“คะ คุณจะทำอะไรฉัน !”“เดี๋ยวก็รู้ หึหึหึ”“กะ กรี๊ดดดดด อย่านะ” แอนนี่หลับตาปี๋ ร้องโวยวาย พร้อมยกมือตีลี่หานพัลวันทั้ง ๆ ที่จริงเจตนาลี่หานตั้งใจแค่จะหยอกเธอเล่น ๆ ในเมื่อเขารู้เหตุผลที่เธอโกหกเขาในวันนั้นแล้ว ตอนนี้กลับรู้สึกดีกับแอนนี่มากขึ้นกว่าเก่าด้วยซ้ำไปแต่ตอนนี้เธอไม่ฟังเอาเสียเลย“ผมล้อเล่น แอนนี่ ผมล้อเล่น”“กรี๊ดดดดด ไอบ้า ไอโรคจิต ฉันไม่ไปขึ้นสวรรค์บ้าบออะไรกับนายนะ ปะปล่อยยย”“แอนนี่ฟัง ผมล้อเล่น” ลี่หานพยายามจับมือแอนนี่ที่กำลังทุบเขาอยู่แถมยังมโนคิดไปไกลว่าเขาจะทำอะไรเธอ เมื่อสติไม่รับรู้ แถมเอาแต่โวยวาย“ไม่ฟัง นายมันโรคจิต กรี๊ดดดด”“เงียบ ! แอนนี่ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ผมได้ยิน”“อะ ไอ้โรค อุ๊บบ…”วิธีที่ทำให้คนโวยวายเงียบได้ดีที่สุด ที่ลี่หานคิดได้ในตอนนี้ ก็คือ…เขารั้งศีรษะพร้อมกระชับแผ่นหลังเธอเอาไว้ พลางประทับริมฝีปากของเขาที่เรียวปากเธอทันที แม้แอนนี่อยากจะอ้าปากเถียงต่อ แต่ทว่ากลับกลายเป็นเหมือนยิ่งเพิ่มช่องว่างให้เขาใช้เรียวลิ้นเข้ามาในริมฝีปากของเธอ“อื้ออออ” แอนนี่ส่งเสียงต่อต้านในลำคอ ก่อนจะยอมศิโรราบ เขาจูบเก่งกว่าเธอมาก ในที่สุดก็พ่ายแพ้แต่โดยดี~ทำไม ถึ
ในช่วงสายของวันรุ่งขึ้น ลี่หานพาแอนนี่ไปเลือกชุดที่ห้องเสื้อชื่อดังของซูโจว แต่แอนนี่กลับนั่งหาวตลอดทาง“เป็นไรหรือเปล่า ดูคุณไม่ค่อยสดชื่นเลยวันนี้”“ถามได้ นอนไม่หลับอะดิ หาววววว” แอนนี่ยกมือขึ้นมาปิดปาก จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองหาวเป็นรอบที่เท่าไร“แปลกที่ก็แบบนี้ อีกหน่อยก็ชิน”“งั้นมั้งคะ” แอนนี่ทำตอบไปอย่างงั้น แต่ความจริงคือ… เพราะเมื่อคืนเธอมัวแต่นอนระแวงว่าลี่หานจะลุกมาทำอะไรเธอ พอจะเคลิ้ม ๆ กึ่งหลับ ลี่หานก็ดันขยับตัวเป็นแบบนี้ทั้งคืนสุดท้ายในตอนเช้า เธอเลยตื่นมาแบบสภาพอ่อนระโหยโรยแรงเหมือนคนไม่ได้นอน“ได้กาแฟสักแก้วคงดี”“แล้วเมื่อเช้าไม่บอกแม่บ้านล่ะ”“ไม่เอา เกรงใจ หาววววว ” แอนนี่หาววอดใหญ่อีกรอบ ก่อนจะเอนศีรษะพิงที่ขอบหน้าต่าง“งั้นก็นอนซะ ถึงห้องตัดชุดแล้วผมจะเรียก” ลี่หานเห็นสภาพแอนนี่นอนหลับจนหัวโขกขอบหน้าต่างหลายครั้ง ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ สุดท้ายแล้ว เขาก็เอื้อมมือไปด้านหลังของแอนนี่พลางรั้งศีรษะเธอให้ซบอิงมาตรงบ่าของเขา“อื้อออ” แอนนี่ขืนตัวเบา ๆ แต่ก็แค่แป๊บเดียว แต่พอได้ที่พิงศีรษะสบายขึ้น เธอก็ผล็อยหลับไปทันที~อบอุ่นจัง~แอนนี่เคลิ้ม ๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของลี่ห
@ที่บ้านของเหม่ยหลินบรรดาแขกเหรื่อเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาภายในงาน ที่จัดอยู่ภายในสวนบริเวณหน้าบ้านของเหม่ยหลินทันทีที่ลี่หานพาแอนนี่เข้ามา ต่างก็ถูกสายตาแทบทุกคู่จับตามอง หนุ่มหล่อราวนายแบบกับสาวสวยที่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ที่สำคัญลี่หานไม่เคยพาใครออกงานแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งทุกคนล้วนแต่เข้ามาทักทายลี่หาน ส่วนหนึ่งก็เพราะความอยากรู้ว่าลี่หานควงใครมา แต่อีกส่วนก็เข้ามาเพราะชวนคุยเรื่องธุรกิจ แอนนี่ได้แต่ยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ เธอฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ถ้าศัพท์หรือบทสนทนาทั่วไปเธอก็พอฟังออก แต่ถ้าศัพท์เฉพาะธุรกิจบางคำเธอก็ฟังไม่รู้เรื่องสุดท้ายพอเบื่อ ๆ แอนนี่ก็เลยขอตัวเข้าห้องน้ำ ไม่คิดเลยว่า ระหว่างทางเดิน เธอจะต้องมาเจอกับคนที่เธอเคยเกือบชอบ !“แอนนี่”“อ้าว คุณวศิน”แอนนี่หันไปตามเสียงเรียกด้วยความแปลกใจเพราะไม่คิดว่าจะมาเจอวศินที่นี่ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะไม่ได้เจอเขาแล้วเสียอีก วศินเคยตามจีบเธออยู่พักใหญ่ ๆ จนแอนนี่เกือบจะใจอ่อน จู่ ๆ เขาก็หายหน้าไปเมื่อเหม่ยหลินมาเมืองไทย“คุณก็มางานวันเกิดเหม่ยหลินเหมือนกันเหรอ”“ใช่ค่ะ บังเอิญจัง คุณสบายดีนะคะ”“ก็จะว่าดีก็ไม่เชิง
เสียงลี่หานดังขึ้นจากด้านหลังคนทั้งคู่ ทำเอาแอนนี่สะดุ้งโหยง เธอตั้งใจพูดคำว่า ‘ไม่ได้’ ค้างเอาไว้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดมันออกมา“อ้าว พี่หาน สวัสดีครับ” วศินรีบลุกขึ้นยืนทักทาย เขาพอจะรู้จักกับลี่หานอยู่บ้างผ่านลี่คุน ช่วงที่ลี่หานไปเมืองไทยช่วงนั้นวศินเองก็ติดเดินทางพานักลงทุนไปดูสถานที่ทำโรงแรมแห่งใหม่ที่เชียงคาน ทำให้วศินไม่รู้เรื่องลี่หานกับแอนนี่เลยแม้แต่น้อย“อืม ไม่ได้เจอกันนานนะ วศิน”“ครับพี่ พี่หานสบายดีนะ”“สบายดี ได้ข่าวว่าเรากับเหม่ยหลินคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ” ลี่หานพูดน้ำเสียงเชิงตำหนิที่วศินมาคุยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องเขา แต่สายตากับปรายตามองไปที่แอนนี่ “แล้วนี่รู้จักกันด้วยเหรอ”“รู้จักสิครับ ก็แอนนี่เป็นเพื่อนกับคุณมาร์แฟนเจ้าเคน”“อ๋อ”“แล้วเมื่อก่อนเจ้าเคนไปไหนกับคุณมาร์ ผมกับคุณแอนนี่ก็เลย...”“เอ้อ เราเข้าไปคุยกันข้างในต่อดีไหมคะ เหมือนจะได้ยินแว่ว ๆ ว่าพิธีกรประกาศอะไรที่เวที” แอนนี่รีบพูดแทรก ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กลัวว่าวศินจะพูดอะไรไม่เข้าหูลี่หาน แต่แค่มองสีหน้าเขาที่กำลังจ้องเธออยู่กลับรู้สึกแปลก ๆ“ก็เลยอะไร...!” ลี่หานไม่สนใจที่แอนนี่พูดเบรค ตอนนี
“อะไรของคุณ อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ฉันไม่ได้จะยั่วใคร เลิกมาทำตัวเป็นตาลุงแก่ ๆ หัวโบราณเรื่องการแต่งตัวของฉันได้ปะ น่าเบื่อ”แอนนี่เริ่มโมโหจนเดินหนีเข้าไปภายในงาน ไม่ต่างกับลี่หานที่ไม่พอใจการแต่งตัวของเธอ ทั้ง ๆ ที่มันดูสวยแล้วก็ดูเซ็กซี่มากก็ตามที แต่เขารู้สึก~ไม่อยากให้ใครมอง นอกจากเขา !!~“ยั่วผม คุณกำลังยั่วประสาทผม” ลี่หานพูดเสียงลอดไรฟันออกมา ก่อนจะเดินตามแอนนี่เข้าไปเพราะงานมีแขกเหรื่อจำนวนมาก ทั้งที่เพิ่งมาใหม่และมาอยู่ก่อนหน้านี้ บางคนจึงยังไม่ทันตอนเห็นแอนนี่ควงมากับลี่หาน ยิ่งเห็นเธอเดินเฉิดฉายด้วยชุดราตรีเข้าไปในงานคนเดียว บางคนถึงกับหันไปมอง แต่แอนนี่กลับไม่ได้สนใจ เธอเดินไปหยิบแก้วไวน์มายกดื่ม เพียงครู่ก็มีคนเดินเข้ามาทำความรู้จักแอนนี่มองลี่หานที่เดินตามมา เขาจ้องมองเธอเขม็ง อยากจะเดินเข้าไปกระชากไอ้หมอนั่น ติดแต่ตรงประโยคที่เธอเพิ่งว่าเขามาเมื่อกี้~ถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรกับฉัน ก็อย่ามาทำท่าหึงหวง !~ลี่หานได้แต่มองแอนนี่อย่างฮึดฮัด แต่เธอไม่เพียงจ้องตาเขากลับ ยังยักคิ้วยั่วประสาทใส่ลี่หานเสียอีก“เต้นรำกันไหมครับ” หนุ่มจีนรูปหล่อขอเชิญแอนนี่ออกไปเต้นรำ และแน่นอนเธอก็ไม่ป
“ไม่หึง จริงเหรอคะ” เธอมองลี่หานแบบไม่เชื่อสักเท่าไร เพราะคำพูดของเขาช่างสวนทางกับท่าทางที่เป็นอยู่เสียเหลือเกิน“ไม่หึง ! ก็บอกว่าไม่ได้หึง !” ลี่หานย้ำคำเหมือนจะย้ำสติตัวเองซ้ำ ๆ แต่ทว่าสายตายังคงจ้องแอนนี่อย่างเขม็ง นี่ถ้าสายตาของเขาสามารถฆ่าคนให้ตายทางสายตาได้ เขาคงจะฆ่าคนทางสายตาไปนานแล้วเหม่ยหลินถอนหายใจได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พี่หานของเธออาการหนักขนาดนี้ มองจากดาวอังคารก็ยังรู้เลยว่าเขากำลัง ‘โมโหหึง’“คุณเหม่ยหลิน สวัสดีค่ะ”เสียงหวานจากซูซี่ดังขึ้นทำให้เหม่ยหลินต้องหันกลับไปมอง“อ้าวว คุณซูซี่ สวัสดีค่ะ”“พอดีซูซี่เพิ่งมาถึงได้สักพัก เลยยังไม่ได้เข้าไปทักทายคุณเหม่ยหลิน ยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ”ซูซี่ที่เพิ่งหยุดเต้นรำแล้วเดินมาหาลี่หานกับเหม่ยหลิน เธอหันไปเรียกผู้ติดตามที่ยืนอยู่ห่าง ๆ เพื่อเอาของขวัญมาให้เหม่ยหลิน“แค่คุณซูซี่มางานก็เป็นเกียรติมากแล้ว ไม่เห็นต้องเอาของขวัญมาให้มากพิธีเลยค่ะ แต่ก็ขอบคุณมากนะคะ” เหม่ยหลินรับไว้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ซูซี่หันไปทักลี่หาน เพราะวันนี้เขาดูดื่มมากผิดปกติกว่าทุก ๆ ครั้งที่เธอเคยเจอ“เอ่อ… คุณลี่หานดื่มเยอะจัง ปกติคุณลี่หานเป็นคนที่ระมัดระวั
“เจ็บนะ ปล่อย จะลากแขนทำไมเล่า ผ้าคลุมจะหลุดแล้ว” แอนนี่ถูกลี่หานดึงข้อมือไปตามทางที่คนขับรถรออยู่ ส่วนอีกมือพยายามจับผ้าคลุมที่จวนจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่เอาไว้“ให้มันหลุดไป อยากโชว์นักไม่ใช่เหรอ เข้าไป !!” เขาแทบจะเหวี่ยงแอนนี่เข้าไปทันทีที่คนขับรถเปิดประตูรอไว้ให้ จนเธอแทบจะตัวกระแทกกับเบาะ“คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย ลี่หาน !!”“ไม่เคยมีใครมาโวยวายใส่หน้าผมมาก่อน คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเป็นใคร !” เสียงตวาดของลี่หานทำเอาแอนนี่สะดุ้งโหยง เธอเริ่มกลัวเขาขึ้นมาแล้วจริง ๆยิ่งผ้าคลุมขนมิ้งที่ถือไว้ในมือหลุดตอนเขาผลักเธอเข้ามา ทำให้แอนนี่ต้องรีบลงไปเก็บเพื่อจะเอามาคลุมชุดที่เซ็กซี่ของเธอ แต่ทว่า… ลี่หานกลับไวกว่าเขาหยิบมันได้ ก่อนจะเปิดหน้าต่างโยนออกไปนอกรถ“ละ ลี่หาน คุณทิ้งผ้าคลุมฉันทำไม !” แอนนี่โวยวายแต่ก็รีบเขยิบหนีจนชิดประตูอีกด้าน พยายามทำใจดีสู้เสือคิดว่าในรถลีมูซีนมีคนขับรถอยู่ด้านหน้า อย่างน้อยลี่หานคงไม่กล้าทำอะไรเธอแน่ ๆ แต่ที่ไหนได้ จู่ ๆ ลี่หานก็กดสวิตช์ปิดทางกั้นระหว่างห้องโดยสารกับคนขับ“คะ คุณจะทำบ้าอะไร”“หึ กลัวเหรอ ไม่ปากดีต่อไปล่ะ”“ฉะ ฉันว่า คุณเมามากแล้วนะ” แอนนี่เริ่มรู้สึกกลัว
ทันทีที่ลี่หานลากแอนนี่เข้ามาในห้องนอนจนสำเร็จ เขาถึงกับเหวี่ยงตัวแอนนี่ให้เข้าไปข้างในทันที จนเธอเซถลาล้มลงไปนั่งที่พื้น ไหนจะรองเท้าส้นสูงที่ใส่มาที่เธอโดนเข้าลากมาตามทางเมื่อครู่ทำให้แอนนี่ถึงกับต้องกุมข้อเท้าของตัวเอง“โอ๊ย...” แอนนี่กัดปากแน่น รู้สึกเจ็บน้ำตาแทบจะเล็ด แม้ตอนนี้เธอรู้สึกโกรธลี่หานมาก... แต่ทว่าเธอก็เริ่มกลัวเขาขึ้นมาด้วยเช่นกัน“ละ ลี่หาน ฉันว่าเรามาคุยกันดี ๆ เถอะ คุณกำลังเมา ฉันสัญญาจะไม่พูดจายั่วประสาทคุณอีกแล้ว” แอนนี่ทำใจดีสู้เสือก่อนค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น แม้จะยังรู้สึกเจ็บขาอยู่นิดหน่อย สายตาของเธอมองจ้องไปที่ลูกบิดประตูสลับกับใบหน้าของลี่หาน อย่างน้อยประตูก็อยู่แค่ตรงด้านหลังเขานิดเดียว รอให้เขาเข้ามาใกล้เธออีกนิด แล้วเธอก็จะวิ่งสวนออกไป~ใช่ ! ถ้าเธอวิ่งออกไปเร็ว ๆ ตอนที่ลี่หานเผลอ เธอก็อาจจะรอด !~“นะ... เรามาคุยกันดี ๆ นะ นะคะ พี่หาน” แอนนี่ฉีกยิ้มอย่างเอาใจ แต่ลี่หานกลับไม่ได้ยิ้มให้เธอตอบแถมเขายังสาวเท้าก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ แอนนี่เริ่มกลืนน้ำลายเมื่อเห็นลี่หานค่อย ๆ สาวเท้าเดินตรงมาหาเธอ สายตาเขามองจ้องเขม็งราวกับเป็นราชสีห์ที่กำลังจะกินเหยื่อ เสื้อสู
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย