เมื่อฝูงชนหลั่งไหลเข้ามา ใบหน้าของควินนี่ ยอร์กและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะเตรียมการไว้ล่วงหน้าเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวหลังจากมองดูเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ก้าวออกมาจากรถ ขนาบข้างจากซ้ายและขวาในพริบตา พวกเขาพร้อมไปด้วยอาวุธปืนและมีดาบคาดเอวคนจากกองทัพแห่งเซาท์ไลท์?ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่ฮ่องกงได้?แม้ว่าทั้งฮ่องกงและลาสเวกัสจะเป็นเขตของกองทัพเซาท์ไลท์เช่นกัน...แต่โดยปกติแล้ว กองทหารของเซาท์ไลท์จะประจำการอยู่แค่บางพื้นที่ในบริเวณรอบนอกของสถานที่ทั้งสองแห่งนี้เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งที่เห็นภาพทหารหลายพันนายปรากฏตัวที่นี่และโจมตีเจ้าหน้าที่ของวังมังกรโดยตรงในฮ่องกงและลาสเวกัสควินนี่และคนอื่น ๆ ตกใจเมื่อเห็นประตูที่นั่งผู้โดยสารของรถออฟโรดชั้นนำถูกผลักเปิดออก จากนั้นพันโทค่ายศัสตราวุธประจำการเซาท์ไลท์อีธาน ฮันต์ ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบทหารก็กระโดดลงมาในขณะเดียวกัน อีธานก็ดูเฉยเมย มือขวาของเขากดด้ามดาบยาวที่เอวและเปล่งออร่าที่น่าเกรงขามออกมาใบหน้าของควินนี่เปลี่ยนไป จากนั้นเธอก็ตะโกนออกไปว่า “อีธาน นี่มันหมายค
ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าอีธาน ฮันต์อยู่ในฮ่องกงและลาสเวกัส ภายในเจ็ดวันนี้คำสั่งของเขาถือเป็นคำขาด!แม้ว่าผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องกงและลาสเวกัสจะอยู่ที่นี่ ก็ไม่มีประโยชน์!ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดไม่ออก เขาเพิ่งทักทายผู้อาวุโสแห่งกองทัพอย่างเกวิน บาวเออร์และบอกเขาว่าอยากยืมค่ายศัสตราวุธสักสองสามวันไม่คาดคิดเลยว่าทางกองทัพจะออกกฎอัยการศึกด้วยซ้ำ“อีธาน อย่าทำแบบนี้อีกต่อไปเลย!”ใบหน้าสวยของควินนี่ ยอร์กกลายเป็นเย็นชา“แม้ว่าจะอยู่ในกฎอัยการศึกแล้ว แต่วังมังกรก็ยังไม่ใช่สถานที่ที่คุณคิดจะบุกก็บุกเข้ามาได้!”“การแทรกแซงกิจการของวังมังกร แม้แต่ผู้บัญชาการของกองทัพเซาท์ไลท์อย่างเบลลามี่ เบลค ก็ยังก็ยังต้องเจอกับปัญหาใหญ่เมื่อคิดที่จะเข้ามาแทรกแซงเรา!”อีธานพูดอย่างเฉยเมย “นี่ไม่ใช่หมายค้นเหรอ? นี่ใช่ลายเซ็นของเขาหรือเปล่า?“ถ้าไม่มีลายเซ็นของเขา คิดว่าฉันจะเรียกทหารทั้งกองพันมาที่นี่ได้ไหม?“รองหัวหน้า ฉันเกรงว่าเธอจะลืมสิ่งหนึ่งไป ตั้งแต่วินาทีที่เธอเห็นหมายค้น สถานที่นี้กอยู่ภายใต้ข้อตกลงกฎอัยการศึกแล้ว“ในเวลาแบบนี้ฉันต่างหากที่เป็นผู้นำ “เธออาจไม่พอใจ โกรธ และแม้แต่ต่อว่าฉันก็ยังไ
“หัวหน้าของเธอ?”อีธาน ฮันต์ดูเฉยเมย“ถ้าหากว่าเขาได้เข้าร่วมในสงครามยูโร-อเมริกา และร่วมสมรภูมิเดียวกันกับเบลลามี่ เบลค เขาก็น่าจะรู้ว่าเจ้าชายฮาร์วีย์ ยอร์กคือใคร!“เธอควรโทรไปถามเขาว่าเขากล้ายุ่งกับเจ้าชายยอร์กหรือเปล่า?!“ฉันเกรงว่าเธอจะทำผิดพลาดและแผนทั้งหมดของเธอจะพังไม่เป็นท่า”มุมปากของควินนี่ ยอร์กกระตุก เห็นได้ชัดว่าเมื่อนึกถึงตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ เจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์ ผู้นำสาขาของหลงเหมิน อัตลักษณ์เหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่ใครก็ได้ถึงกระนั้นเธอก็ฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็วและเย้ยหยันออกมา “อีธาน ฉันรู้ว่าคุณต้องการจะสื่ออะไรอยู่หรอกนะ?!“แต่คุณลืมไปแล้วหรือว่าที่นี่ไม่ใช่มอร์ดู และไม่ใช่เซาท์ไลท์ด้วยซ้ำ?!“ที่นี่ฮ่องกง เจ้าชายยอร์กงั้นเหรอ? หัวหน้าสาขายอร์ก? แล้วไงล่ะ!“คนดื้อด้านอย่างคุณเท่านั้นแหละที่คิดจะต่อกรกับวังมังกรถูกไหมล่ะ?“สำหรับเรา ตัวตนทั้งสองนั้นไม่มีค่าอะไรเลย!"ฉันจะบอกคุณให้ ต่อให้วันนี้เบลลามี่จะเป็นคนนำทีมมา แต่เขาก็ไม่มีผลอะไรกับวังมังกร นับประสาอะไรกับคุณ!”“งั้นก็ลองดูสิ!” อีธานยกมือขวาขึ้นและแสดงท่าทางทหารจากค่ายศัสตราวุธข้างกาย
ตู้ม!ในขณะนี้ ราวกับว่าสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าสีคราม ทำให้ทุกคนในฝูงชนตกตะลึงนายท่าน?!นายท่านบาวเออร์ ซามูเอล บาวเออร์งั้นหรอ?!หลังจากยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว ฝูงชนก็รู้สึกเสียวสันหลังว่า แม้แต่อีธาน ฮันต์ เทพแห่งสงครามลำดับที่หนึ่งของกองทัพเซาท์ไลท์ก็ยังยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากซามูเอลราวกับว่าเขาสามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดายหากขัดขืนเพียงเล็กน้อยก็ตามแม้แต่อีธานก็ยังรู้สึกแบบนี้ นับประสาอะไรกับคนอื่น ๆในขณะนี้ ไม่มีใครกล้ามองที่ซามูเอล ราวกับว่าเขาสามารถฆ่าคนได้ด้วยตาอย่างไรอย่างนั้น“ฉันแก่แล้วแถมหูก็ไม่ค่อยดีด้วย ระหว่างที่ฉันมาที่นี่ ฉันได้ยินคนพูดว่าพวกเขาจะยิงฮาร์วีย์ ยอร์กให้ตายงั้นรึ?”ซามูเอลเหล่ไปที่ควินนี่ ยอร์กและคนอื่น ๆ ในขณะที่เขาพูดอย่างเฉยเมย"น่าสนใจดี มอบหมายให้คนสองสามคนใช้เส้นสายกับผู้บริหารระดับสูงของหลงเหมิน และพยายามหาเรื่องกับหัวหน้าสาขาของหลงเหมินหนึ่งในสามสิบหกคนของฉัน ในขณะที่ฉันกำลังทัวร์ภาคใต้“นี่เธอคิดจะดูหมิ่นฉันหรือไง?!”น้ำเสียงของซามูเอลสงบนิ่ง ราวกับว่าคนธรรมดาคนหนึ่งกำลังคุยกับเพื่อนบ้าน แต่ทุก ๆ คำพูดของเขาหนักอึ้งราวกับห
ควินนี่ ยอร์กหายใจหลายครั้งและสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุดการปรากฏตัวของอีธาน ฮันต์ในวันนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง แต่การมาถึงของซามูเอล บาวเออร์นั้นเรียกได้ว่าเหนือจินตนาการแม้ว่าสองคนนี้ดูคล้ายว่าเกือบจะมาถึงพร้อมกัน แต่สิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่และสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของฮาร์วีย์ ยอร์กอีกด้วย“ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระ พวกเธอทุกคนมาคุกเข่าและร้องขอความเมตตาต่อหน้าฮาร์วีย์สามครั้ง แล้ววันนี้ฉันจะจบเรื่องนี้ที่นี่”สีหน้าของซามูเอลเย็นชา เขาไม่ได้พูดคุยกับฮาร์วีย์และวางแผนที่จะยุติความยุ่งเหยิงนี้ในทันทีเปลือกตาของควินนี่และคนอื่น ๆ กระตุกเบา ๆ ประกอบไปด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวถ้าคืนนี้พวกเขาต้องยอมคุกเข่า พวกเขาจะจัดการกับฮาร์วีย์ได้อย่างไร? เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในฮ่องกงและลาสเวกัส?หากพวกเขาคุกเข่า พวกเขาจะต้องสร้างความอับอายขายหน้าให้กับวังมังกรแห่งฮ่องกงและลาสเวกัสอย่างแน่นอนจากนั้นฮาร์วีย์ก็ชำเลืองมองที่ซามูเอลด้วยความสนใจอย่างมาก ทำไมผู้อาวุโสคนนี้ถึงเห็นแก่เขาได้ถึงขนาดนี้?เขาอาจต้องการให้ฮาร์วีย์ตอบแทนในครั้งต่อไป“นายท่านบาวเออร์ ดิฉันค
กลุ่มคนจากวังมังกรโกรธมาก จะถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าในขณะนี้และเพียงแค่จ้องมองไปที่พื้นด้วยสายตาที่สั่นไหวด้วยความโกรธซามูเอล บาวเออร์หัวเราะเยาะด้วยสีหน้าเย้ยหยันสำหรับอีธาน ฮันต์ เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยความชื่นชมในตัวนายท่านบาวเออร์ในตำนานซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าอย่างแท้จริงเขากระทำได้โดยไม่คำนึงถึงกฎและสายสัมพันธ์ใด เขาทำในสิ่งที่เขามุ่งหมายที่จะทำเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พิเศษมาก"นายท่าน"จู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็พูดขึ้น“อันที่จริง ผมว่าคุณรักษาชื่อเสียงที่สั่งสมมานับศตวรรษของหลงเหมินจะดีกว่า“อย่าทำลายการตรากตรำตลอดหลายปีของคุณเพื่อผมเลย“คนจากวังมังกรยืนกรานไม่ใช่หรือว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ที่สนามบินนานาชาติลาสเวกัส“แถมพวกเขายังมาเรียกร้องคำอธิบายจากผมอีกด้วย“เพราะอย่างนั้น ผมจะให้คำชี้แจงที่ยุติธรรมแก่พวกเขา“พวกเขาก็แค่ต้องการฆ่าคนคนเดียว แต่ผมต้องการที่จะทำลายพวกเขาทุกคน!“คุณต้องการให้องค์กรทั้งสี่ ได้แก่กองกำลังการ์ดมังกร หน่วยมังกรลับ วังมังกรและหลงเหมิน ทำการสืบสวนร่วมกัน!“ผมต้องการคืนความยุติธรรมให้กับผู้บริสุทธิ์!“ถ้าผมถูกตัดสิ
วินซ์ ยอร์กถือร่มและเข้าไปในสวนด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เดินไปที่ด้านข้างของเล็กซี่ ยอร์กและพูดด้วยความเคารพว่า “คุณน้า สวัสดีตอนเย็นครับ คุณน้าเรียกให้ผมมาที่นี่อย่างกะทันหันแบบนี้ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?”เล็กซี่หรี่ตามองวินซ์ตรงหน้าเธอ เธอมองเขาอย่างระมัดระวังราวกับว่าเธอต้องการจะมองทะลุไปให้เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กจากนั้นไม่นานเธอก็เปิดปากของเธอเบา ๆ และพูดช้า ๆ “เธอเป็นคนจัดฉากเรียกให้ฮาร์วีย์มาที่ฮ่องกงและลาสเวกัสหรือเปล่า?”วินซ์ดูร้าวจะตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขายังคงยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าไม่”เพล้ง!แท็บเล็ตถูกเขวี้ยงใส่หน้าวินซ์ เล็กซี่ตอบอย่างเฉยเมยว่า “แม่ยายของฮาร์วีย์ถูกลักพาตัวไป ควินนี่แอบไปเล่นงานฮาร์วีย์ถึงสองครั้ง...“กลุ่มที่สี่ของตระกูลแฮมิลตันเข้าไปข้องแวะกับฮาร์วีย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า“เดนนิส ปาร์คเกอร์จับแฮร์ริสัน เยตส์จำคุก เพื่อใช้เรื่องนี้เป็นพยานว่าฮาร์วีย์เป็นผู้ก่อเหตุที่สนามบินนานาชาติลาสเวกัส“เธอยังกล้าอ้างว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธออีก?”วินซ์ดูประหลาดใจและพูดว่า “คุณน้า ผมเพิ่งเคยได้ยินเรื่องพวกนี้“คนพวกนี้เป็นผู้ใต้บังคับบังคับบัญชาของผมจริง
'เรากำลังมีปัญหาใหญ่!'ภายในสาขาของวังมังกรแห่งฮ่องกงและลาสเวกัส สีหน้าของควินนี่ ยอร์กเปลี่ยนไป และมีเพียงเสียงนี้ดังก้องอยู่ในใจของเธอด้วยซามูเอล บาวเออร์ที่สนับสนุนเขาและกฎอัยการศึกจากพันโทอีธาน ฮันต์ พวกเขาจึงสามารถปิดกั้นทางเข้าและออกทั้งหมดของวางมังกรสาขาฮ่องกงและลาสเวกัสได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กระทำการอย่างอุกอาดอื่นใดอีก แต่เพียงเท่านี้ก็พอที่จะป้องกันไม่ให้แม้แต่ยุงเข้ามาในสถานที่นี้ได้เนื่องจากสาขาดังกล่าวตั้งอยู่บนภูเขาไท่ผิง บุคคลสำคัญหลายคนที่อาศัยอยู่ที่นี่จึงได้ส่งคนมาดูลาดเลาของสถานการณ์ แต่แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องกงก็ยังถูกปฏิเสธสาขาทั้งหมดของวังมังกรในฮ่องกงและลาสเวกัสเป็นเหมือนพื้นที่หวงห้ามครึ่งวันต่อมา หลังจากฮาร์วีย์ ยอร์กและอีธานดื่มชาดี ๆ ด้วยกัน ในที่สุดผู้คนก็เริ่มมาถึงที่นี่ทีละคนคนเหล่านั้นล้วนเป็นบุคคลสำคัญในวังมังกร กองกำลังการ์ดมังกร หน่วยมังกรลับและหลงเหมิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผู้รับผิดชอบในครั้งนี้ แต่พวกเขาก็เป็นบุคคลสำคัญทั้งหมดการพิจารณาคดีร่วมที่เกี่ยวข้องกับองค์กรทั้งสี่ไม่ได้ถูกจัดขึ้นเป็นเวลาหลายปี ครั้งนี้ถูกจัดขึ้
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข