ไม่ว่าในกรณีใดมากิก็ยังคงเป็นยอดฝีมืออันดับต้น ๆ ที่ผ่านความยากเย็นและความทรหดมาพอสมควร และถึงกระนั้นทันทีที่เขาได้เห็นมาโกโตะ ลูกชายของเขาถูกฆ่าตายต่อหน้าเขา… ความอดทน ความสงบ และความนิ่งเฉยของมากิก็เหือดหายไปทันที มันถูกแทนที่ด้วยความโกรธที่เอ่อล้นออกมาเช่นเดียวกับมาโกโตะ ชายชราเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วีย์จะเพิกเฉยต่อเขาและฆ่าลูกชายของเขา หลังจากที่เขาเปิดเผยตัวตนออกมาแบบนี้ในขณะนั้นมากิรู้สึกได้ว่าเลือดของเขากำลังเดือด เขาหายใจไม่ออกในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง เขานึกอยากเพียงจะบีบคอฮาร์วีย์ให้ตายชาวประเทศหมู่เกาะที่เหลือคำรามเหมือนสัตว์ร้าย พวกเขาชักดาบยาวออกจากฝัก ดูคล้ายกำลังจะกระโจนใส่ฮาร์วีย์ในทุกวินาทีฮาร์วีย์ยังคงเมินเฉยอยู่ตลอด ในทางกลับกัน เอ็ดวินวางตำแหน่งตัวเองไว้ด้านหน้ามาตั้งแต่แรก และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แล้วแครอลอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เธอหนีออกจากโถงไว้ทุกข์ราวกับชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับการหนีอีกครั้งนี้ ไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้ามาในที่แบบนี้อีกเป็นหนที่สอง ชนชั้นสูงของบรีวู้ดก็ซีดเผือดเช่นกัน เพราะเขาไม่ควรจะรู้สึกกลัวแบบนี้ แต่สิ่งที่เก
มากิหัวเราะอย่างเย็นชา ดูเหมือนจะประหลาดใจกับความรู้อันกว้างขวางของฮาร์วีย์ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เลือกที่จะกระโจนเข้าหาคู่ต่อสู้ในขณะที่กวัดแกว่งดาบยาวด้วยมือข้างเดียวทันทีชาวประเทศหมู่เกาะที่เหลือพุ่งไปหาเอ็ดวินพร้อมกับกรีดร้องสุดเสียง เมื่อตาของเขาหรี่ลง เอ็ดวินก็ตอบโต้ด้วยการหยิบปืนที่แครอลทำหล่นเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วเหนี่ยวไกปืนใส่พวกเขาปัง ปัง ปัง!ชาวประเทศหมู่เกาะหลายคนล้มลงจมกองเลือด อย่างไรก็ตามยอดฝีมือคนอื่น ๆ ยังคงไม่เกรงกลัวในขณะที่พวกเขายังคงส่งเสียงร้องและตะโกนขณะที่รีบมุ่งไปยังทิศทางที่เอ็ดวิน แครอลซึ่งกำลังดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจากด้านนอกของโถงไว้ทุกข์ เธอพยายามวิ่งหนี แต่ขาของเธอกับไร้เรี่ยวแรง เธอทำได้เพียงกดหมายเลขโทรออกเพื่อขอความช่วยเหลือตามสัญชาตญาณในขณะนั้นฮาร์วีย์และมากิติดอยู่ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวชวิ้ง!มากิฟันดาบยาวของเขาลง ทำให้เกิดแสงสีเงินเป็นแนวยาวต่อหน้าฮาร์วีย์ เขาหันหลังฟันกลับไปในแนวนอนซึ่งสกัดกั้นการโจมตีอันทรงพลังของคู่ต่อสู้ได้สำเร็จเคร้ง!ดาบยาวทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือดและเกิดเสียงกระทบกัน มากิเซไปข้างหลังสามก้าวในขณะที่หอบหายใจอ
สำหรับคนอื่น ๆ ที่ชมอยู่ ในสนามรบนั้นเกิดสิ่งลี้ลับขึ้นคล้ายว่าที่ข้างหลังมากิมีภาพลวงตาฉายขึ้นมือของเขาจับดาบยาวข้างตัวเขาในขณะที่ทั้งคู่เรียงดาบฟาดฟันไปด้านหน้าอย่างทรงพลัง แก่นแท้ของวิชาดาบภายในการฟันนั้นสามารถทำลายผู้คนที่อ่อนแอจากภายในสู่ภายนอกได้แครอลซึ่งบังเอิญเห็นการฟันนั้นจากด้านนอกโถงไว้ทุกข์ ล้มพับลงไปกองกับพื้น เธอเกือบจะสลบไปเพราะความกลัว เคร้ง!ในขณะนั้นเอง ก็เกิดประกายไฟขึ้นในห้วงแห่งความมืดมิดดังกล่าว ประกายไฟนั้นเปลี่ยนเป็นแนวใบมีดเรืองแสงทันที มันสกัดกั้นท่าไม้ตายของมากิได้สำเร็จเคร้ง!แต่การกระทำนั้นส่งผลให้ฮาร์วีย์ถูกส่งให้ลอยถอยหลังไป เมื่อเขาลงสู่พื้น เขาก็รีบถอยหลังไปสามก้าวเพื่อสลัดแรงกระทบที่หนักหนาเกินไปจากการฟาดฟันของมากิ"น่าสนใจ นี่ไม่ใช่ขุมพลังของคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาอยู่ในระดับเทพสงครามเลยนี่”ฮาร์วีย์ดูอยากรู้อยากเห็นขึ้นอย่างมากแล้วในตอนนี้“ด้วยวิชาหยินหยางสามารถทำให้คุณก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เดาว่าเทพสงครามของกองทัพประเทศหมู่เกาะก็ยังเทียบกับคุณในตอนนี้ไม่ได้เลย ใช่ไหม? แต่ถึงอย่างนั้น พอมานึกดูว่าคุณซึ่งเป็นทหารชั้นสูงสามารถก้าวเข้ามาอยู่ในระ
“ตู้ม!”มากิกระแทกพื้นอย่างแรง ในตอนแรกเขาพยายามที่จะลุกขึ้น แต่มีพลังบางอย่างอาละวาดไปทั่วร่างของเขา ทำให้เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากทันใดนั้นทั้งร่างกายของเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิมราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมเว้นเสียแต่ว่าเขาดูแก่และซีดเซียวมากกว่าก่อนหน้านี้ การต่อสู้ครั้งนี้คงใช้ศักยภาพโดยรวมของเขามากเกินไปและทำให้ร่างกายของเขาอ่อนล้าเป็นอย่างมากใบหน้าของมากิดูหวาดกลัวและซีดเซียว แต่ถึงกระนั้น เขาไม่ได้ดิ้นรนหรือร้องขอความช่วยเหลือ แต่เขาค่อย ๆ คุกเข่าลงบนพื้นในขณะที่ยังคงถือดาบยาวไว้ในมือขวาเขาไม่ตาย แต่อยู่ห่างจากความตายเพียงคืบเดียวชีวิตของเขาตกอยู่ในมือของฮาร์วีย์แล้วในขณะนี้ หากฮาร์วีย์เต็มใจ อีกฝ่ายก็สามารถฆ่าเขาด้วยการตบเพียงครั้งเดียว"ไม่นะ!"กลุ่มปรมาจารย์จากประเทศหมู่เกาะตะโกนขึ้นหลังจากเห็นฉากนี้ ราวกับว่าพระเจ้าที่พวกเขาบูชากำลังจะถูกทำลายลงเมื่อเห็นฮาร์วีย์มีท่าทีไม่แยแส ชายหญิงจากประเทศหมู่เกาะเหล่านี้ก็ทำราวกับว่าพ่อแม่ของพวกเขาตายไปแล้ว “แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง” พวกเขาไม่สามารถถือดาบยาวไว้ในมือได้อีกจึงโยนมันลงไปกับพื้นแครอลตกอยู่ในภวังค์ขณะดูฉากนี้ เธอไม่อยา
รถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์หยุดที่ลานอย่างโออาร์ จากนั้น ก็มีคนเตะประตูรถให้เปิดออกชายหนุ่มและหญิงสาวกว่ายี่สิบคนเดินลงมาพร้อมกันพวกเขาทั้งหมดดูเย่อหยิ่งและเย็นชามีดาบห้อยอยู่รอบเอวผู้ซึ่งเป็นผู้นำคือสาวสวยผมยาวที่มีความสูงเกือบหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเธอมีใบหน้าที่สวยงาม มีออร่าเย็นชา ราวกับว่าโลกทั้งใบอยู่ใต้ฝ่าเท้าเธอเธอถือแท็บเล็ตในมือซ้าย ชำเลืองมองฮาร์วีย์ในขณะนี้ และเย้ยหยันขึ้น “หัวหน้าสาขายอร์ก นายออกจากมอร์ดูโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาฮ่องกงเพื่อก่ออาชญากรรม!“นี่เป็นครั้งแรกสำหรับฉัน แคร์รี่ เคนเนดี้ที่ได้เห็นหัวหน้าสาขาหลงเหมินที่หยิ่งยโสไร้อย่างอาย!“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว นายก็จะไปไหนไม่ได้!“ถ้าไม่อยากตาย วางอาวุธลงแล้วคุกเข่าซะ!“นายอาจได้รับการยกเว้นโทษประหาร แต่คงหนีจากการถูกลงโทษได้ยาก!”ฮาร์วีย์เหลือบมองคนเหล่านี้และพูดอย่างเฉยเมยว่า “เธอเป็นใคร?”“กองบังคับคดีของหลงเหมิน!”แคร์รี่พูดอย่างตรงไปตรงมา“หัวหน้าของเราได้รับรายงานมา รายงานด้านระบุว่านายเมินเฉยต่อความปลอดภัยของสาขาหลงเหมิน แถมยังยั่วยุแขกกิตติมศักดิ์จากประเทศหมู่เกาะอีกด้วย!“และตอนนี้ก็ยังม
แคร์รี่ชี้ไปยังฮาร์วีย์และพูดอย่างเย็นชาว่า “ในนามของกองบังคับคดีฉันจะบอกนายไว้เลย วางอาวุธลง คุกเข่าและร้องขอการให้อภัยจากคุณทาเคอิซะ แล้วก็รอผลการพิจารณาคดีจากกองบังคับคดี!“ถ้านายกล้าบุ่มบ่ามทำอะไร ก็อย่ามาโทษที่ฉันไม่ไว้หน้านายแล้วฆ่านายทิ้งเสียล่ะ!“เพราะไม่ว่ายังไง นายได้ฆ่าทั้งนาโอโตะ ทาเคอิและมาโกโตะ ทาเคอิไปแล้ว!“ตอนนี้หลักฐานแน่นหนามากและข้อเท็จจริงก็กระจ่างชัด เราสามารถฆ่านายได้โดยไม่มีความผิดอะไร!”แคร์รี่โบกมือของเธอในขณะที่พูด จากนั้นสมาชิกของกองบังคับคดีหลงเหมินก็หยิบคันธนูออกมาและเล็งไปที่ฮาร์วีย์ด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยามฮาร์วีย์หันกลับมาด้วยความสนใจอย่างมากและมองดูแคร์รี่อย่างระมัดระวังเขารู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่พอใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก และดูเหมือนเธอจะหมายหัวเขาเอาไว้หน่อย ๆ ด้วยแต่ฮาร์วีย์เมื่อนึกถึงคำว่า “กองบังคับคดี” เขาก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เขากลายเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ของผู้คนมากมายก่อนหน้านี้ในที่ประชุมของผู้นำสาขา ศิษย์รุ่นพี่ของกองบังคับคดีพ่ายแพ้ให้แก่เขา แถมทรัพย์สินเก่าแก่นั้
หลังจากได้ยินว่าแคร์รี่เข้าข้างเขาอย่างเห็นได้ชัด มากิก็ตะคอกออกไปว่า "คุณเคนเนดี้ ผมจะเป็นพยานให้คุณเอง ผู้ชายคนนี้ฆ่าลูก ๆ ของผม และทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เขาฆ่าคนพวกนี้ทั้งหมด!“เขาเป็นปีศาจกินคน!“คุณต้องนำเขาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!“ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ตาย มิตรภาพระหว่างประเทศ H อันเกรียงไกรและประเทศหมู่เกาะจะถูกทำลาย!”เห็นได้ชัดว่ามากิลืมเรื่องของจิตวิญญาณซามูไรอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศหมู่เกาะไปแล้วในตอนนี้หรือควรจะกล่าวว่าพวกเขาเป็นแค่พวกน่ารังเกียจ เพราะงั้น สิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณซามูไรจึงเป็นแค่เสือกระดาษเท่านั้นเป็นคำสอนให้คนอื่นเชื่อโดยแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อในตอนนี้แคร์รี่ยิ้มเล็กน้อยและพูดหลังจากฟังเสียงร่ำร้องอย่างจริงใจของมากิว่า “คุณทาเคอิไม่ต้องกังวล กองบังคับคดีหลงเหมินจะต้องมีคำอธิบายที่น่าพอใจและความยุติธรรมให้แก่คุณได้อย่างแน่นอน!“ถ้าเราจัดการคนของเราไม่ได้ แล้วหลงเหมินจะอยู่ต่อไปได้ยังไง!”สายตาเย็นชาของแคร์รี่สบเข้ากับฮาร์วีย์อีกครั้งขณะพูด!“หัวหน้าสาขายอร์ก นายตั้งใจจะฝ่าฝืนคำสั่งจริง ๆ เหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้ม ยักไหล่ แล้วพูดว่า
แคร์รี่และคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างที่สุดพวกเขาจินตนาการถึงตอนจบไว้มากมายตัวอย่างเช่นฮาร์วีย์ยอมมอบตัวหรือไม่ก็เป็นการที่ฮาร์วีย์ต่อต้านหัวชนฝาหรืออาจจะเป็นการที่ฮาร์วีย์ขอความช่วยเหลือจากผู้สนับสนุนที่มีอำนาจและคิดที่จะต่อต้าน กองบังคับคดีแต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยกองบังคับคดีของหลงเหมินก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตราบเท่าที่เธอสามารถช่วยชีวิตของมากิและพาพยานเหล่านี้ออกไปได้ถึงวันนี้เธอจะทำอะไรฮาร์วีย์ไม่ได้ แต่เธอก็ยังเหลือวิธีมากมายที่ใช้ในการฆ่าฮาร์วีย์ได้ในอนาคตกลับกลายเป็นว่าฮาร์วีย์ได้ฆ่าพยานเหล่านี้ไปจนหมดแล้ว!นี่ นี่ นี่!หากไม่มีพยานเหล่านี้ เธอจะพิสูจน์ความผิดของเขาได้อย่างไร?ถ้าไม่มีพยานเหล่านี้ เธอจะทำให้ฮาร์วีย์ติดคุกทั้งชีวิตได้อย่างไร?ถ้าไม่มีพยานเหล่านี้ เธอจะมีข้อกล่าวหาที่จะโค่นล้มฮาร์วีย์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำสาขาจำนวนสามสิบหกคนลงได้อย่างไร?เธอต้องใช้กำลังกับเขางั้นหรือ?แต่ถึงกระนั้นการเคลื่อนไหวของฮาร์วีย์เมื่อครู่ก็ทำให้เหล่าสมาชิกทั้งหมดของกองบังคับคดีของหลงเหมินตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิงขณะที่ลมพัดแรง ทุกคนรวมทั้งแคร์รี่ก็รู้สึกได
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข