“ผู้ชายเลวๆ แบบนั้น ดีแล้วที่เขาไม่รู้ว่าแกมีลูก ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยแกเลี้ยงลูกเอง แต่ตอนนี้แกต้องกินข้าวนะจิน ถ้าไม่กินแกจะไม่แข็งแรงได้ แล้วลูกแกอีก ตอนนี้มีสองคนแล้วนะไม่ใช่ตัวแกคนเดียว” สุจิตบอกเพื่อนรัก
“ก็ฉันกินแกงเขียวหวานไม่ได้ ไข่เจียวก็ไม่ได้ แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากกินคือผัดเผ็ดกบ” จินตนาบอกเพื่อนรัก และเธอก็ลืมด้วยว่าเธอไม่ทานกบ แต่ทำไมตอนนี้ถึงนึกอยากทานอยากลองสิ่งที่ไม่เคยทาน
“แน่ใจนะแก แกไม่กินกบนะจินเท่าที่ฉันจำได้”
“ก็ใช่ แต่ฉันอยากกินแก ตอนนี้เพิ่งจะหกโมงเย็นเอง แกไปตลาดสดหาซื้อมาผัดให้ฉันกินได้ไหมสุ”
“ฉันต้องขับรถไปตลาดใช่ไหมตอนนี้”
“อือ...นะสุนะ หลานอยากกิน”
“โอเค เดี๋ยวฉันออกไปหากบมาผัดเผ็ดให้กิน”
“ขอบคุณนะแก รักแกนะ”
“อือ...ฉันก็รักแกเหมือนกัน อ้อ...แล้วพ่อกับแม่แกล่ะ จะทำยังไงเรื่องท้องของแก” สุจิตเพิ่งนึกได้ว่าจินตนายังไม่ได้บอกที่บ้านเลยว่ามาทำงานอยู่กับเธอและกำลังมีหลานให้ท่านทั้งสอง
“ยังไม่รู้เลย รอโอกาสก่อน ตอนนี้คิดไม่ออกหิวอย่างเดียว เดี๋ยวตลาดวายหรอก ไปสิสุ”
“ได้ๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละว่าที่
ผ่านมาจนตอนนี้ ลูกน้อยได้เจ็ดเดือนสามสัปดาห์แล้วที่เธอใช้ชีวิตเป็นคุณครูที่นี่ และไม่แพ้ท้องแล้ว อยากรู้เหลือเกินว่าพ่อของลูกจะเป็นยังไงบ้าง แม้ปากจะบอกว่าเกลียด ว่าไม่ต้องการให้ปักษาเป็นพ่อของลูกน้อย แต่ในทุกๆ คืนเธอมักพูดคุยกับลูกเสมอว่าเขามีพ่อ แต่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร ทำไมไม่มีพ่อมาอยู่ด้วยในทุกๆ วัน “คิดอะไรอยู่แก แล้วนี่ทำเรื่องลาคลอดแล้วใช่ไหม”สุจิตถามเพื่อนรักเมื่อเห็นจินตนานั่งเหม่อตั้งแต่เช้า วันนี้วันเสาร์วันหยุดเป็นวันหยุดที่สองสาวมักจะอยู่บ้านพักผ่อนและช่วยกันทำงานบ้าน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสุจิตทำมากกว่า เพราะตอนนี้จินตนาท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว เธอจึงไม่อยากให้เพื่อนช่วยงานยกของก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ เดี๋ยวจะเป็นอันตรายถึงเจ้าตัวเล็กในท้อง“ไม่มีอะไรหรอกแก แค่คิดถึงลูกน่ะ” เธอบอกเพื่อน“คิดถึงลูกหรือพ่อของลูกเอาให้แน่”“ไม่คุยกับแกแล้ว หิวรึยังเดี๋ยวฉันทำมื้อเที่ยงให้ เป็นรางวัลของคนทำงานบ้าน”“เปลี่ยนเรื่องแถไปก็ไม่รอดหรอก ฉันเป็นเพื่
‘ใช่เธอจริงๆ ด้วยสุ’ เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยิ้มแห้งๆ ตอบเพื่อน “ไม่มีอะไรหรอก แค่ไม่เคยเห็นน่ะ ปกติไม่เคยเห็นถ่ายติดผู้หญิงคนนี้เลยสงสัยอยากรู้” “แน่ใจ” ถามเพื่อนอย่างสงสัย เพราะสายตาของเพื่อนมันเผยพิรุธออกมาให้เห็นแวบหนึ่งเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่ามันเพราะอะไร “อือ...แล้วนี่มึงจะกลับบ้านตอนไหน แล้วใครจะไปรับส้มหวานวันนี้” “ก็กูเนี่ยแหละจะไปรับส้มหวาน มึงจะไปกับกูเหรอ” “อือ” “ไปสิ นี่ก็บ่ายสามโมงแล้ว กูไม่อยากให้หลานกูรอนานน่ะ กูอยากเป็นคนไปรอมากกว่า” “คุณลุงดีเด่น” “แน่นอน และอีกไม่นานก็จะเป็นคุณพ่อดีเด่นด้วย” “ถามจร
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง จินตนาคลอดลูกน้อยออกมา หนูน้อยเป็นผู้ชายมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อราวกับแกะ หล่อนอุ้มท้องมาเองแท้ๆ แต่ลูกกลับออกมาหน้าตาเหมือนพ่อ เธอจึงตั้งชื่อให้ลูกชายว่า “วายุ อุ่นใจ ชื่อเล่นก็วายุ” ตอนนี้หนูน้อยเพิ่งอายุได้หนึ่งเดือนสามสัปดาห์ จินตนาโชคดีเหลือเกินที่มีสุจิตอยู่ด้วย หล่อนลาเลี้ยงลูกสามเดือนกับทางโรงเรียน และช่วงเย็นก็มีสุจิตมาช่วยดูแลเลี้ยงดูลูกน้อย เรื่องลูกเธอยังไม่บอกที่บ้าน หล่อนยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ด้วยกลัวว่าพวกท่านทั้งสองจะเสียใจและรับไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องบอก เพราะเธอไม่อยากจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกในช่วงที่ไปสอน เธออยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยและช่วยเลี้ยงลูกมากกว่า แต่ตอนนี้ยังก่อน ใกล้ๆ หมดวันลาเธอค่อยโทรบอกที่บ้านเรื่องของเธอ อุแว้! อุแว้! อุแว้! เสียงเด็กชายวายุร้องไห้งอแงเมื่อผู้เป็น
สุจิตกลับมาจากโรงเรียนก็เห็นเพื่อนนั่งร้องไห้ที่โซฟาหน้าโทรศัพท์จนตาบวมแดงจึงรีบวางข้าวของในมือแล้ววิ่งไปหาเพื่อนรักเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้ววายุล่ะ วายุไปไหน ทำไมไม่เห็น หรือว่านอนหลับอยู่บนห้อง เธอพยายามคิดบวก แต่แล้วยิ่งถามถึงหลานเพื่อนรักก็ยิ่งร้องไห้สะอื้นดังกว่าเดิมพร้อมโถมตัวโอบกอดเธอแนบแน่น ฮือๆๆ “แก...อึก...ฮือๆๆ เขามาเอาลูกไปแล้ว คนสารเลวนั่นมาแย่งวายุไปแล้ว ฮือๆๆ อึก...” หล่อนบอกเพื่อนด้วยเสียงสะอื้นไห้พร้อมกอดเพื่อนแน่นและซุกหน้ากับไหล่เล็กของสุจิต อึก! ฮือๆๆ “ว่าไงนะ ผู้ชายคนนั้นมา มาได้ยังไง แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าจินมีลูก” หล่อนถามพร้อมผลักเพื่อนออกจากอ้อมกอดเพื่อมาพูดคุยกันให้รู้เรื่อง “ฮือๆๆ ไม่รู้เหมือนกันเขารู้ได้ยั
“ป้ามาแล้วค่ะคุณปัก” ดอกไม้เดินเข้ามาเห็นภาพน่ารักของสองพ่อลูกก็อดยิ้มไม่ได้ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีแม่มาอยู่ด้วย“ไปอยู่กับยายดอกไม้นะครับ พ่ออาบน้ำเสร็จจะตามไป ไปอยู่กับพี่ส้มหวานนะครับ ป้าครับเตรียมมื้อเช้าให้ส้มหวานรึยังครับ” พูดกับลูกน้อยพร้อมช้อนอุ้มขึ้นแนบอกส่งให้แม่บ้านเก่าแก่ของตัวเองพร้อมถามถึงมื้อเช้าของนางฟ้าตัวน้อยของตัวเอง“ตอนนี้หนูส้มหวานกำลังทานมื้อเช้าค่ะ คุณปักจะไปส่งหนูส้มหวานเหรอคะ”“ครับ ผมจะไปส่งส้มหวานแล้วจะไปเหมืองแร่เลยครับ วันนี้ป้าเลี้ยงวายุได้ไหมครับ หรือถ้าไม่ได้ยังไงผมจะได้หาพี่เลี้ยงมาช่วยครับ”“ทำไมคุณปักไม่พาหนูจินมาด้วยคะ เธอเป็นแม่...”“อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นเลยครับ เธอแค่อุ้มท้องและคลอดวายุ ผมไม่ให้เธอเป็นแม่ของลูกผม และผมก็ไม่ต้องการเธอด้วย” พูดตรงข้ามกับความต้องการส่วนลึกของหัวใจ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองนั้นโหยหาจินตนามากแค่ไหน แต่ปักษาก็จะเลือกปฏิเสธความปรารถนานั้นออกไปเมื่อคิดว่าเธอจงใจพรากลูกไปจากตน“แต่ยังไง...”“ผมจะอาบน้ำแล้วครับ ป้าพาวายุลงไปข้างล่างดูส้มหวานกินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวผมอาบ
ความเครียด ความกดดัน ความโกรธตอนอยู่ข้างล่างทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่อยากให้ลูกน้อยอยู่ใกล้และซึมซับพลังด้านลบของตัวเอง เขาจึงให้ดอกไม้นำวายุไปเลี้ยงที่ห้องของส้มหวาน คืนนี้เขาอยากอยู่คนเดียว อยากสงบสติอารมณ์ของตัวเอง จึงไม่ต้องการให้ใครมารบกวน และส้มหวานก็ดีใจที่วันนี้มีน้องชายและคุณยายไปนอนด้วยที่ห้องของตัวเอง ปักษาปลดเปลื้องชุดออกแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมเปิดน้ำอุ่นและน้ำเย็นผสมกันในอ่างอาบน้ำ และรอไม่นานระดับน้ำในอ่างก็พอดีนอนแช่ตัว เขาก้าวขาแข็งแรงเข้าไปในอ่างอาบน้ำแล้วเคลื่อนตัวนอนดับความร้อนของอารมณ์ที่กำลังลุกโชนอยู่ในอกของตัวเอง เขาหลับตาพิงหัวกับขอบอ่างอาบน้ำแล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองไปมาเพื่อไล่ความเครียด เขานอนแช่ในอ่างน้ำจนเผลอหลับไปในอ่างพร้อมกับเรื่องของจินตนา ด้วยความอ่อนเพลียที่ทำงานในเหมืองแร่มาทั้งวัน และวันนี้ก็มีดินถล่มอีก เขาจึงวุ่นวายแต่ก็ไม่ได้ยุ่งจนต้องลืมเวลาไปรับหลานสาวของตัวเอง ปักษาใส่ใจทุกอย่า
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอมาห้องฉันได้ยังไง เมื่อมาแล้วก็ต้องรับโทษ และตอนนี้ฉันก็อยากเอาเธอจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ฉันต้องการได้ยินไหมจิน ฉันต้องการกระแทกแรงๆ ในความคับแน่นของเธอ” พูดจบก็ไม่รอช้าจึงกระชากเสื้อยืดสีขาวของหล่อนขาดครึ่ง แล้วดึงรั้งออกโยนทิ้ง โดยไม่สนใจมือเล็กที่ปัดป่ายผลักเขาออกห่าง“ไม่นะ! คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ครั้งแรกคุณก็ข่มขืนฉันแล้ว คุณจะเลวไปถึงไหนคุณปัก” แม้ว่าปักษาจะกระชากเสื้อขาด เธอก็ไม่มีวันยอมแน่ เธอไม่ต้องการอีกแล้ว เธอไม่อยากเจ็บปวดเหมือนที่ผ่านมา“ทำไมฉันจะบังคับและข่มขืนเธอครั้งที่สองอีกไม่ได้ล่ะจิน อีกอย่างจะเรียกข่มขืนไม่ได้ เพราะเธอครวญครางตอบรับฉันและครางร้องเรียกให้ฉันช่วยเธอไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่เชื่อก็ตั้งกล้องอัดคลิปไว้ก็ได้” เขาพูดพร้อมกับแสยะยิ้มและรวบมือน้อยทั้งสองไว้ด้วยมือข้างเดียว จากนั้นเคลื่อนตัวเข้าไปแทรกกลางหว่างขาน้อยแล้วใช้ขาแข็งแรงข้างซ้ายกดขาของเธอแยกแนบไปกับอ่างล้างหน้า“ไม่จริง! ฉันไม่เคยต้องการ แต่เพราะคุณหลอกฉัน” เธอร้องปฏิเสธเสียงดังหึหึ“ฉันหลอกเธอตอนไหน เห็นทุกครั้งเธอก็อ้าขาให้ฉันเอา และบางวันก็ขึ
ปักษาเริงรักกับร่างกายของจินตนาจนถึงเช้าของวันถัดมา เขาไม่สนใจหรอกว่าเจ้าหล่อนจะยินยอมหรือไม่ รู้แต่ว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นขย่มหล่อนก็อ้าถ่างขาตอบรับ และในบางยกหล่อนก็ยังเป็นผู้ขึ้นคร่อมขย่มร่างของเขา หล่อนเองก็ต้องการเขาไม่ต่างจากที่เขาปรารถนาตัวเธอนักหรอก จินตนาขยับตัวอ่อนแรงบนเตียงนุ่ม ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับระดับการมองเห็นของตัวเอง และเมื่อปรับการมองเห็นให้เข้ากับแสงในยามเช้าแล้ว เธอก็ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องครางออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บกลางกายที่ถูกรุกเร้าตลอดคืนที่ผ่านมา และเธอก็เพิ่งได้นอนไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องตื่นเมื่อสำนึกได้ว่าที่นี่คือที่ไหน เธอมองไปรอบๆ ห้องก็เห็นร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่ายืนอยู่ที่หน้าต่าง ในมือของเขามีบุหรี่ถือพร้อมกับควันสีเทาลอยออกจากปากและจมูกของเขา “คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม” หล่อนกัดฟันถามเขาพร้อมกับกำผ้าห่มที่ห่มร่างตัวเองไว้แน่นและขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง 
“โอว์...เสียวดีเหลือเกินเมียพี่ อ่า...ดีมากทูนหัว โอว์...เสียว ซี้ดดดด” เสียงคำรามพร่าดังออกมาจากริมฝีปากหนาของปักษา พร้อมกับมือใหญ่กดหัวทุยน้อยของแม่ยอดสวาทของตัวเองให้เคลื่อนไหวขึ้นลงซุกไซ้กับหว่างขาแข็งแรงของตัวเอง ท่อนขาใหญ่ทั้งสองเหยียดเกร็งพร้อมกับเท้าจิกเกร็งตามแรงเสียวซ่านที่คนตัวเล็กกำลังทรมานซ่านตนเองอยู่ “อ่า...อือ ชอบไหมคะพี่ปัก อ่า...” มือน้อยจับหน้าขาแข็งแรงทั้งสองลูบไล้ไปมากับโคนขาบุรุษแข็งแรง เธอนั่งคุกเข่าแทรกอยู่กลางหว่างขาใหญ่ที่แยกกว้างของชายหนุ่ม สองมือลูบไล้เคลื่อนถูไถไปมากอบกุมพวงสวรรค์และเอ็นอุ่นร้อนที่ปากน้อยของหล่อนดูดรูดคลึงหยอกเย้าปลุกเสียว “โอว์...ชอบมากทูนหัว ผัวอยากให้ดูดแรงๆ อ่า...จะแตกแล้วจิน พี่ไม่ไหวแล้ว อืม...” แอ่นยกเร่าเอวสอบนำพาแก่นกายอุ่นร้อนสอดเสียดสีเข้าในปากน้อย ซึ่งปากน
ตลอดสองอาทิตย์ที่มาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ จินตนาก็พ่ายแพ้ต่อบทรักบทสวาทของคนมักมากในกามอย่างปักษา และเธอเองก็เป็นฝ่ายยอมเสียมากกว่าแม้จะปากแข็งไม่ต้องการ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยอมพร้อมตามไปกับเขา และในบางครั้งหล่อนก็ขึ้นขย่มเขาราวกับแม่เสือสาว จินตนาเริ่มใจอ่อนแล้ว แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะปักษายังไม่พูดคำว่าขอโทษและบอกว่ารักเธอสักครั้ง หล่อนอยากได้ยิน อยากแน่ใจและมั่นใจว่าเขานั้นต้องการตัวเองกับลูกจริงๆ ส่วนสุจิต เพื่อนของเธอก็แวะมาเยี่ยม แต่พอมาแล้วมาเจอกับทินกรณ์ เพื่อนของปักษา เพื่อนก็รีบกลับเชียงรายทันทีโดยไม่พูดไม่บอกอะไรเธอสักคำ และไม่รู้ด้วยว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงต้องทะเลาะเมื่อเจอกันเมื่อสามวันก่อนที่ทินกรณ์ก็มารับขวัญหลานแล้วพอเจอกันทั้งสองก็ฟาดฟันโต้เถียงใส่อารมณ์กัน จนทำให้เธอมึนงงและไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของปักษา แต่ตัวเขานั้นหายหัวไปไหนไม่รู้ สามวันแล้วที่ไม่เจอเขา ไม่รู้ไปไหน
ปักษาพูดอธิบายให้คนตัวเล็กที่ดิ้นแรงในอ้อมกอดของตัวเองให้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองตอนนั้นด้วย เขากลัวหลายๆ อย่าง เพราะเขามีส้มหวานเป็นครึ่งชีวิต ตั้งแต่หลานเสียพ่อกับแม่ไป เขาก็บอกกับตัวเองว่าจะดูแลส้มหวานให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้หลานรู้สึกขาดหรือเกินและขาดความรัก เขาจึงทุ่มเททุกอย่างให้กับหลานสาวคนเดียวมาตลอด แต่พอวันนั้นจินตนาสมมติเรื่องที่ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง เขาจึงโกรธและพลั้งปากพูดแบบนั้นออกไปจินตนาหยุดดิ้นเมื่อคิดตามคำพูดของเขาและคิดถึงส้มหวาน ก็จริงอย่างที่เขาพูด เขาคงกลัวว่าส้มหวานจะมีปมด้อยและเป็นเด็กขี้อิจฉา แล้วเขา...แล้วเขาทำไมถึงได้บุกรุกห้องนอนของเธอที่เป็นลูกจ้างล่ะ เขาข่มขืนเธอ ข้อนี้มันยังค้างคาในใจและทำให้เธอเกลียดเขา เกลียดเหรอ? เธอเกลียดปักษาจริงๆ งั้นเหรอ?“แล้วทำไมคุณข่มขืนฉัน”“ก็คนมันอยากได้ เต๊าะตั้งนานไม่ยอมสักที และวันนั้นก็ไม่ไหว ความอดทนของผัวมันต่ำเลยเผด็จศึกอย่างที่โดนนั่นแหละ อีกอย่างไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงอยากได้จินมากขนาดนั้นช่วงนั้น และตอนนี้ก็ยังอยากได้ ตลอดเวลาที่จินไม่อยู่ ผัวก็อดอยากมากไม่เคยเอากับผู้หญิงที่ไหนเลย เอ
ปักษาเริงรักกับร่างกายของจินตนาจนถึงเช้าของวันถัดมา เขาไม่สนใจหรอกว่าเจ้าหล่อนจะยินยอมหรือไม่ รู้แต่ว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นขย่มหล่อนก็อ้าถ่างขาตอบรับ และในบางยกหล่อนก็ยังเป็นผู้ขึ้นคร่อมขย่มร่างของเขา หล่อนเองก็ต้องการเขาไม่ต่างจากที่เขาปรารถนาตัวเธอนักหรอก จินตนาขยับตัวอ่อนแรงบนเตียงนุ่ม ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับระดับการมองเห็นของตัวเอง และเมื่อปรับการมองเห็นให้เข้ากับแสงในยามเช้าแล้ว เธอก็ขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องครางออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บกลางกายที่ถูกรุกเร้าตลอดคืนที่ผ่านมา และเธอก็เพิ่งได้นอนไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องตื่นเมื่อสำนึกได้ว่าที่นี่คือที่ไหน เธอมองไปรอบๆ ห้องก็เห็นร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่ายืนอยู่ที่หน้าต่าง ในมือของเขามีบุหรี่ถือพร้อมกับควันสีเทาลอยออกจากปากและจมูกของเขา “คุณทำแบบนี้กับฉันทำไม” หล่อนกัดฟันถามเขาพร้อมกับกำผ้าห่มที่ห่มร่างตัวเองไว้แน่นและขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง 
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอมาห้องฉันได้ยังไง เมื่อมาแล้วก็ต้องรับโทษ และตอนนี้ฉันก็อยากเอาเธอจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ฉันต้องการได้ยินไหมจิน ฉันต้องการกระแทกแรงๆ ในความคับแน่นของเธอ” พูดจบก็ไม่รอช้าจึงกระชากเสื้อยืดสีขาวของหล่อนขาดครึ่ง แล้วดึงรั้งออกโยนทิ้ง โดยไม่สนใจมือเล็กที่ปัดป่ายผลักเขาออกห่าง“ไม่นะ! คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ครั้งแรกคุณก็ข่มขืนฉันแล้ว คุณจะเลวไปถึงไหนคุณปัก” แม้ว่าปักษาจะกระชากเสื้อขาด เธอก็ไม่มีวันยอมแน่ เธอไม่ต้องการอีกแล้ว เธอไม่อยากเจ็บปวดเหมือนที่ผ่านมา“ทำไมฉันจะบังคับและข่มขืนเธอครั้งที่สองอีกไม่ได้ล่ะจิน อีกอย่างจะเรียกข่มขืนไม่ได้ เพราะเธอครวญครางตอบรับฉันและครางร้องเรียกให้ฉันช่วยเธอไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่เชื่อก็ตั้งกล้องอัดคลิปไว้ก็ได้” เขาพูดพร้อมกับแสยะยิ้มและรวบมือน้อยทั้งสองไว้ด้วยมือข้างเดียว จากนั้นเคลื่อนตัวเข้าไปแทรกกลางหว่างขาน้อยแล้วใช้ขาแข็งแรงข้างซ้ายกดขาของเธอแยกแนบไปกับอ่างล้างหน้า“ไม่จริง! ฉันไม่เคยต้องการ แต่เพราะคุณหลอกฉัน” เธอร้องปฏิเสธเสียงดังหึหึ“ฉันหลอกเธอตอนไหน เห็นทุกครั้งเธอก็อ้าขาให้ฉันเอา และบางวันก็ขึ
ความเครียด ความกดดัน ความโกรธตอนอยู่ข้างล่างทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่อยากให้ลูกน้อยอยู่ใกล้และซึมซับพลังด้านลบของตัวเอง เขาจึงให้ดอกไม้นำวายุไปเลี้ยงที่ห้องของส้มหวาน คืนนี้เขาอยากอยู่คนเดียว อยากสงบสติอารมณ์ของตัวเอง จึงไม่ต้องการให้ใครมารบกวน และส้มหวานก็ดีใจที่วันนี้มีน้องชายและคุณยายไปนอนด้วยที่ห้องของตัวเอง ปักษาปลดเปลื้องชุดออกแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมเปิดน้ำอุ่นและน้ำเย็นผสมกันในอ่างอาบน้ำ และรอไม่นานระดับน้ำในอ่างก็พอดีนอนแช่ตัว เขาก้าวขาแข็งแรงเข้าไปในอ่างอาบน้ำแล้วเคลื่อนตัวนอนดับความร้อนของอารมณ์ที่กำลังลุกโชนอยู่ในอกของตัวเอง เขาหลับตาพิงหัวกับขอบอ่างอาบน้ำแล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองไปมาเพื่อไล่ความเครียด เขานอนแช่ในอ่างน้ำจนเผลอหลับไปในอ่างพร้อมกับเรื่องของจินตนา ด้วยความอ่อนเพลียที่ทำงานในเหมืองแร่มาทั้งวัน และวันนี้ก็มีดินถล่มอีก เขาจึงวุ่นวายแต่ก็ไม่ได้ยุ่งจนต้องลืมเวลาไปรับหลานสาวของตัวเอง ปักษาใส่ใจทุกอย่า
“ป้ามาแล้วค่ะคุณปัก” ดอกไม้เดินเข้ามาเห็นภาพน่ารักของสองพ่อลูกก็อดยิ้มไม่ได้ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีแม่มาอยู่ด้วย“ไปอยู่กับยายดอกไม้นะครับ พ่ออาบน้ำเสร็จจะตามไป ไปอยู่กับพี่ส้มหวานนะครับ ป้าครับเตรียมมื้อเช้าให้ส้มหวานรึยังครับ” พูดกับลูกน้อยพร้อมช้อนอุ้มขึ้นแนบอกส่งให้แม่บ้านเก่าแก่ของตัวเองพร้อมถามถึงมื้อเช้าของนางฟ้าตัวน้อยของตัวเอง“ตอนนี้หนูส้มหวานกำลังทานมื้อเช้าค่ะ คุณปักจะไปส่งหนูส้มหวานเหรอคะ”“ครับ ผมจะไปส่งส้มหวานแล้วจะไปเหมืองแร่เลยครับ วันนี้ป้าเลี้ยงวายุได้ไหมครับ หรือถ้าไม่ได้ยังไงผมจะได้หาพี่เลี้ยงมาช่วยครับ”“ทำไมคุณปักไม่พาหนูจินมาด้วยคะ เธอเป็นแม่...”“อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นเลยครับ เธอแค่อุ้มท้องและคลอดวายุ ผมไม่ให้เธอเป็นแม่ของลูกผม และผมก็ไม่ต้องการเธอด้วย” พูดตรงข้ามกับความต้องการส่วนลึกของหัวใจ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองนั้นโหยหาจินตนามากแค่ไหน แต่ปักษาก็จะเลือกปฏิเสธความปรารถนานั้นออกไปเมื่อคิดว่าเธอจงใจพรากลูกไปจากตน“แต่ยังไง...”“ผมจะอาบน้ำแล้วครับ ป้าพาวายุลงไปข้างล่างดูส้มหวานกินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวผมอาบ
สุจิตกลับมาจากโรงเรียนก็เห็นเพื่อนนั่งร้องไห้ที่โซฟาหน้าโทรศัพท์จนตาบวมแดงจึงรีบวางข้าวของในมือแล้ววิ่งไปหาเพื่อนรักเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้ววายุล่ะ วายุไปไหน ทำไมไม่เห็น หรือว่านอนหลับอยู่บนห้อง เธอพยายามคิดบวก แต่แล้วยิ่งถามถึงหลานเพื่อนรักก็ยิ่งร้องไห้สะอื้นดังกว่าเดิมพร้อมโถมตัวโอบกอดเธอแนบแน่น ฮือๆๆ “แก...อึก...ฮือๆๆ เขามาเอาลูกไปแล้ว คนสารเลวนั่นมาแย่งวายุไปแล้ว ฮือๆๆ อึก...” หล่อนบอกเพื่อนด้วยเสียงสะอื้นไห้พร้อมกอดเพื่อนแน่นและซุกหน้ากับไหล่เล็กของสุจิต อึก! ฮือๆๆ “ว่าไงนะ ผู้ชายคนนั้นมา มาได้ยังไง แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าจินมีลูก” หล่อนถามพร้อมผลักเพื่อนออกจากอ้อมกอดเพื่อมาพูดคุยกันให้รู้เรื่อง “ฮือๆๆ ไม่รู้เหมือนกันเขารู้ได้ยั
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง จินตนาคลอดลูกน้อยออกมา หนูน้อยเป็นผู้ชายมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับผู้เป็นพ่อราวกับแกะ หล่อนอุ้มท้องมาเองแท้ๆ แต่ลูกกลับออกมาหน้าตาเหมือนพ่อ เธอจึงตั้งชื่อให้ลูกชายว่า “วายุ อุ่นใจ ชื่อเล่นก็วายุ” ตอนนี้หนูน้อยเพิ่งอายุได้หนึ่งเดือนสามสัปดาห์ จินตนาโชคดีเหลือเกินที่มีสุจิตอยู่ด้วย หล่อนลาเลี้ยงลูกสามเดือนกับทางโรงเรียน และช่วงเย็นก็มีสุจิตมาช่วยดูแลเลี้ยงดูลูกน้อย เรื่องลูกเธอยังไม่บอกที่บ้าน หล่อนยังไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ด้วยกลัวว่าพวกท่านทั้งสองจะเสียใจและรับไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องบอก เพราะเธอไม่อยากจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงลูกในช่วงที่ไปสอน เธออยากให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยและช่วยเลี้ยงลูกมากกว่า แต่ตอนนี้ยังก่อน ใกล้ๆ หมดวันลาเธอค่อยโทรบอกที่บ้านเรื่องของเธอ อุแว้! อุแว้! อุแว้! เสียงเด็กชายวายุร้องไห้งอแงเมื่อผู้เป็น