"คุณยอร์ก! ผมไม่กล้าหรอก!“ผมแค่ล้อเล่นน่ะ คุณยอร์ก!”โลแกน โบวี่ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้และก้มศีรษะลงด้วยความกลัวช่างน่าตลกนัก!ให้เขาสาธยายให้ฮาร์วีย์ ยอร์กฟังงั้นเหรอ?ตรงนี้น่ะเหรอ?เขาไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก“นายจะไม่ทำหรือไง?ฮาร์วีย์ตบหน้าโลแกนเบา ๆ“ถ้าฉันจำไม่ผิด ครั้งที่แล้วนายก็พูดแบบนี้นี่“แล้วฉันก็เคยสอนนายแล้วไง…“แต่ดูซิเกิดอะไรขึ้น? นายยังมาเอาเปรียบประชาชนที่นี่อยู่เลย“ดูเหมือนว่านายยังต้องการบทเรียนเพิ่มเติมสินะ!”“ผมต้องขอโทษด้วยคุณยอร์ก!“ผมจะหาคำอธิบายอันชอบทำให้กับคุณเดี๋ยวนี้เลย!”"ยังไงล่ะ?" ฮาร์วีย์ถามสีหน้าของโลแกนเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันก่อนที่เขาจะบิดแขนซ้ายของตัวเองอย่างเต็มใจหลังสิ้นเสียงกระดูกแตก แขนของเขาก็หักลงทันทีจากนั้นเขาก็แสดงท่าทางเอาอกเอาใจต่อฮาร์วีย์ ขณะที่เหงื่อเย็นหยดลงมาบนหน้าผาก“แค่นี้ไม่พอหรอก” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น"แน่นอน แน่นอน"โลแกนโค้งคำนับด้วยความเคารพก่อนที่จะชี้ไปที่ลูกน้องคนหนึ่งของเขา"นาย! มานี่สิ!“หักแขนอีกข้างของฉัน!”เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินไปอย่างลังเล ก่อนที่จะหักแขนของโลแกน ขณะที่ฮาร์วีย์เริ่มยกยิ้มออ
“คุณมาแล้วคุณคามิโนะ!“ผมไม่ได้อยากรบกวนการพักผ่อนของคุณเลย…“แต่ไอ้เลวนี่กล้ามาสร้างปัญหาในถิ่นของเรา!รุ่นพี่มิลเลอร์มีท่าทางสิ้นหวังขณะที่บ่นกับอาอิ คามิโนะ“เขายังบอกอีกด้วยว่าต่อให้คนมาที่นี่คุณก็ทำอะไรเขาไม่ได้!“คุณไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาของเขา!”นี่ถือเป็นเรื่องที่แย่ รุ่นพี่มิลเลอร์พยายามราดน้ำมันลงกองไฟเพื่อที่จะให้อาอิจัดการฮาร์วีย์ยอร์กเสียเพียะ!ก่อนที่เขาจะพูดจบ อาอิก็ตบเขาลงกับพื้นแล้วเลือดไหลออกมาจากมุมปากของรุ่นพี่มิลเลอร์เขาตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกระซิบ “ผมขอโทษ คุณคามิโนะ! ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น!“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ!”รุ่นพี่มิลเลอร์ไม่รู้ว่าทำไมอาอิจึงตัดสินใจตบหน้าเขา สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือคลานขึ้นมาจากพื้นและขอโทษเท่านั้นเพียะ!อาอิส่งรุ่นพี่มิลเลอร์ลอยไปด้วยการตบหน้าอีกครั้งรุ่นพี่มิลเลอร์กัดฟันขณะตะเกียดตะกายขึ้นจากพื้นก่อนจะคุกเข่าต่อหน้าอาอิ"ผมผิดไปแล้ว! ผมขอโทษจริง ๆ!"ผมผิดเอง! ตอนนี้ผมเข้าใจ!"ปัง!อาอิเตะรุ่นพี่มิลเลอร์ลงไปที่พื้นด้วยกำลังทั้งหมดที่มีจากนั้น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและเตะรุ่นพี่มิลเลอร์ในขณ
“แกกล้าดียังไง ไอ้สารเลว!”รุ่นพี่มิลเลอร์และคนอื่น ๆ จ้องมองอย่างเย็นชาเมื่อเห็นฮาร์วีย์ ยอร์กทำท่าทางหยิ่งยโสต่อหน้าอาอิ คามิโนะ พวกเขาเกือบจะสงบอารมณ์ไม่ได้แล้วในตอนนั้นอาอิยกมือส่งสัญญาณให้คนเหล่านั้นสงบสติอารมณ์ลงจากนั้น เขาก็สั่งให้ใครบางคนนำเก้าอี้มา ก่อนที่จะนั่งลงเบื้องหน้าฮาร์วีย์โดยคาบซิการ์ซึ่งจุดไว้แล้วเอาไว้ในปากหลังจากนั้นไม่กี่นาที อาอิก็แสดงรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา“ในเมื่อนายต้องการคำอธิบายนะ หนุ่มน้อย...“ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่านายต้องการอะไรจริง ๆ กันแน่”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่อาอิแล้วตอบอย่างสงบ “เงินค่าทำขวัญจำนวนห้าสิบล้านดอลลาร์”“แล้วผมก็อยากรู้ว่าทำไมถึงมีกระสุนในอุปกรณ์ประกอบฉากของคุณได้“ผมต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการสืบสวนและถูกดำเนินการตามกฎหมาย!“ผมอยากให้คุณนายลีขอโทษซีนเธียร์ ซิมเมอร์ และหักแขนของตัวเองเพื่อรับผิดชอบอย่างจริงใจ!“และผมจะปล่อยคุณไปก็ต่อเมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้วเท่านั้น”ฮาร์วีย์จิบชาอย่างใจเย็นหลังจากนั้น ราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าคำพูดของเขาน่าตกใจแค่ไหนอาอิจะไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาสูบซิการ์สองสา
“แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะ”"ปฏิเสธ?”อาอิ คามิโนะเยาะเย้ย“หน้าคิดว่านายมีสิทธิ์ทำแบบนั้นเหรอ?“นายรู้ไหมว่าที่นี่ถิ่นใคร?“เมืองภาพยนตร์ของฟลัตเวลล์คือถิ่นของฉัน“พันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ นายน้อยบาวเออร์ และโกลด์เด้น พาเลซคอยหนุนหลังฉันอยู่!“ต่อให้นายจะมาจากหนึ่งในห้าตระกูลลึกลับหรือสิบตระกูลอันดับแรก ก่อนที่นายจะข้ามหัวคนพวกนี้ไปก็หัดไตร่ตรองดูให้ดีเสียก่อนเถอะ!“อันที่จริงการจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นโดยมีแค่นายกับฉันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรหรอก“แต่ถ้านายปล่อยให้ตำรวจพวกนี้ทำลายกิจการของที่นี่...“แม้แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป!“และนายก็ไม่มีทางรับผิดชอบเพียงคนเดียวได้ ถ้านายไม่ระวังล่ะก็ คนที่อยู่ข้างหลังนายก็จะต้องชดใช้ไปกับนายด้วย!“บางทีเพื่ออนาคตที่ดีเราควรจะแยกกันเดินคนละทาง“นายเป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาดนี่ นายน่าจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรหยุดใช่ไหม?'จากนั้นอาอิก็ชี้ไปที่เช็คบนพื้น“รับเช็คนี่ไปเดี๋ยวนี้ เราจะได้ไม่ต้องผิดใจกัน”“พาซีนเธียร์ ซิมเมอร์เอาจากที่นี่ไปเสีย เธอจะได้ไปหาหมอ แล้วถ้านายไม่รู้ว่าจะพาเธอไปหาหมอที่ไหนฉันจะช่วยแนะนำให้ก็ยังได้“แล
อาอิ คามิโนะ พ่นควันออกมาอย่างสงบ ก่อนที่มันจะสลายไปต่อหน้าฮาร์วีย์ ยอร์กไม่นานหลังจากนั้นจากนั้นอาอิแสดงรอยยิ้มจาง ๆแน่นอนว่าเขาค่อนข้างพอใจที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ถึงขนาดนี้อาอิเชื่อว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่คนมีความสามารถอะไร เพราะเขายอมคุกเข่าแล้วหยิบเช็คขึ้นมาฮาร์วีย์ไม่มีท่าทีอารมณ์เสียหลังจากถูกควันพ่นใส่หน้า"คุณคามิโนะ ผมไม่พอใจกับข้อเสนอของคุณเลยสักนิด” ฮาร์วีย์พูดขณะถือถ้วยชาไว้ในมือ“ผมหวังว่าคุณจะทำในสิ่งที่ผมร้องขอได้ในทันที“ไม่มีใครมีสิทธิ์ต่อรองกับผม”“นายยังเด็กอยู่เลยไม่เห็นต้องดื้อรั้นถึงขนาดนี้” อาอิตอบด้วยน้ำเสียงลึกซึ้งพร้อมยิ้มจาง ๆ“นายควรจะรู้ว่าเส้นสายต่างหากที่จะทำให้เราทุกคนได้ประโยชน์ “และความอ่อนน้อมจะทำให้ได้ทั้งสองอย่างนั้น“ถ้านายเคารพฉัน ฉันก็จะสามารถทำแบบเดียวกันนั้นได้ ”ฮาร์วีย์เพียงแต่ยิ้ม“น่าเสียดายที่ความเคารพนอบของคุณไม่มีผลอะไรกับผมเลย“นี่ไม่ถือเป็นคำอธิบายที่ฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับผมเลยสักนิด”“ฉันก็บอกนายแล้วไงว่าฉันให้อะไรนายได้บ้าง” อาอิตอบอย่างสบาย ๆ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“ถ้านายไม่พอใจกับสิ่งนี้ และไม่อาจยอมรับมันได้...“ฉั
หลังจากไตร่ตรองสถานการณ์เพียงครู่หนึ่ง อาอิ คามิโนะก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็วที่นี่เขาเป็นคนที่มีอำนาจซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโกลด์เด้น พาเลซมันไม่สำคัญว่าฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นใครมาจากไหน หากเป็นที่ฟลัตเวลล์แล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะเป็นศัตรูกับอาอิได้ในส่วนของตำรวจ แอนเซล ตอร์เรสบอกว่าพวกเขาแค่ทำตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าตำรวจยังคงเป็นกลางในเรื่องนี้อาอิเชื่อว่าเขาสามารถบดขยี้ฮาร์วีย์ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามหากเขาไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะได้ เขาก็ยังเหลือวิธีอื่นที่จะได้ทำตามที่ใจต้องการอยู่แก๊งแคปิตอลมีสมาชิกราวสามพันคน และคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะจัดการกับหมอนั่น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนายน้อยหรือเจ้าชายอาอิสูบซิการ์อีกครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์“หาที่อยู่ของไอ้สารเลวนั่นให้ฉัน แล้วบอกคุณนายลีว่าเขาเป็นคนบรรจุกระสุนเข้าไปในอาวุธปืน” อาอิพูดอย่างใจเย็น“บอกเธอว่าเขาคือผู้ร้ายหลักในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับลาริซา ลี“ส่งข่าวออกไปว่าทุกคนที่สนับสนุนฮาร์วีย์ในฟลัตเวลล์จะถือว่าต่อต้านฉันด้วย!“ฉันอยากให้ไอ้สารเลวนั่นถูกต้อนให้จนมุม!”อาอิแสดงท่าทางเย็นชา คนนอกนั้
ดิลลอน ลีจ้องมองเคย์เดน บัลเมอร์ แบล็คโรส และคนอื่น ๆ จากแก๊งขวานอย่างเหยียดหยามเขามาจากหลงเหมินสาขาฟลัตเวลล์หลงเหมินถือเป็นราชาแห่งโลกใต้ดินจึงไม่แปลกที่เขาจะดูแคลนหัวหน้าแก๊งอันธพาลเล็ก ๆ แบบนี้หลังจากได้รับคำสั่งให้กำจัดผู้ต้องสงสัยที่ทำร้ายรุ่นน้องของเขา ดิลลอนก็ต้องประหลาดใจที่แก๊งขวานกลับมีส่วนร่วมในสถานการณ์นี้ด้วย แต่ถึงกระนั้นเขาก็พาคนของเขามาถึงที่นี่อย่างไม่เกรงกลัวท้ายที่สุดแล้ว ฟลัตเวลล์คือฐานทัพหลักของหลงเหมินลูกสาวของหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งฟลัตเวลล์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ดิลลอนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกำจัดผู้ต้องสงสัยทิ้งดิลลอนชี้ไปที่ฝูงชนโดยไม่ลังเลและอุทานอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าพวกนายจะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับผู้ต้องสงสัย!“และฉันก็ไม่สนด้วยว่าใครสนับสนุนพวกนายอยู่!“แต่ฉันมาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้น!“ฉันต้องการตัวผู้ต้องสงสัยที่นี่เดี๋ยวนี้!“ถ้าเขาไม่ยอมมากับเรา ฉันจะฆ่าเขาทิ้งเสียที่นี่แล้วส่งเขาไปอยู่ในโลงศพเวรนี่ด้วย!“ถ้ารุ่นน้องฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันก็จะฝังเขาไว้ใต้โลงศพของรุ่นน้องฉันอีกที!”ดิลลอ
"เหรอ? แบบนี้เรียกว่าใส่ร้ายเหรอ?“และฉันจะไม่ได้รับโอกาสครั้งที่สองจากนายเนี่ยนะ?"คุณคามิโนะบอกว่านายชอบอวดเบ่ง!“เขาพูดไม่ผิดเลย! เพราะตอนนี้นายก็กำลังทำอย่างที่เขาว่าจริง ๆ!” ดิลลอน ลีอุทานด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ“เลิกเสแสร้งได้แล้ว เด็กน้อย!“ต่อให้นายจะเป็นราชานายก็ต้องชดใช้ที่มาทำร้ายรุ่นน้องของฉัน!"จัดการเลย!"ดิลลอน ลีมาที่นี่พร้อมกับภารกิจหลังจากได้รับแจ้งจากอาอิ คามิโนะ คุณนายลีก็ออกคำสั่งให้จัดการฮาร์วีย์ ยอร์ก ใครที่พาตัวเขากลับไปได้จะได้รับประโยชน์มากมายนั่นคือเหตุผลที่ดิลลอนรีบมาที่นี่ทันทีที่ได้รับภารกิจดังกล่าวชายในชุดคลุมหลายสิบคนกระโจนไปข้างหน้าพร้อมกัน หลังจากได้ยินคำสั่งของดิลลอน เพื่อพยายามจับฮาร์วีย์กลับไปเพื่อการลงโทษเพียะ เพียะ เพียะ!ฮาร์วีย์โบกมือให้เคย์เดนและคนอื่น ๆ ถอยไปข้างหลังด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่เขาจะโบกมือขึ้นตบคนที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างไม่ใส่ใจนักอากาศดูหยุดนิ่งไป ในขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบ ๆในช่วงเวลาถัดมา ชายพวกนั้นก็ถูกส่งให้กระเด็นไปตามแรง ความเจ็บปวดดังระงมเมื่อพวกเขาร่วงหล่นลงกับพื้นสาวกของหลงเหมินเทียบอะไรกับฮาร์วีย์ไม่ได้เลย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข