"คุณ..."หนิงหว่านโกรธจนหน้าอกขึ้น ๆ ลง ๆ แทบจะรีบวิ่งเข้าไปไม่ได้จี้เหลียงชวนที่เพิ่งออกมาจากห้องปฏิบัติการ เห็นหนิงหว่านโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงรีบเดินไป"เกิดอะไรขึ้น"เห็นคือจี้เหลียงชวน สีหน้าของหนิงหว่านผ่อนคลายลงเล็กน้อยเธอระงับอารมณ์และชี้ไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพูดกับจี้เหลียงชวนว่า "พี่เหลียงชวน ฉันอยากหาซือหาน แต่เขาไม่ยอมให้ฉันเข้าไปค่ะ "เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเธอรู้จักจี้เหลียงชวน นี่ถึงเชื่อสิ่งที่เธอเพิ่งพูดผู้หญิงคนนี้ เป็นคู่หมั้นของประธานจี้จริง ๆ เหรอ?แล้วเขาเพิ่งรุกรานนายหญิงของตระกูลจี้ไม่ใช่หรือ?เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองไปที่จี้เหลียงชวน เห็นเขากําลังมองตัวเอง คิดในใจว่าตายแล้ว งานที่มีรายได้สูงไม่สามารถรักษาไว้ได้แล้วใครจะไปรู้ว่าจี้เหลียงชวนเงยมือขึ้นและตบไหล่เขา "เสี่ยวเทียน คุณทําได้ดีมาก ปลายปีเพิ่มโบนัสให้คุณนะครับ!"เสี่ยวเทียน...ความสุขมาถึงอย่างกะทันหันเกินไป!"พี่เหลียงชวน คุณทำยังไง..."คำพูดของหนิงหว่านยังพูดไม่จบก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเย็นชาของจี้เหลียงชวน"เขาไม่ให้เข้า เพราะฟังคําสั่งข
ผลการประมูลไม่น่าแปลกใจสําหรับกู้จิ่งเซินหลังจากเขาเซ็นสัญญาเสร็จ เขาก็เดินออกจากสถานที่จัดงานและกลับไปยังพื้นที่พักผ่อนเขาผลักประตูเข้าไปและเห็นซูหว่านยังไม่ตื่นและขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาก้าวไปข้างหน้าและผลักซูหว่าน แต่พบว่าเธอตกอยู่ในการนอนหลับลึกเขาเรียกติดต่อกันอีกสองสามครั้ง ซูหว่านก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆก่อนหน้านี้คิดว่าเธอนอนได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกตินี่ไม่ใช่การนอนหลับแล้ว นี่ตกอยู่ในอาการโคม่าโดยตรงเขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาซูเหยียน"ซูเหยียน ผมถามคุณว่า คนที่เป็นโรคหัวใจ ง่วงนอนเหรอ?"ซูเหยียนซึ่งกําลังจัดการประชุมวิชาการอยู่ อึ้งไปครู่หนึ่ง นี่จึงจําได้ว่าเขาถามใคร"คนที่เป็นโรคหัวใจ จะง่วงนอนง่าย...""แล้วมีอาการนอนแล้วตื่นไม่ได้เหรอ?"โรคหัวใจล้มปลุกให้ตื่น แต่หัวใจล้มเหลวจะเป็นซูเหยียนอยากพูดความจริง แต่ก็รู้สึกว่าผู้หญิงที่เป็นโรคหัวใจคนนั้น ดูเหมือนจะไม่ต้องการให้กู้จิ่งเซินรู้ความจริง"น่าจะเหนื่อยเกินไปถึงจะนอนหนัก ไม่เป็นอะไรมาก รอให้เธอตื่นขึ้นมาเองก็พอแล้วครับ"ซูเหยียนลังเลเล็กน้อยเป็นเวลาหลายวินาที แต่ก็ยังเลือกที่จะปกปิด เคา
"อะไรนะ"จี้เหลียงชวนตกตะลึงมานานแล้ว จึงตระหนักว่าพี่คนที่สองถามว่ากู้จิ่งเซินจะแต่งงานกับซูหว่านหรือไม่"เป็นไปได้อย่างไร ภูมิหลังของคุณซู ตระกูลกู้จะยอมให้กู้จิ่งเซินแต่งงานกับเธอเข้าบ้านได้อย่างไรล่ะ?""งั้นเหรอ"จี้ซือหานถามกลับอย่างจืดชืด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไม่เชื่อเขาโตมากับเธอตั้งแต่เด็ก และเป็นคนรักกันอีกครั้งเนื่องจากความจําเสื่อมพลาดซึ่งกันและกันเป็นเวลาห้าปี ตอนนี้พบกันอีกครั้งและจะกลับมาพบกันอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะไม่รู้ว่าทั้งสองผ่านไป เขายังกล้าแน่ใจว่ากู้จิ่งเซินจะไม่แข่งขันกับตระกูลกู้เพื่อซูหว่านแต่ตอนนี้รู้สึกว่า กู้จิ่งเซินที่ฟื้นฟูความทรงจํา จะไม่สนใจทุกอย่างเพื่อเธออย่างแน่นอน เพราะพวกเขาก็เคยรักกันมาก"พี่รอง คุณ... เกิดอะไรขึ้นนะ?"เมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์หดหู่ของเขา จี้เหลียงชวนก็เป็นกังวลมากในใจพี่รองเขายังชอบคุณซูอยู่นิดหน่อยใช่ไหม?ไม่งั้นพี่รองจะไปสนใจเรื่องคุณซูขนาดนั้นได้ยังไง"ผมไม่เป็นไรครับ"หลังจากจี้ซือหานเห็นโรลส์-รอยซ์คันนั้นขับออกจากสวนสาธารณะ เขาก็ถอนสายตาและหันไปมองจี้เหลียงชวน"มาหาผมมีเรื่องอะไร?"เมื่อเห็น
โรลส์รอยซ์จอดที่ประตูชุมชนความสุขและซูหว่านนอนอยู่ที่เบาะหลัง แต่ยังไม่ตื่นคนขับรถถามกู้จิ่งเซินว่า "ประธานกู้ จะปลุกคุณซูไหม?"กู้จิ่งเซินหันมามองซูหว่านที่หลับสนิท ค่อนข้างยอมไม่ไหวจะปลุกเธอ"คุณกลับไปก่อน ส่งรถให้ผมครับ"คนขับรถได้ยินจึงทิ้งกุญแจรถไว้กู้จิ่งเซินและผลักประตูลงจากรถเองกู้จิ่งเซินไม่รู้ว่าซูหว่านอาศัยอยู่ในอาคารไหนและห้องไหน และไม่รู้ว่าเธอจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ลังเลอยู่หลายนาทีก็สตาร์ตรถและพาเธอไปที่วิลล่าส่วนตัววิลล่าหลังนี้เป็นทรัพย์สินของเขา เดิมทีเขามาที่เมืองเอจะอาศัยอยู่ที่นี่แต่คุณหนูหนิงต้องให้ซูหว่านการจัดโรงแรมให้พวกเขา เขาก็ไม่เคยมาที่วิลล่าหลังจากเขาจอดรถแล้ว เขาก็อุ้มซูหว่านเข้าไปในวิลล่า"คุณกู้ คุณกลับมาแล้วเหรอ?"พี่สะใภ้หลี่ที่เฝ้าอยู่ในวิลล่า เห็นกู้จิ่งเซินมาถึงก็รีบไปต้อนรับกู้จิ่งเซินพยักหัวและสั่งพี่สะใภ้หลี่ว่า "ไปเตรียมชุดนอนที่สะอาดชุดหนึ่งครับ"พี่สะใภ้หลี่มองเด็กหญิงในอ้อมกอดของเขาแล้วไม่กล้าถามมาก ตอบไปว่า'ค่ะ'ก็ถอยออกไปหาชุดนอนกู้จิ่งเซินวางซูหว่านบนเตียงห้องนอนรองและมองใบหน้าที่เงียบสงบและสวยงามของเธอ ความรู้สึกหวาดระ
ซูหว่านเข้าใจแล้ว พยักหน้า "ขอบคุณมากค่ะ"เกรงใจของเธอ ทําให้กู้จิ่งเซินไม่ค่อยสบายใจแต่ซูหว่านไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา เงยหน้าขึ้นและถามเขาว่า "ประธานกู้ ผลการประมูลจะเป็นอย่างไร?"เธอไม่ได้ลงพื้นที่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้และไม่ทราบผลสุดท้ายกู้จิ่งเซินตอบเสียงเบา ๆ ว่า "ตระกูลกู้ประสบความสำเร็จแล้วครับ"ซูหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้ยินผลลัพธ์นี้จี้ซือหานไม่ได้ให้สิทธิ์ในการพัฒนาแก่กลุ่มบริษัทหนิงหรือ?คุณหนูหนิงเป็นคนรักแรกของเขาไม่ใช่เหรอ?เธอคิดไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แค่พูดกับกู้จิ่งเซินว่า "ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ"กู้จิ่งเซินไม่ชอบท่าทางที่สุภาพและห่างเหินของเธอ อ้าปากอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเขาระงับความรู้สึกแปลก ๆ จากก้นบึ้งของหัวใจและก้าวไปข้างหน้าถามว่า "หิวไหม?"ซูหว่านส่ายหัว แต่พบว่าเสื้อผ้าของเธอถูกเปลี่ยนแล้วสายตาที่สงสัยและตกใจ กวาดไปที่ร่างกายของกู้จิ่งเซิน"แม่บ้านเปลี่ยนให้คุณครับ"ได้รับสายตาที่เข้าใจผิดของเธอ กู้จิ่งเซินรีบอธิบายได้ยินว่าแม่บ้านช่วยเปลี่ยนเอง ซูหว่านจึงโล่งใจเธออึดอัดเล
กู้จิ่งเซินมองไปที่ซูหว่านที่เย็นชาอ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเธอเหมือนเม่นตัวหนึ่งตราบใดที่เธอเข้าใกล้ตัวเองเล็กน้อย เธอจะแทงเขาด้วยหนามทั้งตัว ทําให้เขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีกเขาพูดอย่างหงุดหงิดว่า "ฉันไม่ต้องการคุณอธิษฐานและไม่ต้องการให้คุณประจบสอพลอ ขอแค่ร่างกายของคุณไม่เป็นอะไรก็พอครับ"ซูหว่านพร้อมจะทะเลาะกับเขาแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้เธอมองไปที่กู้จิ่งเซินอย่างตกตะลึง แต่เขายิ้มต่อตัวเองรอยยิ้มของเขาจาง ๆ สะอาดมาก ไม่มีแรงจูงใจใด ๆเมื่อกี้ดูเหมือนว่าเพียงแค่ให้ความสนใจกับสภาพร่างกายของเธอจริง ๆ เท่านั้นจึงถามเพิ่มเติมกู้จิ่งเซินหันหลังไป หยิบจานอาหารบนโต๊ะขึ้นมา ส่งให้ซูหว่าน "กินอะไรก่อนเถอะ"ซูหว่านไม่ตอบสนอง ดวงตาที่มืดสลัว จ้องมองอาหารบนจานอาหารอย่างเหม่อลอย"คุณซู?"กู้จิ่งเซินเรียกเธอ ซูหว่านจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างช้า ๆดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาและสีหน้าที่แสดงออกมานั้นไม่แยแสมากกู้จิ่งเซินเห็นสายตาแบบนี้ หัวใจก็กระชับขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้เหมือนเคยทําอะไรขอโทษเธอ ทําให้เขาเครียดมากเขาแค่อยากจะพูด แต่เธอก็พูดแล้ว "คุณเพิ่งบอกว่าขอแค่ร่างกา
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ซูหว่านลําบากเล็กน้อยและเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองเมื่อวานเธอไปประกวดราคา สวมสูทอาชีพ กางเกงสูทหลวม ๆ คลุมขาบวมน้ำพอดีหลังจากเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว กู้จิ่งเซินก็เดินเข้ามาอีกครั้ง เธอกําลังคิดว่าจะพูดให้เขาพยุงตัวเองลงบันไดได้อย่างไรเขาเหมือนมองทะลุความคิดของเธอ เดินตรงเข้ามา ยกผ้าห่มของเธอออกและกอดเธอใปซูหว่านอึ้งไปครู่หนึ่ง เขากลับพูดเบาๆ ว่า "ถ้าคุณไปเองได้ ก็จะไม่ให้ผมส่งแล้ว"พูดได้คําเดียว แทงความคิดอย่างระมัดระวังของซูหว่าน ทําให้เธออึดอัดเล็กน้อย ก้มหัวลงผู้หญิงในอ้อมแขน เบามาก และก็มีสีหน้าป่วยและดูอ่อนแอราวกับว่าแค่มีลมกระโชกก็สามารถพัดร่างกายที่ผอมแห้งของเธอล้มลงได้เมื่อเห็นซูหว่านแบบนี้ กู้จิ่งเซินก็ปวดใจเล็กน้อย"ซูหว่าน"หลังจากเขาอุ้มเธอออกจากวิลล่า เขาเรียกเธอเบา ๆซูหว่านเงยหน้ามองเขา ไม่ได้ตอบกลับ รออย่างเงียบ ๆหลังจากกู้จิ่งเซินเงียบไปครู่หนึ่ง ก็ก้มหัวลง "ขอโทษ ผมลืมคุณไปแล้ว กรุณาหยุดเกลียดผมได้ไหม?"เขาพูดแบบนี้ตาสะอาด ใสไร้ตำหนิซูหว่านสบตากับเขา อยากเห็นร่องรอยการแสดงจากมุมมองของเขา แต่เห็นแต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยค
ซูหว่านที่อยู่ในอ้อมแขนของกู้จิ่งเซิน หน้าแดงก่ำเมื่อเวลาผ่านไป แม้แต่ร่างกายก็สั่นแต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น มักรู้สึกว่าเงยหน้าขึ้น ก็จะชนกับผู้ชายในรถเธอได้แต่เป็นคนขี้ขลาด เหรินจี้เหลียงชวนเสียดสี ตําหนิและดูถูกเหยียดหยามกู้จิ่งเซินสังเกตเห็นความกลัวของเธอ กอดมือเธอและตบหลังเธอเบา ๆ"ไม่ต้องกลัวครับ"หลังจากเขาปลอบข้างหูเธอประโยคหนึ่งแล้ว มองไปที่จี้เหลียงชวนอย่างเย็นชา"นายน้อยที่เจ็ดจี้ คุณซูจะเดินหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณไม่ควรออกแบบตามอําเภอใจดีกว่า"พอประโยคนี้ของเขาออกมา ก็โกรธจนจี้เหลียงชวนพับแขนเสื้อขึ้น ก็อยากต่อยเขาภายในรถของโคนิเซก กลับมีเสียงเย็นๆ ออกมา"น้องเจ็ด ธุระสําคัญมากกว่า"เสียงของผู้ชายเบาราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนอกรถไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาได้ยินคําพูดของผู้ชาย จี้เหลียงชวนจึงระงับอารมณ์ได้เขาชี้ไปที่โรลส์รอยซ์ที่จอดอยู่กลางถนน"พูดเสียงเย็นว่า รีบย้ายรถออกไป อย่าขวางทางทีหมั้นของเรา"หมั้น?หมั้นกับใคร?ซูหว่านแข็งทื่อ แต่ไม่กล้ามองรถคันนั้นเลยเดิมทีกู้จิ่งเซินยังเกรงใจจี้เหลียงชวนอยู่ แต่เขายั่วยุตัวเองหลายครั้ง ทําให้เขาไม่พอ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ