ท่าทางที่สวีชุ่ยหลานกระโดโลดเต้นเหมือนกับป้าปากร้ายข้างทางมากภาพลักษณ์อันป่าเถื่อนและดุร้าย ทำให้คนเกียติผู้หญิงชุดแดงรีบเงยหน้าขึ้นแล้วมองพี่ตาวด้วยสายตาที่เป็นกังวลใบหน้าของพี่ตาวมืดมนราวกับน้ำลึก ไม่พูดอะไรเลย"ฮ่าฮ่าฮ่า พวกแกก็กลัวเหมือนกันเหรอ?"หยางจวิ้นหาวเริ่มเอะอะโวยวายอีกครั้งและตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง "ใครก็ตามที่ลงมือกับฉันเมื่อกี้ ใครก็อย่าคิดว่าจะรอด!""ยังมีแกด้วยนังตัวดี คิดว่ามีคนสนับสนุนก็เก่งมากเหรอ? ตอนนี้ลองเปรียบเทียบดู เบื้องหลังแกกับเบื้องหลังพี่ฉันแตกต่างกันมากแค่ไหน""พวกมีตาไม่มีแวว บอกแล้วว่าพี่สาวฉันเป็นซีอีโอของหยางซื่อกรุ๊ป ทำเป็นไม่สนใจ มีเรื่องมาถึงขั้นนี้ เป็นความผิดของพวกแกเอง!""แม่งยังยืนอึ้งอยู่ทำอะไร รีบปล่อยฉันสิ! แก นังตัวดี มาบริการเหล้าฉันด้วยตัวเอง..."สีหน้าพี่ตาวมืดลง และมีเจตนาฆ่าในดวงตากล้าลวนลามผู้หญิงของตัวเองในที่สาธารณะ!ตามปกติแล้ว หยางจวิ้นหาวจะถูกสับเป็นชิ้น ๆแต่นาทีนี้ พี่ตาวได้แต่ทน!เพราะคุณหนูบอกว่าจะมา ตอนที่ยังไม่ได้รับคำสั่งจากเธอ พี่ตาวทำไม่ได้และไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามทันใดนั้นประตูบาร์ก็เปิดออกอีกครั้งเกาช
"แน่นอน! เธอหลายเป็นขี้เถ้าผมก็จำได้"สวีชุ่ยหลานยังคงตะโกนและสาปแช่ง "ผู้หญิงคนนี้เป็นนางบำเรอของลั่วอู๋ฉาง หิวมากเกินแม้แต่ไอ้ขี้คุกก็เอาลง...""แม่ พอแล้ว!" ใบหน้าหยางหว่านอวี่มืดลง"ฉันยังพูดไม่พอ เธอให้ฉันพูดให้จบ!""หุบปาก ฉันบอกว่าพอแล้ว!""ลูกสาว เธออยู่ฝ่ายไหน?" ดวงตาสวีชุ่ยหลาน เบิกกว้าง ท่าทางตำหนิลูกสาวของเธอหยางหว่านอวี่กำลังจะบ้าไปแล้ว เธอกัดฟันแล้วพูดว่า "ท่านนี้ก็คือ ประธานเสี่ยวเกา!""อะไรนะ?!" ดวงตาสวีชุ่ยหลานเบิกกว้าง"เธอ...เธอคือประธานเสี่ยวเกา?" หยางจวิ้นหาวก็ตกใจเช่นกันผู้หญิงของลั่วอู๋ฉาง แท้จริงแล้วคือเกาชิงเหยียน เจ้าหญิงตัวน้อยของเกาซื่อกรุ๊ป?เป็นเรื่องตลกมาก!ไอ้ขี้คุกคนหนึ่ง แม้แต่ตระกูลหยางของพวกเขาก็ดูหมิ่น เกาชิงเหยียนชอบเขาตรงไหน?"ทำไม พวกคุณไม่รู้จักชื่อของฉันเหรอ?"เกาชิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ตอนนั้นที่โรงแรมฮิลตัน ฉันสั่งให้หักขาทั้งสองข้างของคุณ และได้บอกชื่อตัวเอง พวกคุณจำไม่ได้เหรอ?"อันที่จริงเกาชิงเหยียนก็สับสนกับเรื่องนี้มากเช่นกัน!หยางหว่านอวี่ไม่เคยพูดถึงความแค้นครั้งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเกาชิงเหยียนคิดเสมอว่าเพื
หยางหว่านอวี่สับสนมากทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าความเกลียดชังที่ตัวเองมีต่อลั่วอู๋ฉางดูเหมือนจะผิดเธอเคยคิดว่าหวังจื่อเฟิงเป็นคนดี แต่ลั่วอู๋ฉางเป็นคนหยิ่งผยอง รุนแรง ไม่มีความทะเยอทะยาน และไร้ค่าเลยทุกครั้งก็เป็นความช่วยเหลือและทุ่มเทอย่างเงียบ ๆ ของหวังจื่อเฟิงลั่วอู๋ฉางไม่พูดประชดอยู่ข้าง ๆ ก็ยืนดูการแสดงอย่างหน้าด้านการหย่ากับเขาเป็นทางเลือกที่ถูกต้องอย่างแน่นอนแต่ไม่นานก็ได้รับการยืนยันว่าหวังจื่อเฟิงเป็นคนขี้โกงและลั่วอู๋ฉางเป็นคนถูกแน่นอนว่าหยางหว่านอวี่ไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าการหย่าร้างนั้นผิด บอกตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าลั่วอู๋ฉางให้คนมาทำร้ายแม่และพี่ชายของตัวเองแค่เรื่องนี้ก็ไม่สามารถให้อภัยเขาได้แล้วในขณะนี้ได้รับการยืนยันแล้วเหตุผลเดียวนี้ก็ไม่มีอีกต่อไปหรือว่าตัวเองผิดจริง ๆสวีชุ่ยหลานและหยางจวิ้นหาวเหงื่อตก เดิมทีพวกเขาต้องการพึ่งประธานเสี่ยวเกาเพื่อพลิกเรื่อง แต่พวกเขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ขึ้นมาก็หลับหูหลับตาด่าคนอื่น แถมยังต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ ทำให้คนอื่นขายหน้าจบแล้ว!คราวนี้จบเห่แล้วแน่ ๆ!"ประธานหยาง ยังมีอะไรจะถามอ
แน่นอนว่าหากเกาชิงเหยียนเข้าข้างตระกูลหยาง และขอให้ทั้งสองฝ่ายไม่เอาเรื่องกัน ถึงพี่ตาวจะไม่พอใจมากแค่ไหนก็จะทำตามคำพูดหยางหว่านอวี่มาถึงริมฝีปากหลายครั้งแต่ก็พูดอะไรไม่ได้"คุณลั่ว คุณคิดว่าไง?"มองผิวเผินเกาชิงเหยียนกำลังขอคำแนะนำ จริง ๆ แล้วเพราะลั่วอู๋ฉางอยู่ด้วย จึงไม่สามารถให้เธอตัดสินใจได้ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าทำผิดพลาดในความเป็นจริง เกาชิงเหยียนและพี่ตาวอยู่ในสภาพจิตใจเดียวกันทั้งต้องการที่จะรักษาความยุติธรรม แต่ก็กลัวว่าจะล่วงเกินผู้สูงศักดิ์ความตั้งใจเดิมของเกาชิงเหยียนคือการจัดการกับหยางจวิ้นหาวอย่างรุนแรงไอ้หมอนี่ถูกตีไปครั้งหนึ่งยังไม่เข็ดแสดงว่ายังอยากโดนอยู่แต่ถ้าคุณลั่วบอกว่าไม่ให้เอาเรื่อง เกาชิงเหยียนก็จะเห็นด้วยทันทีจากนั้นค่อยใช้วิธีอื่นเพื่อเอาใจและชดเชยพี่ตาวเป็นการส่วนตัว"พี่หงใช่ไหม?" ลั่วอู๋ฉางทักทายผู้หญิงชุดแดงพี่หงรู้สึกยินดีและพูดอย่างเร่งรีบ "ดิฉันต่ำต้อย ไม่กล้าให้คุณลั่วเรียกแบบนี้ได้!"ลั่วอู๋ฉางยิ้มเล็กน้อยและถามว่า "เมื่อกี้เขาใช้มือไหนลวนลามพี่?""มือขวา!" พี่หงตอบ เธอไม่รู้ว่าลั่วอู๋ฉางหมายความว่าไง"แล้วเขาใช้มือข้างไหนตีคน ใช
"พี่จุ้นเหวิน!"หยางหว่านอวี่สีหน้าดีใจสวีชุ่ยหลานตะโกนอย่างตื่นเต้น "ฮ่าฮ่า กำลังเสริมของฉันมาแล้ว!"หยางจวิ้นหาวเหมือนเห็นคนช่วยชีวิตได้ "พี่จุ้นเหวินพี่มาถูกเวลาจรริง ๆ รีบช่วยผมเร็วเข้า...""ไอ้สารเลวพวกนี้ตีผม แถมยังจะหักมือผมอีก พี่รีบสั่งสอนพวกเขาให้ผมที!"จินจุ้นเหวินก้าวใหญ่เข้ามา ตามมาด้วยลูกน้องอีกสี่คนพวกเขาทั้งสี่เปล่งรัศมีอันทรงพลังของนักรบ และหนึ่งในนั้นคือชายวัยกลางคนที่มีใบหน้ากลม มีรัศมีที่แข็งแกร่งที่สุดห่างออกไปสิบเมตรก็ยังสัมผัสได้ถึงความกดดันที่เข้ามา"เสี่ยวอวี่ คุณลุงคุณป้า พวกคุณไม่ต้องกังวล วันนี้มีผมจินจุ้นเหวินอยู่ ใครก็คิดอย่าจะทำร้ายเสี่ยวหาวแม้แต่นิด!"จินจุ้นเหวินเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ราวกับว่าเขาเป็นราชาผู้ควบคุมโลกเกาชิงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย "คุณแซ่จิน?"จินจุ้นเหวินพูดอย่างภาคภูมิใจ "ลูกชายคนโตของจินเหยากรุ๊ป จินจุ้นเหวินก็คือฉัน"พอคำพูดนี้ออกมาเสียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก็ดังขึ้นโดยรอบทันที"โอ้พระเจ้า ที่แท้ก็จินเหยากรุ๊ป! ในต่างประเทศ พวกเขาเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่ก่อตั้งโดยคนประเทศมังกร""ฉันได้ยินมาว่านายน้อยตระกูลจินดำ
พี่ตาวต้องเปลี่ยนท่าเพื่อป้องกัน และหมัดทั้งสองคนก็ชนกันในอากาศร่างทั้งสองแยกจากกันอย่างรวดเร็ว และหยางจวิ้นหาวก็สามารถหลบรอดไปได้ลั่วอู๋ฉางเหลือบมองชายคนนั้นด้วยหางตาไอ้หมอนี่เป็นกุนซือที่เคยอยู่กับสวีเทียนมาก่อน และเขาเป็นคนเดียวที่รอดไปได้ในเหตุการณ์อาคารเทียนเซี่ยในความเป็นจริง ลั่วอู๋ฉางก็สังเกตเห็นการมีอยู่ของบุคคลนี้ตอนที่เขาเข้าไปในอาคารเทียนเซี่ยไม่ใช่เขาโชคดีฉวยโอกาสหนีไปเอาชีวิตรอดไปได้ แต่เป็นเพราะลั่วอู๋ฉางจงใจปล่อยไปจุดประสงค์นั้นง่ายมาก!ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปล่อยเชือกตกปลาใหญ่!แม้ว่าสวีเทียนจะมีอิทธิพลมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสสัมผัสกับคนระดับสูงที่สามารถใช้หนอนงูทองได้ลั่วอู๋ฉางคิดว่าต้องมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังตระกูลสวีในขณะนี้ กุนซือปรากฏตัวอยู่ข้างจินจุ้นเหวิน ทุกอย่างก็ได้รับการอธิบายแล้วกุนซือคิดว่าเขาซ่อนตัวได้ดีและไม่ถูกเปิดเผยต่อหน้าลั่วอู๋ฉาง ดังนั้นเขาจึงปรากฏตัวพร้อมจินจุ้นเหวินอย่างกล้าหาญโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกเปิดเผยนานแล้วจุดประสงค์เดิมของตระกูลจินคือการสนับสนุนสวีเทียนให้เข้ามาแทนที่ตระกูลเกา และควบคุมทั้งฝ่ายขาวดำของเมืองจิงไห่แม้ว่า
“ผลัวะ!”ด้วยเสียงอู้อี้ พี่ตาวรู้สึกราวกับว่าเขาถูกรถบรรทุกเร่งความเร็วชนเข้าที่หน้าอก และเขาก็ลอยไปข้างหลังอย่างควบคุมไม่ได้!เขากลิ้งตัวอย่างรุนแรงในอากาศ เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา"ฟู่...อึก!"พี่ตาวกระแทกโต๊ะสามโต๊ะติดต่อกันและถูกฝังอยู่ในกองซากปรักหักพัง"สามี!"พี่หงรีบกระโจนเข้าไปเอามือเท้า "ควัก" หัวพี่ตาวออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด พี่หงก็ร้องไห้ออกมาผู้ชมทั้งหมดตกตะลึง ตาค้างพูดไม่ออก!ความเก่งของพี่ตาวเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองจิงไห่ แต่คาดไม่ถึงว่าแม้แต่อีกฝ่ายแค่กระบวนท่าเดียวก็รับไม่ได้ ก็โดนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแม่เจ้า!คนเราดูที่หน้าตาไม่ได้จริง ๆ อ้วนเตี้ยคนนี้ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน!ลูกน้องของพี่ตาวต่างก็หวาดกลัวเช่นกัน หยางจวิ้นหาวฉวยโอกาสหลุดพ้นจากมัด เดินกะเผลกวิ่งเข้าไปหาจินจุ้นเหวินเขาประจบสอพลอเหมือนหมาปั๊กว่า "พี่จุ้นเหวิน คนของพี่เก่งจริง ๆ""รีบต่อเถอะ จัดการพวกเขาให้หมด ผมอยากเห็นพวกเธอร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด"สามีภรรยาตระกูลหยางก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน รูจมูกเกือบจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ท่าทางหยิ่งผยองน่าขยะแขยงมากจินจ
"อะไรแค่ฝังสองสามเข็มก็พอ ถ้านายสามารถฝังให้หายได้ ฉันจินจุ้นเหวินจะใช้แช่เดียวกับนายทันที!"ลั่วอู๋ฉางพูดโดยไม่หันกลับมามอง "นายไม่คู่ควร! ตระกูลลั่วของเราไม่มีลูกหลานที่ชั่วร้ายอย่างนาย""แม่ง นายกล้าดียังไงมาว่าพี่จุ้นเหวินของฉัน" หยางจวิ้นหาวเริ่มโกรธอีกครั้งเขาเหมือนพ่อแม่ของเขา ทั้งสามคนถูกแกะสลักจากแม่พิมพ์เดียวกันโดยสิ้นเชิงลูกน้องหลายคนวางพี่ตาวไว้บนโต๊ะตามคำสั่ง ลั่วอู๋ฉางก็เริ่มทำการฝังเข็มภายใต้แสงไฟ เทคนิคอันแพรวพราวของเขาน่าทึ่งมาก"ไอ้หมอนี่กลับรู้วิธีการฝังเข็มจริง ๆ?"หยางจวิ้นหาวดูประหลาดใจและถามว่า "แม่ เข็มที่เขาใช้แบบเดียวกับที่เราเห็นที่โรงแรมฮิลตันครั้งก่อนใช่ไหม?"สวีชุ่ยหลานเห็นว่าสีหน้าของลูกสาวของเธอดูน่าเกลียดทันทีเมื่อได้ยินคำว่า "โรงแรมฮิลตัน" และเธอก็พูดกับลูกชายอย่างโกรธ ๆ ว่า "เกี่ยวอะไรกับนาย ไม่ต้องยุ่ง!"หยางจวิ้นหาวไม่เห็นด้วยและพูดต่อ "ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะสามารถรักษาคนให้หายได้จริง ๆ นี่เป็นเพียงการมองข้ามการแพทย์และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่..."วินาทีต่อมาเขาก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปภายใต้การจ้องมองที่ประหลาดใจนับไม่ถ้วน แต่เดิมพี่ตาวใ
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค