“นายกล้ามีเรื่องกับนายน้อยบาวเออร์จริง ๆ เหรอ? ไม่รักชีวิตตัวเองเลยเหรอ?!“อยากตายนักหรือไง?!“ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ! ถ้านายรักชีวิตตัวเอง นายก็ต่อแขนขาของฉัน และไปคุกเข่าขอความเมตตาซะ แบบนั้นฉันอาจจะสามารถช่วยอะไรนายได้บ้าง“ไม่อย่างนั้นตระกูลของนายจะตายกันหมดนะ!”ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังมือของเขาไปที่ใบหน้าของแคร์รี่โดยไม่คิดที่จะตอบเธอ เขานิ่งเฉยตลอดเวลา สีหน้าว่างเปล่าเช่นเคย“อ๊าาา!”แคร์รี่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเธอสั่นเทา ความเจ็บปวดอันน่าสะพรึงกลัวแพร่ไปทั่วร่างกายของเธอ ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างสาหัส…ไม่นานหลังจากนั้น ฮาร์วีย์และเอ็ดวินก็มาถึงที่หลงเหมิน บูโดกันพวกเขาลงจากรถด้วยความเร่งรีบ เอ็ดวินแบกแคร์รี่ขึ้นไหล่ข้างเดียวอย่างไร้อารมณ์ราวกับว่าเธอเป็นเพียงกระสอบข้าวสารณ ตอนนี้ทั้งบูโดกันเต็มไปด้วยเหล่าสาวกแห่งกองบังคับคดีของหลงเหมินเมื่อฮาร์วีย์และเอ็ดวินลงจากรถ พวกเขาก็เห็นเพียงสาวกองค์กรเดียวกันพวกเขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นฮาร์วีย์“นายกล้าทำร้ายเจ้าหน้าที่เคนเนดี้ได้ยังไงฮาร์วีย์?! อยากตายหรือไง?” ใครบางคนตะโกนใส่เขาทันทีฮาร์วีย์ไม่รอช้าเพี๊ยะ!
เหล่าสาวกที่บ้าคลั่งเหล่านั้นทำอะไรฮาร์วีย์ที่สงบและถ่อมตัวไม่ได้เลยเมื่อคนในคนหนึ่งเข้าโจมตีเขา ฮาร์วีย์ก็จะตบคนนั้นจนกระเด็นไปโดยแทบจะไม่กะพริบตาภายในเวลาไม่ถึงนาที เหล่าสาวกที่ว่าแข็งแกร่งที่สุดของกองบังคับคดีของหลงเหมินก็ถูกตบจนน่วมกันหมดไม่เพียงแต่ฮาร์วีย์จะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แต่แม้แต่เสื้อของเขาก็ยังไร้รอยยับแคร์รี่สิ้นหวังโดยสมบูรณ์ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงได้ดุร้ายและไม่กลัวใครเลยเขาเก่งจนไม่มีใครเทียบได้ เขาอยู่ยงคงกระพันเขาเป็นผู้สนับสนุนหลักของตัวเองเขาไม่ได้เพียงขู่คนอื่นปากเปล่าเมื่อเขาบอกว่าเขาจะฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา แต่เขาสามารถทำแบบนั้นได้จริง ๆ ตูม!ทันใดนั้นประตูของบูโดกันก็ถูกเตะออก เหล่าสาวกข้างในรีบวิ่งออกมาด้วยความดุเดือดและความต้องการอยากฉีกฮาร์วีย์เป็นชิ้น ๆ บางคนถึงกับชักปืนออกมาพร้อมยิง ถึงอย่างนั้นก็ยังไร้ประโยชน์เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นอย่างน่าสยดสยองเมื่อฮาร์วีย์เคลื่อนไหวผ่านทั้งกลุ่ม บางคนพยายามต่อต้านเขา แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกส่งตัวลอยจากการโจมตีที่โหดร้ายของฮาร์วีย์มีเพียงคำเดียวที่จะสามารถใช้อธิบายฮาร์วีย์ใ
สาวกหลายคนคุ้มกันทางเดินด้วยความตื่นตัวพวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นฮาร์วีย์ ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะมาปรากฏตัวแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทำอะไร ฮาร์วีย์ก็ได้เคลื่อนตัวและเหวี่ยงฝ่ามือของเขาอย่างสบาย ๆ แล้ว เสียงตบดังคมกริบก็ดังขึ้น เหล่าสาวกต่างปลิวลอยไปก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้นอย่างเจ็บปวดพวกเขาเป็นเพียงทางผ่านของฮาร์วีย์ไปสู่เคน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะทำอะไรฮาร์วีย์ไม่ได้ แต่ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะรอดจากการโจมตีของฮาร์วีย์หรือไม่ แคร์รี่ทั้งใจสลายและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันหนึ่งคือ เธอไม่คาดคิดว่าเหล่าสาวกของกองบังคับคดีของหลงเหมินจะไร้ประโยชน์เช่นนี้ สองคือ เธอไม่ได้คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเหี้ยมโหดเช่นนี้แคร์รี่รวบรวมความกล้าเฮือกสุดท้ายของเธอและตะโกนว่า “นายได้เสียใจแน่ฮาร์วีย์!“นายได้เสียใจแน่นอน!“นายจะต้องชดใช้ที่ทำกับสาวกของพวกเราแบบนี้!”ฮาร์วีย์เมินเสียงกรีดร้องอันบ้างคลั่งของแคร์รี่และเดินลึกเข้าไปในทางเดินทางก่อนที่จะเตะประตูหนึ่งปัง!ประตูนั้นหลุดจากกรอบของมันและกระเด็นไปตกกลางห้องโถงเสียงหัวเราะและเสียงแก้วไวน์ชนกันเงียบลงทันทีหญิงและชายที่ถือแก้วไวน์หลายคนต่างม
เคนคือลูกชายของหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมินเขายังเป็นสมาชิกตระกูลบาวเออร์ด้วยเหตุนี้เขาจึงมักหยิ่งผยองและหยิ่งยโสอยู่บ่อย ๆ แม้กระทั่งภายในหลงเหมินเขาจะทำตามใจตนเองตลอด ไม่ว่าจะอย่างไรผู้หญิงบริสุทธิ์ในฟลัตเวลล์หลายคนถูกเขาทำร้าย แต่เพราะพวกเธอกลัวอำนาจของกองบังคับคดีของหลงเหมิน พวกเธอจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากจะต้องกลืนความเจ็บปวดของตนอย่างเงียบ ๆเคนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียว นั่นก็คือ การจัดการกับฮาร์วีย์กองบังคับคดีของหลงเหมินรู้มาว่าฮาร์วีย์น่าจะเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของหลงเหมินที่นายใหญ่หลงเหมินได้ฝึกฝนเอาไว้ทว่า เรื่องนั้นมันกลับไม่เป็นผลดีต่อเคนดังนั้นพวกเขาจึงต้องการที่จะฆ่าฮาร์วีย์พูดง่าย ๆ ก็คือ ทันทีที่ซามูเอลตัดสินใจปั้นฮาร์วีย์…เขาก็ถูกลากเข้าไปพัวพันในข้อพิพาทระหว่างเหล่าระดับสูงในหลงเหมินแล้วน่าเสียดายที่ฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจตำแหน่งนั้นเลยด้วยซ้ำหากว่าพวกเขาไม่ได้ตามก่อกวนฮาร์วีย์ก่อน ฮาร์วีย์จะไม่สนใจเคนเลยด้วยซ้ำแต่ในเมื่อเคนตามหาเรื่องฮาร์วีย์เอง เขาก็ควรจะจบลงตรงนั้นและเดี๋ยวนั้นฮาร์วีย์กอดอกและพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันไม่สนหรอกว่านายมาที่นี่ทำไม“
“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ”ผู้คนต่างหัวเราะเมื่อเห็นรอยฝ่ามือบนใบหน้าของไอรีนและความเงียบของฮาร์วีย์ พวกเขาต่างก็เชื่อว่าฮาร์วีย์เพียงแค่อวดเก่งแต่จะวิ่งหนีทันทีหากเจอกับปัญหาจริง ๆ“โธ่ โธ่ โธ่! นายมาเพื่อช่วยเธอไม่ใช่เหรอ? “ไหนล่ะความสงสารของนาย?“มาสิ! มาช่วยเธอเลย!“หรือว่านายเก่งแต่ปาก? ทำอะไรไม่ถูกแล้วเหรอ?”เคนแกว่งแก้วแชมเปญของเขา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก“ปกติถ้ามีใครหาเรื่องฉันแบบนาย ฉันจะฆ่าพวกมันไปนานแล้ว“แต่ฉันชอบความกล้าของนาย เอาแบบนี้ไหม? ตอนที่ฉันเล่นกับนางนี่ ฉันจะให้นายช่วยออกแรงผลัก! ว่าไง?“ถ้านายทำมันได้ดี และทำให้ฉันอารมณ์ดีได้…“ฉันจะให้นายนอนกับผู้หญิงมือสองคนนี้หลังจากฉัน! ถ้าฉันมีความสุข ฉันก็ควรจะแบ่งปันมัน ไม่ใช่เหรอ?”ผู้คนต่างหัวเราะกับคำพูดที่โจ้งแจ่งของเคนหญิงงามที่อยู่ที่นั่นต่างมองฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยามทุกคนต่างคิดว่าฮาร์วีย์โง่เขลา เขาจะอวดเก่งทำไมถ้าเขาไม่สามารถช่วยใครได้ด้วยซ้ำ?เขายั่วเคนอย่างไม่มียั้ง แต่เขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยผู้หญิงคนนั้นได้ เขายังไม่สามารถช่วยออกแรงผลักเมื่อเคนเล่นกับเธอด้วยซ้ำ!สำหรับผู้ชายคนนึง ความตายย
ผู้อาวุโสฟอสเตอร์ออกแรงทั้งหมดโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ในขณะที่เขาโจมตีเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีในฐานะทหารชั้นสูงเพื่อจุดประสงค์เดียว และนั่นคือการสังหารฮาร์วีย์ด้วยกระบวนท่าเดียวท้ายที่สุดเขาก็แค่จะใช้ฮาร์วีย์เป็นตัวอย่างเท่านั้น เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าใครก็ตามที่กล้ายั่วยุกองบังคับคดีของหลงเหมินและคุกคามเคนพร้อมกับคนของเขา จะมีเพียงจุดจบเดียว นั่นก็คือความตาย!ตูม!พละกำลังอันมหาศาลรวมอยู่ในหมัดเดียว ราวกับว่าสายฟ้าได้ฟาดลงมาที่พื้น มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อผู้หญิงสองสามคนต่างมองผู้อาวุโสฟอสเตอร์ด้วยความหลงใหลมีเพียงผู้ชายที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ผู้หญิงจะชื่นชมเมื่อพวกเธอหันไปมองฮาร์วีย์ แววตาของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความปิติ พวกเธอคิดว่าเขาอาจจะตายหรือไม่ก็บาดเจ็บสาหัสหลังจากที่ต้องเผชิญกับผู้อาวุโสฟอสเตอร์“สกปรก!”“อ่อนแอ!”“ต่อหน้าผู้อาวุโสฟอสเตอร์ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับหมาหรอก!”เหล่าสาวงามดูถูกฮาร์วีย์อย่างโจ่งแจ้งฮาร์วีย์ยกมือซ้ายขึ้นและสะบัดนิ้วโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตาทุกคนตกใจเมื่อนิ้วของเขากุมกำปั้นของผู้อาวุโสฟอสเตอร์แคร๊ก!ไม่นานหลังจากนั้นเสียงแตกก็ดังขึ้นท่าสะบ
สีหน้าของเคนเปลี่ยนไปก่อนที่เขาจะตัดสินใจเหนี่ยวไกอีกครั้งปัง ปัง ปัง!ฮาร์วีย์หลบกระสุนได้อย่างว่องไว เขาเหวี่ยงมือขวาแล้วตบหน้าเคนอย่างแรงเพี๊ยะ!เคนรู้สึกเหมือนถูกเหล็กแหลมทิ่มแทงไปทั่วใบหน้า มันเป็นความเจ็บปวดที่ทรมาน วินาทีต่อมาเขาก็สลบไปชั่วครู่และนอนราบกับพื้นเพียงแค่กระบวนท่าเดียว เคนก็พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง“สารเลว!“แก… ไอ้สารเลว!”เคนคลานไปด้านหลังอย่างสิ้นหวังในขณะที่เลือดไหลซึมออกจากปากของเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็ยกปืนขึ้นเหมือนคนบ้าและเหนี่ยวไกอย่างต่อเนื่องปัง ปัง ปัง!เสียงปืนหลายนัดก่องในอากาศชั่วขณะหนึ่งก่อนที่ห้องจะเงียบสงบราวกับในโบสถ์ฮาร์วีย์ยืนอยู่ต่อหน้าเคนอย่างน่ากลัว ใบหน้าของเขาเย็นชาและไร้ความรู้สึกดวงตาของผู้คนเบิกกว้างด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ“นายน้อยบาวเออร์ ระวัง!” แคร์รี่กรีดร้องโดยสัญชาตญาณเพราะกลัวความปลอดภัยของเคนเคนขยับมือทันทีเมื่อเห็นฮาร์วีย์ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เผยให้เห็นปืนพกที่ซ่อนอยู่แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ยิง ฮาร์วีย์ก็ตอบโต้ด้วยการเหวี่ยงเท้าไปข้างหน้าและเตะมือของเคนปัง!เคนยิงพลาดและโดนตัวเองแทน กระสุนเจาะใบหน้
“ปล่อยนายน้อยบาวเออร์นะ!”“อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเลย!”สาวกหลายสิบคนของกองบังคับคดีของหลงเหมินก้าวออกมาข้างหน้า พวกเขารู้ว่าถ้าเคน บาวเออร์ตาย พวกเขาก็จะจบลงอย่างน่าสยดสยองเช่นกันยอดฝีมือสามคนที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องเคนต่างพยายามที่จะคลานกลับขึ้นมาแคร์รี่ เคนเนดี้ ซึ่งถูกทิ้งไว้ที่ทางเข้า หันกลับมาโดยสัญชาตญาณก่อนที่จะเห็นว่ายอดฝีมือทั้งหมดถูกเอ็ดวิน เมนโดซาจัดการไปหมดแล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ด้านนอก กลุ่มคนสวมเครื่องแบบจากสาขาของวังมังกรก้าวเข้ามาด้วยท่าทางเย็นชาโยอาน่า เมนโดซาก็มาด้วยภาพนั้นทำให้แคร์รี่สิ้นหวังอย่างสมบูรณ์ถ้าคนของวินซ์ ยอร์กมา พวกเขาอาจยังมีโอกาสแต่เนื่องจากคนจากสาขาของวังมังกรมาก่อน ความหวังทั้งหมดก็หายไปเคนถูกฮาร์วีย์ใช้เท้าตรึงคอเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว เหล่าสาวงามทนไม่ได้ที่จะเห็นปืนลูกโม่ชี้ไปทางหัวของเขาพวกเธอโกรธแค้น และไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น“นายมีสิทธิ์อะไรที่จะทำร้ายนายน้อยบาวเออร์?!”“เขาเป็นลูกชายของหัวหน้ากองบังคับคดีของหลงเหมินนะ!”“เขาเป็นสมาชิกหนึ่งในสิบตระกูลชั้นนำของประเทศ H! เขาเป็นสมาชิกข
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข