ไอ้ต้าวอดีตพี่ข้างบ้านเงียบไป..ดวงตาคมหลุบลง..มือหนาหยาบสั่นเล็กน้อย..ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ..ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมองมาด้วยความเป็นห่วง"หืม...ว่าไงคะพี่มิล""ไม่รู้ซิ..อยู่ๆ ก็..ผุดขึ้นมานะ..อื่ม..แบน..พี่..ขอยาหน่อยได้มั้ย?"เสียงนุ่มแหบพร่า"ปวดหัวเหรอพี่..แป๊บนะ..เดี๋ยวอัญไปเอายามาให้"น้ำเสียงคนเป็นเมียติดร้อนใจ..ยิ่งเห็นคนตัวโตหน้าซีดยิ่งเป็นห่วง..ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าครัว ก่อนรื้อตู้ยาพร้อมเตรียมน้ำมาให้ตอนที่ชายหนุ่มรับยามากิน..เขาดูเงียบลงแบบเห็นได้ชัด"พี่มิลอยากไปหาหมอมั้ย? เดี๋ยวอัญพาไป""ไม่เป็นไรค่ะ..แบนพี่อยากนอน..พี่ขอขึ้นไปพักก่อนนะ"รามิลปฏิเสธทันที..ดวงตาคมคู่สวยอ่อนล้า..ยัยตัวเล็กลูบหลังมืออย่างให้กำลังใจ"โอเคค่ะพี่ งั้นพี่นอนเถอะ..เดี๋ยวถึงเวลากินข้าวอัญขึ้นไปตามนะ""อื่ม"ไอ้ต้าวอดีตพี่ชายข้างบ้านรับคำในห้องนอนหลักของบ้านคนเป็นสามีทำได้เพียงแต่ลูบหน้าตัวเอง..มือหนาหยาบสั่น..ภาพหลายๆภาพซ้อนทับเข้ามา..ไม่ไว..ไม่ช้าเกินไปมันเป็นภาพตั้งแต่เขาเกิด..เติบโต..ช่วงเวลาเรียนหนังสือ..ไปจนถึงวันที่เขา 'ตกเรือ' แต่..ภาพทั้งหมดนั้น...'ไม่มีเธอ' ..'ไม่มีรอยยิ้มสดใส'..ไม่มี
ถ้าให้ชายหนุ่มสันนิษฐาน..ข้อมูลที่เป็นไปได้มากที่สุด..คือหนึ่งเขามีพี่น้องฝาแฝด..สองเขามีพี่น้องที่อายุห่างกันหนึ่งปี..แต่จากที่เขาได้รับรู้อายุของผู้ชายคนนั้น..เราอายุเท่ากัน..เพราะฉะนั้น..เขาต้องมีฝาแฝด..เพียงแต่ถ้ามีจริง..ทำไมเด็กสองคนถึงไม่ได้เลี้ยงดูมาด้วยกัน..และใช้ชีวิตราวกับคนละสังคมแต่ก็คงไม่แปลก..เพราะเขาเองก็เกิดขึ้นมา..เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง..ไม่ได้เกิดมาจากความรักเช่นกัน!!ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มเยาะให้กับตนเองก่อนแยกย้ายจากเลขาชาย..เขามองกระเป๋าเงินในมืออย่างลังเล..อันนึงเป็นกระเป๋าเงินสีดำแบรนด์หรูหราราคาเกือบครึ่งแสน..กับบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินเกือบโหล..อีกใบเป็นกระเป๋าเงินสีน้ำตาล..มีเพียงแบงก์พันไม่กี่แบงก์..แต่มีคุณค่าทางใจเขาตัดสินใจดึงบัตรเครดิตออก..และย้ายมาใส่ในกระเป๋าเงินที่ยัยตัวแสบให้มารอยยิ้มอ่อนโยนชวนให้เลขามองแบบอึ้งๆ..เพราะปกติเจ้านายเขาไม่ค่อยยิ้ม..ไม่ใช่แค่ไม่ยิ้ม..ต้องเรียกว่า..แทบไม่โกรธ..เกลียด..หรือแสดงสีหน้าใดๆทั้งสิ้น..ความเคยชิน..คือบรรยากาศเย็นชา..แต่พึ่งพิงได้..เป็นเหมือนขุนเขาที่ดูมั่นคง..แต่ก็เหมือนทะเลที่รู้สึกถึงความลุ่มลึก..ไม่เห็น
ยัยหมาน้อยรื้อของอย่างมีความสุข..ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อ..เธอเลือกชุดเดรสมาแนบตัว..ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้..อารมณ์เขาเริ่มกลับมาคงที่"หนูสวยมั้ย?""อื่อ..ก็พอได้"เขารับคำเรียบๆ..คนเป็นเมียเลือกเดรสผูกคอลายดอกมาแนบตัวใหม่..พร้อมหมุนตัวให้ดู"แล้วถ้าหนูใส่ตัวนี้ละ..สวยมั้ย?""ก็พอดูได้""..."เธอยังคงไม่ยอมแพ้เลือกชุดจัมสูทแขนกุดขาสั้นผ้าลูกไม้มาแนบตัว"แล้วแบบนี้ละ""ดูดีขึ้นมานิดนึง""ตัวนี้ละ""ก็เหมือนจะดีนะ"เขาพยักหน้ารับ..คนเป็นเมียชักหงุดหงิด"พี่มิล!!""ก็บอกให้เรียกคุณสามี!""แล้วทำไมพี่ไม่ชมหนูละ..ถ้าหนูใส่ละไม่สวย..พี่จะขนซื้อมาทำไมเยอะแยะ!!""คนมันหาเงินได้เยอะ..ก็ต้องใช้สักหน่อยไง"เขาพูดพร้อมยักคิ้วกวนๆ ให้..คนเป็นเมียเม้มปากแน่น..ยังไงก็ไม่ยอมแพ้"หนูต้องทำไง..พี่ถึงจะชมว่าสวย"ดวงตาคมหรี่มอง..สำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า"อื่ม..แบน..อาจจะต้อง..""ต้องอะไร..บอกมาเลยนะ""เก๊าะ..เสริมหน้าอกซะหน่อย""...""เสริมดั้งสักนิด""...""เพิ่มก้นอีกนิด""แล้วก็เพิ่มส่วนสูง..อีกสักห้าเซ็น..รับรองสวยเลย"ไม่พูดเปล่ายังส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ ยัยตัวเล็กกระทืบเท้าขัดใจ"ถ้าจะขนาดนั้นไปเกิ
เช้าวันต่อมา..ตรงกับวันหยุด..ภากรตัดสินใจลากคนในบ้านไปเที่ยวห้างในเมือง..สิ่งแรกที่ทำเขาอยากพาทุกคนไปซื้อรองเท้าดีๆหลังจากคุยกับลูก..เขาพึ่งรู้ลูกสาวไม่เคยได้ไปเที่ยวสวนสนุกเหมือนเด็กทั่วไป..ส่วนนึงเพราะในตัวจังหวัดไม่มีสวนสนุกขนาดใหญ่..และม๊ะม๊าก็ไม่ค่อยอยากขับรถข้ามจังหวัด"ไว้อาทิตย์หน้าเราเข้ากรุงเทพกันมั้ย..ไหนๆก็มีหยุดยาวสามวันแล้ว..เดี๋ยวป๊ะป๋าพาไปเที่ยวสวนสนุก"น้ำเสียงผู้ชายของบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่น..ถึงแม้ตั้งแต่เกิดเขาไม่เคยไปก็ตาม..แต่การได้ทำ 'ครั้งแรก' กับคนที่ตัวเองรัก..ก็น่าสนใจไม่น้อย"ไปค่ะๆ หนูอยากไป..สัญญาละน้า"เด็กหญิงยิ้มดีใจ"คร้าบผม"บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความสุข..โดยเฉพาะคนเป็ยเมียที่หน้าบานยิ่งกว่าใคร..เพราะตอนแรก..เธอคิดว่า..คงอีกนานที่พ่อลูกจะเข้าใจกันวันนั้นชายหนุ่มขนซื้อรองเท้าให้คนในบ้าน..พาเด็กหญิงซื้อหนังสือที่อยากได้..และได้วิตามินบำรุงให้ยายยายอีกถุงใหญ่ๆ"พ่อมิล""ครับ""เล่นหุ้นได้กำไรเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?"น้ำเสียงแม่ยายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ..ยิ่งเห็นชายหนุ่มควักแบงก์พันจ่ายไม่หยุด..โดยที่แต่เดิมภากรอยากจะใช้บัตรเครดิตก็กลัวคนในบ้านจะสงสัยดวงต
ณ คฤหาสน์ กิตติวรกุลชัยร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสุดเนี๊ยบ..ผมสลวยถูกตัดเป็นทรงอันเดอร์คัท ใบหน้าหล่อเหลาราบเรียบเย็นชา..ที่นี่คือ 'บ้าน' มูลค่าหลายพันล้าน..ที่ซึ่งเขาเกิด และเติบโต...มันไร้ซึ่งความ 'อบอุ่น' ช่างแตกต่างจากบ้านน้อยหลังนั้นดวงตาคมคู่สวยหลุบลง..ความรู้สึกหนักใจท่วมท้น..ไหนจะมีหน้าที่...ไหนจะต้องมานั่งหวาดระแวงว่าใครเป็นคนต้องการให้เขา'ตาย'"คุณหยางครับ..ไม่เข้าบ้านเหรอครับ..ท่านเจ้าสัวกำลังรออยู่นะ""อื่ม"ห้องรับแขกของบ้าน..หญิงวัยใกล้หกสิบอยู่ในชุดผ้าไหมสีชมพูราคาแพง..เธอนั่งอยู่บนโซฟาสีขาวขลิบทอง..โคมไฟระย้าราคาหลักล้านขับเน้นความหรูหราไฮโซของสถานที่ตอนคุณหญิงชญานินเห็นหน้าเขา..ใบหน้าสวยสง่าอ่อนกว่าวัยเชิดขึ้นทันที ดวงตาผู้สูงวัยเย็นชา..แฝงแววผิดหวัง..'ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากให้ชายหนุ่มกลับมา'"สวัสดีครับคุณแม่"ภากรยกมือไหว้..ยังคงความสุภาพเฉกเช่นทุกครั้ง..คุณหญิงชญานินรับไหว้..ก่อนจะเสมองไปทางอื่น..คนเป็นลูกแอบถอนหายใจ..ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามความเงียบ..ส่งผลให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด..มันช่างแตกต่างจากบ้านน้อยหลังนั้น..แต่สำหรับเขา..มันคือ 'ควา
วันที่คนเป็นพ่อถูกม๊ะม๊าไล่ออกจากบ้าน เด็กหญิงดารินเองก็เงียบผิดปกติ..เธอยังคงทำกิจวัตรประจำวันเฉกเช่นทุกวัน มีเพียงแต่ความเย็นชาที่ส่งออกมาโดยไม่รู้ตัวดวงตาคู่สวยราบเรียบจนคนเป็นแม่ใจหาย..อันธิยาพยายามหาเรื่องมาคุย..ก่อนจะใช้วิธีตะล่อมเพื่อเปิดใจคุยกัน..แต่ลูกสาวราวกับรู้แกว..พอจะเข้าเรื่อง..เด็กหญิงเลือกจะ 'ตัดบท'ดารินยังคงเป็น..คนที่รู้หน้าที่..รับผิดชอบ..และทุกอย่างในชีวิตกลับมาจริงจัง..จนคนเป็นแม่ปวดใจ..เธอไม่แปลกใจ..เขาคงนั้นเข้ามา..เป็นต้นไม้ใหญ่..ให้ที่พึ่งพิง..ให้คำปรึกษา พอชีวิตมีหลักยึด..ย่อมมีพื้นที่ปลอดภัย..ที่สามารถมีอิสระทำอะไรก็ได้..โดยเฉพาะการทำตัวเป็น 'เด็ก' คนที่เคยชินกับ 'ความสูญเสีย' หากวันหนึ่งได้ของรักคืนมา..แต่กับต้อง 'สูญเสีย' ไปอีกครั้ง..จะต้องใช้ 'เวลานาน' แค่ไหนกันนะ..ถึงจะทำใจได้ทางด้านชายหนุ่ม..ในช่วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา..ภากรยังเคลียงานคงค้างในระหว่างที่หายตัวไป..โดยเฉพาะบริษัทลูกในเครือทั้งหลายแหล่ ช่วงที่เขาไม่อยู่..ท่านเจ้าสัวธงชัย กับอารองเป็นคนดูแล บริษัท กิตติวรกุลชัย จำกัด มหาชน ดำเนินธุรกิจประเภท holding company* โดยมีธุรกิจค้าปลีก ผลิต
เช้าวันนึงระหว่างที่ร้านซักอบรีด เด็กหญิงดารินกำลังช่วยรดน้ำต้นไม้ในกระถางหน้าบ้าน..อากาศร้อน ส่งผลให้ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ..ตอนภักดีเดินข้ามถนนมาถึงกับชะงัก..ดวงตาผู้สูงวัยเบิกกว้าง..เพราะเด็กหญิงหน้าตาเหมือนคุณภากรราวกับถอดแบบกันมา ถ้าไม่รู้ว่าชายหนุ่มมีน้องชายฝาแฝดเขาคงคิดว่า'เจ้านายเขาแอบไปมีลูกจนโตขนาดนี้เมื่อไรกันนะ!!'ร่างสูงผอมหันมามอง..ดวงตาคมคู่สวยหรี่มอง ก่อนจะหันไปมองรถหรูสีดำที่จอดฝั่งตรงข้าม..มันคือรถคันเดียวกับที่มารับ 'ป๊ะป๋า' ของเธอไปวันนั้นใบหน้าสวยหวานซีดลงทันใด ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น เธอสำรวจชายตรงหน้า..คนที่พาพ่อเธอไป อายุน่าจะอยู่ที่ช่วงสี่สิบตอนปลาย..อากาศร้อนขนาดนี้ยังคงใส่สูทสีดำสุภาพ ใบหน้าคนสูงวัยมีแก้ม และเริ่มมีเหงื่อ'เขามาทำไม? เอาป๊ะป๋าเธอไปแล้ว..ยังต้องการอะไรอีก?'"คุณมีธุระอะไร"น้ำเสียงหวานของเด็กสาวราบเรียบ เธอพูดพร้อมกับเดินไปปิดก๊อกน้ำที่อยู่ไม่ห่างกัน ชายวัยกลางคนลังเลเล็กน้อย"พอดี..ฉันมีเรื่องอยากคุยกับแม่หนูนะ""แม่ไม่อยู่..ไปส่งผ้า..ว่าแต่..เรื่องที่คุณมาคุยเป็นเรื่องสำคัญมั้ย?..ถ้าไม่..ก็กลับไปเถอะ"น้ำเสียงห้วน ไม่ต้อนรับ..ไร้คว
หลังจาก 'ยัยแบนสะท้านโลก' จบเกม..popup คำชวนให้เข้าร่วมทีมขึ้นมาทันที คนตัวโตยิ้มกว้าง..ดวงตาคมคู่สวยอ่อนโยน..ก่อนกดเข้าทีมในทีมมีอดีตเมียทางพฤตินัย และลูกสาวสุดสวย..อยู่กันแค่สองคน..ส่วนอดีตเพื่อนรักไม่ได้ออนภากรตัดสินใจเปิดไมค์"ว่าไงแบน""คุณกลับมาแล้ว?"เสียงใสติดจะประหม่าคำว่า 'กลับมา' ของเธอกินนัยยะมากกว่า...การออนเกม..เขาจินตนาการภาพหญิงสาวออกทันที..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลของยัยตัวเล็กคงตระหนก"อื่ม..เฮียแค่รอ..ความชัดเจนบางอย่าง..และรอให้เธอตัดสินใจ..ว่าแต่ตอนนี้..เลิกเรียกว่าคุณได้หรือยัง?"เสียงเข้มที่คุ้นเคยแหบพร่าเธอ 'รู้' ความชัดเจนที่ชายหนุ่มพูดถึง..คือสถานะของเธอ..และเธอรู้..เขาจะไม่มีวันทำในสิ่งที่ผิด..เธอเองก็เช่นกัน!"อัญเรียกคุณ..ว่าเฮียหยางได้จริงๆเหรอ"เสียงกระซิบแผ่วเบา"ได้ซิ..สรุปจะเรียกได้ยังแบน"น้ำเสียงคนตัวโตชักหงุดหงิด"เฮียหยาง""อื่อ..แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย"น้ำเสียงคนพูดเริ่มอารมณ์ดี"น่ารักมานานแล้วเหอะ"ยัยตัวเล็กอุบอิบเถียง"จริงเปล่า""จริงซิ..ถ้าอัญไม่น่ารัก..ใครจะน่ารักละ"อันธิยารีบตอบ..ไม่มีใครชมเธอ..เธอชมตัวเองก็ได้"เห้อออ...เบื่อคนจีบกันจัง"เสียงคนเป็
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ