ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!ฮาร์วีย์ไม่สนใจฝูงชนในขณะที่เขาดึงผ้ายันต์ออกมาอย่างระมัดระวังเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับนี้จากนักบวชอาวุโสในสนามรบสมัยนั้นนักบวชผู้นั้นกล่าวว่าเลือดของเทพสงครามสามารถปัดเป่าหายนะได้เกือบทุกอย่างแต่ต้องได้เรียนรู้วิธีการใช้เลือดก่อนตัวอย่างเช่น พลังงานชั่วร้ายภายในร่างกายของคนเราสามารถถูกขับไล่ผ่านยันต์กระดาษที่สร้างพลังปรปักษ์กับพลังชั่วร้ายเหล่านั้นฮาร์วีย์ได้เรียนรู้การวาดอักขระทั้งหมดจากนักบวชอาวุโสหลังจากวาดอักขระที่ซับซ้อนเสร็จแล้ว ฮาร์วีย์ก็เหวี่ยงมือแล้วโยนผ้ายันต์ผืนนั้นลงบนศีรษะของตำรวจที่หมดสติอยู่พรึ่บ!ผ้ายันต์พื้นนั้นลุกเป็นไฟ ขณะที่ไฟลอยละล่องไปในอากาศ ยันต์ก็ค่อย ๆ ดูดความมืดมนบนใบหน้าของนายตำรวจจนเกลี้ยงหลังจากนั้นไม่นาน ผ้ายันต์ก็กลายเป็นกองขี้เถ้าก่อนจะสลายไปในสายลมทุกคนตกใจมาก รู้สึกราวกับทุกสิ่งเป็นเพียงแค่ห้วงฝันทุกคนรู้ว่ามีศิลปะการต่อสู้ลึกลับมากมายซ่อนอยู่ในโลกใต้ดิน แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นอะไรแบบนี้แม้แต่โบเว่นยังตกใจเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของฮาร์วีย์“นั่นมันยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักนรชนไม่ใช่เหรอ?”ฟิชเชอร์รู้สึกเบิกบา
เวลาผ่านไปทีละนิด จนกระทั่งห้านาทีต่อมา นายตำรวจผู้นั้นก็นั่งตัวตรงอย่างรวดเร็วของสกปรกพุ่งออกมาจากปากของเขาทันทีหลังจากนั้นใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย แต่เขาสามารถลุกขึ้นนั่งได้"เขาหายดีแล้ว! เขาหายดีแล้วจริง ๆ!”เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ ต่างก็ล้อมรอบเขาเพื่อตรวจดูอย่างใกล้ชิดหลังจากตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่านายตำรวจผู้นั้นหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกขอบคุณฮาร์วีย์ทันใดนั้น ใบหน้าของโบเว่นก็ยิ่งมืดลงไปอีกเขาจ้องมองลูกสาวของเขาและพึมพำกับตัวเองเงียบ ๆ “อย่าตื่นนะ! อย่าตื่น!”แต่ไม่ว่าอะไรก็มักจะไม่เป็นดั่งใจเสมอไม่นานหลังจากที่นายตำรวจตื่นขึ้น ลาริซาก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว“ฉันถูกยิง! ฉันถูกยิง!”โบเว่นตัวแข็งทื่อในทันที“ลูก…ลูกกลับมาได้สติแล้วเหรอ!” เขาอุทานด้วยสัญชาตญาณ"พ่อ!"ลาริซากลับมาเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ หลังจากจำใบหน้าของโบเว่นได้ เธอก็กระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเขาทันที“หนูนึกว่าจะไม่ได้เจอพ่ออีกแล้วเสียอีก!"หนูกลัวมากเลย!"เธอมีน้ำตาไหลอาบหน้าโบเว่นมีสีหน้าน่ากลัว แต่เขาก็ยังคงพยายามปลอบลูกสาวอย่างเต็มที่"เอาล่ะ พ่ออยู่นี่แล้ว พ่ออยู่ที่นี่แล้ว…
ขณะที่ซีนเธียร์กำลังคุยโทรศัพท์กับฮาร์วีย์ อาอิและคนของเขานั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่อย่างวางมาด อาอิเชื่อว่าฮาร์วีย์คงไม่กล้าทำอะไรเขา แต่เขารีบไปโรงพยาบาลทันทีหลังจากพบว่าคุณนายลีถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ที่นั่นอาอิรู้ว่านี่อาจเป็นแผนการก้าวแรกของฮาร์วีย์อาอิอาจจะตกเป็นเป้าหมายในก้าวที่สองของเขา ไม่ว่าจะเป็นการยืนหยัดเพื่อคุณนายลีหรือเป็นฝ่ายเปิดก่อน อาอิก็ตั้งใจมาที่นี่เพื่ออวดความแข็งแกร่งของตัวเองที่สำคัญเขาได้ไปพบกับคนที่สนับสนุนเขาก่อนจะมาที่นี่แล้วด้วยหลังจากได้รับการอนุมัติคนที่อยู่เบื้องหลังแล้ว อาอิก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถบดขยี้ฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดายนอกจากแก๊งแคปิตอลแล้ว รุ่นพี่มิลเลอร์ผู้ที่ถูกฮาร์วีย์ตบจนหน้าบวมเหมือนหมูก็มากับอาอิด้วย รุ่นพี่มิลเลอร์ไม่อาจลืมความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญในตอนนั้นได้อาอิไม่เพียงไล่คนไข้และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ออกจากโรงพยาบาลเท่านั้น แต่เขายังข่มขู่อีกด้วย และจะทำทุกอย่างตามอำเภอใจกับซีนเธียร์ หากฮาร์วีย์ไม่ปรากฏตัวทั้งโรงพยาบาลตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้งหมดได้แต่เดินโซเซออกจากโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่รักษาความปล
เมื่อเห็นใบหน้าขมวดมุ่นของรุ่นพี่มิลเลอร์ สาวสวยที่อยู่รอบ ๆ อาอิก็ปิดปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์'พระเจ้ารู้ดีว่าไอ้สารเลวนั่นทำให้คุณนายลีต้องอับอายยังไงบ้าง..''และนั่นทำให้ชื่อเสียงของอาอิต้องแปดเปื้อนไปด้วย!''ในฐานะหัวหน้าแก๊งแคปิตอล เขาจะไม่ยอมให้ใครดูหมิ่นเขา แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!''เขาจะทวงคืนความภาคภูมิใจของเขากลับไปเสมอ ไม่ว่าเขาจะสูญเสียมันไปก็ตาม!'พูดง่าย ๆ ก็คือ พวกผู้หญิงมั่นใจเลยว่าฮาร์วีย์จบเห่แล้วอาอิหยิบซิการ์ขึ้นมาขณะที่เขาเอนกายไขว่ห้างบนโซฟาเขาไม่ได้ห้ามปรามกริยาเย่อหยิ่งและทรงพลังของรุ่นพี่มิลเลอร์ เมื่อวัดจากตัวตนของเขาแล้วมีบางสิ่งที่เขาทำไม่ได้แต่การที่ลิ่วล้ออย่างรุ่นพี่มิลเลอร์อวดความแข็งแกร่งของเขานั้นค่อนข้างได้ผลสำหรับจุดประสงค์ของเขาซีนเธียร์ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วราวกับเธอกลัวจนหัวหด "ฉันขอโทษ! ฉันผิดเองที่ไม่นำชาราคาแพงมาให้คุณ…”“คุณเป็นคนหยาบคายขนาดนี้ได้ยังไง!”“เด็กสาวคนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นและรอยฟกช้ำ แต่คุณกลับทำลายชุดน้ำชาของเธอ!”“อย่างน้อยก็มีเหตุผลมากกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ!”"ใช่! คุณแต่งตัวเหมือนสุภาพบุร
เอี๊ยด!ทางออกฉุกเฉินถูกผลักให้เปิดออก ฮาร์วีย์ปรากฏตัวขึ้นเขารีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นซีนเธียร์อยู่ไกล ๆ“มาจริง ๆ ด้วยสินะ ฮาร์วีย์!”รุ่นพี่มิลเลอร์ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับสัมผัสใบหน้าที่เจ็บปวดของเขา เขาวิเคราะห์ฮาร์วีย์ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มอันน่าสมเพชให้อีกฝ่าย“ฉันนึกว่านายจะซ่อนตัวไปตลอดเสียอีก ไอ้สารเลว! ฉันนึกว่านายจะไม่มาที่นี่แล้วซะอีก!“แต่ไหน ๆ นายก็มาแล้วฉันจะขอบอกอะไรสักหน่อย!“นายจะต้องจ่ายเงินให้เราสิบเท่าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองภาพยนตร์และงานเลี้ยงวันเกิดของคุณนายลี!“ไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้!”แน่นอนว่ารุ่นพี่มิลเลอร์รู้ว่าอาอิขอความช่วยเหลือออกไปแล้วก่อนที่เขาจะปรากฏตัวที่นี่นั่นคือเหตุผลที่รุ่นพี่มิลเลอร์มั่นใจในตัวเองถึงขนาดนี้ เขาไม่เคยหยิ่งผยองขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตสาวสวยกอดอกขณะมองพินิจพิเคราะห์ฮาร์วีย์พวกเธอก็นึกว่าฮาร์วีย์เป็นทั้งชายที่ร่ำรวยหรือเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์ เพราะเขากล้าตบหน้ารุ่นพี่มิลเลอร์ ดูหมิ่นคุณนายลีอย่างที่สุด และไม่เคารพนบนอบต่ออาอิเลยไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งนอกจากจะหล่อเหลาแล้ว ฮา
ฮาร์วีย์หัวเราะออกมาเล็กน้อย อาอิไขว่ห้างแล้วหยิบซิการ์ของเขาขึ้นมา“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้“ผมยุ่งนิดหน่อย ก็เลยยังไม่ว่างมาคิดบัญชีกับคุณ“แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะพาตัวเองมาหาผมถึงที่“ชีวิตคุณมันสุขสบายเกินไปใช่ไหม? ถึงได้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วแบบนี้?“คุณมาที่นี่เพื่อความตื่นเต้น? หรือมาเพราะอยากตายกันแน่?”อาอิตัวแข็ง จากนั้น เขาก็โบกมือเพื่อหยุดมิลเลอร์และคนอื่น ๆ ไม่ให้เข้ามา“นายนี่อวดดีเลยจังเลยนะพ่อหนุ่ม” เขาอุทานอย่างเย็นชาขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์“การที่นายกล้าดูหมิ่นคุณนายลี นั่นหมายความว่าอย่างน้อยนายก็มีพรสวรรค์ ความแข็งแกร่ง และภูมิหลังมากพอที่จะทำเรื่องนั้น“แต่ก็อย่างที่ฉันบอก นายควรรู้เอาไว้ว่าตอนนี้นายอยู่ที่ฟลัตเวลล์!“นี่คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ H! ซึ่งเทียบได้กับมอร์ดู โกลเด้น แซนด์และบัควู้ด!“นอกเหนือจากโกลด์เด้น พาเลซ สิบตระกูลอันดับแรก และเสาหลักทั้งสี่ ยังมีคนอื่นอีกมากมายที่นายควรเรียนรู้ที่จะเคารพ…“ไม่อย่างนั้น ต่อให้นายเป็นบุคคลสำคัญนายก็จะต้องพบกับจุดจบอันน่าสยดสยอง"นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม?"อาอิดู
“อย่าดื้อให้มันมากนักนะ ฮาร์วีย์ ยอร์ก!“นายอายุแค่นี้! ยังมีอีกหลายเรื่องที่นายยังไม่พร้อมรับมือ!”อาอิ คามิโนะ พ่นควันออกมาก่อนที่เขาจะนั่งตัวตรง“ฉันยอมรับว่าฉันประเมินนายต่ำเกินไป“แต่ถึงนายจะมีตระกูลตอร์เรสอยู่ข้างตัว นายก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามอำเภอใจ!“ยกตัวอย่างเช่นนายในตอนนี้ควรจะเคารพฉันสักหน่อย“นั่นก็เพราะ นายไม่มีสิทธิ์ต่อกรกับคนที่หนุนหลังฉันอยู่”จากนั้นอาอิก็ดีดนิ้วก่อนที่เลขาของเขาจะเดินถือกระเป๋าเข้ามา อาอิเปิดกระเป๋าและหยิบนามบัตรออกมาก่อนจะวางลงบนโต๊ะกาแฟของฮาร์วีย์ไคลด์ ออสบอร์น!ไม่มีอะไรอื่นบนการ์ดนอกจากการชื่อที่เขียนไว้ตัวเบ้อเร่อ!การประดิษฐ์ตัวอักษรให้ความรู้สึกทรงพลังแต่ก็หรูหรา รัศมีแห่งความไร้เทียมทานและความมีอำนาจสามารถเปล่งประกายออกมาให้รู้สึกได้เพียงจากการแค่มองการ์ด!“ไคลด์ ออสบอร์น?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว เขาไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้อาอิแสดงสีหน้าลึกซึ้ง"ใช่แล้ว เจ้าชายออสบอร์นนั่นเอง“ก่อนจะมาที่นี่ฉันไปหาเขามา“เขาบอกฉันว่า…“แก๊งแคปิตอลเป็นตัวแทนด้านชื่อเสียงของเขา“และเนื่องจากแก๊งแคปิตอลกำลังถูกดูหมิ่น มันก็หมายความว่าเขาถูกดูหมิ่นไปด้
“ดูเหมือนว่านายก็จะไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนกัน อย่างน้อยนายก็น่าจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง“ไม่งั้นนายคงเดาไม่ออกหรอกว่าเจ้าชายออสบอร์นมาจากหนึ่งในห้าตระกูลลึกลับ”อาอิ คามิโนะ พยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจและความมั่นใจ เขาแสดงสีหน้าอย่างโจ่งแจ้ง“ในเมื่อนายรู้ว่าเจ้าชายออสบอร์นเป็นคนแบบไหน ฉันก็มั่นใจว่าเราจะได้คุยกันให้เข้าใจ”จากนั้นอาอิก็หยิบรายชื่อออกมาก่อนที่จะขว้างมันให้ฮาร์วีย์ ยอร์กนอกเหนือจากค่าเสียหายของคุณนายลีแล้ว สิ่งที่เมืองภาพยนตร์สูญเสียไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ถูกเขียนไว้ในรายการเช่นกัน ทั้งยังมีค่ารักษาพยาบาลของรุ่นพี่มิลเลอร์รวมเข้าไปด้วย ทุกเรื่องถูกเขียนไว้อย่างละเอียด“นายจะต้องจ่ายค่าชดเชยสิบเท่าของจำนวนเงินที่ระบุไว้ เข้าใจที่ฉันพูดไหม?" อาอิพูดขณะหรี่ตามองฮาร์วีย์ฮาร์วีย์เพียงยักไหล่ก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา“ถ้าไม่ได้มองให้ดีล่ะก็ ผมนึกว่าคุณจะเป็นคนที่มาจ่ายค่าชดเชยให้กับน้องภรรยาของผมจริง ๆ เสียอีก“เฮ้!”อาอิดูแคลนริมฝีปากคมกริบของฮาร์วีย์ ในขณะนี้ เขาดูสงบขณะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์“พูดพอแล้ว“ปากดีไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก“ยอมรับความผิดพลาดของนา
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข