แชร์

บทที่ 918

ผู้เขียน: ลั่วเหล่ย
มีคนในเครื่องแบบสีดำกระโดดลงมาจากรถหลายสิบคน บนหน้าอกของพวกเขาทุกคนมีตัวอักษร “เป่ย” แบบโบราณติดอยู่

นั่นแสดงให้เห็นว่า พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ของเป่ยเทียนหวัง

ทูตพิเศษติงทำสัญญาณมือ ทุกคนมุ่งหน้าไปยังห้องสอบสวนทันที

“ไอ้แซ่ติ้ง แกบ้าหรือเปล่า?”

จูอี้ฉวินเห็นดังนั้น ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตะโกนด่าทันที “บุกรุกเข้ามาที่หน่วยรักษาการณ์เมืองอันของเราโต้งๆ แบบนี้ แกช่างกล้ามากนะ!”

“ทำแบบนี้ แกไม่กลัวว่าจะโดนลงโทษตามระเบียบหรือไง?”

ทูตพิเศษติงไม่เกรงกลัวคำขู่ พูดอย่างเย้ยหยันว่า “ตามคำสั่งของเป่ยเทียนหวัง วันนี้เราต้องพาลั่วอู๋ฉางไปให้ได้”

“ในเมื่อคุณไม่ยอมปล่อยคน งั้นก็ไม่มีทางเลือก เราเลยต้องใช้กำลังชิงตัวไปแทน!”

องครักษ์ของเป่ยเทียนหวังทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้โบราณ หน่วยรักษาการณ์เมืองอันเล็กๆ ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของพวกเขาได้เลย

ไม่นาน ก็มีคนหลายสิบคนถูกทำร้ายจนล้มลงกับพื้น

เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะบุกเข้าไปในห้องสอบสวนได้สำเร็จแล้ว

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

จูอี้ฉวินตะโกนเสียงดัง “ไอ้คนแซ่ติ้ง แกฟังฉันให้ดี อย่าคิดว่าเพราะตัวเองมีเป่ยเทียนหวังหนุนหลัง แล้วจะทำอะไรในที่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 919

    “ใช่ครับ คนคนนี้เป็นผู้ร้ายที่โหดร้ายหนักหนา ไม่ยอมร่วมมือแม้มีหลักฐานแน่นหนา ปฏิเสธไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง!"จูอี้ฉวินพูดอย่างมั่นใจ “คนที่แข็งกร้าวแบบนี้ สอบสวนไปก็เสียเวลา เสียทรัพยากรของอำนาจตุลาการไปเปล่าๆ”“ผมกำลังจะขออนุมัติจากสำนักงานใหญ่ เพื่อนำตัวเขามาประหารตรงนี้เลย!”จวงจวิ้นข่ายแสดงสีหน้าเย็นชา ดวงตาฉายแววอาฆาต ถามอย่างรวดเร็วว่า “คนอยู่ไหน?”“อยู่ในห้องสอบสวน ถูกมัดไว้แล้วครับ!” จูอี้ฉวินชี้นิ้วไปทางห้องสอบสวนทูตพิเศษติงรีบอธิบาย “ท่านจวง ฟังพวกเราอธิบายก่อน ท่านเป่ยเทียนหวังสั่งให้พวกเราทำแบบนี้...”จวงจวิ้นข่ายไม่สนใจเขาเลย ก้าวยาวๆ พุ่งตรงไปยังห้องสอบสวนอย่างรวดเร็วราวกับฝนดาวตก “ฮ่าๆ เห็นแล้วยัง?”จูอี้ฉวินหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “ท่านจวงเกลียดความชั่วร้ายเข้ากระดูก และกำลังจะลงมือสอบสวนไอ้หนุ่มแซ่ลั่วนั่นด้วยตัวเอง!”“ท่านลงมือเองแบบนี้ ฉันกล้ารับประกันด้วยหัวของฉันเลย ไอ้หนุ่มคนนี้ตายแน่!”เมื่อจางอวิ๋นมู่ได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกมั่นใจเหมือนได้รับยาคลายกังวล“พี่ชายฉันเก่งจริงๆ!”จวงจวิ้นข่ายเตะเปิดประตูห้องสอบสวนออกอย่างแรง“โครม!”เมื่อเห็นลั่วอู๋ฉาง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 920

    “ท่าน...ท่านอาจารย์?”จูอี้ฉวินมองดูจวงจวิ้นข่ายคุกเข่าต่อหน้าลั่วอู๋ฉาง แล้วตกตะลึงทันทีจวงจวิ้นข่ายเป็นใครกัน?หนานเทียนหวังที่โด่งดังเป็นที่รู้จัก!ไม่เพียงแต่มีพลังแข็งแกร่งมหาศาล แต่ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนโปรดของรองผู้อำนวยการหน่วยรักษาการณ์ หวังไค่สวนด้วยความสามารถยอดเยี่ยม ผลงานโดดเด่น!พูดได้ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ใต้ใครคนเดียว แต่เหนือกว่าคนนับล้านจูอี้ฉวินในฐานะผู้บัญชาการเมือง อยู่ในท้องถิ่นสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจแต่ถึงแม้เขาจะพยายามทั้งชีวิต เขาก็ไม่มีทางไปถึงตำแหน่งของจวงจวิ้นข่ายได้!ความแตกต่างมันมากขนาดนี้!ที่สำคัญที่สุดคือ จวงจวิ้นข่ายยังหนุ่มมาก อนาคตข้างหน้าก็ไร้ขีดจำกัด ไม่อาจเปรียบเทียบกับลุงวัยกลางคนอย่างจูอี้ฉวินได้แต่คนที่มีอำนาจใหญ่โตเช่นนี้ บุคคนยิ่งใหญ่ที่คนอื่นให้การเคารพเช่นนี้ในตอนนี้ กลับคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายบ้านนอกที่ไม่เป็นที่รู้จักคนหนึ่งขอโทษเอย่างจริงใจ ขอให้ลงโทษเขา!แม้จูอี้ฉวินจะเห็นด้วยตาของตัวเอง ก็ยังไม่กล้าเชื่อว่าฉากนี้เป็นเรื่องจริงนี่คือท่านหนานเทียนหวังที่ในความทรงจำของตัวเองเคยเฉียบขาดและดุดันอย่างนั้นหรือ?เห็นชัดๆ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 921

    เพราะมันแข็งแกร่งพอ จึงถูกใช้เพื่อจัดการกับผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้แบบโบราณเรียกได้ว่าแข็งแกร่งมั่นคงมากจนไม่อาจถูกทำลายหรือแตกหักได้!ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีใครที่สามารถหลุดจากโซ่แบบนี้ได้โดยไม่อาศัยอุปกรณ์เสริมช่วยท่าทางการเคลื่อนไหวของลั่วอู๋ฉางเมื่อครู่นั้น เบาสบายอย่างมากหนึ่งในชิ้นส่วนของโซ่ ตกลงไปตรงเท้าของจูอี้ฉวินพอดีจากรอยหัก เขาเห็นแสงของโลหะผสมที่เป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจนในเมื่อโซ่ไม่มีปัญหา ก็เหลือคำอธิบายเพียงข้อเดียวไอ้คนที่ชื่อลั่วอู๋ฉางคนนี้ มีพลังที่มาก เขาเป็นเหมือนปีศาจ!“ท่านอาจารย์ก็คือท่านอาจารย์ ศิษย์นับถืออย่างยิ่ง!”จวงจวิ้นข่ายยกนิ้วโป้งขึ้นชมอย่างจริงใจลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่เป็นคนที่พวกเขาเคารพมากที่สุด แต่ยังเป็นแบบอย่างในใจของพวกเขาทุกคนอีกด้วยสามปีแล้ว จวงจวิ้นข่ายคิดว่าตัวเองพยายามฝึกฝนทุกวันโดยไม่เคยละเลยช่องว่างระหว่างเขากับท่านอาจารย์ลั่วอู๋ฉาง ควรจะลดน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ใช่หรือ?แต่ตอนนี้ดูเหมือน แม้ศิษย์กำลังพัฒนา แต่ท่านอาจารย์กลับยิ่งพัฒนามากกว่า!ช่องว่างนี้ ดูจะยิ่งห่างไกลมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วลั่วอู๋ฉางขยับตัวยืดเส้นยืดสาย

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 922

    “ฐานะของอาจารย์ฉัน พวกเธอไม่คู่ควรที่จะรู้”จวงจวิ้นข่ายแสดงสีหน้าภาคภูมิ พูดว่า “แต่ก็เถอะ เพื่อให้พวกเธอได้รู้ชัดเจนก่อนตาย ฉันจะเตือนให้สักนิด”“นั่นก็คือ แม้แต่รองผู้อำนวยการหวังของพวกเรา เมื่อพบกับท่านลั่ว ก็ต้องเรียกด้วยความเคารพว่าอาจารย์เช่นกัน!”จูอี้ฉวินตกใจจนเหมือนเห็นเทพเจ้า “อะไรนะ?!”ในความเข้าใจของเขา รองผู้อำนวยการหวังไค่สวนเป็นบุคคลที่เขาได้แต่เฝ้ามองด้วยความเลื่อมใส ไม่สามารถเทียบได้เลยในชีวิตนี้!บุคคลที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้ กลับเป็นศิษย์ของลั่วอู๋ฉางด้วย!เป็นไปได้ยังไง?รองผู้อำนวยการหวังอายุมากเท่าไร แล้วไอ้คนแซ่ลั่วนี่เพิ่งอายุเท่าไหร่?ถ้าไม่ใช่จวงจวิ้นข่ายพูดออกมาเอง จูอี้ฉวินคงไม่เชื่อแน่ๆแต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นยังมีอยู่อีก!“แต่สำหรับคำว่า “อาจารย์” ท่านลั่วไม่เคยยอมรับอย่างเต็มใจเลย”จวงจวิ้นข่ายเสริมว่า “รวมถึงรองผู้อำนวยการหวังด้วย นี่เป็นเพียงความต้องการฝ่ายเดียวของพวกเราเท่านั้น!”“อาจจะเป็นเพราะท่านอาจารย์ลั่วคิดว่า พวกเราไม่คู่ควรล่ะมั้ง!”จูอี้ฉวินตกตะลึงไปหมด ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้นราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่ไม่คู่ควรงั้นเหรอ!รองผู้อำ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 923

    “ขอส่งท่านลั่วด้วยความเคารพ!” ทูตพิเศษติงพูดด้านนอกประตู หัวหน้าทีมที่รับคำสั่งไปจับลั่วอู๋ฉางจากโรงพยาบาล และลูกทีมของเขา กำลังคุกเข่าอยู่ทั้งสองฝั่งของทางเดิน ก้มหน้าตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อลั่วอู๋ฉางเดินจากไปไกลแล้ว จวงจวิ้นข่ายก็ออกคำสั่งด้วยสีหน้าดุดัน “จับคนพวกนี้ทั้งหมดและจัดการลงโทษอย่างเข้มงวด!”“และหน่วยรักษาการณ์เมืองอันทั้งหมด ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ให้ปลดออกจากตำแหน่งทันที แล้วหาคนใหม่มาแทน!”ท่านลั่วยังจะอยู่ที่เมืองอันต่อไป!ดังนั้นเรื่องแบบนี้ จะไม่ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองเด็ดขาดไม่เช่นนั้น จวงจวิ้นข่ายคงไม่มีที่ยืนอีกแล้วเมื่อสิ้นคำพูดของเขา ทั้งหน่วยรักษาการณ์เมืองอันก็มีเสียงร้องคร่ำครวญไปทั่ว...ที่โรงพยาบาล“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”จ้าวหลิงเยว่มีสีหน้าตกใจ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง คิ้วยิ่งขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆเธอกำลังคุยโทรศัพท์ “ข่าวเป็นเรื่องจริงหรือ? โอเค...ฉันรู้แล้ว!”เมื่อซูหมิงหยาเห็นเธอวางสาย จึงรีบถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”“เรื่องนี้ดูเหมือนจะยุ่งยากนิดหน่อยแล้ว!”จ้าวหลิงเยว่ยังคงขมวดคิ้ว พูดว่า “ทางหน่วยรักษาการณ์ทำการปิดพื้นที่แล้ว ได้ยินมาว่ามี

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 924

    “ลูกสาว ลูกเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย?”ซูหมิงหยาเบิกตากว้าง ถามเสียงดังว่า “คนแซ่ลั่วถูกหน่วยรักษาการณ์จับไปแล้ว ที่นั่นปิดพื้นที่เข้าออก ไม่ว่าใครก็เข้าออกไม่ได้นะ!”“แม้แต่ครอบครัวคุณหนูจ้าวยังไม่มีทางทำอะไรได้เลย ลั่วอู๋ฉางจะอยู่ที่ร้านอาหารข้างนอกได้ยังไง?”จ้าวหลิงเยว่พูดว่า “ใช่แล้ว!”ถังเจียเจียหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดโมเมนต์ของซูเฉี่ยนเฉี่ยน แล้วพูดเสียงดังว่า “พวกคุณลองดูเองสิ!”ในภาพ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถือโทรศัพท์ถ่ายเซลฟี่เธอยิ้มหน้าสดใส ทำท่าชูสองนิ้ว และข้างๆ เธอก็คือลั่วอู๋ฉางข้างลั่วอู๋ฉางคือหลิ่วซือหยินในชุดทำงาน มีออร่าที่โดดเด่นและกำลังยิ้มหวานอยู่เช่นกันพื้นหลังในภาพคือร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองอันบนโต๊ะมีเมนูขึ้นชื่อดังของร้าน และทั้งสามคนก็ดูกำลังทานอาหารกันอย่างมีความสุข“ไม่จริง!” ซูหมิงหยาย่อมเชื่อจ้าวหลิงเยว่มากกว่าแม้แต่ตระกูลจ้าวก็ยังจัดการไม่ได้ ลั่วอู๋ฉางจะออกจากหน่วยรักษาการณ์ได้เองได้อย่างไรแถมยังไปกินข้าวอย่างเปิดเผย ข้างๆ ยังมีสาวสวยสองคนเป็นเพื่อนอีกด้วย!นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?จ้าวหลิงเยว่กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “เป็นไปไม่ได้!”“ในภาพมีเวลา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 925

    เขามีปากแค่ปากเดียว แต่พวกเธอสองคนกลับคีบอาหารให้ไม่หยุด จะทานหมดได้อย่างไร!นอกหน้าต่างกระจก มีรถลัมโบร์กีนีสีส้มคันหนึ่งขับเข้ามาประตูรถเปิดออก จ้าวหลิงเยว่ลงมาจากรถ แล้วรีบวิ่งตรงเข้าประตูร้านอาหาร“ลั่วอู๋ฉาง นายอยู่ไหน?”จ้าวหลิงเยว่ผลักพนักงานที่เข้ามาทักทายออกไป แล้วตะโกนเสียงดัง “ฉันรู้ว่านายอยู่ที่นี่ รีบออกมาเดี๋ยวนี้เลย!”ลูกค้าทั้งหลายต่างขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจใครกันนี่?ไร้มารยาทขนาดนี้!ตะโกนโหวกเหวกในที่สาธารณะ คิดว่านี่เป็นห้องนั่งเล่นบ้านเธอหรือไง?“เธอเป็นใครกัน ทำไมไร้มารยาทแบบนี้!” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนทนไม่ได้ รีบพูดเสียงดังถามจ้าวหลิงเยว่หันมาทางเสียง มองข้ามซูเฉี่ยนเฉี่ยนและหลิ่วซือหยินไปเลย ชี้มือไปที่ลั่วอู๋ฉางแล้วพูดว่า “นายยังมีอารมณ์กินข้าวอีกเหรอ?”“พูดบ้าอะไร ผมยังเจริญอาหารดีอยู่หรอก!”ลั่วอู๋ฉางชี้ไปที่จานอาหารของตัวเอง แล้วพูดว่า “ผมจะกินหรือไม่กิน มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”“นาย...”จ้าวหลิงเยว่โกรธจัด พูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง “แม่ฉันอาเจียนเป็นเลือดทั้งวัน รีบไปโรงพยาบาลกับฉันเดี๋ยวนี้ รักษาอาการให้เธอซะ!”ถ้าคำพูดนี้เกิดขึ้นในตอนเช้า จ้าวห

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 926

    จ้าวหลิงเยว่หน้าซีดทันที ความหยิ่งผยองเมื่อก่อนหายไปในพริบตาหลังจากลังเลอยู่นาน เธอจึงตัดสินใจอย่างไม่เต็มใจรัก“ลั่วอู๋ฉาง นายฝ่ายชนะแล้ว!”จ้าวหลิงเยว่กัดริมฝีปาก พูดอย่างจำใจ “ข้าขอโทษ เรื่องวันนั้นเป็นความผิดของพวกเราเอง ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ!”การพูดคำว่า “ขอโทษ” สามคำนี้ สำหรับเธอยากยิ่งกว่าปีนฟ้า!จ้าวหลิงเยว่โตมาจนถึงตอนนี้ มีแต่คนอื่นมาขอให้เธอให้อภัยแถมส่วนใหญ่ยังเป็นการคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอด้วยในฐานะลูกสาวตระกูลใหญ่ ความหยิ่งยโสและศักดิ์ศรีทำให้เธอไม่เคยและไม่จำเป็นต้องขอโทษใคร“เสียงเบาเกินไป เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร ฉันไม่ได้ยิน” ลั่วอู๋ฉางจงใจแกล้งจ้าวหลิงเยว่โกรธจนกัดฟันจนแน่น ต้องยอมเพิ่มเสียงพูดว่า “ขอโทษ!”สิ่งนี้สำหรับเธอไม่ต่างอะไรกับการถูกเหยียดหยามอย่างหนัก“เธอจำอะไรผิดไปหรือเปล่า?”ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วแล้วพูด “ผมบอกว่า ให้พวกเธอไปขอโทษผู้เคราะห์ร้าย ขอโทษผมแล้วมันมีประโยชน์อะไร!”“นาย...”จ้าวหลิงเยว่โกรธจนตาแทบลุกเป็นไฟ “เจ้ากล้าหยามข้าเหรอ?”“ชัดเจนว่าคุณต่างหากที่ไม่มีสมอง เข้าใจผิด ศิษย์พี่ฉันดีใจดีเตือนคุณ แต่คุณยังทำตัวเหมือนหมากัดลวี่ต้งปิน ไม่

บทล่าสุด

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1053

    พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1052

    หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1051

    หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status