ร้านอาหารในโรงเรียนค่อนข้างใหญ่..มีสารพัดอาหารนานาชาติ..ทั้งอาหารญี่ปุ่น..อาหารเกาหลี..อาหารไทย..ที่สำคัญมีร้านขนมไทยกับร้านบิงซูของโปรดของเด็กหญิงด้วย..ใบหน้าสวยหวานยิ้มกว้างทันที'น้องอายอยากกินของหวานก็กินได้เลยนะ..เงินแค่นี้ป๊ะป๋ามีเลี้ยง'แน่ละ..วันนี้เธอจะกินของอร่อยๆให้พุงกางไปเลย..ร้านอาหารของโรงเรียนใช้ระบบการสแกนบาร์โค๊ตจากapp NMMO ซึ่งพี่ปาลเล่าให้เธอฟังว่าถูกพัฒนาจากนักเรียนของโรงเรียน!วันนี้เด็กหญิงเลือกเมนูที่กินง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ เพราะตั้งใจเผื่อท้องไว้กินของหวาน ร่างบอบบางมองหาที่ว่างจนเจอ..มุมนึงของโรงอาหาร..ขณะเดียวกันเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายเริ่มทยอยลงจากอาคารตอนที่ปาล และบรรดาเพื่อนๆของพี่เขาเดินเข้ามา..ความหน้าตาดี ความสามารถทางกีฬาและการเรียน..เรียกสายตาจากคนในโรงเรียนได้ชะงัก..เธอมารู้ทีหลังว่าหลานของพ่อบ้านสุรชัยเป็นถึงรองประธานนักเรียนดวงตาคู่สวยของเด็กหญิงมองตามอย่างแปลกใจ ก่อนที่จะสบตากับดวงตาคมคู่หนึ่งของเด็กหนุ่มในกลุ่มที่จัดว่าหล่อมาก..และให้ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง..ซึ่งเด็กหญิงตอบไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนส่วนพี่ปาลเห็นเธอเข้าก็เดินยิ้
เสียงของคุณครูเรียกคนทั้งห้องหันมาดูใบหน้าสวยหวาน..ที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อจากการออกกำลังกาย..เด็กหญิงทำเพียงเสียง..อ๋อ..ในลำคอ..ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยท่าทางของเด็กน้อยอายุสิบสามชวนให้คนเป็นครูหงุดหงิด..นี้ใช่ท่าทางของเด็กที่ไหนกัน!!!..ส่วนฟารินผู้เสียหายก็เอาแต่พร่ำบ่นว่าแหวนทองวงน้อยเป็นของขวัญที่ย่าซื้อรับขวัญให้เธอตั้งแต่เกิด..เธอใส่คล้องคอมาตลอด..ตอนเช้าถึงห้องเรียนก็ยังมีอยู่"เด็กหญิงดาริน..ครูคงต้องรายงานเรื่องนี้กับผู้ปกครองของเธอ"คนเป็นครูสรุปทันที"หลักฐานละคะ?"น้ำเสียงเยือกเย็น ไม่ต่างจากสีหน้า ส่งผลให้อาจารย์สุณีชะงักไปเล็กน้อย..ถ้าเป็นเด็กคนอื่น บรรยากาศกดดันของเพื่อนๆ ในห้องคงทำให้กลัวจนตัวสั่น..แต่ไม่ใช่เด็กหญิงดาริน!!"หลักฐานคือการที่เธอออกจากห้องเรียนเป็นคนสุดท้ายไง""แค่นี้นี่นะคะ..แล้วกล้องวงจรปิดมีอัดตอนหนูเอาของไปมั้ยคะ"เด็กหญิงทัดผมที่หู ก่อนจะชี้ไปทางกล้องที่ติดไว้ตรงมุมห้อง"มันเสีย!!! ถ้ามี..ครูคงไม่ต้องมาเสียเวลาแบบนี้หรอก""อ๋อ..ค่ะ..หลักฐานก็ไม่มี..ครูยังกล้าใส่ความเด็กอีก"คำพูดเรียบเรื่อย ส่งผลให้คนเป็นครูเม้มปากแน่น แต่ยังคงหาเหตุผลมาซัพพอร์ต
เช้าวันต่อมาเด็กนักเรียนทั้งสามก็ยังคงนั่งรถโรงเรียนมาด้วยกัน..และเช่นเคยญาติคนเดียวของเธอ..ยังคงแต่งตัวเรียบร้อย..หน้าไม่แต่ง..ผมถูกมัดเป็นหางม้าเส้นผมสักเส้นยังไม่กระดิก..ช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่ประหลาดในสายตาของดารินเหลือเกิน..การเป็นตัวของตัวเองมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?ส่วนพี่ปาลยังคงชวนน้องน้อยคุยตลอดทาง..จินจินของเหล่ากงจึงถามด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการเข้าไปเป็นสภานักเรียน..คนเป็นพี่อธิบายอย่างใจดี..เด็กหญิงเองก็ตั้งใจฟังอย่างสนใจจนสรุปได้ว่าเด็กมัธยมต้นแต่ละห้องจะส่งคนเป็นตัวแทนเข้าไปในสภานักเรียนเพื่อประชุมห้องละสองคน..ปกติจะเป็นรองหัวหน้ากับหัวหน้าห้อง..ส่วนคณะทำงานจะเลือกจากชั้นมัธยมปลายปีที่5..ซึ่งปีนี้คนที่ได้เป็นประธานก็คือพี่ไคนั่นเองดวงตาคู่สวยของเด็กหญิงดารินะราวระยับ..วันนึงเธอจะเข้าไปทำงานสภานักเรียนให้ได้..เด็กหญิงสัญญากับตัวเอง!!!จวบจนนาฬิกาขึ้นโชว์ 07:30น.รถโรลส์-รอยซ์คันใหญ่สีดำจอดเทียบหน้าตึกกลาง..เด็กหญิงภารดีลงจากรถเป็นคนแรก..เธอเดินหน้าเชิดทิ้ง..เด็กหนุ่มและเด็กหญิงไว้เพียงสองคน..ร่างสูงผอมของคนเป็นพี่ เดินนำคนเป็นน้องไปส่งที่ตึกนักเรียนชั้นมัธยมต้น"เด
"คุณครูเคยคิดมั้ย..ว่าถ้าคนที่โดนเป็นน้อง..เป็นลูกของคุณครู..คุณครูจะรู้สึกยังไง? แล้วเด็กคนนั้นจะทุกข์ทรมานกับชีวิตในอีกหกปีข้างหน้าขนาดไหน?""...""หนูถามคุณครูจริงๆเถอะ..คุณเอาจิตวิญญาณของความเป็นครูไปทิ้งไว้ที่ไหนคะ""...""นี้ยังดีนะ..เด็กที่โดนกระทำเป็นหนูในตอนนี้..สารภาพเลย..หนูนึกภาพไม่ออก..ถ้าเป็นหนูเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว..และได้ทุนมาเรียนที่นี่..แล้วโดนเพื่อนบูลลี่ แถมคุณครูประจำชั้นไม่ใส่ใจ..ตัวหนูจะเป็นยังไง"คำตัดพ้อเสียงขื่น..ที่มีเพียงเด็กหญิงดาริน และเด็กหญิงภารดีเท่านั้นที่จะเข้าใจ"...""เพราะฉะนั้นไปพบผอ.โรงเรียนกับหนูเดี๋ยวนี้ค่ะ""เดี๋ยวก่อนดาริน! เธอจะไปหาผอ.จริงเหรอ? แล้วเธอจะฟ้องเฮียหยางมั้ย?"ภารดีรีบวิ่งไปรั้งแขนญาติคนสวยทันที..ใบหน้าหมวยซีดเผือด ยิ่งเห็นสายตาเจือดุที่เหมือนญาติผู้พี่ด้วยแล้ว..เธอยิ่งกลัว"ใช่..ฉันจะให้ป๊ะป๋ามาที่โรงเรียน..ฉันเชื่อว่าป๊ะป๋าคงจัดการเอาคุณครูที่ไม่ได้เรื่องออกจากงานได้..และเอาเด็กไม่ดีที่ชอบแกล้งเพื่อน..มาลงโทษ โดนทัณฑ์บนได้เช่นกัน!!"แต่ก่อนที่คู่กรณีกับเจ้าทุกข์ จะได้ทันออกจากห้อง..คำพูดของนักเรียนใหม่ทำให้เพื่อนหลายคนนิ่งงันไป..โ
หลังเลิกเรียนเด็กหญิงดารินนั่งรอรถที่บ้านมารับเหมือนทุกวัน..ที่แตกต่างคือมีเพื่อนร่วมห้องมานั่งรอรถเป็นเพื่อน..แต่เดิม..เนื้อแท้ของมนุษย์ย่อมชื่นชอบของสวยๆ งามๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว..พอวันนี้เกิดเรื่องที่น่านับถือน้ำใจ..ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากเป็นเพื่อนเด็กใหม่มากขึ้นพอถึงบ้าน..ดารินยังคงทำกิจวัตรประจำวันเฉกเช่นทุกวัน..ทั้งทำการบ้าน..ออกกำลังกาย..ก่อนไปอาบน้ำ..แล้วถึงไปเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างกับเหล่ากง..อย่างเช่นวันนี้..เหล่ากงสอนให้เธอคัดพู่กันจีน"เปิดเทอมแล้วไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้างละ?"น้ำเสียงเมตตาถูกส่งมาจากผู้สูงวัย..ท่านเจ้าสัวกำลังมองเหลนรักกำลังคัดตัวอักษรจีนด้วยความเอ็นดู"อยู่ในช่วงปรับตัวค่ะ..เหล่ากง"คำตอบว่า 'ปรับตัว' ทำให้คนฉลาดแบบท่านเจ้าสัวธงชัยชะงัก..เด็กหญิงไม่ได้ตอบในเชิงว่า 'สนุกดี' หรือ 'โรงเรียนใหม่แย่มาก' คำว่าปรับตัว..แปลว่ายังคงติดปัญหาบางอย่าง..คนสูงวัยยังส่งคำถามต่อ"อยากเล่าให้เหล่ากงฟังมั้ย?""อื่ม..ได้ซิคะ"น้ำเสียงใสอารมณ์ดี..จินจินน้อยส่งยิ้มหวานไปให้..พร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่ไปโรงเรียน..ยกเว้นแต่พฤติกรรมของภารดีที่อยู่บ้านอย่าง..ลับหลังอ
พอสบตาคู่สวย..หัวใจของเด็กชายเต้นไม่เป็นจังหวะ..เหมือนอะไรบางอย่างที่เฝ้าตามหามาตลอด..มายืนอยู่ตรงหน้า..เขาหามันเจอแล้ว!!รวมถึงความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างวูบเข้ามาในจิตใต้สำนึก..มันเตือนเขาว่า 'อย่าปล่อยมือ'แต่ดวงตาคู่สวยนั้นพอปรับโฟกัสได้กับมีริ้วรอยความเกลียดชังพาดผ่าน..ที่เจ้าตัวเองคงไม่ทันรู้ตัวว่าถูกส่งมาด้วย..เพียงแค่วูบเดียวที่แสดงออก..ถึงเปลี่ยนกลับเป็นความงัวเงียแบบคนพึ่งตื่นแต่ถึงแม้จะเป็นแค่วูบเดียว..มัน..ก็ทำให้ใจคนมองกระตุกวูบด้วยความเจ็บปวด..ความรู้สึกโหวงที่เขาไม่เข้าใจ..กรีดลึกลงในความรู้สึกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน..ทำไมเธอต้องเกลียดเขาด้วย!!"นายปลุกฉันทำไม?"เสียงหวานแหบแห้งอย่างคนที่พึ่งตื่นเด็กหญิงตบหน้าตัวเองเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ..เธอมองนาฬิกาข้อมือสีขาวเรือนเล็กของขวัญที่ป๊ะป๋าซื้อให้..มันกำลังบอกเวลาเที่ยงสี่สิบห้านาที..ยังเหลืออีกห้านาที..เวลาในมือถือถึงจะปลุก..ดวงหน้าหวานสวยที่ยังคงมีแก้มเปลี่ยนมาบูดบึ้งทันทีเธอหรี่ตามองเด็กผู้ชายตรงหน้า..พร้อมกอดอก..ร่างบอบบางเอนไปข้างหลังเล็กน้อย..เมื่อเห็นเด็กชายไม่ตอบ..เธอจึงส่งคำถามต่อ"นายชื่อคีรี?""อื่อ"เด็กชายรับคำ..ด
"ฮัลโลววว..เฮียหยางทำอะไรอยู่ครับบบ"น้ำเสียงอารมณ์ดีของญาติผู้น้องนำมาก่อนตัว..ร่างผอมสูงเลือกจะนั่งบนโซฟาหนังรับแขกสีดำตัวใหญ่"อื่อ...ฉันก็ทำงานอะดิ..จะให้ทำอะไร?"ภาวิทย์ทำเพียงหยักไหล่พร้อมส่งยิ้มอารมณ์ดีแบบคนไม่คิดอะไรมากมาให้..ในขณะที่ภวิศวางถุงผ้าลายดอกไม้ของหญิงสาวในห้องไว้บนโต๊ะ"สวัสดีครับเฮีย"เสียงเข้มขรึมของน้องชายต่างแม่..ส่งผลให้คนเป็นพี่ยิ้มรับ..ก่อนจะส่งคำถามกลับ"อื่ม..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ""นั้นซิครับ..ตั้งแต่วันนั้น..บนเรือ"เสียงคนเป็นน้องเริ่มเบา..ดวงตาชั้นเดียว..หลุบลงภากรพยายามสำรวจสีหน้าความรู้สึกคนตรงหน้า..วันนั้นเขาโดนทำร้ายที่ศีรษะจากด้านหลัง..ก่อนจะมีใครบางคนผลักลงทะเล..ความรู้สึกที่ค่อยๆ ด่ำดิ่งลึกลงใต้ทะเลยังติดในใจ..ทุกวันนี้เขายังแปลกใจ..เขารอดมาได้ยังไง"เฮียหยางสบายดีมั้ย?""ก็สบายดี..ว่าแต่นายเถอะหายหน้าหายตาไปเลยนะ""ผมเองยุ่งๆ กับโปรเจคl.s.e.h ที่ไปลงทุนต่างประเทศ..เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านนะ.. ถ้ายังไงว่างๆ ผมขอนัดปรึกษาหน่อยนะครับ""ได้ซิ..ว่าแต่..วันนี้ทำไมขนกันมาเยอะเลย..มีอะไรกันหรือเปล่า?"น้ำเสียงคนเป็นพี่ถามอย่างสงสัย"ก็น้องเรย์อะดิเฮีย..บ่นว่า
"คุณหญิงชญานิน..ฉันถามคุณได้มั้ยคะ? ลูกสาวคุณสติยังดีอยู่หรือเปล่า"น้ำเสียงใสกระจ่าง..พร้อมดวงตาสีน้ำตาลกลมโตที่ตอนนี้พราวระยับด้วยเห็นขันกับพฤติกรรมเหมือนนางร้ายยุค90..ส่งผลให้แม่สามีวางสร้อยเพชรในมือลงทันที"อันธิยา..เธอกำลังด่าลูกสาวฉันอยู่นะ""อัญไม่ได้ด่านะ..อัญแค่แปลกใจกับตรรกะของคุณดาริกา"น้ำเสียงคนตัวเล็กยังอารมณ์ดี..เธอยืนกอดอก..ทั้งยังใช้สรรพนามเต็ม"คุณหญิง กับคุณดาริกาคิดตามอัญนะ..คือเฮียหยาง กับคุณเรวดี รู้จักกันมายี่สิบกว่าปี..ถ้าคุณเรวดีจีบเฮียหยางติด..คงจีบติดไปนานแล้ว..เฮียหยางคงไม่มา 'เอา' อัญหรอกจริงมั้ย?"ยัยตัวเล็กยังยิ้มยียวนที่อัญธิยามั่นใจในตัวสามีมาก..ส่วนนึงเพราะเคสของเรวดีกับเฮียหยาง..คล้ายเธอกับพี่รามิลเหลือเกิน..ทั้งสถานะพี่ชายข้างบ้าน..ทั้งเธอกับเรวดีเป็นฝ่ายรุก..จีบผู้ก่อน..เอาจริงๆ หญิงสาวก็แอบเห็นใจคู่แข่งทางความรักอยู่เหมือนกัน..คนนึงแอบรักเกือบยี่สิบปี..ส่วนเธอใช้เวลาจีบพี่เขาไม่กี่เดือนก็ติดอารามอยากแกล้งสองแม่ลูก..ยัยแบนจอมแสบยังไม่ยอมหยุด..ปากรูปกระจับจงใจจีบปากจีบคอให้คนฟังหงุดหงิดใจเล่น"ของแบบนี้..บางที..มันไม่เกี่ยวกับ..หน้าตา..ฐานะ..การศึกษา
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ