พอสบตาคู่สวย..หัวใจของเด็กชายเต้นไม่เป็นจังหวะ..เหมือนอะไรบางอย่างที่เฝ้าตามหามาตลอด..มายืนอยู่ตรงหน้า..เขาหามันเจอแล้ว!!รวมถึงความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างวูบเข้ามาในจิตใต้สำนึก..มันเตือนเขาว่า 'อย่าปล่อยมือ'แต่ดวงตาคู่สวยนั้นพอปรับโฟกัสได้กับมีริ้วรอยความเกลียดชังพาดผ่าน..ที่เจ้าตัวเองคงไม่ทันรู้ตัวว่าถูกส่งมาด้วย..เพียงแค่วูบเดียวที่แสดงออก..ถึงเปลี่ยนกลับเป็นความงัวเงียแบบคนพึ่งตื่นแต่ถึงแม้จะเป็นแค่วูบเดียว..มัน..ก็ทำให้ใจคนมองกระตุกวูบด้วยความเจ็บปวด..ความรู้สึกโหวงที่เขาไม่เข้าใจ..กรีดลึกลงในความรู้สึกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน..ทำไมเธอต้องเกลียดเขาด้วย!!"นายปลุกฉันทำไม?"เสียงหวานแหบแห้งอย่างคนที่พึ่งตื่นเด็กหญิงตบหน้าตัวเองเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ..เธอมองนาฬิกาข้อมือสีขาวเรือนเล็กของขวัญที่ป๊ะป๋าซื้อให้..มันกำลังบอกเวลาเที่ยงสี่สิบห้านาที..ยังเหลืออีกห้านาที..เวลาในมือถือถึงจะปลุก..ดวงหน้าหวานสวยที่ยังคงมีแก้มเปลี่ยนมาบูดบึ้งทันทีเธอหรี่ตามองเด็กผู้ชายตรงหน้า..พร้อมกอดอก..ร่างบอบบางเอนไปข้างหลังเล็กน้อย..เมื่อเห็นเด็กชายไม่ตอบ..เธอจึงส่งคำถามต่อ"นายชื่อคีรี?""อื่อ"เด็กชายรับคำ..ด
"ฮัลโลววว..เฮียหยางทำอะไรอยู่ครับบบ"น้ำเสียงอารมณ์ดีของญาติผู้น้องนำมาก่อนตัว..ร่างผอมสูงเลือกจะนั่งบนโซฟาหนังรับแขกสีดำตัวใหญ่"อื่อ...ฉันก็ทำงานอะดิ..จะให้ทำอะไร?"ภาวิทย์ทำเพียงหยักไหล่พร้อมส่งยิ้มอารมณ์ดีแบบคนไม่คิดอะไรมากมาให้..ในขณะที่ภวิศวางถุงผ้าลายดอกไม้ของหญิงสาวในห้องไว้บนโต๊ะ"สวัสดีครับเฮีย"เสียงเข้มขรึมของน้องชายต่างแม่..ส่งผลให้คนเป็นพี่ยิ้มรับ..ก่อนจะส่งคำถามกลับ"อื่ม..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ""นั้นซิครับ..ตั้งแต่วันนั้น..บนเรือ"เสียงคนเป็นน้องเริ่มเบา..ดวงตาชั้นเดียว..หลุบลงภากรพยายามสำรวจสีหน้าความรู้สึกคนตรงหน้า..วันนั้นเขาโดนทำร้ายที่ศีรษะจากด้านหลัง..ก่อนจะมีใครบางคนผลักลงทะเล..ความรู้สึกที่ค่อยๆ ด่ำดิ่งลึกลงใต้ทะเลยังติดในใจ..ทุกวันนี้เขายังแปลกใจ..เขารอดมาได้ยังไง"เฮียหยางสบายดีมั้ย?""ก็สบายดี..ว่าแต่นายเถอะหายหน้าหายตาไปเลยนะ""ผมเองยุ่งๆ กับโปรเจคl.s.e.h ที่ไปลงทุนต่างประเทศ..เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านนะ.. ถ้ายังไงว่างๆ ผมขอนัดปรึกษาหน่อยนะครับ""ได้ซิ..ว่าแต่..วันนี้ทำไมขนกันมาเยอะเลย..มีอะไรกันหรือเปล่า?"น้ำเสียงคนเป็นพี่ถามอย่างสงสัย"ก็น้องเรย์อะดิเฮีย..บ่นว่า
"คุณหญิงชญานิน..ฉันถามคุณได้มั้ยคะ? ลูกสาวคุณสติยังดีอยู่หรือเปล่า"น้ำเสียงใสกระจ่าง..พร้อมดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่ตอนนี้พราวระยับด้วยเห็นขันกับพฤติกรรมเหมือนนางร้ายยุค90..ส่งผลให้แม่สามีวางสร้อยเพชรในมือลงทันที"อันธิยา..เธอกำลังด่าลูกสาวฉันอยู่นะ""อัญไม่ได้ด่านะ..อัญแค่แปลกใจกับตรรกะของคุณดาริกา"น้ำเสียงคนตัวเล็กยังอารมณ์ดี..เธอยืนกอดอก..ทั้งยังใช้สรรพนามเต็ม"คุณหญิง กับคุณดาริกาคิดตามอัญนะ..คือเฮียหยาง กับคุณเรวดี รู้จักกันมายี่สิบกว่าปี..ถ้าคุณเรวดีจีบเฮียหยางติด..คงจีบติดไปนานแล้ว..เฮียหยางคงไม่มา 'เอา' อัญหรอกจริงมั้ย?"ยัยตัวเล็กยังยิ้มยียวนที่อัญธิยามั่นใจในตัวสามีมาก..ส่วนนึงเพราะเคสของเรวดีกับเฮียหยาง..คล้ายเธอกับพี่รามิลเหลือเกิน..ทั้งสถานะพี่ชายข้างบ้าน..ทั้งเธอกับเรวดีเป็นฝ่ายรุก..จีบผู้ก่อน..เอาจริงๆ หญิงสาวก็แอบเห็นใจคู่แข่งทางความรักอยู่เหมือนกัน..คนนึงแอบรักเกือบยี่สิบปี..ส่วนเธอใช้เวลาจีบพี่เขาไม่กี่เดือนก็ติดอารามอยากแกล้งสองแม่ลูก..ยัยแบนจอมแสบยังไม่ยอมหยุด..ปากรูปกระจับจงใจจีบปากจีบคอให้คนฟังหงุดหงิดใจเล่น"ของแบบนี้..บางที..มันไม่เกี่ยวกับ..หน้าตา..ฐานะ..การศึกษา
แต่เหมือนคนเป็นอาจะไม่เข้าใจ..ใบหน้าอวบอ้วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ"คุณอารู้มั้ยครับ..กระแสเงินสด บริษัทlowaw มีปัญหา"คนเป็นหลานยิงคำถามทันที..คนเป็นอาชะงักก่อนยักไหล่อย่างคนไม่คิดอะไรมาก"หยางแกนะคิดมากไป..ฉันไม่เหมือนแกที่ไม่เคยไว้ใจใคร..ฉันเชื่อมั่นในทีมบริหารของบริษัท..คนพวกนี้มีแต่มืออาชีพทั้งนั้น..แล้วแกรู้มั้ยบริษัทของครอบครัวฉันปีที่แล้วทำกำไรได้กี่ร้อยล้าน?""...""คนพวกนั้นมีแต่ระดับหัวกะทิจบนอก บางคนก็เป็นเด็กทุน..ไม่มีทางเลยที่จะบริหารงานพลาด"คุณอาสายวิชาการของเขายังคงพล่ามและเชื่อใจในพนักงานที่แต่ละคนรับมาโปรไฟล์ดีแทบทั้งนั้นส่วนตัวเขากลับมองว่า..คนจบนอกก็เก่ง..แต่ก็ไม่ใช่วางทุกอย่างให้กับคนที่ 'เรียนเก่ง' เพราะบางคนจบในประเทศ..แต่ขยัน..มีความคิดยืดหยุ่น..มีความเข้าใจในตัวธุรกิจ..คนพวกนี้ก็ทำงานเก่งไม่แพ้กัน..แต่แน่ละ..คนพวกนี้จะไม่สามารถเติบโตได้เลยในบริษัทอารอง..ไม่ใช่แค่คนในบริษัทเท่านั้น..แม้แต่ลูกๆ เอง ก็ได้รับความกดดันเรื่องเรียนไม่แพ้กัน..โดยเฉพาะลูกสาวสองคน..ภาวิณี กับภารดี เรียนต้องติดท็อปสามของสายชั้น..ในขณะที่ภาวิทย์กับโชคดีกว่ามาก..เพราะเป็นลูกชายคนเดียว..พ่อแม
วันเสาร์หน้าตึกเป่ย"แน่ใจนะไม่ให้ป๊ะป๋าไปส่ง"เสียงคนเป็นพ่อเต็มไปด้วยความงอแง..เขาไม่เข้าใจเลยว่า 'วันของครอบครัว' ทำไมลูกสาวต้องไปทำงานสาธารณประโยชน์ด้วย"ไม่เป็นไรค่ะ..หนูนัดกับลี่ไว้..อีกอย่างถ้าหนูไม่ไป..เพื่อนๆ อาจจะทำไม่เป็น..หนูเป็นคนเสนอผอ. หนูต้องไปช่วยนำค่ะ"เด็กหญิงพูดไปด้วยผูกเชือกรองเท้าผ้าใบไปด้วย..คนเป็นแม่วิ่งกึ่งเดิน..ก่อนจะยื่นถุงใส่รองเท้าแตะ..กับกระเป๋าเป้อีกใบมาให้เด็กหญิงในเสื้อยืดสีเหลืองลายดอกทานตะวันสีแดง..กางเกงยีนพอดีตัวสามส่วน ผมดำสนิทมีที่คาดผมสีแดงเผยใบหน้าหวานมีเสน่ห์ เด็กหญิงหันมายิ้มขอบคุณ"ให้ม๊ะม๊าไปส่งมั้ยลูก?""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคุณลุงชัยมารับแล้วค่ะ""โอเคจ้า..ยังไงถ้าน้องอายติดอะไรโทรมาได้นะลูก""ค่ะ..รักม๊ะม๊า..ป๊ะป๋านะ"เด็กหญิงเข้าไปหอมแก้มคนเป็นแม่..ก่อนจะไหว้สวัสดีคนเป็นพ่อ..รถประจำครอบครัวก็มาจอดหน้าตึกพอดีในรถมีเด็กหญิงภารดีนั่งอยู่ก่อนเหมือนเช่นทุกวัน..ดารินหันไปทักทายลุงชัยคนขับรถ..พอหันมามองคนเป็นญาติ..ใบหน้าสวยหวานมุ่ยลงทันที"เธอแต่งตัวอะไรของเธอเนี่ยลี่""ทำไมเหรอ..ฉันแต่งแบบนี้ไม่สวยเหรอ? ก็ไหนอายบอกว่าจะไปวัดไง?"ภารดีก้มมองชุดเด
ณ ตึกตงของครอบครัวคุณอดิศัยร่างอวบของคุณหญิงชญานินนั่งกระสับกระส่าย...นาฬิกาบนผนังห้องบอกเวลา เจ็ดโมงเช้าตั้งแต่เมื่อคืนดาริกายังคงไม่กลับบ้าน..ลูกขอไปฉลองวันเกิดเพื่อนที่ผับหรู..ซึ่งแก๊งเที่ยวก็เป็นลูกหลานไฮโซด้วยกันแต่เดิมคุณหญิงชญานินค่อนข้างพอใจที่ลูกคบเพื่อนฝูงจากสังคมเดียวกัน..แต่หลังๆ เธอเริ่มไม่สบายใจ..เพราะแก๊งเพื่อนไฮโซพากันเที่ยวทุกคืน..บางวันถึงขนาดไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไม่ไหว..แต่ไม่มีครั้งไหนที่ดาริกาไม่กลับบ้าน หรือโทรหาไม่รับสายครั้งคนเป็นแม่โทรหาลูกชายคนโตที่ปกติชอบอยู่คอนโดมากกว่าอยู่บ้าน..ภวิศเองก็ไม่รับสายเช่นกัน..ส่วนสามีเธออยู่ระหว่างนั่งเครื่องเดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนที่ยุโรป..ยิ่งไม่มีที่ปรึกษา..ความรู้สึกไม่สบายใจท่วมท้นใจส่งผลให้เมื่อคืนคุณหญิงชญานินไม่ได้หลับได้นอน..ร่ำๆ จะโทรแจ้งความก็เกรงลูกสาวจะเสียชื่อเสียง..อีกอย่างคนเป็นลูกก็ยังหายตัวไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงจวบจนแปดโมง คนใช้ในบ้านวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา"คุณผู้หญิงคะ คุณหนูดาริกากลับมาแล้วค่ะ" ร่างอวบของคนเป็นแม่รีบถลาเข้าห้องโถงด้วยความห่วงลูก..ร่างเพรียวระหง..อกเป็นอกเอวเป็นเอวในชุดสายเดียวสีแดงสุดแส
ณ ตึกเป่ย ตระกูลกิติวรกุลชัยตอนที่อันธิยาเห็นเด็กชายคีรีครั้งแรกก็นึกประหลาดใจ..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลของคนเป็นแม่เบิกกว้าง..แน่ละ..ตั้งแต่เล็กยันโตเจ้าหญิงน้อยของเธอ..มีเพื่อนที่เรียกว่าสนิทยิ่งกว่าน้อยถึงน้อยมาก..เพื่อนที่พามาที่บ้านมีแค่คนเดียว คือ เด็กหญิงสายไหมแล้วนี่อะไร..ลูกสาวพาเด็กผู้ชายเข้าบ้าน!!! แถมไม่ใช่เด็กผู้ชายธรรมดา..แต่เป็นผู้ชายที่หล่อมาก..รูปหน้า..ปากคอคิ้วคางจมูก..โดยเฉพาะดวงตาล้วนมีเสน่ห์..เหมาะเจาะกันไปทุกส่วน..ลูกสาวเธอพัฒนาแล้ว!!"นี้ใครคะน้องอาย"คนเป็นแม่ตั้งคำถามทันทีที่เห็นหน้าเด็กชาย"หนูเก็บมาได้ค่ะ..ฝากม๊ะม๊าดูแลหน่อยนะคะ..หนูขอไปอาบน้ำก่อน" พูดจบเด็กหญิงรีบวิ่งขึ้นบ้านเนื้อตัวสั่นเทา..ทิ้งเด็กชายที่ยืนซึมไว้กับแม่'คนอื่นเก็บลูกหมา..ลูกแมวกลับบ้าน..แต่ลูกฉันเก็บผู้หน้าตาดีกลับบ้าน..เริศมากลูกสาวฉัน'ยัยแบนสะท้านโลก..ผู้ซึ่งชื่นชอบมนุษย์ผู้ที่หล่อเหล่ายิ้มรับอารมณ์ดี"สวัสดีจ้ะ..น้าชื่ออัญนะ..แล้วเราชื่ออะไร""อะ..เอ่อ..ผมชื่อเด็กชายคีรีครับ..ผมเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเด็กหญิงดาริน""อ๋อ..เพื่อนร่วมห้องนี้เอง..งั้นเรียกน้าว่าแม่ก็ได้จ้ะ..แต่ตอนนี้เราไปอาบน้ำก
วันเสาร์วนมาอีกรอบ..วันแห่งครอบครัวใช่!! นั้นคือก่อนที่เด็กชายคีรีจะเข้ามาอยู่ด้วย..ครอบครัวของเขามีแพลนจะพาเด็กหญิงดารินไปเที่ยวสวนสนุกตามที่เคยสัญญาไว้..ซึ่งกว่าคนเป็นพ่อจะเคลียงานเรียบร้อย..ก็ใช้เวลาเกือบสองเดือนวันนี้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อยู่ในเสื้อยืดสีฟ้าสกรีน 'รักเมียที่สุดในโลก'..กางเกงยีนขายาวสีซีด..รองเท้าผ้าใบสีแดงดำทะมัดทะแมง..ส่วนภรรยาจอมป่วนอยู่ในเสื้อยืดสีฟ้า 'รักสามีที่สุดในโลก' กางเกงยีนขายาวเช่นกันในขณะที่ลูกสาวคนเดียว..ม๊ะม๊าหาเสื้อสีเดียวกันสกรีนคำว่า 'ลูกสาว' แต่ทุกอย่างคงดูไม่ผิดปกติอะไร..ถ้าไอ้ต้าวเด็กชายที่เนียนเข้ามาอยู่ด้วย..จะไม่ถูกจับใส่เสื้อสีฟ้าสกรีนคำว่า 'ลูกเขย' ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าตัวหามาจากไหนพอเด็กหญิงตัวน้อยเห็นแทบร้อง..ในขณะที่คนเป็นพ่อพูดไม่ออก..ร่ำๆ จะจับเด็กชายมาตีก้นที่บังอาจมาจีบลูกสาวเขา..แต่ซักไซ้ไปมาถึงได้รู้ว่าเป็นผลงานของคุณเมียที่สรรหามาให้ใส่"แบน..เฮียสั่งเลยนะให้เด็กนั้นไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้!!"ไอ้คนหวงลูกเริ่มขู่..แต่ยัยตัวเล็กยังยิ้มปะเหลาะ"เฮียหยางรู้มั้ย..เด็กผู้ชายดีๆ หายากนะ..ถ้าเจอแล้วต้องรีบจองไว้ก่อน"หญิงสาวกระซิบบอก..ราวกับกา
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ