แสงไฟสว่างจ้าและเครื่องประดับเต็มทั่วทั้งห้องโถงและมีพรมสีแดงสดใสบนพื้น มันเป็นภาพที่ดูฟุ่มเฟือยทั้งสองด้านของห้องโถงมีสาวใส่ชุดกระต่ายเดินไปมาเพื่อปลุกเร้าแขกรถหรูคันหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และผู้คนหลายคนในชุดแบบดั้งเดิมก็เข้ามาในห้องโถง สมาชิกของพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์เข้ามาหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาล้วนเป็นบุคคลสำคัญในธุรกิจของฟลัตเวลล์ พวกเขาถือเป็นทีมที่โจเซฟไว้วางใจมากที่สุดหากไม่มีพวกเขา โจเซฟคงไม่ได้มีทุกวันนี้ผู้คนโกรธเคืองเมื่อเห็นคนเหล่านี้เข้ามาในห้องโถงบรรดาผู้ที่มาที่นี่จากทั่วทิศตะวันตกเฉียงเหนือต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะรอจังหวะที่จะซื้อบ้านทุกคนรู้สึกว่าบ้านที่นี่ราคาถูกเกินไปสำหรับความคุ้มค่า!ขณะที่สมาชิกของธุรกิจถ่ายรูป พิธีกรสาวสวยจากฟลัตเวลล์ ทีวีก็ขึ้นไปยืนบนเวทีด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น“วันนี้เป็นวันสำคัญ!“ขอเชิญนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเราในเขตใหม่ของฟลัตเวลล์และผู้จัดงานในวันนี้โจเซฟ บาวเออร์จากตระกูลบาวเออร์มาให้รายละเอียด!”ทุกคนจ้องไปที่ทางเดินด้านหลังพวกเขาด้วยความหลงใหลอันเร่าร้อนบรรดาสุภาพสตรีผู้มั่งคั่งและเน็ตไอดอลต่างพากันดีใจตระกูลบา
โจเซฟเก็บความคิดของเขาไว้ส่วนตัวและแสดงออกถึงความกล้าหาญและมีคุณธรรมแทนเนื่องจากไม่มีทางที่เขาจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากการขาย เขาจึงตัดสินใจขายทุกอย่างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โจเซฟโบกมือและยิ้มให้ทุกคนโดยไม่ลังเล"ทุกคน! เชื่อผมเถอะ ราคาจะขึ้นแน่นอนภายในสิบปี มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะซื้อทิวทัศน์ที่สวยงามขนาดนั้นได้ในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ต่อสิบตารางฟุต!”“มันจะสายเกินไปที่จะซื้อเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้!”“ในอนาคตอันใกล้นี้ สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นเขตเก็บไหมชั้นนำของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ H!”“สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและตัวตนของคุณ!”"เชื่อผมนะครับ! คุณจะกลายเป็นชนชั้นสูงอย่างแท้จริงทันทีที่คุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่นี่!”โจเซฟโบกมือแรงขึ้น ผู้คนยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก"ฉันต้องการหลังหนึ่ง!"“ฉันต้องการสิบ!”“ฉันมีเงินเหลืออยู่แล้ว!”ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าล้วนเป็นคนของโจเซฟ พวกเขาส่งเสียงเชยร์อย่างสุดกำลังราวกับว่าพวกเขาจะฆ่าตัวตายจริง ๆ หากไม่สามารถซื้อมันได้“ผมอยากจะคืนบ้านที่ซื้อไปโจเซฟ”ขณะที่โจเซฟคิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่น
ฮาร์วีย์ยิ้ม เขาปรบมือ และราเชลก็หยิบกระเป๋าถืออันประณีตออกมาเธอรูดซิปกระเป๋า คว่ำมันลงแล้วเขย่ากระเป๋าอย่างแรง ทำให้เอกสารการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ปลิวไปทั่ว “ฉันเป็นเจ้าของทรัพย์สินในเฟสแรกของเขตพัฒนาใหม่แต่เพียงผู้เดียว”“วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อทวงสิ่งเหล่านี้คืน!”ฝูงชนตกตะลึง..เอกสารการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แต่ละฉบับมีมูลค่า หนึ่งล้านห้าแสนดอลลาห์ เมื่อพิจารณาจากราคาตลาดในปัจจุบันหนึ่งร้อยฉบับก็มีมูลค่าเท่ากับหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์...ฝูงชนถึงกับพูดไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียวก่อนหน้านี้ โจเซฟทำการขายและมอบทรัพย์สินในเฟสแรกทั้งหมดให้กับเหล่านายน้อยและเจ้าชายแห่งโวลซิ่งแต่เมื่อคืนนี้ฮาร์วีย์ทำการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทุกหลังในราคาสูงเป็นสองเท่า ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากเซียนน่า บรรดานายน้อยและเจ้าชายเหล่านั้นจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพวกเขาจัดการทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีดังนั้นทรัพย์สินทุกรายการของเฟสแรกจึงตกอยู่ภายใต้ชื่อของฮาร์วีย์เรียบร้อยแล้ว พิธีกรสาวสวยได้แต่อ้าปากค้างต่อหน้าฝูงชนด้วยความไม่เชื่อ“นี่มัน… เป็นไปได้ยังไง!” เธอพึมพำ“คุณเป็นเจ
ฮาร์วีย์มองโจเซฟด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย“ในเมื่อฝีปากของคุณคมคายถึงขนาดนี้ งั้นบอกผมหน่อยสิว่าทำไมคุณถึงบีบบังคับให้คนอินเดียมาเล่นงานภรรยาของผม“ถ้าคุณยอมเปิดเผยทุกอย่าง ผมจะยอมขอโทษคุณและซื้อบ้านจากคุณเพิ่มอีกสักสองสามหลัง“แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น คุณมันก็เป็นแค่คนขี้ขลาดเหมือนกัน!“คำมั่นที่คุณบอกกับทุกคนว่ามูลค่าทรัพย์สินจะเพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นแค่เรื่องไร้สาระ!“ถ้าราคาทรัพย์สินของคุณพุ่งขึ้นสูงจริง ๆ แล้วก็ ผมจะยอมคืนบ้านให้เลย!”ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหลหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ทุกคนสัมผัสได้ถึงความขัดแย้งระหว่างบุคคลทั้งสองความตื่นเต้นของผู้ซื้อเหือดหายไปเพราะฮาร์วีย์สีหน้าท่าทางของโจเซฟแย่ลงเล็กน้อยเขาต้องการใช้ผู้ซื้อจัดการกับฮาร์วีย์แต่ไม่คิดเลยว่าจุดประสงค์ที่เขาแอบแฝงเอาไว้จะกลับกลายเป็นเช่นนี้เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว โจเซฟก็ไม่เหลือทางเลือกอื่น“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร“คุณจะเอาแต่พูดจาไร้สาระและคิดจะใช้คำพูดเหล่านั้นทำลายสถานการณ์ไม่ได้!“แปลว่าคุณจะไม่ยอมรับใช่ไหม?“จะไม่ขอโทษใช่หรือเปล่า?“นี่คุณไม่คิดจะอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ
ใบหน้าของโจเซฟเย็นชาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านไม่ทำให้ขนหน้าแข้งเขาร่วง เขาสามารถนำเงินจำนวนนั้นออกมาได้อย่างง่ายดายแต่ตอนนี้เขาวางแผนที่จะขายบ้านหนึ่งหมื่นหลังให้ได้...แนวคิดเรื่องสถานที่อันมีชื่อเสียงชื่อดังทางอินเทอร์เน็ตและการเรียกกระแสต่าง ๆ เหล่านั้นถือเป็นคอนเซปต์ในการขายของพวกเขาหากฮาร์วีย์คืนบ้านนับร้อยหลังมาจริง ๆ คอนเซปต์ที่ประโคมให้สถานที่แห่งนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยอันดับต้น ๆ ของภาคตะวันตกเฉียงใต้จะพังทลายลงทันทีเศรษฐีที่ถูกแรงกระตุ้นพวกนั้นพามาที่นี่คงจะหมดอารมณ์และเลือกที่จะรอหากเป็นเช่นนั้น แผนการของโจเซฟที่จะขายทรัพย์สินทุกรายการในเฟสถัดไปก็จะต้องวุ่นวายไม่ว่าเขาจะอยากได้เงินคืนโดยเร็วที่สุด หรืออยากจะอวดความร่ำรวยของตัวเองต่อไป...เขาก็ไม่มีทางยอมให้ฮาร์วีย์คืนบ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามโจเซฟเริ่มเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองแล้วหากเขารู้ว่าฮาร์วีย์รับมือได้ยากขนาดนี้ เขาคงไม่บีบบังคับให้ชาวอินเดียไปหาเรื่องฮาร์วีย์ตั้งแต่แรกน่าเสียดายที่ทุกอย่างกลายเป็นอดีตไปแล้ว ถึงจมอยู่กับความคิดนี้ไปก็ทำอะไรไม่ได้“คุณบอกเองไม่ใช่หรือว่าที่นี่เป็นเขตที่อยู่อาศัยใ
หลังจากได้ยินคำพูดของโจเซฟ ลูกค้าที่กำลังลังเลก็รู้สึกโล่งใจทันทีหากโจเซฟไม่ยอมให้อีกฝ่ายคืนบ้าน พวกเขาคงไม่พ้นต้องสงสัยโจเซฟเรื่องประเด็นการรักษาผลประโยชน์เหล่านี้แต่ขณะที่โจเซฟกำลังโต้เถียงกับฮาร์วีย์ เขาก็ตัดสินใจยอมถอยให้และยอมให้อีกฝ่ายคืนบ้านเหล่านั้นแถมยังยอมให้ฮาร์วีย์คืนบ้านได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ อีกสิ่งนี้นอกจากจะพิสูจน์ให้ว่าโจเซฟทั้งร่ำรวยและมีน้ำใจจริง ๆ แล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าเขามั่นใจเรื่องเขตที่อยู่อาศัยใหม่ของฟลัตเวลล์อีกต่างหาก ผลประโยชน์ของทุกคนจะได้รับการการันตีอย่างแน่นอน!หากใครซื้อแล้วไม่พอใจพวกเขาก็มีสิทธิ์คืนมันกลับไปได้อย่างแน่นอน!หลังจากที่เห็นโจเซฟเรียกความมั่นใจกลับมาได้อีกครั้ง ฮาร์วีย์ก็อดไม่ได้ที่จะประทับใจนายน้อยผู้ก้าวขึ้นสู่อำนาจได้ในเวลาเพียงหกปีเป็นแบบนี้เองสินะคนธรรมดาคงไม่อาจเลียนแบบความเจ้าแผนการและความเด็ดขาดของเขาได้“ในเมื่อคุณพูดจาใหญ่โตถึงขนาดนี้…“ผมก็ไม่คิดจะไปถึงศูนย์บริการหลังการขายหรอก“ทำไมคุณไม่โอนเงินสำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มาให้ผมแล้วเลย“หลังจากนี้เราจะได้ทางใครทางมัน“ผมไม่ได้มีเวลามากขนาดจะต้องรอให้คน
ทันใดนั้นเสียงแตรก็ดังกล้องไปทั่วสถานที่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนหลายพันคนก็ปรากฏตัวขึ้นบนถนนพวกเขาถูกจัดกลุ่มออกเป็นสี่ส่วน และแบกโลงศพสีแดงสดเอาไว้ บางคนมีทำท่าทางไว้ทุกข์ราวกับกำลังจะร้องไห้ให้กับครอบครัวของตนนอกจากนั้นยังมีพวงมาลาสีขาวเรียงต่อกันเป็นแถวด้านนอกพื้นที่ของเฟสแรกคนกลุ่มเดียวกันนั้นมุ่งไปในทิศทางเดียวกันเมื่อกอปรด้วยพวงมาลาโลงศพและเสียงแตรดังก้อง...นี่ดูคล้ายกับงานศพขนาดใหญ่!พื้นที่อยู่อาศัยอันยิ่งใหญ่แห่งนี้เริ่มมีบรรยากาศน่าขนลุกและน่ากลัวในทันทีผู้สูงอายุที่นำเงินสดมาแทบจะเป็นลมไปเมื่อได้เห็นบรรยากาศน่าสยดสยองนี้เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาหวาดกลัวโชคร้ายเป็นที่สุดเมื่อเห็นโลงศพมากมายและเสียงแตรอันน่าขนลุก...ถึงพวกเขาจะอยู่ในสำนักงานขาย…แต่คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าที่นี่เป็นสุสานขนาดใหญ่!“ผมจะเปลี่ยนบ้านทุกหลังให้กลายเป็นสุสานเสีย!“เพราะที่นี่เป็นที่ที่ยอดเยี่ยม…“คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ได้รับการฝังที่นี่แน่นอน!“ผมจะฝังแค่ศพของสหายผู้สูงศักดิ์ชาวอินเดียซึ่งมีวรรณะสูงส่งเท่านั้น!“สถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหลังความตายที่ดีที่สุดสำหรับผู้มั่
พวกที่มาจากพันธมิตรทางธุรกิจแห่งฟลัตเวลล์ต่างเดือดพล่านด้วยความโกรธ พวกเขาอยากจะบีบคอฮาร์วีย์ให้ตายเสียเดี๋ยวนี้!'ไอ้สารเลวนี่บ้าไปแล้ว!''เขากล้าดียังไงถึงถึงพูดอะไรแบบนี้ออกมา!''ไม่ว่าโจเซฟจะยอมให้บ้านคืนหรือไม่ก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรบ้านที่เหลือก็ขายไม่ออก!'เหล่าเศรษฐีและผู้มีอำนาจเป็นพวกช่างเลือกอย่างที่สุดหากฮาร์วีย์วางแผนที่จะเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสุสานจริงๆ แล้วคนดีๆที่ไหนจะมาซื้อบ้านที่เหลือพวกนี้หากมีข่าวลือแพร่สะพัดออกไป สถานที่แห่งนี้จะไม่ถูกจดจำเอาไว้ในฐานะย่านที่อยู่อาศัยระดับสูงต่อไปแล้ว แต่มันจะถูกแทนที่ให้กลายเป็นเพียงสุสานชั้นนำสำหรับเศรษฐีตั้งแต่นี้เป็นต้นไป'เราจบเห่แล้ว!'ความคิดนี้แล่นเข้ามาในจิตใจพวกเขาอย่างรวดเร็วฮาร์วีย์ยกยิ้มอบอุ่นขณะยื่นนามบัตรใส่มือของโจเซฟ“บริษัทจัดการสุสานแห่งฟลัตเวลล์ เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวานนี้“เก็บนามบัตรไว้ให้ดีนะ.. ด้วยนามบัตรนี้เพียงใบเดียวคุณไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสุสานได้ถึงหกเดือนเชียวล่ะ“ใช้ได้เลยทันที”“ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”โจเซฟฉีกนามบัตรในมือทิ้งและจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ สายตาอาฆาตปรากฏเด่นชัดในดวงตาที่โกรธเก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข