ชายจากแก๊งนันยางหรี่ตามองฮาร์วีย์ด้วยความเย็นชาเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดในที่สุด“ดูเหมือนข้อมูลของเราจะถูกต้อง แกฆ่านายน้อยโมเรโนจริง ๆ ด้วย”แก๊งนันยางได้รับข่าวแล้วว่าแบรนดอนถูกกำจัดไปคนที่น่าสงสัยมากที่สุดน่าจะเป็นฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งในฮ่องกงและลาสเวกัสหัวหน้าแก๊งจึงตัดสินใจที่จะฆ่าฮาร์วีย์แทนที่จะปล่อยเขาไป แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ใช่ตัวปัญหาที่แท้จริงก็ตาม นักธนูคนนี้จึงถูกส่งมาลอบสังหารฮาร์วีย์และล้างความเสียหายของชื่อเสียงของแก๊งนันยางแม้ทั้งหมดนี้ นักธนูก็ไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะยอมรับการฆาตกรรมอย่างง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องซักถามอะไรใด ๆ“ประสิทธิภาพของแกเกินความคาดหมายของฉันเล็กน้อย“ไม่คิดว่าแกจะฉันเร็วขนาดนี้”ฟาเบียนคือคนที่ฆ่าแบรนดอน แต่ฮาร์วีย์ยังคงเป็นสาเหตุการตายของแบรนดอน ด้วยเหตุนี้ฮาร์วีย์จึงไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวได้“ดูเหมือนว่าแกจะมีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง“เอาแบบนี้ดีไหม? บอกชื่อเจ้านายของแกมา แล้วคุกเข่าต่อหน้าฉัน แล้วฉันจะปล่อยเรื่องนี้ไป“ฉันจะแสร้งทำเป็นว่าสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และเราทั้งคู่ก็แยกทางกันไป แกจะว่าไง?”ฮาร์วีย์ยิ
ดอมขู่อย่างเย็นชา “ฉันรู้ว่านันยางเป็นประเทศที่ค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ในสงครามครั้งก่อนเราก็ยังสามารถสู้กับประเทศ H ได้อย่างเกือบเท่าเทียม!“ประเทศไทยไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก!”“ก็จริง”ฮาร์วีย์พยักหน้ายิ้ม“พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉันจะบอกความลับให้“พวกแกชาวนันยางคิดว่าจะสามารถรุกรานประเทศของฉันได้ด้วยความช่วยเหลือจากชาวอเมริกัน ฉันกับคนของฉันเป็นคนที่จัดการกับพวกแกเอง“ฉันจำได้ว่าชายที่นำกลุ่มนันยางมีฉายาว่า เทพสงครามโมเรโน“ชื่อสวยนะ แต่เขาไม่ได้แข็งแกร่งเลย เขาตายหลังจากที่ถูกตบหน้าเพียงครั้งเดียว“ใช่แล้ว ชายคนนั้นก็ใช้มีดสั้นสองเล่มเหมือนกัน เขาเป็นใครเหรอ? พี่ชายของแกเหรอ?”“แกเป็นใคร…?”ใบหน้าของดอมเปลี่ยนสีอย่างสยดสยองเมื่อเขาได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้ แม้กระทั่งคนในนันยางก่อนหน้านี้ เทพสงครามโมเรโนเป็นเทพสงครามเพียงคนเดียวในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในนันยาง เขาบังเอิญเป็นรุ่นพี่ของดอมด้วยอย่างไรก็ตาม เขาเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้กับประเทศ Hว่ากันว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งจากนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็ได้กลายเป็นตำนานที่มีชีวิตในกองกำลังทหารของประเทศ
ฮาร์วีย์ยังคงไม่หยุดยั้ง ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึกขณะกระโดดหลบกระสุนได้อย่างทันท่วงที ความเชี่ยวชาญของเขาทำให้ดอมหวาดกลัวเป็นอย่างมากดอมถอยไปข้างหลังในขณะที่เหนี่ยวไกรัว ๆ โดยไม่คำนึงถึงทักษะและไม่แม้แต่เล็งด้วยซ้ำ ทันใดนั้น เสียงกระทบดังเข้าหูเขา ในที่สุดจึงตระหนักได้ว่าปืนขัดข้องอย่างสมบูรณ์แล้วใบหน้าของดอมซีดเผือดราวกับไม่มีเลือดหล่อเลี้ยง และตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาได้พลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าฮาร์วีย์ไปแล้วฮาร์วีย์ฉวยโอกาสนี้เหวี่ยงหมัดใส่หน้าดอมเมื่อหมัดของฮาร์วีย์พุ่งเข้ามาใกล้ ดอมก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันดุร้ายที่ถาโถมมายังเขาหมัดที่ดูคล้ายจะทำลายโลกได้ ได้หยุดยั้งไม่ให้นักฆ่าอันดับหนึ่งของหนานหยางหลบเลี่ยงเขาทำได้เพียงยกปืนขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อหยุดการโจมตีของฮาร์วีย์ปัง!ฮาร์วีย์ไม่ลดความเร็วในการออกหมัดของเขาลง หมัดจึงพุ่งเข้าหาปืนกระบอกนั้นในทันทีร่างกายของดอมสั่นสะท้านจากแรงกระแทก ซึ่งทำให้เขาเซถอยหลังไปในเวลาเดียวกัน ฮาร์วีย์เปลี่ยนจากการต่อยเป็นการตบและเหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าเพี๊ยะ!ดอมไม่ทันได้หลบการโจมตี และร่างของเขาก็ลอยถลาไปในทันที ทันทีที่ร่วง
แกร๊ง!ฮาร์วีย์ดีดนิ้ว เกิดเสียงดังตามมาและชายคนนั้นก็สั่นสะท้าน อาวุธในมือของเขาหลุดจากนิ้ว ลอยขึ้นไปในอากาศและทะลุเพดานไปชายผู้นั้นท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ในวินาทีต่อมา เขาเริ่มเหวี่ยงหมัดหนัก ๆไปทางฮาร์วีย์'หมัดหนานหยางเหนือ!'แม้ว่าท่วงท่าของเขาจะไม่ถึงอันตรายเท่าท่วงท่ามวยไทย แต่ก็ถือว่าน่าประทับใจทีเดียวน่าเสียดายที่ชายผู้นี้ต้องมาเผชิญหน้ากับฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ยังคงสงบเมื่อเผชิญกับการโจมตีของชายคนนั้น เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวก่อนจะคว้าแจกันที่อยู่ข้างทางเดินแล้วทุบไปที่ศีรษะของชายคนนั้นปัง! ชายคนนั้นโซเซไปด้านหลังด้วยย่างก้าวที่ไม่มั่นคง ศีรษะของเขามีเลือดชโลมไปทั่วในที่สุดเมื่อเขาฟื้นคืนสติ ฮาร์วีย์ก็ส่งให้เขากลิ้งไปกับพื้นด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวพรืดดด!ปากของเขามีเลือดกระฉูดออกมา ใบหน้าในตอนนี้ดูหม่นหมองเขาพยายามคลานกลับขึ้นมา แต่กลับไม่มีแรงพอที่จะทำเช่นนั้น“นอนพักเสียให้พอเถอะ อีกสักครึ่งชั่วโมงนายก็จะขยับได้เอง ไม่อย่างนั้นนายจะทำให้ตัวเองต้องพิการเอาเปล่า ๆ”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า กำลังจะเตะประตูไม้ตรงหน้าให้
ทางฝั่งเคธี่ เธอค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์ยังดูปกติและไม่ได้รับผลกระทบจากมนต์สะกดของเธอถึงอย่างนั้น รอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเธอก็ไม่เคยจางไป ปฏิกิริยาของฮาร์วีย์ไม่ได้กระทบเธอเลยแม้แต่น้อย และอารมณ์ของเธอยังคงมั่นคงดังเดิมทันใดนั้น เสียงฝีเท้าอันกึกก้องก็ดังขึ้นที่หน้าทางเข้าสมาชิกแก๊งหนานหยางหลายสิบคนบุกเข้ามาพร้อมอาวุธปืนในมือนอกจากนี้ยังมีหน้าไม้ที่ปลายลูกดอกเปล่งแสงสีฟ้าจาง ๆเคธี่เหล่ตามอง เพื่อสังเกตว่าฮาร์วีย์มีท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปบ้างหรือไม่ เมื่อเห็นว่าเขายังคงเหมือนเดิม เธอถอนหายใจและโบกมือจึงเป็นเชิงออกคำสั่งเหล่าชายฉกรรจ์ที่ปรากฏตัวมาเมื่อครู่ออกไปในทันทีหลังจากที่เธอทำอย่างนั้นเคธี่รู้สึกได้ว่าหากฮาร์วีย์ต้องการจบชีวิตของเธอจริง ๆ ก็ไม่มีใครในนั้นสามารถช่วยชีวิตเธอได้ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เธอควรจะเป็นฝ่ายยอมถอยก้าวหนึ่งและเจรจาต่อรองดังนั้นเธอจึงรินชาใส่ถ้วยและวางมันไว้ตรงหน้าฮาร์วีย์จากนั้นเธอก็จิบชาจากถ้วยของตัวเองก่อนที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น"คุยกันต่อเลยดีไหม?“ทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งเจอกัน ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าสามสิ่งที่คุณอยากบอกฉันคืออะไร?”“อย่างแรก แ
แม้ว่าจะมองเธอเพียงแค่แวบเดียว แต่ฮาร์วีย์ก็ถูกกระตุ้นให้รู้สึกอยากเอาชนะผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจซึ่งนั่งตรงข้ามมากจนน่าประหลาดโชคดีที่เขารีบสลัดตัวเองออกจากความปรารถนานั้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ได้แล้วความรู้สึกสนใจในตัวเคธี่ก็ตื่นขึ้นเนื่องจากเคธี่อ้างว่าเธอไม่ได้ใช้มนต์สะกดใด ๆ ในการล่อหลอกฮาร์วีย์ ดังนั้นนี่อาจเป็นเสน่ห์ที่เธอมีตามธรรมชาติหากเป็นเช่นนั้นจริง ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงต้องยอมสยบอยู่แทบเท้าเธอแต่โดยดีฮาร์วีย์ถอนหายใจก่อนจะหรี่ตามองเธอ“เรามาพูดถึงอย่างที่สามกันดีกว่า“ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร แต่แบรนดอนต้องตายเพราะเขาพยายามลอบสังหารฟาเบียน“แล้วคุณก็ส่งดอมมาตามล่าผม การลอบสังหารล้มเหลว แต่คุณก็ยังไม่หยุด“นำทุกอย่างมารวมเข้าด้วยกันแล้ว ถ้าหากผมจะกวาดล้างแก๊งหนานหยางให้สิ้นซากเพื่อเป็นการชดใช้ให้กับการพยายามลอบสังหารพวกนี้ คุณก็คงไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุไปหรอก ใช่ไหม?“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ… วันนี้ผมจะให้โอกาสคุณ”ฮาร์วีย์กลืนชาที่ยังร้อนลงคอไปทั้งถ้วยโดยไม่สนใจความร้อนของมัน“ผมจะปล่อยพวกคุณไปก็ได้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปห้ามแตะต้องคนของผมแม้แต่ป
ฮาร์วีย์หรี่ตาของเขามองไปยังเคธี่พลางครุ่นคิด จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา“คุณคงลืมไปแล้ว หัวหน้าคอบบ์ ตอนนี้สาขาของวังมังกรอยู่ในมือของผมแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงค่อนข้างมีข้อมูลอยู่ในมือ“แบรนดอนมาจากตระกูลโมเรโน แต่ภูมิหลังของคุณก็น่าประทับใจเช่นกัน“ตามข้อมูลที่สาขาของวังมังกรของเราได้รับ ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นหัวหน้าของแก๊งหนานหยาง แต่คุณยังเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลคอบบ์ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของหนานหยางด้วย“ด้วยทักษะและภูมิหลังของคุณ แบรนดอนเทียบไม่ได้เลย“ถ้าคุณยอมเป็นพันธมิตรกับผม…“ทุกอย่างจะอยู่ในกำมือของคุณแน่นอน“คุณจะบอกว่าผมมีศัตรูในฮ่องกงและลาสเวกัสมากเกินไป? ถึงได้คิดที่จะสู้กับผมให้ตายกันไปข้าง?” ฮาร์วีย์พูดอย่างต้องการที่จะฟังคำตอบจากปากเธอเพราะฮาร์วีย์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อเจรจาบอกกันตามตรงเขามาที่นี่เพื่อดูว่าแก๊งหนานหยางเลือกยืนข้างใครหากพวกเขายอมทำตามเขา ฮาร์วีย์ก็จะไม่เล่นงานพวกเขาแต่ถ้าพวกเขาตัดสินใจเดินตามเส้นทางเดิมฮาร์วีย์ก็ไม่ติดขัดที่จะล้างบางพวกเขา“โถ่ที่รัก คุณกำลังทำให้ฉันลำบากใจนะ คุณยอร์ก”เคธี่ถอนหายใจหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ก่อ
เคธี่รีบนำทางฮาร์วีย์ลงไปในส่วนลึกของกิลด์ฮอลล์ฮาร์วีย์ยักไหล่กับตัวเองและเดินตามเธอไปอย่างไม่อิดออดมีโอกาสที่เคธี่จะวางแผนฆ่าฮาร์วีย์อยู่ แต่เขาเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงมีหัวคิดผู้หญิงที่มีหัวคิดจะไม่จมอยู่กับความพยายามที่ไร้ค่าในไม่ช้า ทั้งสองก็เดินผ่านตรอกที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาไปยังลานเล็ก ๆ สไตล์หนานหยางเมื่อทั้งสองเข้าไปข้างใน ผู้หญิงผิวคล้ำคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากมุมลานบ้านและขวางทางฮาร์วีย์ไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอเย็นชาเธอดูอายุค่อนข้างน้อย ร่างกายซูบผอมมีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ เธอทำให้ฮาร์วีย์นึกถึงเสือชีต้าที่ว่องไวเพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ เธอก็สามารถต้านแรงกดดันมหาศาลได้เธอส่งเสียงร้องแปลก ๆ และทันใดนั้น แมลงก็ปรากฏตัวขึ้นและคลานเข้าหาฮาร์วีย์ฮาร์วีย์มองดูผู้หญิงคนนั้นเงียบ ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ เขาปล่อยกลิ่นอายของนักฆ่ารุนแรงแบบในสนามรบออกมาเล็กน้อย และให้มันครอบคลุมไปทั่วทั้งร้านในไม่กี่วินาที ผู้หญิงผิวคล้ำก็ตัวสั่นด้วยความกลัวและเซถอยหลังไปเธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์ ดวงตาที่เบิกกว้างของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุดในเวลาเดียวกัน ตาซ้ายของเธอก็มีเลือดไหลอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข