โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ
เชรด พลังบุญนี้ได้มาง่ายเกินไปแล้วไหม?ฉู่เฉินกะพริบตาแล้วหันไปแย้มยิ้มกล่าวกับกลุ่มฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรกระทำ”หลี่จวิ้นเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆฟังแล้วก็เยาะเย้ยกล่าว “ไอ้คนแซ่ฉู่ แม่งอย่าขี้คุยโวเลยแก ยังไม่ทันรักษา แกไปรู้ได้ไงว่าแกจะสามารถรักษาฝีบนผิวหนังของผู้ป่วยให้หายได้”“เหอะ วันนี้ฉันจะทำให้เอ็งคุกเข่าโขกหัวให้ฉัน!”หลี่จวิ้นเฟิงพูดจบแล้วก็เดินมายังข้างหน้ากล่องกระดาษ นิ่งไปชั่วครู่แล้วหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านข้าง “ต้องขออภัย ผมคิดว่ากล่องใบนี้ไม่มงคล เปลี่ยนกล่องใหม่ได้ไหม”หืม?ทุกคนจ้องมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยความแปลกใจ แต่ที่เขาเรียกร้องมาก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เปลี่ยนกล่องจับฉลากเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ไม่นานก็มีคนยกกล่องจับฉลากอีกอันขึ้นมา“ผู้ป่วยลำดับที่สามสิบเจ็ด”เจียงถิงอ่านเลขลำดับพร้อมขมวดคิ้วมองไปทางกล่องที่ถูกเอาไปไว้ตรงขอบเวที ในนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่นอนเวลาไม่นานก็ได้เห็นผู้ป่วยที่ติดแผ่นแปะบรรเทาหวัดที่หน้าผากหายใจทีไอทีก้าวเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว“นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! คุณฉู่รักษาโร
เช่นเดียวกันที่ถังจิ้งจือหน้าเปลี่ยนสีไปมาบนเก้าอี้กรรมการผู้ป่วยที่รักษายากโดยแท้จริงแล้วมีเพียงแค่หญิงวัยกลางคนคนเดียวเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันล่วงหน้าจึงเขียนเลขหนึ่งร้อยสิบแปดในกระดาษฉลากทั้งหมดกล่าวได้อีกว่าไม่ว่าฉู่เฉินจะหยิบใบไหนผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม“โกงจริงๆ ด้วย!”“น่าละอายใจจริงๆ คนจากสำนักหมอมีสันดานอย่างนี้เองเรอะ?”ผู้ชมล่างเวทีและชาวเน็ตบนอินเทอร์เน็ตด่าทอหลี่จวิ้นเฟิงกันยกใหญ่ขนาดฟางอวี่เจิ้งก็หันไปมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยสายตาเกลียดชังราวกับมองศัตรูคู่แค้นแม่เอ๊ย ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนสินะ?กล้าเล่นตุกติกต่อหน้าฉัน!ฟางอวี่เจิ้งคิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจียงไห่ตงทันทีไม่ว่าผลการแข่งขันวันนี้จะออกมายังไง ไอ้สุนัขเฒ่าถังจิ้งจือและสารเลวหลี่จวิ้นเฟิงอย่าได้คิดหนีเลยส่วนฉู่เฉินที่อยู่บนเวทีกลับไม่ได้สนใจรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบข้างสักนิด จับชีพจรหญิงวัยกลางคนพลางตกอยู่ในภวังค์ความคิดพูดตามสัตย์จริง การรักษาโรคฝีหนองสำหรับฉู่เฉินไม่ได้ยากเย็นเลยแต่หากรีบรักษาให้หายโดยเร็วคงต้องคิดวิธีที่พิเศษสักหน่อย“ขอน้ำแร่หนึ่งขวดให้ผมได้ไหม?”ฉู่เฉินก
ยาสร้างกล้ามเนื้อดวงตาคู่งามของอวี้ลู่จดจ้องและจำเม็ดยาสีทองในมือฉู่เฉินได้ในทันทีก็เพราะยาสร้างกล้ามเนื้อในโลกเซียนราคาแพงลิบลิ่ว!ผู้ใดก็ตามที่มียาสร้างกล้ามเนื้อแค่หนึ่งเม็ดก็เท่ากับมีสองชีวิตเชียวและนักหลอมยาที่หลอมยาสร้างกล้ามเนื้อสำเร็จแทบนับนิ้วได้เลยในโลกเซียนด้วยเหตุนี้ยาสร้างกล้ามเนื้อแค่เม็ดเดียวก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรล้ำค่าในการฝึกบำเพ็ญได้มหาศาลเช่นกันแต่ฉู่เฉินตัวดี กลับนำสิ่งล้ำค่าขนาดนี้ใช้กับหญิงวัยกลางคนเพียงเพื่อรักษาโรคฝีหนองนะหรือ?เสียของดีหมด!ช่างเสียของจริงๆ!ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนในนี้เยอะ อวี้ลู่คงคิดจะพุ่งขึ้นไปตบเจ้าฉู่เฉินสักป๊าบ!นี่มันไม่ใช่การสิ้นเปลืองหรอกหรือ?รู้แต่แรกว่าเจ้ารักษาไม่ได้ก็บอกข้าที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สิ แค่ไอเซียนก็ทำให้นางฟื้นตัวเป็นปกติเช่นเดิมแล้ว ไยต้องสิ้นเปลืองยาสร้างกล้ามเนื้อไปหนึ่งเม็ดด้วย?ทุกคนประหลาดใจหญิงวัยกลางคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยแผลฝีหนองอยู่ๆ ก็หายดีราวปาฏิหาริย์ในเวลานี้เองผิวของเธอซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งดำและหยาบกร้าน กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาใหม่ในขณะนี้ และแม้แต่ผิวหนังชั้นแรกที่อักเสบเป็นพิ
หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ
“หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร
แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง
“ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ
ความจริงแล้ว สิ่งที่สวีปินพูดก็เป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ตอนนั้น ใครจะกล้าพูดคำว่า “ไม่” กันล่ะ? เขาเชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือโดยไม่ลังเลแน่นอนส่วนเรื่องการชำระบัญชีกับหอการค้ากิเลน นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอีกอย่าง กฎหมายไม่อาจลงโทษฝูงชนได้!หอการค้าตะวันออกใหญ่ทั้งหมด แค่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว หอการค้ากิเลนคงไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หรอกใช่ไหม?“โอ้? หมายความว่าตอนที่เกาเซิ่งอี้ถูกฆ่า คุณก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองงั้นเหรอ?”หลิงเสวี่ยขมวดคิ้ว ดวงตาค่อยๆ เย็นชาลง พร้อมตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็น“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เห็น วันนั้นทุกคนที่ไปร่วมงานฉลองครบรอบต่างก็เห็นกันหมด แต่จะทำอะไรได้ล่ะครับ? พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา จะไปช่วยคุณเกาได้ยังไง...”สวีปินกล่าวแก้ตัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก“งั้นฉันจะถามคุณ ใครเป็นคนฆ่าเกาเซิ่งอี้?”หลิงเสวี่ยลุกขึ้นช้าๆ มือหยกเรียวกดลงบนไหล่ของสวีปินเบาๆทันใดนั้น ความเย็นเยือกถึงกระดูกก็กลืนร่างของสวีปินไปจนหมด“คะ...คือชายคนหนึ่งชื่อฉู่เฉิน และดูเหมือนว่าบนตัวของฉู่เฉินจะมีหยกโลหิตกิเลนที่คุณเกาตามหาอยู่ด้วยครับ”สวีปิ
"ทำไม ฆ่าเกาเซิ่งอี้แค่คนเดียว ก็ทำให้คุณกลัวขนาดนี้เลยเหรอ? คุณอย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณก็เป็นเจ้านิกายแห่งสำนักอวี้ซือเหมือนกัน"ฉู่เฉินมองข่งเลี่ยงที่ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษพลางกล่าวขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน ข่งเลี่ยงก็รีบปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก กลืนน้ำลายอึกแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความระมัดระวังว่า "คุณฉู่ แม้ว่าเกาเซิ่งอี้จะเป็นแค่เบี้ยตัวเล็ก ๆ แต่...""แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับหยกโลหิตกิเลน งั้นก็ถือเป็นเรื่องใหญ่แล้ว""ช่วงนี้มียอดฝีมือจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่มณฑลเจียง ส่วนมากล้วนมาเพราะเรื่องนี้ คุณฉู่ควรเตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่น ๆ จะดีกว่านะครับ"ข่งเลี่ยงรู้ดีว่าฉู่เฉินยังมีไพ่ตายอย่างอวี้ลู่อยู่ มีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะคอยคุ้มกัน อีกฝ่ายก็ยากจะทำอะไรฉู่เฉินได้ในเวลาอันสั้นแม้แต่ราชสีห์ก็ยังมีเวลาพักผ่อนถ้าอีกฝ่ายหาจังหวะได้ เกรงว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ ก็อาจช่วยฉู่เฉินไม่ทันฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า“อืม ตอนนี้สำนักอวี้ซือยังเหลือศิษย์อยู่เท่าไหร่? อยู่ระดับไหน? ”ข่งเลี่ยงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบฉู่เฉินว่า “สำนักอวี้ซือเดิมทีก็เป็นเพียงสำนักเล็ก ๆ หลังจ
……ผ่านไปสิบนาทีฉู่เฉินก็เดินเข้าไปในห้องบุปผาข้างหน้าลานบ้านหยางเทียนหลงรีบวางถ้วยชาลงแล้วลุกขึ้นกำมือประสานคารวะกล่าว “หยางเทียนหลงคารวะคุณฉู่ครับ”ฉู่เฉินโบกมือกล่าว “เชิญนั่งตามสบาย ใช่แล้ว แกเป็นบ้าอะไรตั้งแต่เช้าตรู่?”อึก…หยางเทียนหลงยิ้มไม่เป็นธรรมชาติกล่าว “คุณฉู่ เช้าวันนี้ผมได้รับข่าวว่ามีคนต้องการแบนซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลในวงการการค้าทั่วทั้งมณฑลครับ”“และยังทิ้งท้ายว่า ใครกล้าร่วมธุรกิจกับซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล จะทำให้ล้มละลายภายในหนึ่งเดือน”พูดถึงตรงนี้แล้วหยางเทียนหลงก็พูดตามที่ครุ่นคิด “ช่วงนี้คุณฉู่คงไม่ได้ไปล่วงเกินใครไว้หรอกนะ?”ที่สำคัญคือฝั่งนั้นกล้าทิ้งคำพูดบ้าดีเดือดออกมาในวงการการค้าทั่วทั้งมณฑลเจียงแบบนี้ คงมีอำนาจที่ไม่ธรรมดาแน่“หอการค้ากิเลน”ฉู่เฉินกล่าวเสียงราบเรียบตามที่หยางเทียนหลงพูดมาแบบนี้ ฉู่เฉินก็ยืนยันได้แล้วว่าหอการค้ากิเลนที่เป็นคนแบนยาบำรุงปราณและซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลอย่างแน่นอนมั่นใจมากเลยว่าหลังจากข่าวการเสียชีวิตของเกาเซิ่งอี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้มีคนหลุดรอดกลับไปแจ้งข่าวหอการค้ากิเลนหรือพูดได้ว่าเป็นกองกำลังผู้อยู่เบื้องหลังได้จับตาม
“ค่ะ”หลิ่วชิงเหอไม่กล้าต่อต้าน และยิ่งไม่กล้าขัดขืนใด ๆ ชีวิตของคนธรรมดาก็เหมือนกับแมลงที่ไม่มีค่าควรเอ่ยถึงสำหรับสำนักใหญ่อย่างวังจื่อเซียวเธอไม่สงสัยสักนิดเลยว่าถ้าเธอไม่เชื่อฟังคำพูดหลิงรั่ว เธอและหลิ่วหรูเยียนคงจะถูกยันต์โลหิตวิญญาณทำร้ายจนเลือดนองเละเป็นโจ๊กภายในชั่วพริบตาอย่างแน่นอน“ยังไม่รีบไปอีก!”หลิงรั่วถลึงตาใส่หลิ่วชิงเหอและตวาดเสียงเย็นชาหลิ่วชิงเหอรีบพยักหน้าแล้วเดินไปยังป้ายรถเมล์ริมถนนหลักอย่างรวดเร็ว……อีกด้านหนึ่ง เช้าตรู่ฉู่เฉินไปที่พักของอวี้ลู่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญโดยเฉพาะสถานการณ์สองวันมานี้ของอวี้ลู่ไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัดและก็ไม่รู้ว่ายัยนั่นเป็นยังไงบ้าง จิตใจปั่นป่วน ถึงขั้นที่ฉู่เฉินเด็ดลูกท้อก็ยังไม่โกรธสักนิดนี่ทำเอาฉู่เฉินค่อนข้างแปลกใจแต่ ฉู่เฉินที่ระมัดระวังก็แค่จับโดนหน้าอกเอง ไม่ได้ทำขั้นต่อไปสักหน่อยแต่แค่นี้ก็ทำเอาอินซู่ซู่ตกใจเป็นอย่างมาก“นาย…นายท่าน ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้เด็ดขาดนะ สองสามวันนี้ท่านผู้อาวุโส…ท่านผู้อาวุโสเริ่มแปลกไป”อินซู่ซู่เดินไปข้างหน้าภูเขาอีกทางกับฉู่เฉินแล้วกระซิบกล่าว“โอะ? ลองพูดมาสิ หลายวันมานี้เธอ
“เหลืออีกไม่ถึงสามเดือนก็จะถึงวันที่สิบยอดขุนพลดินแดนมังกรแย่งชิงตำแหน่งสี่ขุนพลเทพพิทักษ์ชาติ ถ้าศิษย์น้องไม่ได้ยาโลหิตวิญญาณเพิ่มระดับพลังแล้วละก็ ทันทีที่ตกรอบ แผนที่ท่านอาจารย์ผู้เฒ่าวางไว้คงจะแพ้หมดรูปแน่”คิ้วสวยน่ามองของจื่อเยว่ขมวดเล็กน้อย มองไปยังหลิ่วชิงเหอที่กำลังตกใจจนตัวสั่น “เธอมีวิธีทำให้คนที่ฉู่เฉินคนนั้นมอบเลือดบริสุทธิ์มาให้สักหน่อยไหม?”อะไรนะ?หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าอย่างแรงราวกับกลองคลื่น พร้อมกล่าววิงวอน “ท่านประมุข ขอร้องคุณอย่าได้บังคับฉันเลย คุณไม่ทราบช่วงเวลาก่อนหน้านี้พวกเราสองแม่ลูกต้องประสบกับการล้างแค้นยังไงจากฉู่เฉิน”“ฉันยอมรับว่าสามปีมานี้ฉันผิดต่อเขา แต่…แต่เขาไม่ควรปู้ยี่ปู้ยำพวกเราสองแม่ลูกอย่างนั้น”“ท่านประมุข อย่าว่าแต่ให้เขามอบเลือดบริสุทธิ์ให้เลย แค่เขามีปัญหาเล็กน้อยก็จะทำกับพวกเราสองแม่ลูก…”หลิ่วชิงเหอพูดแค่นี้แล้วก็ยังบีบน้ำตาออกมาสองหยด“เหอะ!”หลิงรั่วทำเสียงฮึดฮัดและกล่าวกับจื่อเยว่ “ศิษย์พี่ใหญ่ ฉันจะลงเขาไปคุยกับคนแซ่ฉู่นั่นเอง ถ้าเขาหัวแข็ง ฉันจะใช้ยันต์โลหิตวิญญาณทำให้เขาอ้อนวอนขอตายก็ตายไม่ได้เอง!”“ดูสิว่าเขาจะกล้าไ
หญิงสาวยื่นมือแกะผ้าปิดตาหลิ่วชิงเหอ และกล่าวอย่างเย็นชา “ท่านประมุขรอคุณอยู่ที่ตำหนักใหญ่”กล่าวเสร็จก็ใช้นิ้วไปยังตำหนักมโหฬารที่อยู่เหนือขั้นบันไดหลายร้อยขั้น“ค่ะ ฉันจะไปพบท่านประมุขเดี๋ยวนี้ค่ะ”หลิ่วชิงเหอในเวลานี้ จะไปมีท่าทางสูงส่งเหมือนช่วงปกติได้ที่ไหนล่ะ?แม้ว่าวังจื่อเซียวจะมีลูกศิษย์ไม่ถึงร้อยคน แต่ขนาดเกาเซิ่งอี้ที่อยู่เบื้องหลังหอการค้ากิเลนยังหวั่นเกรงด้วยเหตุนี้จึงเดาไม่ยากเลยว่าวังจื่อเซียวนั้นน่าสะพรึงแค่ไหน!หลิ่วชิงเหอใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นนี้ได้ ปาดเหงื่อแล้วเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ของวังจื่อเซียว ขณะนี้บนตำแหน่งหลักบนสุดของห้องโถงในตำหนักนี้มีหญิงสาวที่งดงามมีผิวราวกับน้ำแข็งและมีใบหน้าที่เย็นชาเมื่อพิจารณาจากอายุแล้วประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหกเท่านั้น ใบหน้างามนั้นราวกับนางฟ้านางสวรรค์ในดินแดนเทพเซียนผมสีดำยาวสลวยของเธอห้อยลงมาถึงเอวราวกับน้ำตก ดวงตาของเธอลึกล้ำและกระจ่างราวกับดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน และรูปลักษณ์ใบหน้าของเธอแลดูน่าเกรงขามชุดกระโปรงสีขาวราวหิมะ เผยให้เห็นผิวเนียนบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นท่านประมุขวังจื่อเซีย
“วางใจได้ค่ะ หนูคิดว่าฉู่เฉินไม่ได้สนใจหอการค้าตะวันออกใหญ่เลยสักนิด หนูเดาว่า เป็นไปได้สูงว่าเขาคงจะทำการยุบหอการค้าตะวันออกใหญ่ไปตั้งแต่แรกแล้วถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแซ่เจียงคนนั้นละก็นะ”หลิ่วหรูเยียนนึกย้อนถึงฉากที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน และกล่าวตามสิ่งที่คิดไว้หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เงียบไปก็จริง มียาบำรุงปราณและยาบำรุงสวรรค์ในมือ ฉู่เฉินยังต้องการหอการค้าตะวันออกใหญ่ไปทำไม?ไม่จำเป็นเลยสักนิด“ก็ได้ เรื่องอะไรก็ตามลูกก็ระมัดระวังหน่อยแล้วกัน ใช่แล้ว ลูกวางแผนจะย้ายเข้าเฉียนหลงวิลล่าเมื่อไหร่? ฉู่เฉินมีท่าทีอะไรไหม?”หลิ่วชิงเหอถามต่อ“เขาไม่สนใจเฉียนหลงวิลล่าหรอกค่ะ มอบเฉียนหลงวิลล่าให้พวกเราทันทีแบบไม่คิดด้วยซ้ำ พรุ่งนี้เช้าหนูจะย้ายเข้าไป คฤหาสน์ตระกูลฉู่เล็กเกินไปจริง ๆ ”หลิ่วหรูเยียนขยับเล็บที่เพิ่งไปทำมาใหม่เล่น และเปลี่ยนเรื่องถามไถ่ “ทางนั้นเป็นยังไงบ้างคะแม่ ยังราบรื่นไหม?”“เฮ้อ”หลิ่วชิงเหอถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวอย่างกังวลใจ “ยังรอเข้าพบอยู่เลยจ้ะ พรุ่งนี้ละมั้ง อาจจะได้ผลลัพธ์ ถึงตอนนั้นแม่ค่อยโทรหาลูกนะ”กล่าวจบหลิ่วชิงเหอก็วางสายไป……ในเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห
ที่จริงแล้วดินแดนลึกลับก็คือคนในโลกแห่งการบำเพ็ญเซียน วิชาที่ใช้โดยทั่วไปก็คือวิชาพรางตาป้องกันคนภายนอกสอดแนมโดยทั่วไปถ้ามองจากภายนอกอาจจะเห็นเป็นเนินเล็ก ๆ แต่ถ้าเข้าไปข้างในนั้นได้ก็จะพบว่าภายในมีจักรวาลฟ้าดินอีกแห่ง พื้นที่กว้างใหญ่ ยอดภูเขาตั้งซ้อนสลับกันแต่ตามที่เซียวถิงฮั่นกล่าวมา นั่นก็เท่ากับสิ่งที่เรียกว่าสี่ยอดขุนเขาศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นก็ใช้วิธีพรางตาแบบเดียวกันมีแต่จะใช้คาถาหรือวิชาลับพิเศษจึงจะสามารถเข้าไปในสี่ยอดขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงได้คนธรรมดา ต่อให้ใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัยที่สุดก็ไม่มีทางหาทางเจอฉู่เฉินพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกับเซียวถิงฮั่นไม่กี่ประโยคแล้ว สองพ่อลูกเซียวถิงฮั่นก็ลุกขึ้นขอตัวลา……อีกทางด้านหนึ่ง จุดที่ลึกสุดของภูเขาหลางจวีซวี บนยอดเขาสูงตระหง่านมีวิหารมากมายในขณะนี้เอง ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ในวิหารหลักของวังเทียนเจียน ซึ่งกำลังมองแผ่นหยกที่แตกหักในมือของเขาด้วยสีหน้าเศร้าหมองอย่างยิ่ง จิตสังหารพลุ่งพล่านอยู่ในดวงตาของเขา“ท่านปรมาจารย์ เกาเซิ่งอี้เสียชีวิตแล้ว ต้องรีบส่งคนไปตระกูลฉู่ที่เมืองเจียงจงเพื่อตามหาหยกโลหิตกิเ
เซียวถิงฮั่นกล่าวพร้อมประสานมือคารวะฉู่เฉินจากนั้นเซียวจี้เซียนรีบนำโสมแก่ร้อยปีสามต้นยื่นให้ตรงหน้าฉู่เฉินเห็นโสมสามต้นแล้วฉู่เฉินก็ฉีกยิ้มบาง ๆ กล่าว “ผู้อาวุโสเซียว เป็นไปตามที่คุณพูด ผมกับตระกูลเซียวคุณไม่ได้มีความแค้นอะไร ดังนั้นเรื่องของเซียวจี้กวางก็ถือจบกันไปแล้วกัน”“แต่ว่า ผมมีหนึ่งเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย”ได้ยินแล้วเซียวถิงฮั่นก็รีบกล่าวพร้อมมือประสาน “คุณฉู่ มีคำถามอะไรถามมาได้เลยครับ ถ้าผมรู้ผมจะตอบทุกอย่างเลยครับ”ฉู่เฉินครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วขมวดคิ้วเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสเซียว ในปีนั้นตกลงแล้วเกาเซิ่งอี้ได้รับคำสั่งมาจากใครให้ไปลักพาตัวพ่อแม่ของผมกันแน่?”เซียวถิงฮั่นได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าขมวดคิ้วแน่นพร้อมตอบ “คุณฉู่ ขอบอกตามตรงโดยไม่ปกปิดนะ ตระกูลเซียวของเราเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ ไม่ค่อยได้ติดต่อคนจากโลกแห่งการหยั่งรู้สักเท่าไหร่”“ผมก็รู้แค่ว่าเรื่องในปีนั้นเกาเซิ่งอี้ได้รับคำสั่งจากสำนักใหญ่สำนักหนึ่งที่อยู่ภูเขาหลางจวีซวี แต่เป็นใครนั้นผมก็ไม่สามารถล้วงลึกได้ และไม่กล้าสืบต่อ”พูดถึงตรงนี้แล้วเซียวถิงฮั่นก็หยุดไป จากนั้นพูดต่อ “ผมมีคำพูดจะเตือน ในเมื่อเรื่องในปีนั