ไม่มีใครแทนที่โยนาธานในตำแหน่งผู้นำตระกูลตระกูลยอร์กได้ แม้แต่ฮาร์วีย์ตอนที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตแล้วก็ตามแม้ว่าสี่ผู้ลือชื่อแห่งยอร์กจะเข้ายึดอำนาจได้ส่วนใหญ่ของตระกูล แต่เขาก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตระกูลไว้ได้อย่างง่ายดายนี่ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโยนาธานมีความสามารถเพียงใดอันที่จริง มีข่าวว่าในอดีตเขาเป็นตัวแทนขอตระกูลยอร์กในสงครามและต่อสู้ครั้งสำคัญมากมายคนอย่างเขาอาจไม่มีชื่อเสียงในสังคมมากนัก แต่ตำแหน่งของเขาภายในตระกูลยอร์กนั้นสูงมากจนเกินจินตนาการเขามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับคนในกองทัพ ว่ากันว่าเขารู้จักคนที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทพสงครามในกองทัพด้วยอีธานเป็นผู้ควบคุมดูแลกองกำลังของค่ายศัสตราวุธแห่งเซาท์ไลท์ โยนาธานจึงไม่อาจเรียกใช้คนที่ทำงานภายใต้อีธานได้ส่วนทหารคนอื่น ๆ โยนาธานสามารถสั่งพวกเขาไปทำตามคำสั่งของเขาได้อย่างง่ายดายในตอนนั้นเอง โยนาธานพูดขึ้นด้วยเสียงโทนต่ำว่า “เป็นฝีมือของใคร?”ควินตันเดินออกมาจากด้านข้างแล้วตอบเบา ๆ ว่า “คุณลุง จะถามทำไมในเมื่อคุณลุงรู้คำตอบอยู่แล้ว…?”“ในตอนนี้ทั้งเมืองบัควู้ด ใครจะกล้าต่อกรกับเราอีกบ้าง
โยนาธานเพ่งจ้องมองควินตันสายตาที่ล้ำลึก จากนั้นเขาก็หัวเราะ “อ่า ควินตัน ฉันเกือบลืมไปเลยว่านายตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของเราในช่วงที่ผ่านมา…”“ตอนนี้นายคงมีแผนอะไรในใจอยู่แล้ว ฉันจะไม่คัดค้าน”“ผมไม่กล้าน้อมรับคำชมนี้ได้หรอกครับ” ควินตันยิ้มบาง ๆ “ผมแค่ประจำตำแหน่งนี้เพียงแค่ชั่วคราวและใช้อำนาจของคุณลุงในฐานะผู้นำตระกูล ผมยินดีที่จะส่งคืนอำนาจให้คุณลุงทุกเมื่อที่คุณลุงต้องการ”โยนาธานตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “ในเมื่อฉันได้มอบอำนาจให้กับนายแล้ว มันคงแปลกที่ฉันจะยึดมันกลับคืนมา”“ฉันแค่หวังว่านายจะทำทุกอย่างที่ทำได้ ถ้านายตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้น”“ใช้ชื่อของฉันส่งจดหมายเพื่อเรียกสหายเก่า ลูกน้อง และหุ้นส่วนของฉันมาที่นี่…”ด้วยเหตุนี้ควินตันจึงหัวเราะออกมาในใจในที่สุดตาเฒ่าคนนี้ก็ตัดสินใจที่จะใช้เส้นสายลับของเขาแม้ว่าควินตันจะไม่สามารถเล่นกับคนรักของฮาร์วีย์ได้อย่างเต็มที่ผ่านเวย์น แต่มันกลับทำให้โยนาธานยอมเปิดเผยเครือข่ายลับของเขามีข่าวลือว่าเครือข่ายของโยนาธานนั้นกว้างใหญ่ และเขามีเครือข่ายไปทั่ว ซึ่งรวมถึงสหายเก่าของเขาในกองทัพ บุคลาก
ไซม่อนและลิเลียนปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เป็นอย่างดีตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาบางทีอาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดของพวกเขา หรือพวกเขาอาจจะรู้สึกเสียใจต่อฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจ การได้เห็นแมนดี้ทำได้ดีก็ทำให้เขาพอใจแล้วในช่วงตอนเย็น ซีนเธียร์มาที่เดอะกาเด้น เรสซิเด้น“พี่เขย ฉันมีอะไรจะบอก! ฉันมีข่าวดี!”ซีนเธียร์ยิ้มฮาร์วีย์ถามด้วยความสงสัย “ข่าวดี? กำลังจะแต่งงานเหรอ?”“ไม่มีทาง! หยุดพูดเรื่องเหลวไหลแบบนั้นนะ เข้าใจไหม? ฉันยังไม่มีแฟน พี่เขยจะแต่งงานกับฉันเหรอ?”ซีนเธียร์พูดออกไปพลางทำให้มองแมนดี้ด้วยสายตาที่รู้สึกผิด“ข่าวดีอะไร?” ฮาร์วีย์ถาม “รีบพูดมาเถอะ”ซีนเธียร์ดีใจและกอดฮาร์วีย์อย่างรักใคร่ “ลองเดาดูสิ พี่เขย! ถ้าพี่เดาถูก ฉันจะจูบคุณเป็นรางวัล…”เกิดประกายวิบวับผ่านแววตาของซีนเธียร์ในจังหวะที่เธอพูดฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ผมไม่สนใจเด็กน้อย”“พี่เขย…” ซีนเธียร์ไม่พอใจ เธออดไม่ได้ที่จะวิ่งไปหาแมนดี้และคร่ำครวญว่า “พี่คะ ดูพี่เขยสิ! เขาเป็นคนที่น่าเบื่อมาก! เขาไม่เข้าใจผู้หญิงเลย!”แมนดี้ยิ้มเมื่อเห็นทั้งสองคนเถียงกัน “ซีนเธียร์หยุดแกล้งพี่เขยได้แล้ว พูดมาก่อนสิ”
วันถัดมาในวันที่แมนดี้มีเวลาว่างที่หาได้ยาก ซีนเธียร์บ่นว่าเธออยากซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ แมนดี้จึงชวนฮาร์วีย์ไปซื้อของกับน้องสาวคนเล็กของเธอแต่เพราะซีนเธียร์นั้นมีแววตาอันเฉียบแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ แม้จะไปห้างสรรพสินค้าหลายแห่งแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการแม้ว่าฮาร์วีย์จะรู้สึกค่อนข้างเหนื่อย แต่เขาชอบชีวิตแบบนี้มากทุกอย่างมันเรียบง่าย ช้อปปิ้ง กิน และสังสรรค์ สำหรับเขาชีวิตธรรมดาของคนทั่วไปนั้นเต็มไปด้วยความสดใส แตกต่างจากชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อแสวงหาอำนาจโชคร้ายที่โชคชะตากำหนดให้ชีวิตของเขาต้องเจอกับความวุ่นวายที่ไร้ซึ่งความสงบสุขแบบนี้แม้เขากำลังสนุกกับประสบการณ์ครั้งนี้ หลังจากซื้อของตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ฮาร์วีย์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ผมกำลังจะตาย เราซื้อของมาทั้งวันแล้ว ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย ผมไปต่อไม่ไหวแล้ว!”“ยังไงก็เราต้องทานอะไรกันสักหน่อยก่อน! ไม่อย่างนั้นผมจะไม่ไปซื้อของด้วยอีกแล้ว!”เมื่อฮาร์วีย์ยืนกรานแบบนั้น แมนดี้และซีนเธียร์ทำได้เพียงคล้อยตามเขา“บัควู้ดทาวเวอร์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไปทานอาหารที่ร้านอาหารสปินนิ่งกันเถอะ ผมจะโทรจองโต๊ะไว้”ฮาร์ว
“ซีนเธียร์เหรอ? เธอบอกว่าเธอจะไปดูนางฟ้าและผู้ชายที่เธอชอบ เธอบอกให้เราไปกินข้าวก่อน แล้วเธอจะตามไปทีหลัง”“เธอโตแล้ว เธอไม่หลงหรอก ปล่อยเธอไปเถอะ”“คุณขึ้นไปพักผ่อนได้แล้ว”แมนดี้พูดพร้อมยิ้ม เธอเห็นว่าฮาร์วีย์มีอาการหงุดหงิดเล็กน้อย“ครับ”ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดมากอะไร เขาตรงไปที่หน้าลิฟต์แทนเมื่อเขากำลังจะเข้าไปลิฟต์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนก็รีบเข้ามา“คุณทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ไม่ได้นะครับ!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดอย่างเย็นชา กั้นขวางด้วยมือเอาไว้ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไม?”“วันนี้ ลิฟต์ทุกตัวใช้ได้สงวนไว้เจ้าหน้าที่เท่านั้น ห้ามคนทั่วไปใช้!” รปภ. ชี้แจง “นี่คือการป้องกันไม่ให้ปาปารัสซี่เข้ามา”ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “นี่คือลิฟต์ที่จะขึ้นไปชั้นร้านอาหารสปนนิ่งบนตึกบัควู้ดทาวเวอร์ มันไม่เกี่ยวอะไรกับงานของคุณไม่ใช่เหรอครับ?”“ใครบอกคุณ? หลังจากนี้ซุปเปอร์สตาร์บางคนจะไปทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารสปินนิ่ง เราไม่สามารถปล่อยให้คนนอกไปที่นั่นได้!” รปภ. ตอบอย่างเย็นชาฮาร์วีย์หัวเราะ “คุณหมายถึงซุปเปอร์สตาร์พวกนี้มีสิทธิพิเศษในขณะที่คนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิ์ไป
"คุณหมายถึงอะไร?" ฮาร์วีย์ถามออกไป“แขกรับเชิญในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นซุปเปอร์สตาร์คนดัง หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา คนบ้านนอกอย่างคุณจะยอมชดใช้ค่าเสียหายที่จะตามมาได้ไหม?”หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยถามฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด ที่นี่คือที่สาธารณะใช่ไหม? เดินผ่านเวทีไปไม่ได้เหรอ? มันดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย”“ปกติคุณทำได้ แต่ไม่ใช่วันนี้!”หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยสบถออกอย่างเย็นชา“คุณกำลังใช้พื้นที่สาธารณะโดยพลการ แล้วพวกคุณยังห้ามคนสัญจรผ่านในที่สาธารณะแบบนี้อีก! คุณมีอำนาจมากขนาดนั้นเลยหรือไง!” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น“ใช่ เรามีอำนาจมาก ยังไงเราก็มีดาราดังคอยสนับสนุนเรา! เงินค่าจ้างที่พวกเขาได้รับในเวลาเพียงไม่กี่นาทีของการแสดงเป็นจำนวนเงินที่คุณไม่เคยได้มาตลอดชีวิต!”“นี่คืออภิสิทธิ์!” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยตะโกนออกมาฮาร์วีย์เยาะเย้ย “แล้วถ้าผมยืนยันว่าจะไปต่อล่ะ?”“ถ้าคุณทำได้ก็ลองดู! พื้นที่นี้ถูกปิดกั้นไว้ทั้งหมดแล้ว!”หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากกว่าสิบคนก็ถลาเข้ามา ดูแล้วราว ๆ สามสิบคนที่รายล้อมฮาร์วีย์เมื่อเห็นแบบน
ตอนแรกท่าทีของฮาร์วีย์ยังปกติ แต่เมื่อยูนาพูดกับเขาแบบนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมก็แค่อยากขึ้นลิฟต์ไปทานอาหาร คุณบอกว่าพื้นที่ถูกปิดกั้นและคุณไม่อนุญาตให้ขึ้นไป”“นั่นไม่เป็นไร ผมไม่กินแล้ว”“และตอนนี้ผมแค่อยากออกไปข้างนอก แต่พวกคุณยังขวางผมอีก คุณจะให้ผมทำยังไง? คุณจะให้ผมบินออกไปจากที่นี่งั้นเหรอ?”ฟังฮาร์วีย์พูดแล้วยูน่าก็สบถออกมาอย่างเย็นชา “ฉันไม่สนหรอกว่ายังไง แต่คุณควรออกไปเดี๋ยวนี้จะดีกว่า!”“ออกไปงั้นเหรอ?” ฮาร์วีย์พยักหน้า “งั้นมาดูกันว่าใครที่จะต้องออกไป!”เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงโอ้อวดของฮาร์วีย์ ยูนาและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมาผู้ชายคนนี้กำลังไล่พวกเขาออกไปงั้นเหรอ? เขาเสียสติไปแล้วหรือเปล่า?เมื่อผู้จัดการดาราคนนั้นกำลังจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่ฮาร์วีย์ออกไป ซุปเปอร์สตาร์สองสามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็เดินเข้ามา แฟน ๆ เริ่มส่งเสียงเชียร์ยูนารีบเดินไปหาเหล่าซุปเปอร์สตาร์ที่เดินเข้ามาใกล้ทั้งชายและหญิงอยู่ข้างหน้าต่างส่องประกายอย่างมากแม้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่ท่ามกลางดาราคนอื่น ๆ แต่พวกเขาก็ยังดูสะดุดตาอย่างไม่น่าเชื่อชายคนนั้นสวมเสื้อยืดส
ณ ตอนนี้…คาร์เทอร์ตกตะลึงอีเวตต์ก็ตกตะลึงแม้แต่ยูนาเองก็ยังตกใจสำหรับพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างตกตลึงเป็นสองเท่า วินาทีนั้นทุกคนตกอยู่ในความเงียบงันชายวัยกลางคนที่แสดงความเคารพต่อฮาร์วีย์อย่างมาก ไม่ใช่คนทั่ว ๆ ไปแต่เขาเป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของบัควู้ดทาวเวอร์ ตำแหน่งของเขาเทียบเท่ากับเจ้าของบัควู้ดทาวเวอร์ แต่เขาให้เกียรติชายคนนี้ที่สำคัญที่สุด คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาเหงื่อที่เย็นยะเยือกของเขาซึมผ่านเสื้อผ้าของเขานี่เป็นอะไรที่เหนือจินตนาการ!ฮาร์วีย์สั่งให้คนที่ดูแลบัควู้ดทาวเวอร์ลงมาภายในสามนาที ในที่สุดชายคนนั้นก็ลงมาภายในสามนาทีจริง ๆก่อนหน้านี้ยูนากล้าแสดงความโอ้อวดต่อหน้าฮาร์วีย์ ตอนนี้เธอไม่กล้าทำแบบนั้นเธอและผู้จัดการของดาราอื่น ๆ รู้ดีว่าเรื่องแบบนี้คืออะไร ในวงการนี้พวกเขาเข้าใจอำนาจของเงินเป็นอย่างดีต่อหน้าคนทั่วไป พวกเขามีสิทธิพิเศษและสามารถแสดงท่าทางหยิ่งผยองได้อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าคนรวยและมีอำนาจ พวกเขาเป็นเพียงนักแสดงพวกเขาต้องให้เกียรติขณะอยู่ต่อหน้าผู้บริหารของบัควู้ดทาวเวอร์ ทว่าชายคนนี้… แม้แต่ผู้บริหารก็ยังให้เกียรติเขา เขาเป็นใครกันแ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข