แอนนี่เดินนำเข้าเขามาในคอนโดมิเนียมทั้ง ๆ ที่หน้ามุ่ย เมื่อรู้สึกว่าลี่หานน่าจะเอาแต่ใจและเรื่องมากกว่าที่เธอคิด แต่ก็ปล่อยให้เขาเดินตามเข้ามาในลิฟต์แต่โดยดี ด้วยความที่ในชีวิตของลี่หานไม่เคยต้องถือของให้ใคร เขาจึงปล่อยให้แอนนี่ลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาในลิฟต์แบบทุลักทุเลด้วยตัวเองทำให้เธอถึงกับบ่นอุบอยู่ในใจ นึกว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษกว่าที่เธอคิดไว้ ก่อนลี่หานจะรู้สึกตัวว่าควรทำหน้าที่นี้“เอ่อ ผมต้องช่วยคุณถือกระเป๋าสินะ”“เพิ่งจะมาช่วยถือตอนจะถึงห้องเนี่ยนะคะ ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณ” เธอคว่ำปากใส่เขาทีหนึ่ง ก่อนจะเดินลากกระเป๋ามาถึงที่หน้าห้องของตัวเอง“อะ เชิญค่ะ” แอนนี่ทำหน้างอ เปิดประตูให้ลี่หานได้เข้ามา แต่แทนที่เขาจะรีบตรงไปที่ห้องน้ำ เขากลับเดินมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง“อยู่คนเดียวเหรอ”“เอ้า ถามแปลก ๆ ฉันก็อยู่คนเดียวสิ จะไปอยู่กับใคร”“อืม… ก็ดี แต่ตอนนี้ผมหิวแล้ว ไปทำอะไรให้กินหน่อย” ลี่หานเดินมานั่งตรงโซฟาทำราวกับตัวเองเป็นเจ้าของห้อง“หาาา ไหนบอกจะเข้าห้องน้ำไง ไม่เข้าห้องน้ำล่ะคะ ตอนนี้จะมาบอกหิวอะไรอีก คุณลี่หาน !”“อ๋อใช่ ผมลืม” ลี่หานลุกขึ้น นึกขึ้นได้ว่าเขาเพิ่งพูดอะไรออก
ทั้ง ๆ ที่เสื้อผ้าจะเปลี่ยนก็ไม่ได้เอาลงมา แต่ลี่หานก็ดื้อด้านจะนอนค้างกับแอนนี่“โอเคได้ อยากนอนเหรอ ได้ค่ะ ที่โซฟานะ” แอนนี่ยิ้ม พร้อมผลุบหายเข้าไปในห้องนอน หมายจะเอาหมอนกับผ้าปูที่นอนออกไปให้ลี่หาน แต่ทว่า พอเธอหันกลับไปก็ชนกับลี่หานที่ยืนอยู่ข้างหลังของเธอแล้ว“อุ๊บ! ว้าย อีตาบ้า ตามเข้ามาทำไมในห้องนอนเนี่ย”“ผมไม่ชอบนอนโซฟา ปวดหลัง”“นะ นายนี่มัน ทำไมเรื่องมากแบบนี้เนี่ย พอให้เข้าห้องน้ำข้างล่างก็ไม่เอา บอกไม่เข้าห้องน้ำรวม พอขึ้นมาข้างบนก็สั่งให้ทำอาหารโน่นนั่นนี่ พอกินเสร็จแล้วนึกว่าจะกลับก็จะไม่กลับ พอให้นอนโซฟาก็ไม่นอนปวดหลังจะนอนบนเตียง โอ๊ยยย พ่อเทวดา” แอนนี่โวยวายยาวเป็นชุด จนรู้สึกเหมือนตัวเองจะหอบ แต่... ลี่หานกลับยักไหล่ เขาทำท่าไม่สนใจ ก่อนเบี่ยงตัวหลบแอนนี่แล้วทิ้งตัวลงนอนที่เตียงของเธอ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ“ฮะ นะ… นาย... นายจะนอนบนเตียงฉัน ทั้ง ๆ ที่ นายยังไม่ได้อาบน้ำไม่ได้นะ”“ผมง่วง ขอพักสายตาแป๊บเดียว”“ม่ายยยยยยยยย นายจะนอนนี่ไม่ได้นะ ฉันไม่ให้นอน !" แอนนี่โผเข้าไปดึงแขนลี่หานสุดแรงเกิด แต่ด้วยเรี่ยวแรงผู้หญิงตัวเล็กแบบเธอ หรือจะไปมีแรงทำอะไรเข้าได้
ในที่สุด... ลี่หานก็ยอมออกไปจากห้องของแอนนี่ เมื่อเขาเห็นสีหน้าเอาจริงของเธอ ที่ผ่านมานับตั้งแต่รู้จักกับเธอหลายวัน เขาแทบจะไม่เห็นแอนนี่เป็นแบบนี้มาก่อน“ไว้ผมจะมารับ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน”“ค่ะ” แอนนี่ตีหน้าขรีมก่อนจะปิดประตูลงปัง !!!แอนนี่พ่นลมหายใจ ก่อนเอาหลังพิงประตูอย่างหมดแรง~โว้ยยยยย แม่เจ้า เกือบไปแล้ว แอนนี่เอ๊ย แกอย่าหลงรักเขาเป็นเด็ดขาด อย่าลืมสิ เขาแค่เซ็นสัญญาบ้า ๆ หลอกคนที่บ้านเขาเท่านั้นเอง แค่สามเดือน แค่สามเดือนเองนะแก ถ้าแกหลงรักเขาแล้ว แกจะถอนตัวอย่างไงฮะ~แอนนี่พูดกับตัวเอง ก่อนจะทุบอกเบา ๆ เรียกสติเพราะหัวใจยังไม่หายเต้นแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้ก่อนหน้านี้อยากจะกรี๊ดแทบบ้า แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์ ตีหน้าขรึมเมื่ออยู่ต่อหน้าลี่หาน~ไม่น่าฝันอะไรบ้า ๆ เลย เกือบไปแล้วเรา โอ๊ยยย~แอนนี่ทรุดตัวลงกับพื้น ก่อนยกมือขึ้นกุมขมับ~หัวจะปวด เฮ้อออออ ไม่รู้จะรอดสามเดือนไหมน้า ไม่ใช่เธอนะ หมายถึง เขาน่ะ จะรอดเธอไหม หล่อเสียขนาดนี้~นึกถึงซิกซ์แพคขาว ๆ กล้ามท้องเนื้อแน่น ๆนึกถึงความใส่ใจที่ได้รับตอนอยู่ภูเก็ตนึกถึงรสจูบ... ที่เมื่อกี้~ไม่น่าหยุดเล
ลี่หานทักมารีอา ทันทีที่เธอยื่นแก้วน้ำส่งให้“ที่ซูโจวอากาศดีมาก ๆ ค่ะ บ้านเมืองก็สวยที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองท่านใจดีมาก ๆ ค่ะ” มารีอายิ้มก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ กับลี่คุน“นั่นสิครับ ท่านถึงกับจะไม่ยอมให้มารีอากลับ แล้วไล่ผมกลับมาคนเดียว คุณพ่อคุณแม่หลงว่าที่ลูกสะใภ้จนลืมลูกชายคนนี้ไปเลย”ลี่คุนหันมายีจมูกภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว เพราะตั้งแต่มารีอาไปเมืองจีนกับเขา เธอคุยถูกคอกับคุณแม่มิรินของเขามาก ด้วยความที่เป็นคนไทยเหมือนกันจึงมีเรื่องคุยกันเกี่ยวกับเมืองไทยเยอะมาก จนบางทีลี่คุนรู้สึกตัวเองเป็นส่วนเกิน เขาแทบไม่มีเวลาจู๋จี๋กับภรรยาอย่างที่คิดไว้ จนต้องพาตัวเธอกลับมาที่เมืองไทยไว ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นหมาหัวเน่าอยู่ที่โน่นและที่สำคัญ... ลี่คุนรู้สึกเป็นห่วงพี่ชาย อยู่ๆ ลี่หานก็ดันยกเลิกงานภูเก็ต ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรกับแอนนี่หรือเปล่า“แล้วแอนนี่ล่ะ เป็นไงบ้าง” ลี่คุนรีบถามถึงสิ่งที่รู้สึกคาใจ เพราะตั้งแต่กลับมา สีหน้าลี่หานก็บ่งบอกว่าไม่ค่อยสบอารมณ์“จะไปรู้ได้ไงว่าเป็นไง ไม่ไปถามเธอเองล่ะ” ลี่หานตอบห้วน ๆ ก่อนจะรีบลุกหนีเดินเข้าไปห้องนอนของเขาทันทีทิ้งลี่คุนกับมารีอา พากันหั
“พี่หานเป็นอะไร” ลี่คุนเห็นท่าทางเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวบึ้งของลี่หานเลยอดถามขึ้นมาไม่ได้“อะไรใครเป็นอะไร จะสั่งอะไรก็รีบ ๆ สั่งมาสิ หิวแล้ว” ลี่หานทำเสียงเข้มแก้เก้อ ก่อนจะตีหน้าขรึม เมื่อรู้สึกว่าน้องชายกำลังมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ลี่คุนได้แต่มองพี่ชายอย่างงง ๆ ก่อนพยักหน้าให้แล้วก้มลงไปเลือกเมนูอาหารต่อ“แอนนี่ แอนนี่ ทางนี้” เสียงเรียกจากมารีอาดังขึ้น เมื่อเห็นแอนนี่เดินเข้ามาพร้อม ๆ กับชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เธอรีบยกมือขึ้นโบกพลางส่งยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินชื่อแอนนี่ ลี่หานรีบหันขวับไปมองอย่างอัตโนมัติ แต่ทว่า... จากรอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ เขาถึงกลับหุบยิ้มโดยทันที เมื่อเห็นแอนนี่เดินควงมากลับหนุ่มหน้าอ่อนด้วยท่าทีสนิทสนม“พี่นึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน พวกนายกินกันไปเถอะ” ลี่หานลุกขึ้นพรวดไม่พอใจ ก่อนจะลุกหนีทันที“ไหนบอกเมื่อกี้ว่าหิวไง อ้าว พี่หานเดี๋ยวสิ”ลี่หานเดินสวนออกไปจนแทบจะชนกับไหล่แอนนี่ที่กำลังเดินเข้ามา ยิ่งสายตาของเขาที่มองจ้องมาที่เธอในตอนนี้ กลับมองด้วยสายตาที่เย็นชาจนแอนนี่ถึงกับอึ้ง~อะไรกัน เมื่อวานเขายังเพิ่งจูบเธอ... แต่วันนี้กลับมาทำท่าโกรธเธอเสียอย่างนั้น เธอทำอะ
“โตเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้ เมื่อคืนพี่เกือบเข้าใจผิดคิดว่าแอนนี่พาหนุ่มที่ไหนเข้าไปในห้อง”“หาาาา แสดงว่าเมื่อคืนที่ฉันให้คุณกลับออกไปจากห้องตั้งเกือบยี่สิบนาที ตอนที่น้องชายฉันมาหาคุณยังไม่ได้กลับอีกเหรอ ?” แอนนี่อึ้งอีกรอบเมื่อรู้ว่าเมื่อคืนเขายังไม่ได้กลับทันที ~แล้วเขารออะไร~“ชะ ใช่ที่ไหนเล่า ผมแค่รอลิฟต์นาน เมื่อคืนลิฟต์ที่คอนโดฯ คุณมาช้า” ลี่หานแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ พลางยกหลังมือขึ้นถูจมูกเบา ๆ~ลิฟต์บ้าอะไรจะรอเกือบครึ่งชั่วโมง~แอนนี่ทำหน้างงเพราะยังไม่หายสงสัย แต่ลี่หานกลับทำหน้าตาย ไม่สนใจแอนนี่ที่กำลังมองหน้าเขาแบบจับผิด“มองอะไร”“ลิฟต์ที่คอนโดฯ ฉัน ไม่เคยมาช้าขนาดนั้นสักหน่อย”“ผมจะไปรู้เหรอ มันอาจจะเกิดเสียกะทันหันก็ได้”ลี่คุนกับมารีอามองภาพคนทั้งคู่ที่กำลังยืนเถียงกัน ถึงกับหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะอึ้งไปพักใหญ่แล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมา~หึหึหึ~หมายความว่า ที่เมื่อคืนพี่ชายของเขากลับมาถึงคอนโดมิเนียมด้วยสีหน้าหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะสาเหตุนี้นี่เอง~ที่แท้ก็หึงแอนนี่กับน้องชาย แถมเมื่อกี้ยังทำท่าหงุดหงิดลุกขึ้นบอกว่าติดธุระ ตอนที่แอนนี่เดินเข้ามากับน้องชาย~ลี่คุนแอบยิ้
สุดท้ายเมื่อทั้งคู่กลับมาถึงคอนโดมิเนียมแอนนี่กลับแทบไม่ต้องเตรียมอะไรนอกจากเอกสารสำคัญของเธอ และเสื้อผ้าไม่กี่ชุด เพราะส่วนใหญ่ที่เธอเลือกไม่ค่อยถูกใจลี่หานเลยสักตัว“อะไรของคุณฮะลี่หาน ตัวนั้นก็ไม่ได้ ตัวนี้ก็ไม่ได้”“คุณจะขนไปทำไมเยอะแยะ เอาไปแค่ไม่กี่ชุดก็พอ เดี๋ยวค่อยไปซื้อเอาใหม่ที่โน่น คุณจะขนไปทำไมให้หนักกระเป๋า”เขานั่งเอนเบาะพิงตัวเองกับโซฟามองแอนนี่ที่ขนเสื้อผ้าทั้งตู้มากองให้เขาดู“ก็นายพูดเอง ให้กลับมาเตรียมของ”“ใช่ไง ผมหมายถึงเอกสารสำคัญต่างหาก ไม่ใช่พวกเสื้อผ้า”“เอ้าา ก็ไปตั้งสามเดือนเลยนะ”“แค่… สามเดือนเองต่างหาก”“แล้วคุณให้ฉันขนเสื้อผ้ามาให้คุณดูทำไมตั้งเยอะแยะฮะ ลี่หาน !”“ผมบอกให้คุณขนมาให้ผมดูเมื่อไหร่ มีแต่คุณที่ทยอยขนออกมา ผมแค่บอกจะช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศก็เท่านั้น” เขายักไหล่ “แล้วผมก็ช่วยคุณเลือกเสร็จแล้ว”“หมดตู้ เลือกได้มาห้าหกชุด โอ๊ยย อีตาบ้านี่ฉันต้องขนเสื้อผ้าจัดเข้าตู้ใหม่งั้นเหรอ”“หรือคุณจะกองไว้พะเนินแบบนี้ ผมก็ไม่ว่า”“ลี่หาน ฉันอุตส่าห์ไว้ใจให้คุณมาช่วยเตรียมของ นึกว่าคุณจะให้คำแนะนำที่ดีกว่านี้”“ก็นี่ไง ผมก็แนะนำคุณแล้วไงว่าผ
ลี่หานเหมือนเพิ่งคิดได้ว่าพูดอะไรออกมา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามอง เห็นแอนนี่ที่กำลังจ้องเขม็งมาที่เขา“ผมหมายถึง ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นที่ชอบเข้ามาวุ่นวายผูกมัดจนเกินไป น่ารำคาญ”“อ๋อ แฮะแฮะ”“ที่เลือกคุณ เพราะเราสองคนต่างก็ช่วยคนสำคัญของกันและกันไม่ใช่เหรอ ผมช่วยน้องชายผม คุณช่วยเพื่อนของคุณ เอาไว้ให้น้องชายของผมได้แต่งงานกับเพื่อนคุณแล้วเราสองคนก็จบดีล”“จบดีล อ๋อ เออใช่ค่ะใช่” แอนนี่พยักหน้าช้า ๆ เหมือนพยายามทำความเข้าใจ~แต่ก็นะ... ที่ผ่านมา เธอก็เกือบคิดไปเองแล้วว่า เขาเองก็มีใจให้กับเธอ รวมทั้งที่เขาทำท่าเหมือนหึงเธอกับน้องชายของเธออีก ไหนจะเพื่อนของเธอที่ชื่อป๊อปปี้อีก แล้วที่สำคัญ… ไหนจะจูบวันนั้น… แล้วเขาจูบเธอทำไมกัน~สีหน้าของแอนนี่สลดลง เมื่อไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคาดหวังอะไรจากคำพูดและการกระทำของเขาที่ผ่านมา“ก็โอเค ตามนั้น เพราะฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับคุณเหมือนกัน แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเหมือนคุณด้วย เพราะงั้นต่อไปคุณก็ช่วยเลิกทำท่าเหมือนหึงหวงฉันตลอดเวลาด้วยล่ะ แล้วเวลาฉันคุยกับใคร อย่าเข้ามายุ่มย่ามอีก”“ผมเนี่ยนะ ยุ่มย่ามคุณ”“ใช่ ที่คุณทำตลอดตอนอยู่เมืองไทยคือใช่ เพราะ
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย