“ใช่ค่ะ ฉันอรจิรา แต่ฉันไม่ยักกะคุ้นหน้าคุณ เราเคยเจอกันที่ไหนหรือคะ”แอนนี่เก็บอาการที่แอบปลื้มเขาอยู่ในใจ ก่อนจะทำเป็นถือตัวพอเป็นพิธี เธอพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกชายหนุ่มตรงหน้าหล่อขนาดนี้ ถ้าเธอเคยคุยกันครั้งเดียว เธอต้องจำเขาได้แน่ ๆ แต่แอนนี่มั่นใจว่าเธอไม่เคยคุยกับเขามาก่อน“ผม วศิน เจ้าของโรงแรม T ยินดีที่ได้รู้จักครับ”~ฮึ่ยย มาถึงก็อวดเลยว่าเป็นเจ้าของโรงแรม กลัวไม่รู้ว่ารวยมั้ง แต่ก็โอเค หล่อดี ให้ผ่าน~แอนนี่แอบนึกตำหนิในความอวดรวย เพราะเธอเบื่อผู้ชายประเภทนี้เป็นที่สุด แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เพียงยิ้มหวานส่งไปให้“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณวศิน เป็นเกียรติมากเลยที่ได้มีโอกาสเจอเจ้าของโรงแรมชื่อดังในเมืองไทย”“ถ้าผมจะชวนคุณไปหาอะไรกินด้วยกันสักหน่อย ไม่ทราบว่าคุณอรจิราจะสะดวกไหมครับ”~โอ๊ะโอ มาถึงก็ชวนไปหาอะไรกินเลยเนี่ยนะ ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลยแฮะ ท่าทางจะเจ้าชู้ไม่เบา~แอนนี่ยิ้มเยาะอยู่ในใจ เธอหักคะแนนความหล่อของวศินออกไปเยอะ มาถึงผู้ชายคนนี้ก็อวดรวย แถมยังชวนเธอไปต่อทันทีอีกต่างหาก“เห็นทีคงไม่สะดวกค่ะ พอดีแอนนี่มากับเพื่อน แล้วเรากำลังจะกลับบ้านกันด้วย เอาไว้โอกาสหน้านะคะ”
มารีอารีบยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอีกครั้ง ภายในใจเต้นระทึก เมื่อนึกว่า… ตอนที่เธอยังไม่ได้สติเขาจะ…“คะ คุณ คุณทำอะไรฉัน”ลี่คุนยกชามข้าวต้มเดินมาจากในครัวก่อนวางไว้ที่หัวเตียง“ผมไม่ได้ทำอะไร” เขาตอบหน้าตาย“แล้วทำไมฉันถึงได้ เอ่อ…” มารีอาก้มลงมองที่เสื้อผ้าตัวเองแทนคำถาม“ก็คุณเป็นลม เพื่อนผมที่เป็นหมอบอกว่าเสื้อผ้าที่คุณสวมอยู่น่าจะอึดอัด ผมก็เลย…”“คุณก็เลย… อา”“ทำไมล่ะ เราเคยนอนด้วยกันมาแล้วนี่ อีกอย่างตัวคุณทั้งตัว ผมก็สัมผัสมาหมดแล้วด้วย ทุกส่วน”เฮือกกกก มารีอาเหมือนจะเป็นลมอีกรอบทำไมต้องย้ำด้วย ทุกส่วน !“กินข้าวต้มก่อนสิ มาผมป้อน” ลี่คุนเดินมานั่งข้าง ๆ พร้อมยกชามข้าวต้มมาใกล้ เตรียมจะป้อน“มะ ไม่เป็นไร ไม่หิว”ครืดดดดด เสียงท้องร้องของมารีอาดังอีกครั้ง ราวกับแกล้ง จนทำให้ลี่คุนอดหัวเราะไม่ได้ เพราะเธอดูน่ารักและไร้เดียงสากว่าที่เขาคิดไว้ ยิ่งเวลาที่เขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอเมื่อกี้หน้าใส ๆ ของเธอ น่ารักกว่าตอนแต่งหน้าเป็นไหน ๆ“ไม่เอาน่าอย่าดื้อ มาผมป้อน อ้าปากเร็ว อ้ามม” เขาตักข้าวต้มขึ้นมาพร้อมกับทำท่าเป่า แถมยังยกมาจ่อที่ปากเธอ จนมารีอาขัดไม่ได้ ยอมให้เขาป้อนแต่โดยดี“ว
หน้าผากที่ชิดกัน จนไม่รู้ว่าลมหายใจที่พ่นอยู่ของใครเป็นของใคร มารีอาได้แต่ลืมตาค้าง บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง หน้าใกล้ ๆ ของประธานแบบนี้ยิ่งโคตรหล่อ แถมหอมกลิ่นอะไรก็ไม่รู้ ทำไมถึงได้~อ๊ะ~ เสียงตกใจภายในใจของมารีอาไม่เท่ากับความรู้สึกที่สัมผัส เมื่อใบหน้าที่ใกล้กันเมื่อครู่ อยู่ ๆ เขาก็ประทับปากของเขาลงที่ปากของเเธอ~ดะ เดี๋ยว ประธานลี่ จะทำอะไรเนี่ย ไม่นะ ไม่ ไม่~ภายในใจคิดต่อต้าน แต่เพียงครู่เดียวที่เรียวปากนั้นเริ่มใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามาในเรียวปากของเธอ อยู่ ๆ สมองของมารีอาก็ขาวโพลน บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไรแต่การจูบกับผู้ชายมันรู้สึกดีแบบนี้เองเหรอแม้ลึก ๆ จะอยากรู้สึกต่อต้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะสมองยังมึนงงหรือกำลังเบลอ ๆ จากที่เพิ่งฟื้นขึ้น มารีอาถึงกับไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านเลยสักนิด เผลอไผลปล่อยให้ลี่คุนตักตวงเอาความหวานจากปากเธอราวกับจะดูดวิญญาณไปทั้งร่างฝ่ามือใหญ่ล้วงเข้ามาใต้เสื้ออย่างแผ่วเบา มารีอาสะดุ้งเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็เคล้นคลึงอกสวยอย่างมันมือ ในนาทีแบบนี้เธอรู้สึกต่อต้านไม่ออกเลยจริง ๆ ยิ่งเขายกเสื้อออกจากตัวของเธอแบบง่ายดาย แถมยังจ้องมองเรือนร่างของเธอด้วยรอยย
ลี่คุนมองหญิงสาวที่ใบหน้าแดงระเรื่ออยู่ตรงหน้า ลมหายใจของเธอหอบรัวจนหน้าอกสวยกระเพื่อมตามเขารู้สึกพอใจเมื่อเห็นร่างบางของหญิงสาวสะท้านกับการกระตุ้นเบื้องต้น ก่อนจะโถมเข้าไปเชยปลายคางเธอให้เงยรับสัมผัสร้อนจากจูบเขาอีกครั้งหัวใจของมารีอาไหวสั่น เขาช่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสต่อต้านการกระทำอันรุ่มร้อนไปได้เลย“อื้อออ”บางสิ่งที่คับแน่นจนลี่คุนไม่สามารถทนไหว เขาถอดชั้นในออก มารีอายิ่งแทบจะกรี๊ดกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเคยเข้าไปในร่างเธอเมื่อคืนนั้นสองขาหดกลับตามสัญชาตญาณ นี่เธอเป็นบ้าอะไรทำไมถึงยอมให้เขาล่วงเกินได้ง่าย ๆ แบบนี้ แค่เพียงเขาใช้แววตาคมกริบคู่นี้จ้องมอง มันก็ทำให้สติของเธอเผลอเคลิ้มไปอย่างนั้นหรือ“มะ ไม่เอาแล้ว” มารีอาถอยร่นเพราะความกลัว วันนี้เธอไม่ได้เมามายเหมือนวันนั้น จะมีก็แต่ความมึนงงจากการเวียนหัวเมื่อค่ำ ทำให้เหมือนจะควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยได้“ทำไมครับ หืมมมม” ลี่คุนชะงักแต่สองมือยังรั้งขาของมารีอาไม่ให้เขยิบหนี“ฉะ... ฉันกลัวเจ็บ” ไม่รู้เพราะสติสตังเหลือน้อยหรืออย่างไร ทำให้เธอตอบออกไปแบบนั้นมุมปากของคนฟังอดไม่ได้ที่จะยิ้ม คืนก่อนมีอะไรกันแทบจะน
ไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ที่ลี่คุนตักตวงความหวานจากมารีอา จนมารีอาที่ยังรู้สึกอ่อนเพลียไม่หาย ผล็อยหลับไปกับอ้อมกอดของเขา~เก้าโมงเช้า~เรียกว่าเป็นอีกครั้งที่ลี่คุนไม่เข้าบริษัท จนพนักงานทุกคนแปลกใจ เพราะตั้งแต่เขามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ แทบไม่เคยเห็นมีวันไหนที่ลี่คุนไม่เข้ามาทำงานเลยสักวัน แม้ขนาดตอนเลิกงานเขาก็มักจะกลับเป็นคนสุดท้ายเสมอแต่ทว่าในตอนนี้ ลี่คุนกลับกำลังเท้าแขนพิงศีรษะจ้องมองสาวน้อยที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนเขาผู้เคยครองตัวเป็นหนุ่มโสด ผู้ที่เคยสนใจแต่เรื่องเรียนกับเรื่องงาน ไม่เคยสนใจในเรื่องของความรักมาก่อน ไม่เคยชอบหรือรักผู้หญิงคนไหน แต่ทันทีที่ได้เจอมารีอาในวันนั้น เธอสวยจนเขาไม่อาจละสายตาไปได้ ใครเลยจะคาดคิดว่าจะเลยเถิดจนมี one night stand กับเธอรักแรกพบ มันเป็นความรู้สึกแบบนี้เองน่ะเหรอ แค่เห็นหน้าก็รู้สึกประทับใจ แค่ได้ครอบครองแล้วก็อยากจะครอบครองอีกซ้ำ ๆ ไม่ยอมหยุดมิน่า พ่อของเขาถึงได้รักแม่ของเขามาก คงเพราะแบบนี้ละมั้ง โลกนี้ถึงได้มี ‘ความรัก’ลี่คุนหยิบปอยผมที่ร่วงหล่นปรกลงใบหน้าของเธอออก แม้ยอมรับว่าครั้งแรกรู้สึกชอบเพราะว่าเธอสวยมาก สวยจนเหมือนนางพญา
“เมื่อคืนแกไปกับใครมาฮะ ถึงมาทำงานเอาซะตอนเที่ยงแบบนี้ รู้ไหมอีตาวศินเจ้าของโรงแรม T บอกฉันว่าแกไปกับเพื่อนเขา แล้วเพื่อนเขาเป็นใคร ? แล้วทำไมแกถึงไม่รับโทรศัพท์ฉันทั้งคืน ? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกมากจนจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้ว ! ดีว่าอีตาวศินยืนกรานว่าเพื่อนของเขาเป็นคนดีมาก แล้วถ้าเกิดอะไรไม่ดีกับแก เขาจะเอาชื่อเสียงของเขากับชื่อเสียงโรงแรมมาประกันความปลอดภัยให้ โอ๊ยยย เหนื่อย พูดมาก ขอพักหายใจแป๊บ”แอนนี่ลากแขนมารีอาเข้าไปมุมลับตาบริเวณหน้าลิฟต์ของบริษัท ด้วยความที่เธอพูดรัวยิงคำถาม ทำให้ตัวเองหอบหายใจเหนื่อย จนต้องยกมือขึ้นมาพัดใบหน้าเพื่อดับสติอารมณ์ที่กำลังขึ้นอยู่ให้ลดลง“แกก็ถามฉันช้า ๆ สิ” มารีอาทำตาปริบ ๆ แบบคนสำนึกผิด มองแอนนี่เพื่อนรักที่เปลี่ยนมากอดอกเอียงคอมองตัวต้นเรื่องอย่างเธอ“มา ตอบมาทั้งหมดที่ฉันถามไปเมื่อกี้ ทีละข้อ เมื่อคืนแกไปกับใคร” แอนนี่จ้องตามารีอาเขม็ง“ไป... เอ่อ… ไปกับคนนั้นแหละ ที่เรากำลังตามหา” มารีอาตอบเสียงอ่อย“ใคร ? เขาเป็นใคร แล้วทำไมแกเพิ่งมาทำงานเอาป่านนี้ แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ฉัน” แอนนี่ยังอดเป็นห่วงไม่ได้“เมื่อคืน คือ พอดีฉันไม่ค่อยสบาย เวียนหัว
“กรี๊ดดดด แล้วแกกับเขาก็เลย ปั่ม ปัม ปั๊ม กันรอบสอง กรี๊ดดดดดด แล้วเป็นไงเขาชอบแกปะ พอเจอแก เขาคงอึ้งไปเลยดิ เพราะแกดันเป็นพนักงานในบริษัทของเขา”“อึ้งบ้าอะไร ไม่ใช่อย่างที่แกพูดมาสักนิดเดียว คือ อีตาท่านประธานลี่อะดิ ไม่รู้ว่าเป็นฉัน ไม่รู้ว่าบ้าหรือว่าโง่กันแน่ที่แยกฉันไม่ออก”“ฮะ ไม่รู้ว่าเป็นแก !” แอนนี่ตกใจรอบสอง แต่ก็ถอนหายใจออกมาแล้วทำน้ำเสียงเบาลง “เออ... ไม่แปลก ฉันก็ว่าไม่น่ารู้ เพราะขนาดฉันเป็นเพื่อนแก คุยกันทุกวัน ฉันยังว่าแกตอนนี้กับเวลาแต่งตัวดี ๆ แบบนั้น อย่างกับคนละคน”“แหมแก ฉันไม่ได้ขี้เหร่ขนาดนั้นสักหน่อย” มารีอาหน้างอ “เออแต่ก็นั่นแหละ เขาไม่รู้ว่าเป็นฉัน แต่ถึงอย่างงั้นก็ช่างเหอะ ถึงจะรู้หรือไม่รู้ ยังไงฉันกับเขาก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะฉะนั้น พอฉันได้แหวนคืนมาแล้ว ทุกอย่างคือจบ ไม่สานต่อ” มารีอายกนิ้วมือสองข้างทำเครื่องหมายรูปกากบาทพร้อมส่ายหน้า“แล้วไหนแหวนแก ?”“แหวน เอ่อคือ ก็เมื่อคืนมันตกใจนี่นา เลยทำอะไรไม่ถูก อยู่ ๆ เขาก็มาดีกับฉันเพราะจำว่าฉันเป็นใครไม่ได้ ฉันก็เลยลืมไปเลย”“ตามหาแหวนแต่พอเจอเขาทำดีด้วยหน่อย… แกลืม เฮ้อแกนะแก แต่เอาน่ะ ยังไงแกกับเขาก็นอนด้
ที่ห้องทำงานลี่คุนหมุนแหวนวงเล็กอยู่ในมือไปมาอย่างมีความสุข เมื่อนึกถึงค่ำคืนที่ได้ตักตวงความสุขจากแม่นกหงส์หยกตัวน้อยของเขา ได้แต่อมยิ้มอยู่คนเดียว เดิมทีเขาตั้งใจว่าจะคืนแหวนกับเธอตั้งแต่เมื่อคืน แต่สุดท้ายเขาเองก็เป็นฝ่ายที่ลืมคืนให้กับเธอ“ชื่อมายด์ งั้นเหรอ” ~น่ารัก~แต่เพราะอยู่ดี ๆ เธอก็หนีกลับ เขาเลยไม่ทันได้ถามชื่อจริงนามสกุลจริงของเธอ ลี่คุนรู้สึกนึกเสียดายที่กำลังจะขอเบอร์โทร.เพื่อติดต่อเธอเอาไว้ แต่เธอก็ดันขอตัวกลับไปเสียก่อน แล้วเขาจะติดต่อเธอได้ยังไงหรือ… เขาจะไปถามพนักงานหญิงฝ่าย AE คนนั้นดีสุดท้ายเมื่อไม่สามารถอดทนความคิดถึงที่มีแต่เธอได้ ในตอนบ่ายลี่คุนจึงเรียก ‘แอนนี่’ เข้าไปพบเป็นการส่วนตัว จนทุกคนถึงกับแอบพากันซุบซิบ คิดว่าแอนนี่ไปทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ เพราะน้อยครั้งที่ท่านประธานอย่างเขาจะเรียกพนักงานระดับนี้เข้าพบ ซึ่งปกติแล้วผู้ที่จะสามารถเข้าพบส่วนตัวกับท่านประธานต้องเป็นระดับผู้จัดการหรือคณะกรรมการเท่านั้นเมื่อแอนนี่มาถึง ลี่คุนปรับเสื้อสูทให้เรียบร้อย ก่อนที่จะตีหน้านิ่งพยายามเก็บอาการและรอยยิ้มก่อนหน้านี้“สวัสดีค่ะท่านประธาน ท่านเรียกฉันเข้าพบหรือคะ” แอนน
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย