ทุกคนดูมึนงงเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ของฮา์วีย์ มันปรากฏเป็นชื่อ “แก่ แต่ไม่ซื่อสัตย์” บนหน้าจอโทรศัพท์ของฮาร์วีย์เจนเซ่นหัวเราะ“นายคิดว่าการโทรออกไปมั่ว ๆ จะพิสูจน์ได้ว่านายกำลังโทรหาผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง งั้นเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้”“แล้วทำไมนายถึงยังทำตัวอวดดีอยู่อีกล่ะ?!”ฮาร์วีย์เพียงแค่ยิ้ม“ผมไม่เหมือนคุณ ที่กดโทรหาเบอร์มั่ว ๆ แล้วบอกว่าเป็นผู้อาวุโสอาร์มสตรอง เบอร์ที่ผมโทรออกคือเบอร์ของเขาจริง ๆ ”ระหว่างที่ฮาร์วีย์กำลังพูดอยู่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเหมือนถูกตักสาย เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ตัดสายเขาฮาร์วีย์พูดไม่ออก‘บ้าอะไรเนี่ย? เขาตัดสายกับฉันงั้นเหรอ?’เจนเซ่นชะงักแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา“คุณบอกว่าเป็นเบอร์ของอาวุโสอาร์มสตรองจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเขาถึงกดตัดสายคุณล่ะ? อย่าบอกนะว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองอารมณ์ไม่ดีแล้วตัดสาย!”“ดูเวลาของเราตอนนี้สิ! ที่นี่เวลา 9 โมงเช้า แต่เป็นเวลา 5 ทุ่มที่ออสเตรเลีย ผู้อาวุโสอาร์มสตรองควรพักผ่อนอยู่!”“อย่าบอกนะว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ปลอม!”“ถึงมันจะเป็นเบอร์เขาจริง ก็ไม่มีทางที่เขาจะรับ
หน้าจอแสดงชื่อ “แก่ แต่ไม่ซื่อสัตย์” อีกครั้ง เป็นชื่อที่ฮาร์วีย์ตั้งขึ้นฮาร์วีย์รับสายในโหมดวิดีโอคอลทันที ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ เขาดูค่อนข้างผอม แต่ยังดูสง่าสมกับเป็นคนฉลาดหลักแหลมเต็มไปด้วยความรู้มากมายเขาคงเพิ่งตื่นนอน เพราะเขายังสวมชุดนอนอยู่เลย ถึงอย่างนั้นเขาก็ให้ความรู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยพลังพระเจ้า!นี่คือ…ปรมาจารย์แห่งประเทศ H!เทพเจ้าแห่งวงการแพทย์!ออสการ์ อาร์มสตรอง!ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรอง!ทุกคนสูดหายใยเข้าลึก ๆ หลังจากดูหน้าจอโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ “นี่… คือผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจริง ๆ ฉันจำได้ว่าเขามีไฝที่หน้าผาก ต้องเป็นเขาจริงแน่นอน...” ใครบางคนในฝูงชนพูดออกมา แต่ในจังหวะนั้นเองมันเสียงดังราวกับฟ้าฟาดทุกต่างตกใจคนที่ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายเท้าจะสามารถติดต่อกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองได้ยังไง?สายตาของพวกเขาพร่ามัวอยู่หรือเปล่า?บางคนถึงขั้นตบหน้าตัวเองเพื่อพิสูจน์ดูว่าพวกเขากำลังฝันอยู่หรือไม่ ความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับจากการตบหน้าตัวเองทำให้พวกเขามั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปเจนเซ่นนิ่งค้างเหมือนถูกแช่แข็งไปทันที ใบหน้าของเขาดูเหมือนเขาอ
ทุกคนเบิกตากว้างและอ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวสภาพจิตใจของเจนเซ่นเกือบจะระเบิดออกมา ทำให้เขาสับสน‘เกิดอะไรขึ้น?’‘คนอย่างฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่รู้จักกับผู้อาวุโสอาร์มสตรองเท่านั้น แต่เขายังคุยกับเขาเหมือนเป็นคนคุ้นเคยแม้จะอายุต่างกันก็ตาม’ก่อนที่ทุกคนจะได้สติ ผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็หัวเราะออกมา“เอาล่ะฮาร์วีย์ มาเยี่ยมฉันได้ทุกเมื่อ นายรู้ดีว่าที่นี่ยินดีต้อนรับนายเสมอ…”“เรามาเข้าเรื่องกันก่อนเถอะ มีเหตุผลอะไรนายถึงโทรหาฉันตอนดึก ๆ แบบนี้”ผู้อาวุโสอาร์มสตรองมีจิตใจที่ดี ฮาร์วีย์ต้องมีเรื่องด่วนมากถึงได้รีบโทรหาเขาก่อนหน้านี้พวกเขาได้รำลึกถึงความหลังเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ควรที่จะเข้าสู่หัวข้อหลักได้แล้วฮาร์วีย์ไม่อยากเสียเวลา เขาพลิกเปิดเอกสารในมือแล้วโชว์ที่กล้องหลังจากนั้นผู้อาวุโสอาร์มสตรองก็เกิดอาการสับสน“ฮาร์วีย์ ทำไมนายถึงมีเอกสารโครงการวิจัยล่ะ?”“คุณเคยคุยกับผมเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถาม“ใช่ แต่หลังจากที่ฉันคิดพิจารณาแล้ว ฉันยืนยันว่าโครงการวิจัยนี้ไม่มีความเป็นไปได้ หากเราปฏิบัติจริงในชีวิตจริง จะมีโอกาสมากที่จะทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออก จนอาจจะทำให
ฮาร์วีย์มองไปที่เกรกอรี่ด้วยท่าทางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“นักบุญคลาร์ก คุณพูดเองนะ ถ้าผมมีหลักฐานการฉ้อโกงของเขา คุณจะไล่เขาออกจากการเป็นลูกศิษย์ของคุณ”ใบหน้าของเกรกอรี่ดูแย่ลง เขาอึดอัดใจเป็นอย่างมากเขาพูดแบบนั้นออกไปจริง แต่ปัญหาคือ...ตระกูลคาร์ลสันมีสถานะพิเศษในเซาท์ไลท์!การขับไล่คนที่มาจากตระกูลด้านการแพทย์ แม้แต่เกรกอรี่เอง อาจจะต้องถูกลงโทษและเตรียมรับผลที่ตามมา!แต่ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น บรรทัดฐานของตระกูลของเขาจะถูกทำลาย!ฮาร์วีย์ไม่ได้ให้เกรกอรี่มีเวลาได้คิด“ผมช่วยคุณจากความอับอายโดยไม่ได้บอกผู้อาวุโสอาร์มสตรองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนะ”“แต่เนื่องจากคุณเป็นอาจารย์ของเจนเซ่น คุณควรจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”“ควรมีเอกสารที่ต้องถูกทำลาย และควรจะมีโครงการที่ต้องล้มเลิก”“ถ้าไม่อย่างนั้น หากคำพูดแพร่กระจายออกไป ผมคิดว่าแม้แต่คุณเองก็ไม่อาจจะรับผลที่ตามมาได้ ผมพูดผิดหรือเปล่า?”เกรกอรี่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขากำลังตัดสินใจหลังจากนั้นเขาที่มีท่าทีโกรธจัดและรีบวิ่งไปหาเจนเซ่นบนโพเดียมทันที“เจนเซ่น! นายคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่?!”“ในสายงานของเรา มันเป็นเรื่องปกติ
“อาจารย์ครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษจริง ๆ โปรดยกโทษให้ผมด้วยที่ทำอะไรโดยพลการ ผมสมควรตาย ผมสมควรตายจริง ๆ…”เอลล่าเคยเคารพรุ่นพี่ของเธอมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองไปที่เขาและเริ่มถอนหายใจเอลล่าจริงจังกับการศึกษาของเธอมากกว่าใคร ๆ‘เจนเซ่นใช้วิธีการเช่นนี้เพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ช่างงี่เง่าจริง ๆ ‘‘เขาไม่รู้หรือไงไม่ว่ายังไงมันก็จะถูกเปิดเผยไม่ช้าก็เร็ว นี่มันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมากไม่ใช่รึไง?’เจนเซ่นเห็นเอลล่ามองเขาราวกับแมลงที่น่าขยะแขยงก็ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่ภาคเรียนแรกของมหาวิทยาลัย ตอนที่เขาได้พูดคุยเอลล่าครั้งแรก เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงเขาจะตามจีบเธอเขารู้ว่ารุ่นน้องของเขาให้ความสำคัญกับการศึกษาของเธอมากที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องอดทนมาหลายปีเพื่อจัดฉากนี้เจนเซ่นคิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถพาสาวสวยคนนี้กลับบ้านได้ แต่เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะจบลงแบบนี้“อาจารย์ ได้โปรด! อาจารย์ต้องช่วยผม ได้โปรดเถอะ!”เจนเซ่นเห็นเกรกอรี่ไม่สบตาเขา เขาอดไม่ได้ที่จะขอความเมตตาอีกครั้งเขาไม่เชื่อว่าเกรกอรี่จะเป็นคนใจแข็งและจะไม่ทำอะไรเพื่อช่วยเขาแต่ป
เจนเซ่นเอามือกุมหน้าแสดงสีหน้าที่อ่อนล้า“พ่อครับ ผมพยายามแล้ว! ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างดีมาหลายปี!”“ผมรอจนกระทั่งผู้อาวุโสอาร์มสตรองเสียชีวิต จากนั้นจึงนำเอกสารวิทยานิพนธ์นั้นออกมา!”“สิ่งที่ผมทั้งหมดมันยังไม่พออีกเหรอ?!”“พวกเราคาร์ลสันก็ร่ำรวยเช่นกัน ทำไมเราต้องเป็นคนรับใช้อยู่เบื้องล่างของคนอื่นด้วย? ควินตัน ยอร์ก ก็แค่คนธรรมดา…”เพี้ยะ!ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเหวี่ยงมือตบลงใบหน้าของเจนเซ่นอีกครั้ง เพื่อต้องการหยุดเขาไม่ให้พูดในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด“ไอ้เด็กไม่รักดี ฉันจะบอกแกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่มีนายท่านยอร์ก พวกเราคาร์ลสันคงอยู่ใต้ซากปรักหักพังไม่ได้โงหัวชูคอขึ้นมาแบบนี้!”“การได้ช่วยเหลือนายท่านยอร์กในธุรกิจของเขาถือเป็นเกียรติของเรา! และเราต้องรับผลที่จะตามมาในครั้งนี้สำหรับความล้มเหลวของเรา!” ผู้เฒ่าพูดอย่างเศร้าโศกร่างสูงใหญ่ของเขาสั่นสะท้านเห็นได้ชัดว่าชื่อ “ควินตัน ยอร์ก” ทำให้ผู้เฒ่าแห่งตระกูลคาร์ลสันเกิดความกลัวขึ้นในใจเจนเซ่นรู้สึกขยะแขยงในสิ่งที่ได้ยิน“ถ้าควินตันมีความสามารถจริง ๆ ทำไมเขาต้องให้ผมจัดการกับฮาร์วีย์ด้วย? เขาเพียงต้องการบังคับฮาร์
เอลล่าเดินตามฮาร์วีย์ขณะที่พวกเขาเดินไปตามท้องถนน เธอรู้สึกราวกับว่าหัวของเธอหมุนอยู่ตลอดเวลาเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันมากเกินไป เธอไม่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดีเธอไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงถ้าต้องให้ฮาร์วีย์เดินเคียงข้างเธอ‘ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่? เขาทำได้เกือบทุกอย่าง!’ฮาร์วีย์ไม่สนใจอะไรมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาทานข้าวเย็นกับเอลล่าแล้วรีบกลับบ้าน***ฮาร์วีย์เพิ่งกลับถึงบ้านขณะที่สวนกับแมนดี้ และแม่ของเธอที่รีบร้อนวิ่งออกไป สีหน้าของลิเลียนดูโกรธ ๆ หลังจากเห็นฮาร์วีย์ เธอดุฮาร์วีย์ทันที “แกไปไหนมาดึกดื่นขนาดนี้?!”ฮาร์วีย์ตอบว่า “ผมไปทานอาหารเย็นกับเพื่อนมาครับ”“กิน กิน กิน สิ่งที่แกรู้อย่างเดียวคือเรื่องกิน! แกรู้อะไรไหมว่าพ่อของแกกลับมาแล้ว!” ลิเลียนตะโกนดุด่าเขาอีกครั้ง“เขาอยู่ที่คฤหาสน์ซิมเมอร์แล้ว! เร็วเข้า อย่าปล่อยให้เขารอนาน!”ฮาร์วีย์ชะงัก พวกเขากำลังพูดถึงพ่อของเขางั้นเหรอ?เขาได้สติกลับมาอีกครั้ง ลิเลียนคงหมายถึงพ่อของแมนดี้ ไซม่อน ซิมเมอร์ พ่อตาของเขาเอง***ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ทางด้านขวาของผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยรอยยิ้มกว้างบ
“เอ๊ะ? แล้วจะทำยังไงให้ตระกูลซิมเมอร์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนั้น?”แววของผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นประกาย“มาฟังกันก่อนนะครับ!”สมาชิกคนอื่น ๆ ในตระกูลซิมเมอร์กลั้นหายใจรับฟังอย่างใกล้ชิดการเป็นตระกูลชั้นสองในเมืองหลวงจะทำให้พวกเขามั่งคั่งเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน นั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะอยู่บนกองเงินกองทอง ในตอนนี้ทุกคนไม่มีใครคิดที่จะต่อต้านหรือทำลายโครงการของไซม่อน ทุกคนต่างตื่นเต้นไซม่อนหัวเราะ“คุณพ่อครับ พ่อเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซิลวาแห่งเซาท์ไลท์ไหมครับ?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกไม่สบายใจทันที“ไซม่อน เธอกำลังหมายถึง ตระกูลซิลวา หนึ่งในตระกูลเฟิร์สคลาสแห่งเซาท์ไลท์ใช่ไหม?”“ใช่ครับ! หมายถึงพวกเขา!”ไซม่อสแสดงความภาคภูมิใจออกมา“เขาว่ากันว่าตระกูลซิลวาเป็นพระญาติของกษัตริย์ในสมัยก่อน ในยุคสมัยของลอร์ดไค ซิลวา!”“หลังจากสงครามจบลง พวกเขาตั้งหลักปักฐานที่เซาท์ไลท์และใช้นามสกุลว่าซิลวา!”“ถึงตระกูลจะนี้ไม่ได้หยั่งรากลึกเหมือนตระกูลยอร์ก”“แต่ตระกูลที่มีสถานะเท่าเทียมกับตระกูลซิลวานั้นมีเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น”“ซิลวากับไนส์เวลล์ล่ะ เป็นยังไง?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข