เสียงแหลมตวาดอีกครั้งพร้อมกำหมัดเรียวเล็กง้างขึ้นเหนือหัว“หยุดเลยนะ ผมยอมให้คุณด่าว่าไอ้บ้าครั้งนี้ครั้งสุดท้าย หากคุณยังด่าผมอีก ผมไม่ไว้หน้าคุณแน่!”แววตาฉายชัดว่าที่พูดไปเขาทำได้จริง ๆ“...”ร่างบางหยุดชะงัก หมัดที่ง้างยังค้างอยู่กลางอากาศความโมโหพุ่งปรี๊ดไม่เคยมีใครกล้าสั่งหล่อนแม้แต่พ่อบังเกิดเกล้า“ไอ้ ... ไอ้”เสียงสั่นระริกกดอารมณ์ไว้อย่างหนัก อยากด่าให้หายแค้นแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะดูจากแววตาแล้วชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้แค่ขู่แน่นอนร่างบางจดจ้องมองนิ้วมือเรียวหนาที่ยกขึ้นชี้หน้าแสดงถึงความไม่ยอมใคร น้ำลายเหนียว ๆ ถูกกลืนลงคอภาพที่เห็นบอกให้รู้ว่าเขาสื่อถึงอะไร อย่าคิดทำนะ เดี๋ยวพ่อจัดให้ ...“ฉันจะฟ้องคุณใหญ่ เรื่องของแก”เมื่อคิดว่าด่าไม่ได้ก็ขู่ให้ชายหนุ่มกลัวแล้วกันเพื่อความสะใจ“เชิญตามสบายครับ หากคุณคิดว่าคุณใหญ่จะฟังคนอย่างคุณ ขนาดหน้าเขาก็ไม่อยากจะมองคุณเลย”ชายหนุ่มยกไหล่ตอกย้ำความจริงให้อีกฝ่ายได้รู้และไม่รู้สึกสะทกสะท้านคำขู่นั้นแม้แต่น้อยเขารู้ว่าหล่อนต้องเจ็บกับคำพูดนี้ แต่ก็อยากให้ผู้หญิงที่เอาแต่ใจได้คิดบ้างและรู้จักฟังคนอื่นบ้างก็เท่านั้น ...หัวใจที่มีแผลอยู่แ
สายตาคมเข้มมองหน้าหญิงสาวที่ไม่ต่างอะไรกับกระต่ายตัวน้อยที่กำลังตกเป็นเหยื่อเมื่อหลงทางเข้ามาด้ายเหตุผลการเอาแต่ใจ ความเจ็บปวดที่ถูกยกมากล่าวมันทำให้หนุ่มที่เรียบขรึมกลายเป็นเสือหนุ่มเลือดร้อน พร้อมขย้ำเหยื่อ เสียงกรามขบเข้าหากันจนเกิดเสียง ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาสิ้นความอดทนด้วยเหตุผลที่เธอปากร้ายได้น่าเกลียดที่สุด ...ใบหน้าของใครบางคนซ้อนทับเข้ามาในสมอง ก่อนจะรีบสลัดมันทิ้ง คำว่า ‘เกลียด’ แทรกเข้ามาในห้วงความคิดแทนที่ความรู้สึกทั้งหมด“แกดูถูกผู้หญิงเกินไปแล้วนะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”น้ำเสียงกร้าวจัดต่อว่าอย่างไม่เกรงกลัวกรามบดกันจนเกิดเสียง“โทษฉันไม่ได้ ปากพาจนเองทำไม”คว้าร่างบางด้วยมือเดียวเหมือนกับหล่อนเป็นใครบางคนที่แทรกเข้ามาในความรู้สึกก่อนหน้านี้“ว้าย! นายจะทำอะไร?”ร้องเสียงหลงพยายามดิ้นให้หลุดจากมือหนาที่บีบกุมไหล่เนียนของตนไว้“ก็ทำอย่างที่บอกไง”น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยออกมาตวัดคว้าเอวบางพาดไว้บนบ่าข้างหนึ่ง ตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มที่ดูสุขุมเงียบนิ่งจะทำอะไรที่ไร้มารยาทได้“ไม่นะ ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อยไง ไอ้คนเลว มันจะมากไปแล้วนะ” ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คำด่าท
เมรีสะท้านไหว เมื่อนิ้วเรียวหนาถูกส่งเข้าไปทักทายในร่องกลีบที่เริ่มขับน้ำหวานออกมา หล่อนกำลังตอบสนองเขา ...“โอ้วส์ ...”เสียงทุ้มเอ่ยครางเมื่อนิ้วแข็งแกร่งสัมผัสกับเนินอวบอูมที่กำลังเปียกชื้นที่พร้อมรับกับศึกรักครั้งนี้แล้ว ชายหนุ่มดึงนิ้วออกจากการสัมผัสจับกายแกร่งส่งเข้าไปทักทายแทนที่ ถูไถไปมาอยู่ภายนอกกลีบกุหลาบที่กำลังเบ่งบานอย่างนุ่มนวลเพื่อสร้างความคุ้นชินแม้จะห่างเหินกับเรื่องแบบนี้มานาน แต่สัญชาตญาณของความต้องการที่มีอยู่ก็ทำให้เขารู้ว่าหล่อนพร้อมขนาดไหน ...ความร้อนและความใหญ่โตถูกจับต้องเสียดสีอยู่กลางปากอ่าว ทำให้ร่างบางถึงกับเรียกสติกลับมา“ไม่ ...”มือเรียวผลักอกกว้างที่ทาบทับอยู่ออก แววตาตื่นส่งความแปลกใจและหงุดหงิดใจให้ชายหนุ่มเป็นอย่างดีวิรุจถอนริมฝีปากจากลำคองามระหงผงกศีรษะมองใบหน้าหญิงสาว ไม่อยากจะเชื่อ“เป็นอะไร อย่าบอกนะว่าไม่เคย”เสียงทุ้มดุเอ่ยถามและบอกได้ดีว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก“อือ ...”ร่างบางพยักหน้าเบา ๆชายหนุ่มเกือบผละออกจากร่างบาง แต่ก็ชะงักเอาไว้เขาไม่อยากจะเชื่อว่านางแมวยั่วสวาทจะไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูว่าหล่อนเร่าร้อนและมีความต้อง
ความเสียวซ่านหลั่งไหลเขามาจนถึงขีดสุด แรงกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่ามันทำให้ร่างสองร่างเผลอครางออกมาส่งเสียงผสานกัน ยามถูกดึงออกมันวาบหวาม ยามมันกระแทกส่งเข้าฝังลึกลงมาใหม่ มันทำให้ใจรัญจวนเกือบหายใจไม่ทั่วท้อง ลมหายใจขาดหายเป็นห้วง ๆ ไม่ต่างกัน แล้วความดื่มด่ำและเร่าร้อนก็มาถึงขีดสุด สายธารอุ่นถูกส่งออกมาเต็มรักพร้อมกับร่างบางที่เกร็งกระตุกสองสามครั้งบีบรัดแก่นกาย จนชายหนุ่มไม่กล้าขยับเพราะแรงตอดรัดของหล่อนและรอเวลาให้มันคลายลงร่างแกร่งก้มลงทาบทับ หายใจถี่รัวบนอกนุ่มที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อไม่ต่างกัน ก่อนจะเบี่ยงตัวลงนอนข้าง ๆ ร่างบางที่นอนหลับตานิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ได้แต่นอนดูนิ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจอาการนิ่งเงียบมันชวนให้อึดอัด ร่างแกร่งในสภาพเปล่าเปลือยผุดลุกขึ้นและตัดสินใจเอ่ยประโยคก่อนหน้านี้ขึ้นอีกครั้ง“เมื่อคุณยังไม่มีใครและผมยังไม่มีใคร ผมก็ยังยืนยันคำเดิม ผมอยากให้คุณพิจารณาผมไว้สักคน ผมพูดจริง ๆ ...”หยุดถอนหายใจเหมือนคนกำลังอึดอัดมองดูร่างบางที่ยังคงนอนนิ่งเงียบ“บางที ... สิ่งที่คุณเห็น มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้ คุณเมย์”เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะยันตัวลุกข
“กูเอง!”เสียงทุ้มตะโกนบอกมาแต่ไกล คำเรียกขานบ่งบอกถึงความเป็นนักเลงพอตัว ทั้งที่ไม่ใช่วิสัยของเขาน้ำเสียงที่คุ้นเคยผ่านหูเข้ามา ทำให้ร่างบางหันมองตามเสียงนั้นทันทีพร้อม ๆ กับชายอีกคนใบหน้าหวานยิ้มพราวอย่างลืมตัว“รุจ ...”สาวสวยเอ่ยชื่อชายหนุ่มออกมาอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงนั้นเหมือนน้ำทิพย์ที่กำลังเข้ามาชโลมหัวใจให้ฉ่ำชื่นขึ้นหลายเท่าตัว แม้ใจจะแป้วไปเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มที่ทำใบหน้าเหี้ยมเกรียมไม่ได้สนใจหันมามองหล่อนแม้แต่หางตา แต่กลับจ้องชายหนุ่มที่กำลังดึงรั้งแขนหล่อนไว้แววตาน่ากลัว“อ้าว แฟนคุณหรอกหรือ ...”ปล่อยแขนเรียวทันควัน พูดเสียงอ่อย มือหนากุมเข้าหากันถูไปมา ถอยหลังสองก้าว ใบหน้าซีดเผือดลงทันตาเห็น“เออ ... เมียกูไม่ใช่แฟน มีปัญหามากใช่ไหม?”เสียงเหี้ยมเอ่ยสีหน้าจริงจัง เดินตรงดิ่งเข้ามา ไม่ใช่แค่ข่มขู่ แต่เขาพูดเรื่องจริง สาวสวยที่ได้ยินถึงกับก้มหน้าเพื่อปกปิดสายตาตัวเองว่าอายแค่ไหนที่มีผู้ชายยืนประกาศปาว ๆ ว่าหล่อนเป็นเมียเขาไม่ใช่แค่แฟน“ไม่มีจ้า ผมแค่คิดว่าเธอหลงทาง หากเป็นเมียคุณก็เอาไปเถอะ ผมไปก่อนละนะ”เอ่ยจบก็วิ่งหนีหายไปจากตรงนั้นทันทีเมื่อไม่มีคนอื่นอยู่ขวาง วิรุจ
“เป็นอะไร หน้าบอกบุญไม่รับ” ผู้เป็นน้องเอ่ยถามพี่ชายที่ขอตัวลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกก่อนหน้านี้ พอเดินกลับเข้ามาก็ทำหน้าเหมือนกินของขม กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสายตาคมหันมองคนถามสีหน้าขุ่นไม่หาย ผู้เป็นน้องก้มหน้าเก็บปากเงียบ รู้ว่างานนี้พี่ชายยังไม่ลืมเรื่องงานที่ตัวเองทิ้งมาแน่ ๆผู้เป็นแม่ก็ได้แต่มองลูกชายคนโต จ้องมองตาปริบ ๆ จะถามสิ่งที่อยากจะถามก็ไม่กล้า เพราะเห็นสีหน้าชายหนุ่ม ขุ่นมัวตั้งแต่มนธิราเดินเข้าไปในห้องพักของหล่อน ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่มองหน้าลูกชายคนโตนิ่ง“แม่มีอะไรจะถามก็ถามมาเถอะ ผมยินดีตอบทุกคำถาม”เมื่อหย่อนกายลงนั่ง ชายหนุ่มก็เอ่ยทันที เพราะเห็นสายตาของผู้เป็นแม่มองมาตั้งแต่ในรถ แต่ก็ไม่อยากจะคุยต่อหน้ามนธิรา เพราะกลัวว่าคำพูดของผู้เป็นแม่จะกระทบจิตใจของหญิงสาวอีก เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นแม่ไม่ค่อยปลื้มสาวสวยที่กำลังเป็นแม่ของลูกเขาแต่งานนี้ไม่ใครก็ใครต้องทำใจแล้วละ ... ชายหนุ่มถอนหายใจ“แม่ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก ... แต่อยากรู้ว่าลูกเลิกสนใจหนูเมย์แล้วหรือ”ผู้สูงวัยตัดสินใจเอ่ยถามลูกชายตรง ๆ เมื่อต้องการรู้สิ่งนี้ในความตั้งใจ ก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไม ในเมื่อทุกอย่างมัน
เขาชอบคนที่เก่ง มีมันสมองและทำงานมากกว่า ไม่ใช่มีใบปริญญาเอามาไว้บังหน้าไว้หากินเพื่อเรียกร้องเงินเดือน แต่การงานไม่เอาอ่าวชายหนุ่มเอ่ยเรื่องจริง วิรุจเป็นคนสั่งให้เลือกนายแดนเป็นหัวหน้าคนงาน เพราะส่วนมากนายแดนจะอยู่ใกล้ชิดเขามากที่สุด ถึงจะเป็นชายหนุ่มขี้เล่นแต่เวลาทำงานจะเป็นคนจริงจังกับงานมาก และที่สำคัญหัวไวเป็นที่รักใคร่ของพวกคนงานอีกด้วย“ครับ”ชายหนุ่มก้มหน้ารับ พร้อมกับเสียงตะโกนของคนงานหลายคนโห่ร้องเพื่อแสดงความยินดีเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยชายหนุ่มจึงตรงมายังบ้านพักอีกครั้ง ทันทีที่เดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มถึงกับตกใจ วิ่งถลาเข้าไปด้านในทันที เสียงเอะอะโวยวายที่ดังออกมาด้านนอก มันส่งผลให้หัวใจชายหนุ่มเกือบหยุดเต้น“ใคร ใครเป็นอะไร!”ชายหนุ่มตะโกนถาม เมื่อเห็นประตูที่เป็นห้องมนธิราเปิดอ้ามาแต่ไกล และที่สำคัญเสียงดังมาจากด้านในห้องหญิงสาวทันทีที่โผล่หน้าเข้าไป“แม่! เล็ก นี่มันอะไรกัน?”ใบหน้าคมฉายแววเดือดดาล แม่ที่ยืนยกไม้ยกมือเหมือนกำลังทำร้ายร่างกายของผู้หญิงของเขา ส่วนน้องชายกำลังกอดผู้หญิงของเขาเช่นกัน ผลสรุปกับภาพที่ได้คือ มนธิรากำลังถูกรุมทำร้ายจากคนในครอบครัวเขา“มันหมายค
เสียงอาเจียนดังผ่านออกมา ทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านนอกเกือบนั่งไม่ติดที่ ก้นร้อนไปตาม ๆ กัน มองหน้าเหมือนต่างคนต่างอยากรู้ความจริงและค้นหากันด้วยสายตา ก่อนจะมองไปยังประตูเมื่อเสียงอาเจียนเงียบลง“นอนพักเสียนะ”พยุงสาวให้นอนราบบนเตียง ดึงผ้าห่มทับบนร่างบางไว้ครึ่งตัว“เดี๋ยวค่ะ”มือเรียวคว้าแขนแกร่งไว้มั่น“บีไม่ต้องการให้คุณใหญ่บอกเรื่องนี้กับคุณผู้หญิง ... บีกลัว”แววตากังวลและวอนขอส่งออกมาจากสายตา คนที่ได้รับถึงกับถอนหายใจออกมา“ฉันจะพยายาม”เสียงทุ้มเอ่ยบอก“เพื่อเธอ...บี”ก้มจุมพิตหน้าผากมนเบา ๆ ฉันทำร้ายเธอมามากมันคงถึงเวลาที่ฉันจะตอบแทนให้เธอบ้าง ... ชายหนุ่มต่อในใจ ไม่ต้องการให้หญิงสาวรับรู้ความต้องการของตัวเองตอนนี้ และไม่ต้องการให้กระทบกับความรู้สึกหล่อนไปมากกว่านี้มือเรียวลูบสัมผัสหน้าผากตัวเองเบา ๆ ความรู้สึกอบอุ่นและตื้นตันใจมันแผ่เข้ามาในหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มองหลังแกร่งจนหายลับจากห้องพร้อมกับเสียงประตูบ่งบอกและย้ำว่าเขาได้ออกจากห้องไปแล้วธาดาจัดการให้หญิงสาวนอนพักผ่อนแล้วตนก็ออกมาด้านนอก ทำใจเอาไว้กับข้อซักถามที่จะตามมา และหากความลับที่เป็นความจริงไม่อาจยื้อเวลาไปได้
เจ้าสาวกวาดตามองไปทั่วด้านหน้าแล้วโปรยยิ้มหวานออกมาเหมือนถูกใจกับคนด้านล่างเวที“ณี”เจ้าสาวบนเวทีที่เอ่ยเรียกเบาๆ อย่างดีใจ แม้จะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้น แต่ก็สื่อความหมายกันเข้าใจ ตาสบตา แล้วหันหลังให้กลุ่มสาวๆ ด้านล่างเวที กุหลาบสีแดงช่องามในมือเรียวถูกยกขึ้น พร้อมย่อเข่าลงเล็กน้อยสองสามครั้งเพื่อหยั่งน้ำหนักของในมือไปในตัว ก่อนจะส่งแรงเหวี่ยงไปทางด้านหลังทันทีช่อกุหลาบลอยละลิ่ว พร้อมเสียงวี้ดว้ายร้องด้วยความตื่นเต้นของสาวสวยทั้งหลายถูกปล่อยออกมา มีเพียงสาวสวยในชุดเกาะอกยาวระพื้นที่ไม่ได้กรีดร้องเหมือนคนอื่น สายตาจับจ้องช่อดอกไม้สีสดที่ลอยอยู่กลางอากาศ มือเรียวถูกยกขึ้นพร้อมกับรอรับอย่างรู้จังหวะ“ว้าย!”เธอกรีดร้อง โดยมือคว้าช่อกุหลาบงามไว้ได้อย่างเหมาะเหม็ง แต่เธอไม่ได้ทุ่มสุดตัว หากแต่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ...สาวสวยที่ชวดช่อกุหลาบถึงกับเบะปากก็มี แต่บางคนก็ยิ้มเจื่อน ๆ มองผู้หญิงที่โชคดีได้ช่อกุหลาบ แต่ ... ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายน่ะสิทุกคนเริ่มถอยออกห่าง บางคนกลับไปนั่งโต๊ะของตัวเอง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยังยืนตะลึงค้าง แต่ภาพที่เห็นมันชัดเจนว่าคนที่รับช่อดอกไม้ได้ ล้มลงไปนอนแอ้งแ
ชายหนุ่มส่งเสียงคราง ร่างกายตึงเขม็ง อุ้งมือหนากำลังบีบเคล้นคลึงที่ทรวงอกจนล้นปลิ้นไปตามซอกนิ้วยาวแกร่ง ก่อนจะเปลี่ยนจากมือหนากลายเป็นปากหนานุ่มดูดกลืนบัวตูมที่กำลังชูช่อเด่น ดูดดึงซ้ายทีขวาทีจนหญิงสาวต้องบิดร่างกายส่ายไปมาเหมือนต้องการขับไล่ความเสียวซ่านให้บรรเทาเบาบางลง“คุ ... คุณใหญ่ บีไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”ร่างบางเอ่ยบอกเสียงกระเส่า สั่นสะท้าน หัวใจหวามหวิว เมื่อมือข้างหนึ่งกำลังลูบคลำไปยังส่วนล่างของบ่อน้ำหวาน ใช้นิ้วสะกิดยอดแหลมกลางกลีบกุหลาบที่กำลังแย้มบานถี่รัว ขาเรียวแยกออกจากกันอย่างลืมตัว สะโพกมนยกส่ายไปมารอรับเชิญชวนให้อีกคนเติมเต็มชายหนุ่มผละตัวออกห่างจัดการช่วงกลางลำตัวที่กำลังปวดร้าว ยกสะโพกผายที่เปิดอ้าอย่างท้าทายสอดแทรกความใหญ่โตเข้าเติมเต็มในกลีบกุหลาบที่กำลังชุ่มฉ่ำเสียงหวานกรีดร้องเบา ๆ ยามที่เจ้าสิ่งนั้นถูกเจ้าของสอดแทรกเข้าไป ก่อนจะขยับเนิบช้าและเพิ่มความเร็วขึ้น ทุกสัมผัสขยับกายในแต่ละครั้ง มีเสียงครางสุขสมขับกล่อมเป็นเสียงดนตรีไพเราะรุกเร้าเข้าหากันอย่างไม่ขาดตอนชายหนุ่มพ่นลมหายใจรู้สึกอึดอัดกับความคับแน่น ถอนกายแกร่งออกมาแล้วกระแทกเข้าไปใหม่ ขยับกระแทกเข้าอ
ร่างหนาลืมเรื่องชวนปวดหัวก่อนหน้านี้เสียสนิท ก้าวเท้าไปยังเตียงนุ่มหมายจะจัดการความร้อนในกายด้วยร่างกายที่กำลังนอนหลับอยู่ เขาก้มตัวไปหาร่างบาง มือหนาเอื้อมจับไหล่บางก่อนจะลากมือสาก ๆ ไปตามแขนเรียวงามอย่างปรารถนา“อือ ...”ร่างบางคราง สะบัดไหล่เหมือนรู้สึกรำคาญกับการถูกรบกวนเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มรู้สึกตัว คนหน้ามึนจัดการก้มกระซิบข้าง ๆ หู“บีฉันรักเธอนะ และรักลูกของเราด้วย”แม้คนที่นอนอยู่จะครึ่งหลับครึ่งตื่นหรือไม่ ชายหนุ่มก็รู้เขินอายกับการกระทำของตัวเอง“อื้อ ... จริงหรือคะ”เสียงหวานเอ่ยออกมาเบา ๆ เหมือนคนละเมอ ชายหนุ่มมองใบหน้าหญิงสาวนิ่ง สังเกตว่าหล่อนยังหลับตาอยู่ แต่เหมือนหล่อนจะตอบสนองกับคำพูดของเขาได้ดีตกลงหล่อนหลับแล้วละเมอ หรือหล่อนแกล้งหลับกันแน่ ... ชายหนุ่มไม่แน่ใจ ยื่นมือหนาจับปลายคางมนอีกครั้งแล้วขยับไปมาจนหน้าหวานหันไปตามแรงขยับ ท่าทางของคนหลับทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจคนอะไรหลับก็ยังตอบคำถามได้ ...เมื่อตั้งใจว่าจะบอกรักให้คนหลับฟังไม่ได้ผล ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นและเดินอ้อมเตียงไปอีกด้าน ทรุดตัวลงนั่งเต็มแรงจนเตียงยวบไปตามน้ำหนัก ทอดกายลงนอนแทรกไปใต้ผ้าห่มผืนหนาที่มีร่างบาง
คำบอกกล่าวที่เอ่ยยาวจนคนที่ฟังอยู่ รู้สึกเหมือนกำลังฟังครูบรรยายเหตุการณ์อะไรสักอย่างอยู่หน้าห้องที่ยาวนานมาก แต่คำพูดสุดท้ายมันทำให้ความรู้สึกนั้นพลันหายไปวินาทีถัดมา มันทำให้สมองเบลอร่างกายเบาโหวงเหมือนกำลังล่องลอยไร้แรงโน้มถ่วงของพื้นโลก แต่แล้วแรงสั่นสะเทือนทั้งหมดก็ไปกองอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย หญิงสาวถึงกับเซเข่าอ่อนมือหนาคว้าแขนเรียวเอาไว้ โดยหญิงสาวก็คว้าแขนแกร่งไว้เช่นกัน“คุณใหญ่ ... ไม่จริงใช่ไหม คุณใหญ่แกล้งบีใช่ไหม?”เสียงเบาแหบแห้ง สีหน้าไร้ความรู้สึกตื่นเต้นใด ๆ เอ่ยถามคนตัวโต“ทุกคำพูดเป็นเรื่องจริง”ชายหนุ่มยืนยันสีหน้าจริงจัง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาหวังไว้อย่างน้อย ๆ หากเขาเอ่ยประโยคสำคัญออกไป หญิงสาวคงดีใจโผเข้ากอดเหมือนผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ถูกคนรักขอแต่งาน จะต้องกระโดดกอดคอและหอมแก้มคนรักอย่างที่ควรจะเป็น แต่นี่ผู้หญิงที่เขาขอแต่งงานกลับเหมือนคนไร้ซึ่งความรู้สึก“หากเพราะคิดจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำมา และไถ่โทษด้วยการขอผู้หญิงแต่งงานโดยปราศจากความรัก คุณใหญ่ เก็บคำนั้นเอาไว้เถอะ”หล่อนพูดถึงประโยคขอแต่งงาน“บี ... ที่พี่พูดมาทั้งหมดมันชัดเจนแล้วนะว่าพี่ต้องการบี แล้วบีจะ
ใบหน้าขาวนวลกลายเป็นแดงซ่าน อยากข่วนหน้านั้นให้หายหล่อแต่ก็ได้แค่คิด เมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นพ่อยิ้มเหมือนรู้ความสัมพันธ์ของเธอและชายหนุ่มดีหล่อนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ หากมีพื้นที่ที่ให้หล่อนได้แทรกกายหนี หล่อนอยากจะแทรกหายไปซะเดี๋ยวนั้นนิพาหันสบตากับสามี ถอนหายใจเบา ๆ แม้จะไม่ค่อยชอบใจท่าทางของชายหนุ่มที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจนออกหน้าออกตาทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่งการด้วยซ้ำ แต่กลับมาประกาศจะนอนห้องเดียวกับหญิงสาวเสียอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นสามีไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับการกระทำของชายหนุ่ม นางจึงปล่อยเลยตามเลยไป“เสร็จแล้วขึ้นห้องเลยไหม ป้าจะพาไป”น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยถามลูกเลี้ยงสาว ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังมองนางอยู่เช่นกัน เหมือนอยากให้อีกคนเอ่ยชวนตัวเองด้วย แต่นางก็ไม่ได้ตอบสนองสายตานั้น แล้วก็จริงดังคาด เมื่อชายหนุ่มทำสีหน้าเหมือนคนผิดหวัง“ตามขึ้นไปพร้อมกันเลยครับคุณธาดา เดี๋ยวผมจะให้เด็กเอาชุดนอนผมไปให้ คุณคงพอใส่ได้”เสียงทุ้มของว่าที่พ่อตา ทำเอาชายหนุ่มที่หน้าหุบหันขวับไปมอง ปากหยักหนาได้รูปฉีกยิ้มกว้างทันที พร้อมพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบสองหญิงต่างวัยหันมาส่งค้อนให้คู่ของต
ความเป็นห่วงลูก รู้สึกโกรธเจ้าของรถคันนั้นยิ่งนัก“ไปดูสิว่าใคร”เสียงทุ้มเอ่ยสั่งคนขับรถที่ยืนดูอยู่อีกฝั่งของรถออกไป คนถูกสั่งทำตามทันทีแสงไฟจากหน้ารถของคันที่วิ่งเข้ามาใหม่กระทบกับสายตาทำเอาหล่อนกับพ่อต้องหรี่ตาและเอามือป้องหน้าเอาไว้สองพ่อลูกมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ แต่ลักษณะของรถมันดูคุ้นๆ สำหรับหญิงสาว“คุณใหญ่!”เสียงแหลมเล็กเอ่ยอย่างตกใจปรับสีหน้าจากที่ตกใจเมื่อครู่กับการมาของชายหนุ่มให้กลับสู่สภาพปกติ“มาได้ยังไง...?”เสียงหวานเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ยังมึน ๆ อยู่“ก็ขับรถตามมา ไม่เห็นแปลก ...”ตอบทำสีหน้าขรึม เหมือนอยากให้อีกคนรู้ว่าเขากำลังไม่พอใจกับการกระทำของหล่อนอยู่“แล้วก็มารับบีกลับไร่ด้วย”ใบหน้าเรียบตึงกว่าเก่าพร้อมกับคำพูดเฉียบขาด ไม่อยากให้หล่อนรู้ว่าเขาดีใจแค่ไหนที่เห็นหล่อนในสภาพปลอดภัย“บีไม่กลับ”ขยับกระชับอ้อมแขนกอดผู้เป็นพ่อแน่นขึ้น“เชิญคุณใหญ่กลับไปคนเดียวเถอะ”ปากบางเอ่ยไล่ หล่อนไม่คิดจะเสียใจกับคำพูดที่ได้ยินมาอีกแล้ว เพราะหล่อนเสียน้ำตาไปมากและย้ำกับตัวเองเสมอว่าต้องมีสักวันมันจะต้องลงเอยแบบนี้ และหล่อนคิดว่าหล่อนทำถูกแล้ว“ได้ไง บีไม่กลับ ผมก็ไม่กลับ”เสีย
ร่างบางหยุดชะงักเมื่อนึกอะไรได้“คุณพ่อนอนอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือ”เสียงหวานเอ่ยถาม พร้อมคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน“ใช่ ... แต่พ่อก็ออกไล่หลังหนูนั่นแหละ ... ไป เราไปคุยกันต่อในรถดีกว่า ตอนนี้น้ำค้างเริ่มลงแล้วละ”ผู้เป็นพ่อเอ่ยก่อนจะประคองลูกสาวตรงไปยังรถที่ประตูที่ถูกเปิดอ้ารออยู่แสงไฟหน้ารถคันงามส่องให้คนในรถมองเห็นภาพด้านนอกได้ชัดเจน แม้จะอยู่ในระยะที่เขาบีบแตรและคนด้านนอกจะได้ยิน แต่เขาก็ไม่ต้องการให้หล่อนรู้จึงชะลอความเร็วลง รอให้รถคันนั้นออกไปก่อนและเขาจึงค่อยขับตามไป... มนธิรา เธอก็ร้ายใช่ย่อยนะ ปล่อยให้เขาเป็นห่วงแทบตายดันหนีออกมารอพ่ออยู่หน้าปากทางเข้าไร่เขานี่เอง แม้จะเป็นเส้นทางส่วนบุคคล แต่ที่เห็นหล่อนยืนอยู่มันใกล้ถนนใหญ่ที่มีรถสัญจรไปมาพลุกพล่าน หากมีเหตุร้ายหรือถูกใครทำร้าย เขาจะทำยังไง ... ชายหนุ่มกลั้นความรู้สึกโกรธในความกล้าบ้าบิ่นของหญิงสาวไม่ได้“ได้ตัวกลับมาเมื่อไหร่ละน่าดู ...”ชายหนุ่มยกยิ้มรู้สึกดีขึ้นเป็นกอง แม้จะไม่พอใจกับการกระทำของหญิงสาวอยู่ แต่หล่อนก็เลือกที่จะไปหาอ้อมกอดผู้เป็นพ่อแทนที่จะคิดทำร้ายตัวเองเหมือนครั้งก่อนท่ามกลางความมืดที่มีแสงส่องผ่านนาน ๆ
ท่ามกลางแสงไฟบนท้องถนน ในยามพลบค่ำที่พอให้เห็นเส้นทางและผู้คนที่ขับรถผ่านไปมา ร่างที่กำลังพะอืดพะอมพยายามพาหัวใจที่กำลังบอบช้ำเดินลัดเลาะตามเส้นทางที่เล็กและรกพอควร หล่อนไม่ต้องการเดินบนถนนใหญ่เพราะจะง่ายในการที่คนจะพบเจอ ตอนนี้หล่อนไม่อยากให้ใครมาเจอหล่อน ไม่ว่าคนที่รู้จักหรือคนสัญจรไปมา ร่างบางแทรกเข้าไปนั่งคุดคู้อยู่ใต้พุ่มไม้เตี้ย หยิบสิ่งของกำไว้ในมือ จ้องมองสิ่งนั้นนิ่งอย่างชั่งใจและครุ่นคิดพ่อคะ หวังว่าคุณพ่อจะมารับบีทันเวลานะคะ ... หัวใจเจ็บปวดครวญถึงผู้เป็นที่พึ่งพิงในยามนี้เครื่องสื่อสารในมือถูกกดโทรออก“พ่อคะ ... บีเองค่ะ ... มารับบีได้ไหมคะ ... บีอยู่หน้าปากทางเข้าไร่กาแฟคุณธาดา ... ค่ะ ... คุณพ่ออย่าช้านะคะ ... บะ ... บีกลัว”เสียงสั่นเครือเอ่ยขาดเป็นห้วงๆ ก่อนกดวางสายและเก็บสิ่งนั้นในมือกลับเข้าที่ กอดกระชับโอบไหล่ตัวเองอย่างรู้สึกสับสน พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ส่งผ่านออกมาจากปากบางอย่างต่อเนื่องโชคดีที่หล่อนรับนามบัตรที่พ่อยื่นให้ตอนที่คุยกันที่เตียง โดยไม่มีใครเห็นและหล่อนรีบเก็บไว้กลัวผู้ชายเอาแต่ใจจะสงสัย เพราะหล่อนไม่อยากปวดหัวกับการถูกซักถามของคนตัวโต ไม่อย่างนั้นห
สายตาจริงจังต้องการคำตอบผู้เป็นแม่ คนเป็นน้องได้แต่นั่งรอลุ้นจนตัวโก่ง ไม่เอ่ยความคิดเห็นใด ๆ“แม่ไม่ต้องการ ...”น้ำเสียง แววตาฉายแววไม่พอใจ คนที่ได้ยินรู้สึกชาไปทั้งตัว ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจมันทำให้ตัวเองเหมือนคนเลวที่ทำร้ายอีกคนจนกระอักเลือด แต่กลับไม่อาจทดแทนสิ่งที่ทำลงไปได้แล้วสุดท้ายเขาจะเลือกทำเพื่อใคร ...?“แม่ ...”ชายหนุ่มครางออกมาเบา ๆ รู้สึกเบาโหวงลอยคว้าง ไร้หลักพักพิง เคยคิดไว้ว่าจะพาความฝันของตัวเองให้ถึงจุดหมาย แต่ไม่ทันได้เอื้อมสัมผัสพลันหลักนั้นก็ถูกถอดถอนโดยเจ้าของเสียก่อนใบหน้าหล่อเหลาหมองลง ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาผู้เป็นแม่ ความรู้สึกผิดหวังกระชากความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาเข้ามาในความรู้สึก หวนคิดถึงผู้หญิงที่นอนอยู่ในห้องหล่อนก็ไม่ต่างอะไรกับตนเองที่กำลังถูกชะตาเล่นงานตอนนี้ เขาเริ่มรับรู้ความรู้สึกที่ต้องถูกห้ามในสิ่งที่ต้องการแล้วเขาก็ยังซ้ำเติมหล่อนให้เจ็บปวดกับสิ่งที่หล่อนไม่ได้ก่อเพิ่มขึ้นอีกอาชารู้สึกตกใจในคำพูดของผู้เป็นแม่ คราแรกที่เห็นพี่ชายตัวเองเอ่ยประโยค แม่ครับ แม่เชื่อใจผมสิครับ บางครั้งผู้หญิงที่เราคิดว่าพร้อมไปเสียทุกอย่างทั้งฐานะทางสังคม แ