นอร์เวย์ อาทิตย์ขึ้นในเช้าวันนี้ได้สาดแสงส่องผ่านหน้าต่างของคฤหาสน์กระทบเข้ามาในห้องที่ก่อขึ้นด้วยอิฐแดงภายใต้แสงอาทิตย์ แผ่นหลังของเธอไปคลุมไปด้วยผมหยิกหนา รูปร่างเพรียวบาง พอมองจากไกลๆ ก็ให้ความรู้สึกราวกับเหมือนเป็นภาพวาดจากสีน้ำมันซูหว่านกอดกั่วกัวเอาไว้และคลำหาขนมปังในจานพร้อมกับใช้มือที่สวมถุงมือเอาไว้ค่อยๆ ฉีกขนมปังออก จากนั้นก็ค่อยป้อนเข้าปากของเด็กผู้หญิงตัวเล็กกั่วกัวอ้าปากด้วยแก้มตุ้ยนุ้ยของเธอ เธอชะเง้อคอกินขนมปังโทสต์ที่น้าสาวยื่นมาให้ หลังจากเคี้ยวขนมปังโทสต์นุ่มๆ นั้นแล้วก็เงยหน้าจึ้นหันไปมองคนฝั่งตรงข้ามจิเหยียนโจวค่อยๆ ยุรยาตรเอามีดหั่นเสต็คเนื้อ หลังจากหั่นออกมาได้เป็นชิ้นก็ตักขึ้นมาชิ้นหนึ่งและป้อนมาไว้ตรงปากของซูหว่าน"ชูยี อ้าปาก"ภายในศีรษะเล็กๆ ของกั่วกัวกลับเต็มไปด้วยความสงสัย ลุงจอร์จบอกว่าแม่ของเขาชื่อว่าชูยี น้าสาวชื่อว่าชูนวลแต่ว่าช่วงที่ผ่านมานี้ ลุงแปลกๆ คนนี้เรียกน้าสาวว่าชูยี ทำให้กั่วกัวแยกไม่ออกระหว่างน้าสาวกับชูยีกั่วกัวไม่เข้าใจและไม่กล้าถาม กลัวว่าลุงแปลกๆ คนนี้จะดูเธอ เลยจึงได้แต่ก้มศีรษะเล็กๆ และทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆซูหว่านพอถูกช
ผู้ช่วยคนนั้นสั่นไปด้วยความตกใจและกล่าวอีกครั้ง "จี้ซือหานฟื้นแล้วครับ"จิเหยียนโจวตกใจได้ไม่กี่วินาทีก็กลับมามีท่าทีตามปกติเหมือนเดิม ราวกับว่าคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาและก็ไม่ได้เอามาใส่ใจเขาหยิบผ้าเช็ดมือบนโต๊ะอาหารอย่างไม่เร็วไม่ช้ามาเช็ดนิ้วที่เปื้อนโจ๊กจนสะอาด...หลังจากเขาเช็ดสะอาดก็เงยหน้าขึ้นมาและหันไปมองกล้องวงจรปิดและบอกกับผู้ช่วย "ในเมื่อฟื้นแล้ว งั้นก็เอาของไปมอบให้เขาสักชิ้น"รับรองว่าพอจี้ซือหานได้เห็นจะต้องดีใจมาก ก็แค่ไม่รู้ว่าจะดีใจมากจนอาจจะกลับไปหมดสติอีกครั้งรึเปล่า...เขาเฝ้ารออยากเห็นท่าทีของจี้ซือหาน...จี้ซือหานซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก็ได้เห็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดส่งมาที่มือถือ หัวใจเขาเหมือนกับถูกม้าเหยียบกดเอาไว้ จนเขาเจ็บปวดรวดร้างอยากจะตาย เหมือนกับลำไส้ได้ถูกตัดออกนิ้วอันสั่นเทาของเขาได้ปัดคลิปวิดีโอจิเหยียนโจวป้อนข้าวให้กับซูหว่าน จากนั้นก็เปิดคลิปวิดีโอที่สองอย่างไม่อาจควบคุมได้ซูหว่านภายในคลิปวิดีโอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นพร้อมกับยิ้มให้กับจิเหยียนโจว เรียกเขาด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน : "เหยียนโจว..."ใบหน้าของจิเหยียนโจวก็เผย
อาเจ๋อพอเห็นวิธีลงมือของซูชิงที่บังคับวิลสันพูดที่อยู่ออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะตบไหล่ของซูชิงและกล่าว "เข้าร่วมกับพวกเราเถอะ"ซูชิงปิดประตูลง หลังจากรับสั่งให้คนพาครอบครัวของวิลสันไปส่งโรงพยาบาลก็หันมาพูดกับอาเจ๋อ "ข้าไม่ค่อยฉลาด..."อาเจ๋อเกาไปที่ด้านหลังท้ายทอย พอพูดแบบนี้แล้ว เขาดูฉลาดธรรมดาไปเลย ใช้เวลานานตั้งขนาดนี้แต่ทำไมยังไม่ทราบที่อยู่อีกอาเจ๋อขณะทีสงสัยในความฉลาดของตนเองก็ส่งเขาให้ไปเตรียมเปลี่ยนเครื่อง พร้อมกับพาลูกน้องบินไปยังนอร์เวย์อย่างติดจรวดตอนนี้ผู้ช่วยที่คอยตรวจสอบการเคลื่อนไหวในอังกฤษก็ได้รู้ว่าวิลสันได้บอกสถานที่แหล่งกบดานไปแล้ว เขาเลยรีบไปหาจิเหยียนโจวที่ห้องหนังสือเพื่อรายงาน"ประธานจิ คนของจี้ซือหานได้มาถึงคฤหาสน์ที่อังกฤษแล้วครับ แล้วก็จับครอบครัวของนายวิลสันบังคับให้เขาพูดที่อยู่ของท่านด้วย""งั้นเหรอ?"น้ำเสียงของจิเหยียนโจวเย็นชาและไม่ได้สนอยู่ในสายตา "งั้นก็ให้พวกเขามา"หลังจากหัวเราะเยาะเบาๆ ก็ได้รับสั่งผู้ชายอย่างเย็นชา "ไปขับเฮลิคอปเตอร์ของผมมา เอาไปจอดด้านหลังคฤหาสน์"หลังจากผู้ช่วยรับคำสั่งมา จิเหยียนโจวก็ได้นำเอาปากกาบันทึกเสียงและวิดีโอเทปที่เ
อาเจ๋อและซูชิงมองเฮลิคอปเตอร์ที่บินชึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองหน้ากันอาเจ๋อระงับความโกรธในใจและรีบสั่งให้คนไปติดตามเส้นทางการบินของเฮลิคอปเตอร์นั้นทั้งสองกลับมาที่คฤหาสน์เพื่อวางจะสดตามรอบเส้นทางและเตรียมไล่ตามจิเหยียนโจวอีกครั้งลูกน้องได้ออกมาจากห้องนอนของซูหว่านและพบปากกาบันทึกเสียง เทปบันทึกและกระดาษที่เขียนให้กับจี้ซือหาน"คุณเจ๋อ ของสองชิ้นนี้ถูกทับไว้ใต้กระดาษแผ่นนี้ คงจะเป็นคุณซูที่ทิ้งไว้ให้"อาเจ๋อรับของสามสิ่งนั้นมาก็เปิดปากกาบันทึกเสียง ตอนได้ยินเสียงอันคุ้นเคยจากในปากกาก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยและไม่ค่อยมั่นใจพร้อมกับเงยหันไปถามซูชิง "นี่คือ..."ซูชิงสีหน้าหมองหม่นขึ้นมา "นี่คือเสียงของคุณซูครับ..."ซูชิงรับเทปบันทึกจากอาเจ๋อมา พอเซฟลงไว้ใน USB แล้วก็เอาไปเสียกับโน๊ตบุ๊คทั้งสองพอได้เห็นภาพบนจอ หัวใจก็รู้สึกทิ้งดิ่ง...ซูชิงกำของสองสิ่งนั้นไว้แน่นและหันไปพูดกับอาเจ๋อ "คุณไปตามจิเหยียนโจว ผมจะกลับไปก่อนเพื่อให้ประธานจี้ได้ตัดสินใจ"อาเจ๋อสีหน้าอึมครึมและพยักหน้าเบาๆ และก็พาคนของตัวเองตามจิเหยียนโจว ส่วนซูชิงก็รีบกลับไปที่เมืองเมืองเอก่อนที่เขาจะเข้าไปยังห้อง
เฮลิคอปเตอร์ของจิเหยียนโจวหลังจากมาหยุดลงตรงเขาลูกหนึ่งก้เปลี่ยนเป็นเฮลิคอปเตอร์อีกลำในทันที หลังจากเปลี่ยนเครื่องหลายครั้งในที่สุดก็ถึงสวิสเซอร์แลนด์ซูหว่านหลังจากถูกบังคับให้เข้าไปในคฤหาสน์ก็เอากั่วกัวมอบให้กับจอร์จ "รบกวนคุณช่วยดูเธอหน่อย ฉันมีเรื่องบางอย่างจะคุยกับเขา"จอร์จรู้ว่าซูหว่านซึ่งถูกหลอกมาตลอดทางกำลังจะไปคิดบัญชีกับจิเหยียนโจว เขาก็เลยรับกั่วกัวมาและให้เวลากับพวกเขาจอร์จหลังจากอุ้มเด็กไปแล้ว ภายใต้ช่วยประคองของคนรับใช้ พอลองควานหาดู ซูหว่านก็ได้มานั่งลงตรงโซฟาในห้องรับแขกหลังจากเธอนั่งลง เธอก็ลองเหลือบสายตาก็พอจะให้ได้อย่างลางๆ และพยายามเพ่งเพื่อหวาดตามองหาว่าจิเหยียนโจวอยู่ไหนหลังจากพบ เธอก็เผยอริมฝีปากสีแดงเบาๆ และถามจิเหยียนโจวอย่างเย็นชา "คุณสัญญากับฉันแล้ว ระยะเวลา 1 เดือนได้มาถึงแล้ว คุณควรจะปล่อยฉันกลับประเทศ ตอนนี้คุณยังจะหลอกฉันมาที่สวิสเซอร์แลนด์อีก คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?"ขณะจิเหยียนโจวหยิบบุหรี่ซิการ์ออกจากกล่องก็ได้ยินเสียงของซูหว่านและเหลือบมองเธออย่างไร้ซุ่มเสียง "ผมได้บอกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าคำพูดของผมมันเชื่อไม่ได้..."เขาเอาไฟแช็คออกมาและจุดบุห
เพราะการกระทำอันไร้เดียงสาของเด็ก ทำให้ซูหว่านที่รู้สึกหมดหวังท้อแท้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในหัวใจเธอไม่ยอมเผยภาพลักษณ์นางมารร้ายต่อหน้าของเด็กคนนี้ เธอพยายามระงับความเจ็บปวดในใจและลุกขึ้นยืนจากพื้นและลูบหัวของกั่วกัว"คุณน้าเลิกร้องไห้ได้แล้ว พวกเรากลับห้องกันเถอะ"กั่วกัวก้พูดคำว่า'อืม'ออกมาอย่างไร้เดียงสาและรีบยื่นมือเล็กๆ ออกมาจูงมือของซูหว่านเดินเข้าไปในห้องไม่รู้เพราะว่าหลังจากร้องไห้หรือว่าเพราะอารมณ์กดดันเกินไป ซูหว่านหลังจากเข้ามาในห้องได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกปวดตรงท้องน้อยขึ้นมาเธอมักรู้สึกว่าความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความเจ็บปวดแบบคนจะคลอด แต่เป็นความเจ็บปวดเหมือนกับปวดประจำเดือนขณะเธอกำลังสงสัย ด้านล่างก็มีของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาทำให้เธอตกตะลึงอยู่ตรงนั้นช่วงนี้จอร์จนอกจากจ่ายยารักษาตาให้กับเธอแล้ว ก็ยังจ่ายยาบำรุงครรภ์และยาบำรุงร่างกายให้เธอด้วยเธอบางครั้งก็จะมีอาการอาเจียนแพ้ท้อง แต่ว่าไม่รุนแรงมาก แต่แค่เธอไม่เคยสงสัยว่าในท้องของเธอเอง ไม่คิดว่าจะ...ไม่คาดคิดว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ กลับกลายเป็นว่าเป็นแค่การหลอกลวง!เธอเชื่อใจจอร์จขนาดนั้น เชื่อฟังคำพูดของ
กั่วกัวพอหลับไปได้พักหนึ่งก็สะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาภายในห้องที่มืดสลัวๆ เธอก็ไม่เห็นน้าสาวเลย เธอตกใจจนร้องไห้ออกมาเสียงดัง "แง"...เธอร้องไห้เสียงดังมาก ไม่นานนักจอร์จและจิเหยียนโจวก็มาหาจอร์จผลักประตุห้องเปิดออกและเปิดไป เขาเข้าไปอุ้มกั่วกัวขึ้นมาและปลอมเธอจิเหยียนโจวพอเห็นว่าไม่เห็นแม้แต่เงาของซูหว่านในห้อง เขาก็รีบเข้าไปที่ห้องน้ำพอเขาเปิดประตูห้องน้ำออก เขาก็ใจเต้นสั่นเมื่อเห็นเลือดสดๆ นองเต็มพื้น พร้อมกับหญิงสาวใบหน้าซีดขาวนอนอยู่ในอ่างน้ำ"จอร์จ รีบมาช่วยเธอเร็ว!"เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วอุ้มซูหว่านขึ้นมา หลังจากวางเธอลงกับพื้น เขาก็รีบกดตรงข้อมือที่เบือดไหลออกมาไว้แน่นจอร์จพอมาถึงยังห้องน้ำก็เห็นว่าซูหว่านกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย เขาใจเต้นรัวอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็สงบสติอารมร์ลงมาเขาตะเรียกให้คนรับใช้เอากล่องยามา หลังจากยุ่งกับการห้ามเลือดจนหยุดแล้วก็รีบช่วยซูหว่านหญิงสาวที่นอนตรงพื้นและก่อนจะใกล้สิ้นลมหายใจ จอร์จได้ลากเธอกลับมาจากประตูปรโลกได้อย่างทันท่วงที"อุ้มเธอไปไว้บนเตียง!"จิเหยียนโจวพอเห็นจอร์จถอนหายใจออกมา เขาก็ได้อุ้มซูหว่านและเอาเธอมาไว้บนเตียง
จิเหยียนโจวสั่งผู้ช่วยเสร็จ ก็พาพวกเขาโยกย้าย มาจนถึงเกาะซานโตรินี่อีกครั้ง...ในวันต่อๆไป เพื่อป้องกันไม่ให้ซูหว่านฆ่าตัวตาย จิเหยียนโจวจึงใช้กุญแจมือ ล็อคมือของเธอเอาไว้กับเตียง จำกัดการเคลื่อนไหวของเธอแล้วจึงสั่งให้คนรับใช้จับตาดูเธอยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ให้เธอกัดลิ้นฆ่าตัวตาย...หลังจากที่เขาตัดขาดหนทางการฆ่าตัวตายของซูหว่านเรียบร้อยแล้ว ก็สั่งให้จอร์จรักษาเธอครั้งนี้ไม่ได้หยุดการให้ยารักษาดวงตาเธออีก แต่ทำทุกวิถีทางเพื่อขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีที่สุดมาเพื่อรักษาดวงตาของเธอ...ซูหว่านปล่อยให้จิเหยียนโจวทรมานตามใจชอบ แต่ความปณิธานที่อยากไปตายนั้น กลับไม่เคยเปลี่ยนไป กระทั่งสามเดือนให้หลัง จอร์จหยิบแท็บเล็ตเครื่องนึงมาเขากดเปิดข่าวบนหน้าจอ แล้วยื่นให้ซูหว่าน "คุณดูสิ เขาออกงานแถลงข่าวการก่อสร้างใหม่ของสำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทจี้ เขายังไม่ตาย"ในวิดีโอ ร่างที่สวมชุดสูทหรูราคาแพง เปล่งออร่าสง่างามสูงส่งในทุกอิริยาบถแสงแฟลชจำนวนมาก ถ่ายใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติราวกับถูกพระเจ้าแกะสลักอย่างบ้าคลั่ง...ชายหนุ่มในกล้อง ช้อนดวงตาเรียวคมอันแสนเยือกเย็นคู่นั้น จิกเลนส์นิ่งโดยไม่กระพริบ