอนฟังทั้งคืนจึงแน่ใจว่าอิทธิฤทธิ์ไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำที่ออกไป โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง จากตอนแรกศิริคิดว่าลูกชายคงเลยไปไร่เลย เธอจึงขับรถไปดู ทุกคนก็ยืนยันว่าลูกชายของเขายังไม่ได้มาที่ไร่ตั้งแต่เช้า หัวใจของคนเป็นแม่เริ่มใจคอไม่ดีเมื่อเธอนั่งรอลูกชายอยู่ที่บ้านจนเกือบเที่ยงแล้ว ยังไร้วี่แวว เธอจึงตัดสินใจ ที่จะขับรถไปหาวนิดาเพราะบางที อิทธิฤทธิ์อาจจะรู้แล้วว่าเมียของเขาอยู่ที่ไหน จากคำพูดแปลก ๆ เมื่อคืน ภาพผู้คนยืนมุงอะไรบางอย่างที่อยู่ในคลองระหว่างทางไปบ้านเก่าของเธอทำให้ศิริตัดสินใจจอดลงไปดู “มีอะไร คนเยอะเลย” ศิริถามหญิงชาวบ้านที่เดินออกมาจากกลุ่มคนที่กำลังยืนมองไปในน้ำ “เมื่อคืนเช้ามืดมีคนขับรถลงคลอง แต่เห็นว่าถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว ดูจากรถน่าจะเป็นคนที่อื่นไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้” หัวใจของคนอายุมากมันเต้นผิดจังหวะทันที เธอเดินอย่างช้า ๆ เพื่อแทรกเข้าไปในกลุ่มคนที่กำลังมุงดูอยู่ ภาพที่เธอเห็นคือเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันเอารถขึ้นจ
ตอนที่ 10ปิดบัง หลังจากคืนนั้นที่อิทธิฤทธิ์มาหาวนิดาที่บ้าน หญิงสาวก็เฝ้าแต่รอว่าเขาคงจะมาหาเธอกับลูกอีก แต่ก็ไร้วี่แวว คุณนายศิริก็ไม่ยอมไปหาลูกสะใภ้ เพราะเธอต้องคอยขับรถไปมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลในตัวจังหวัดทุกวัน และยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถปิดบังความลับนี้ได้สนิท วันนี้เป็นวันที่หมอนัด ศิริจึงจำเป็นต้องมารับวนิดาไปตรวจตามนัด “ตอนนี้คุณต้องสังเกตตัวเองตลอดนะคะ เพราะอยู่ในช่วงใกล้คลอดแล้ว ตัดสินใจหรือยังคะว่าจะไปคลอดที่จังหวัดหรือจะคลอดที่นี่” คุณนายศิริตัดสินใจแทนเจ้าตัวเลย เพราะถ้าวนิดาคลอดลูกที่โรงพยาบาลประจำอำเภอเครื่องมือยังมีไม่ค่อยพร้อม และเธอคงจะวิ่งไปวิ่งมาดูแลทั้งลูกทั้งหลานไม่ไหวแน่ ๆ “คลอดที่โรงพยาบาลของจังหวัดค่ะคุณหมอ” “ถ้าอย่างนั้น หมออยากให้คุณแม่ไปให้ทางโรงพยาบาลที่นั่นได้ตรวจสักครั้งก่อนจะคลอด พรุ่งนี้ไปเลยก็ดีนะคะ” ศิริจึงตัดสินใจที่จะพาวนิดาและนวลไปหาเช่าโรงแรมใน ตัวจังหวัดเพื่อไปหาหมอและเตรียมตัวคลอด เพราะถ้าอยู่ที่บ้านหลังเดิมใช้เวลานานมากกว่าจะเดินทางมาถึง กลัวจะไม่ทันการ
ตอนที่ 11กำลังใจจากอสูรน้อย เช้าวันนี้ศิริไปเยี่ยมลูกชายเพื่อบอกว่าเขาจะมาเยี่ยมอีกทีในช่วงเย็นเลยนะ เพราะปกติเธอจะมาเยี่ยมในทุกครั้งที่ห้องผู้ป่วยหนักอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ “กลางวันแม่จะพาวนิดาไปซื้อของเพื่อเตรียมไว้เวลาคลอด เดี๋ยวถ้าเกิดปวดท้องกลางดึกขึ้นมาจะหาซื้ออะไรไม่ทัน แม่จะมาเยี่ยมอีกทีตอนเย็นเลยนะลูก” ชายหนุ่มบีบมือมารดาเพื่อแสดงให้รู้ ว่าเขารับรู้ในสิ่งที่เธอพูด รอยยิ้มของคนเป็นแม่ทำให้ลูกชายมีแววตาที่สดใสขึ้นจนเห็นได้ชัด คุณหมอเรียกศิริเข้าไปคุยเกี่ยวกับอาการของอิทธิฤทธิ์ เพราะเขาได้พบความผิดปกติแต่ไม่เกี่ยวกับกับอุบัติเหตุ “คนไข้ดื่มสุราไหมครับ” คุณหมอถาม “เคยดื่มแบบหนักเลยค่ะ แต่หยุดแบบไม่ดื่มเลยมาได้เกือบปีแล้ว” ศิริบอกหมอตามความเป็นจริง เพราะอิทธิฤทธิ์ไม่ใช่แค่ดื่มธรรมดา เขาดื่มหนักมาก บางครั้งก็ไม่ใช่แค่เหล้าทั่วไปแต่เป็นเหล้าป่าด้วย “คนไข้มีอาการเหมือนคนที่ใกล้เป็นตับแข็ง แต่แค่ใกล้นะครับ ยังถือว่าไม่เป็น หมอจะทำการรักษาไปพร้อม ๆ กับอาการที่เกิดจากอุบัติเหตุไปเลยที่เดียว แต่ทางญาติต้องอย่าให้คนป
ตอนที่12ความสุขของทุกคน วันนี้เป็นวันดีสำหรับทุกคนในครอบครัว อิทธิฤทธิ์ได้ออกจากห้องผู้ป่วยหนัก ได้ขึ้นมาอยู่ที่ห้องพิเศษแต่คนละชั้นกับภรรยาและ ลูกชาย ตอนนี้หญิงสูงวัยทั้งสองคนจึงต้องแยกร่างกันดูแลลูก ๆ ของตัวเอง “พรุ่งนี้แม่จะพาอสูรน้อยของลูก มาหานะ วันนี้ลูกเพิ่งขึ้นมาจากห้องข้างล่างพักผ่อนก่อนดีกว่า ส่วนวนิดาเองเธอก็ยังเจ็บแผลอยู่” ศิริรู้ว่าลูกชายของเธออยากเห็นเจ้าตัวเล็กจะแย่อยู่แล้ว คนเป็นแม่จึงได้แต่เปิดรูปให้ดูไปก่อน อิทธิฤทธิ์นอนไม่หลับเพราะตอนที่อยู่ห้องข้างล่างเขาก็หลับแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้วเพราะทำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มหันไปมองมารดาที่หลับอยู่บนโซฟา เขายิ่งรู้สึกผิด ตอนนี้เขาเป็นพ่อคนแล้ว เขารู้ว่าคนเป็นแม่เป็นพ่อรักลูกแค่ไหน นวลพาลูกสาวนั่งรถเข็นพร้อมกับให้วนิดาอุ้มลูกชายมาด้วยเพื่อมาเยี่ยมคนเป็นพ่อ เด็กน้อยถูกส่งให้ชายหนุ่ม โดยมีศิริคอยจับอยู่เพราะแขนทั้งสองข้างของอิทธิฤทธิ์ยังต้องเข้าเฝือกอยู่ น้ำตาของความสุขที่คนเป็นพ่อได้เห็นหน้าลูกชายเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มพูดกับตัวเองในใจ ว่านับจากนี้ไปเขาจ
ตอนที่ 12ครอบครัว เฌอพาปูนปั้นมาหาย่า ก่อนที่เด่นจันทร์จะยอมเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล “สาวน้อยของย่า” ปูนปั้นดีดแขนขาดีใจเมื่อได้ยินเสียงที่เธอคุ้นเคย จนผู้ใหญ่ทั้งสามคนต่างต้องเช็ดน้ำตา เด็กน้อยก็คือเด็ก เขารู้แต่ว่าเสียงนี้คือเสียงของคนที่ดีกับเขา “คิดถึงย่าใช่ไหม เดี๋ยวไม่นานเราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันนะ” เตชินปล่อยให้เด่นจันทร์ได้เล่นกับหลานโดยมีเฌอปรางคอยดูแลอยู่ ส่วนเขาแยกตัวออกมาคุยกับหมอที่กำลังจะทำเรื่องส่งต่อ คุณหมอคิดว่ามารดาของเขาคงอยู่โรงพยาบาลไม่นาน เพราะดูแล้วท่านยอมรับในตัวเอง และยอมรับที่จะรักษา เพราะไม่อยากมีจิตใจที่เป็นแบบนี้ เตชินดีใจ ที่อีกไม่นาน ชีวิตของเขาจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่เด่นจันทร์เข้าโรงพยาบาล ลออต้องมาอยู่บ้านของลูกเขยเพื่อดูแลหลานสาว เพราะเฌอปรางต้องออกไปช่วยสามีทำงาน ดาริณก็ยังคงทำงานอยู่เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น กิจการทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่โตมากแต่ผลกำไรก็ได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน ทุกคนรวมทั้งครอบครัวของเฌอปรางไปเยี่ยมเด่นจันทร์ทุกอาทิตย์ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกว่
ตอนที่ 11ตาสว่างนาทีที่ต้องเลือก เตชินได้อ่านข้อความทั้งหมด เขาเดินไปหามารดา พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้เธอได้อ่าน “ไม่จริงลูก แม่ก็แค่อยากพูดให้เมียลูกกลัวก็เท่านั้น” เด่นจันทร์เดินเข้ามากอดลูกชาย หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสีย “หยุดเถอะครับแม่ ดาริณบอกผมหมดแล้ว เพราะผมใช้หนี้แทนพ่อกับแม่ให้เธอหมด ผมไม่คิดว่าความรักที่แม่มีให้ผม มันจะทำร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องแบบนี้ แม่รักผมแบบไหน ผมก็รักลูกผมแบบนั้น ดูแลตัวเองให้ดีนะครับแม่” ชายหนุ่มกำลังจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป เขากลับต้องหยุดเมื่อได้เสียงมารดาตะโกนตามหลังมา “แกมันเนรคุณ ฉันเก็บแกมาเลี้ยง แม่แกมันก็แค่คนใช้ที่ถูกพ่อแกข่มขืน ฉันสงสารกลัวมันจะทำแท้งเอาแกออก เลยรับแกมาเป็นลูก ดูแลทุกอย่าง เลี้ยงแกให้ดีที่สุด สุดท้ายฉันก็ไม่อาจเปลี่ยนสายเลือดชั่ว ๆ ของแกได้ แกมันเลวเหมือนพ่อกับแม่แกไม่มีผิด” เตชินเข่าทรุดนั่งลงไปกับพื้น วันนี้มันคือวันอะไรของเขา ลูกเมียหนีไป สุดท้ายต้องมารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของเด่นจันทร์ กลับเป็นลูกที่เกิดจากที่แม่ของเธอโดนข่มขืน “ผมจะกลับมา
ตอนที่ 10มือที่3 ปัญหาไม่ได้ถูกอธิบาย เฌอปรางไม่ถามอีกฝ่ายก็ไม่กล้าพูด ความสนิทสนมของดาริณและเตชินดูมากขึ้นทุกวัน เด่นจันทร์ก็พยายามที่จะพูดใส่หัวของเฌออยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดหญิงสาวก็ถึงขีดสุดของความอดทน เฌอไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ฟัง เธอจึงตัดสินใจที่จะเล่าให้น้องชายของเธอช่วยหาทางแก้ปัญหา “พี่คุยกับพี่เตก่อน แต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็หย่าแล้วกลับบ้านเรา” เฌอตัดสินใจทำตามที่น้องชายแนะนำ เธอรอจนเกือบสามวัน ถึงจะมีเวลาเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้กับสามี ตอนนี้ปูนปั้นอายุได้สามเดือนแล้ว เป็นเวลาสามเดือนที่ลูกสาวแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบพ่อแม่ลูกเลย วันนี้เฌอตั้งใจจะคุยทุกอย่างให้จบ “เตชิน เราคิดว่าความสนิทสนมที่เธอกับดาริณมีให้กัน มันมากเกินไป เราไม่สบายใจ และก็ทนที่จะรู้สึกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” เตชินทำท่าเหมือนคำพูดของภรรยาเป็นเรื่องตลกเป็นการแสดงความหึงที่ดูน่ารัก “ดาริณเขาน่ารักไม่ถึงครึ่งของเฌอเลย เราไม่นอกใจหรอก อย่าทำเป็นหึงแค่มีสามีหน้าตาดีแค่นี้” ชายหนุ่มทำท่าจะจับมือภรรยา แต่เฌอป
ตอนที่ 9ดูแลหรือกักขัง เด่นจันทร์ดูแลลูกสะใภ้เรียกได้ว่าแทบจะไม่ให้คลาดสายตา มีหลายครั้งที่แม่สามีลืมตัว เผลอพูกจาออกคำสั่งมากเกินไปแต่พอรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่ถูกใจ เธอก็จะเปลี่ยนเป็น ขอโทษแทน “แม่ก็ไม่เคยมีหลานกับเขา ใจมันก็ห่วง แม่รู้ตัวว่าเผลอพูดจาไม่ดีกับเฌอไปบ่อย ๆ ให้อภัยคนแก่อย่างแม่นะ ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารัก ว่าห่วงหลานเท่านั้น” เฌอปรางจับมือส่งยิ้มให้กับแม่สามี ทั้งที่หัวใจของเธอมันกำลังคิดตรงข้ามกับท่าทางที่แสดงออกไป “เฌอเข้าใจค่ะ” หญิงสาวไม่ได้เข้าใจอย่างที่เธอพูด เพราะเธอมองว่าชีวิตของเธอตอนนี้เหมือนนกน้อยในกรงทอง เตชินเองก็ขยันทำงานมากขึ้น เพราะเด่นจันทร์เปิดสาขาที่หก ทั้งที่ก็รู้ว่าตอนนี้ลูกชายของเธอเมียกำลังท้อง เฌอปรางอดคิดไม่ได้ ว่าเด่นจันทร์กำลังต้องการให้เธอและสามี อยู่ด้วยกันให้น้อยที่สุด เพราะบางคืนเตชินถึงขั้น ต้องนอนที่สาขาใหม่ไม่ได้กลับมานอนบ้าน วันนี้เป็นวันที่หมอนัด เพราะเริ่มใกล้คลอดคุณหมอจะนัดถี่ขึ้น เด่นจันทร์พาลูกสะใภ้ไปหาหมอ โดยมีคนขับรถคอยบริการ
ตอนที่ 8แม่ย่าเดินหน้าเอง เด่นจันทร์เธอรู้จักหมอเก่ง ๆ หลายคนและหลายสาขา เพราะกิจการของเธอต้องยุ่งเกี่ยวกับหมออยู่แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะพาเฌอปรางไปปรึกษาหมอเพื่อวางแผนครอบครัว “แม่ต้องขอโทษหนูเฌอด้วยนะลูก ที่ไม่ได้บอกก่อน แต่แม่กลัวถ้าเตชินรู้เขาจะไม่ยอม” แม่สามีพูดกับลูกสะใภ้เมื่อเธอพามาถึงโรงพยาบาล ที่ได้โทรศัพท์มานัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว เฌอปรางรู้สึกแปลกใจที่เด่นจันทร์ดูรีบมีหลานมาก อยากมีคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่การแสดงออกมันทำให้รู้ว่ารีบมาก “ไม่เป็นไรค่ะ มันก็เหมือนกับเราได้มาวางแผนครอบครัว ถ้าหากวันใดท้อง ตัวน้อยก็จะได้แข็งแรงด้วยค่ะ” คนพามาส่งยิ้มให้กับความโง่ของลูกสะใภ้ ที่เชื่อเธอทุกอย่างไม่ว่าเธอจะให้ทำอะไร คุณหมอแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายทั้งของสามีและภรรยา มีการแจ้งวันที่ไข่ตก เพื่อจะได้ผลที่ดีมากขึ้น เฌอปรางคุยกับหมอไปก็เขินไปด้วย เพราะเธอไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น “เราเลือกเพศได้ไหมคะคุณหมอ” เด่นจันทร์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นทางคุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เธออยากได้หลา
ตอนที่ 7ความสุข(ปลอม)หลังแต่งงาน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและใหญ่โตสมกับ เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าแม่สถาบันความงาม ที่มีทรัพย์สินนับรวมแล้วเป็นร้อยล้าน ทั้งที่ส่วนใหญ่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการ ฌอนน้องชายคนเดียวของเฌอ ทำหน้าที่ช่วยพ่อกับแม่จัดเตรียมงานให้พี่สาว ฌอนกับเตชินเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยเป็นเด็กผู้ชายโลกส่วนตัวสูง เขาจึงไม่ค่อยคุยกับใคร หลังจากงานกินเลี้ยงเสร็จ ทั้งสองคนบ่าวสาวก็เดินทางมาเข้าหอที่บ้านของเตชิน ลออกับธนทำหน้าที่ส่งตัว ระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่ข้างนอกเด่นจันทร์พยายามชวนฌอนคุย แต่เด็กหนุ่มกลับพูดแต่ครับอย่างเดียว เด่นจันทร์สัมผัสได้ถึงความเป็นคนเอาจริงเอาจัง และอารมณ์ร้ายของฌอน เธออยากจะตีสนิทเพราะกลัวอนาคตถ้าเธอตัดสินใจทำอะไรลูกสะใภ้ไปกลัวว่าเจ้าเด็กน้อยหน้านิ่งคนนี้ จะมาเป็นขวากหนามทีหลัง “เรียนจบแล้ว จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ไหน” เด่นจันทร์อยากรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะได้อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้พี่สาวแค่ไหน “ยังไม่ได้คิดครับ” คนถามถอนหายใจ เธอหมดความพยายามแล้ว นั่
ตอนที่ 6ข้อตกลงของสินสอด เฌอปรางกลับมาที่บ้านพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งคำพูดและท่าทางของมารดาคนรัก ที่แสดงต่อเธออย่างละเอียดที่สุดเท่าที่เธอจะจำได้ “เฌอไม่ได้ไว้ใจใครง่ายนะคะพ่อกับแม่ ตอนแรกลูกคิดว่าเธอคงจะแกล้งพูดดี ทำดี จนเกินหน้าเกินตา แต่พอไปถึงเธอก็เหมือนปกติเพียงแต่ยิ้มบ้างและดูมีเหตุผล ดูนี่สิคะคุณเด่นจันทร์เขาฝากครีมที่ร้านมาให้แม่ด้วย” ลออเอื้อมมือไปรับของจากมือลูกสาว ถึงเธอจะยังไม่ได้ไว้วางใจในตัวแม่ของเตชินแต่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับของฝาก “เจ้าแม่สถาบันความงามจริง ๆ ” ลออหยิบของออกจากถุงมาดูที่ละชิ้นว่ามีอะไรบ้าง เพราะมีทั้งแบบที่เป็นขวดเป็นกระปุก “เออ..เฌอ แม่ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงสามีของคุณเด่นจันทร์เลยนะ เตชินเคยพูดเรื่องพ่อของเขาให้ฟังบ้างไหมลูก” “ไม่เคยเลยค่ะแม่ เฌอก็ไม่เคยถามนะคะ เพราะกลัวเรื่องนี้จะทำให้เขารู้สึกมีปมด้อย เอ่อ..แม่ของเตชินเขาพูดย้ำเรื่องการแต่งงานด้วยนะคะ พ่อกับแม่คิดว่าอย่างไรกับเรื่องนี้” สีหน้าท่าทางแววตาของคนถามแสดงให้พ่อกับแม่เห็นชัดว่าตัวเธอเอง ก็อยากแต่งงานก
ตอนที่ 5เชื่อใจ เฌอปรางมาตามนัดหมาย เธอพยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านรู้ว่าเธอไม่ไว้วางใจ เด่นจันทร์เดินออกมาต้อนรับที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายขับเข้ามาจอด “สวัสดีค่ะคุณป้า” หญิงสาวไม่กล้าเรียกว่าคุณแม่ เพราะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอารมณ์ไหน เด่นจันทร์ทำท่ายิ้มแบขำ ๆ เมื่อถูกเรียกว่าคุณป้าแบบนั้น “ฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ อายเขาตายเลย เป็นถึงเจ้าแม่ศูนย์ความงาม ยังเพิ่งจะหกสิบเป็นคุณป้าเสียแล้ว” “เอ่อ..คือเฌอไม่รู้จะเรียกว่าอะไรถึงจะเหมาะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เฌอปรางหน้าเปลี่ยนสี เธอคิดว่าคงเผลอตัวทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจแล้วแน่ ๆ เจ้าแม่สถาบันความงามเดินมาจับมือเพื่อนสาวของ ลูกชาย ด้วยสายตาที่ไม่ยิ้มจนเกินควร เอาแค่พอดูจริงใจเท่านั้น “เรียกคุณแม่นั่นแหละ ไม่ว่าเธอจะเป็นแค่เพื่อนหรือเป็นแฟนของเตชิน เธอก็ควรจะเรียกว่าคุณแม่” เฌอปรางยิ้มแบบเจื่อน ๆ ให้คนที่กำลังจับมือเธอ และพาเดินเข้าไปในบ้าน ที่มีโต๊ะอาหารตั้งเด่นเป็นสง่ารอท่าอยู่ “ความจริงแม่
ตอนที่ 4เปลี่ยนแผน “เตชินวันนี้ลูกเมามาหรือเปล่าแม่มีเรื่องจะคุยด้วย รับรองว่าเป็นข่าวดี แต่ถ้าลูกเมาไว้วันหลังเราค่อยคุยกันก็ได้นะ” เด่นจันทร์คิดว่าคำว่าข่าวดีจะทำให้ลูกชายกลับมาสนใจเธอและมีรอยยิ้มขึ้นบ้างแต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด “เมาครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้าผมคงไม่เมาแน่นอน คุณแม่ค่อยบอกข่าวดีนะครับ” เด่นจันทร์ฟังคำตอบจากลูกชายเธอทั้งแค้นทั้งเสียใจ เธอโยนความผิดในเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเตชินตอนนี้เป็นเพราะผู้หญิงที่เธอไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย ทั้งที่เฌอปรางไม่เคยมา ยุ่งเกี่ยวอะไรกับลูกชายเธออีก แต่คนอย่างเด่นจันทร์โทษตัวเองไม่เป็น เตชินอาบน้ำเสร็จเขานอนเล่นโทรศัพท์แก้เหงา วันนี้ความจริงแล้วเขาไม่ได้เมา ดื่มเบียร์มาแค่หนึ่งกระป๋อง แต่ที่ ชายหนุ่มเลือกพูดแบบนั้นกับมารดา เพราะสำหรับเขามันไม่มีข่าวดีอะไรแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาถูกคนรักบอกเลิก เตชินพยายามที่ตอบแทนพระคุณเด่นจันทร์ทุกอย่างและเขาก็จะทำทุกอย่างที่แม่ต้องการ แม้เขาจะไม่หลงเหลือความสุขใดในชีวิตอีก ค่ำคืนแต่ล