ฮาร์วีย์ยืนขึ้นตามสัญชาตญาณ เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าแขกส่วนใหญ่ในห้องวีไอพีหายไปแล้วมีกล่องของขวัญอยู่บนโต๊ะไม่ไกลจากเขา แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นดวงตาของฮาร์วีย์กระตุก เขารีบเตะกระจกเทมเปอร์ข้างที่นั่งแล้วร้องออกมา “หนี!”เฟรยากลัวจนหัวหด หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ เธอรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งหนีไปกับเขาตู้ม!เมื่อทั้งสองเกือบจะออกไปข้างนอกกล่องของขวัญก็ระเบิดและทำให้ทั้งห้องกลายเป็นเถ้าถ่านฮาร์วีย์และเฟรยาสามารถหลบหนีได้ทันเวลา แต่พวกเขาก็ยังถูกแรงระเบิดกระแทก มันเป็นภาพที่น่ากลัวแขกเหรื่อต่างกรีดร้องด้วยความตกใจท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นโชคดีที่ทุกคนในห้องวีไอพีร่ำรวยหรือไม่ก็มีอำนาจ ผู้ก่อเหตุไม่ต้องการคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากระเบิดจะทำงานก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเหลืออยู่ไม่กี่คนเท่านั้นหากไม่เป็นเช่นนั้น จำนวนผู้เสียชีวิตคงมากมายเหลือคณานับฮาร์วีย์ดึงโทรศัพท์ออกมาตามสัญชาตญาณ ใบหน้าของเขาดูไม่ดีนักขณะที่เขาทำเช่นนั้น รถฮัมเมอร์สองคันที่ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนก็ขับผ่านซากปรักหักพังที่เพิ่งเกิดขึ้นและมุ่งตรงไปที่ห้องวีไอพี!ชาวต่างชาติหลายคนกระโดดลงจากรถพร้อมอ
“ถ้าคุณช่วยฉัน ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง!“ฉันมีหลักฐานด้วย! ฉันมีบันทึกเสียงและแผ่นเช็คที่เขาให้ฉัน!“นี่ฉันพูดจริงนะ!”หญิงสาวกลัวมาก เธอยอมขายวิญญาณให้กับซาตานด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับคำสัญญาที่จับต้องไม่ได้ของแมทธิว ความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้านี้ต่างหากถึงจะเป็นเรื่องจริง"ดี จำสิ่งที่ตัวเองพูดเอาไว้ล่ะ ไว้ผมจะมาขอดูหลักฐานทีหลัง มากับผม"ฮาร์วีย์ลากเฟรยาและซ่อนตัวอยู่รอบ ๆ อาคารที่พังทลายซึ่งเต็มไปด้วยกระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งร้าง ก่อนมุ่งหน้าไปยังห้องวีไอพีห้องโถงอยู่ในความสับสนวุ่นวาย หากเกิดความขัดแย้งขึ้นที่นี่ ผู้บริสุทธิ์จะต้องตายตามไปด้วยในทางกลับกัน ห้องวีไอพีต้องว่างเปล่าตั้งแต่เพิ่งเกิดการระเบิดที่นั่นฮาร์วีย์และเฟรยาเข้าไปในห้องซึ่งมีควันโขมง นอกเหนือจากซากศพสองสามศพที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นแล้วที่นี่ก็ยุ่งเหยิงไม่น้อย มันเป็นภาพที่น่ากลัวสีหน้าของฮาร์วีย์เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีนะหลังจากเห็นสถานการณ์โดยรอบในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาหยิบมีดสองสามเล่มบนพื้นขึ้นมาแล้วพาเฟรยาไปห้องครัว ในนั้นปราศจากผู้คน แต่มีตู้เก็บของและประตูหน้าต่างค่อนข้างเยอะดวงตาของฮ
น่าเสียดายที่ฮาร์วีย์เร็วกว่าพวกเขามากเขาหลบและกระโจนใส่คนเหล่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสเล็งมาเขาเหวี่ยงมีดเล่มสุดท้ายไปรอบ ๆ และเคลื่อนไหวราวกับว่าเขากำลังเต้นรำ ทุกครั้งที่มีดส่องประกายออกมาจะมีใครบางคนล้มลงไปกับพื้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ชาวต่างชาติกรีดร้องด้วยความโกรธเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่อาจเหนี่ยวไกจัดการกับฮาร์วีย์ได้ แต่พวกเขายังยิงเพื่อนของพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วยณ เวลานี้ นักฆ่าเหลืออยู่เพียงสี่คน แต่ละคนมีสีหน้าที่ดูน่าสยดสยองพวกเขาตัดสินใจอย่างรวดเร็วและทิ้งอาวุธปืนหลังจากนั้น พวกเขากวัดแกว่งมีดสั้นและพุ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์ ตั้งใจจะฆ่าเขาให้ได้สักครั้งฟุ่บ!ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าแล้วเหวี่ยงมีด ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความมุ่งมั่นสีหน้าไม่เชื่อฉายชัดไปทั่วใบหน้าของชาวต่างชาติขณะที่พวกเขายกมือขึ้นกุมลำคอเอาไว้ วินาทีต่อมา ทุกคนก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นในเวลาเพียงครู่เดียว ศัตรูในห้องครัวก็ถูกกำจัดจนหมดฮาร์วีย์ไม่ได้ลดการป้องกันลงแต่อย่างใด เขาหยิบปืนขึ้นมาจากพื้นแล้วกลิ้งถอ
ฮาร์วีย์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นและล่าถอยกลับในทันทีตลอดเวลาที่ผ่านมา เขากระโดดโลดเต้นไปทั่วอาณาบริเวณและเคลื่อนไหวอย่างคาดเดาไม่ได้ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถหลบกระสุนทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเมื่อเกิดเสียงดังโครมครามดังขึ้นจากห้องโถง ทุกที่ทั้งบนกำแพงและบนพื้นดินก็เต็มไปด้วยรูพรุนชาวต่างชาติสองสามคนต้องการที่จะพุ่งตัวไปข้างหน้า แต่คนที่เริ่มขยับได้ก่อนทำให้สมองของเขาระเบิดด้วยฝีมือเพื่อนของตัวเองฮาร์วีย์จ้องมองภาพดังกล่าวอย่างเย็นชาและถอยกลับไปหนึ่งก้าว พยายามหลอกล่อศัตรูให้ยิงไปที่คานเหล็กตรงกลางห้องโถงทันใดนั้น กระสุนกระจายออกไปทั่ว!ฮาร์วีย์ไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ชาวต่างชาติทั้งหมดล้มลงกับพื้นฮาร์วีย์เก็บศพขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเกราะกำบังจากกระสุนทั้งหมดได้อย่างทันท่วงทีจากนั้นเขาก็วิ่งออกไปข้างนอกมือปืนอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก ในไม่ช้าเขาก็ได้เห็น มีใครบางคนอยู่บนโกดังข้างหน้าเขาปัง ปัง!กระสุนพุ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์อย่างต่อเนื่อง แต่กระสุนทั้งหมดหยุดหลงเนื่องจากศพที่เขาใช้เป็นเกราะกำบังฝากเอาไว้หลังจากมาถึงโกดัง ฮาร์วีย์ก็ทิ้งศพก่อนที่จะพุ่งตัวขึ้นไปชั้นบนสุดพลซุ่มยิงคนนี
ทันทีที่ฮาร์วีย์ออกจากโกดัง เฟรยาก็เดินโซซัดโซเซออกมาจากตู้เก็บของหลังเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวได้ผ่านพ้นไปตอนนี้เธอมีสติและสงบลงแล้ว ราวกับว่าเธอได้รับบุคลิกในฐานะแมงมุมแม่หม้ายดำพูดซึ่งสามารถเผชิญกับทุกสิ่งได้ด้วยความสง่างามและเย็นชาในอดีตกลับคืนมาเธอเดินออกจากห้องวีไอพีอย่างรวดเร็วและกดหมายเลขโทรออก ทุกอย่างเกิดขึ้นในขณะที่ทุกสิ่งรอบตัวกำลังสับสนวุ่นวาย“นี่ฉันเองนะคะ นายน้อยฟลินน์ ฉันอยู่ที่สนามบินนานาชาติลาสเวกัส อย่างที่คุณคาดการณ์เอาไว้เลย ฮาร์วีย์กำลังมีปัญหากับตระกูลเยตส์” เฟรยารายงานสถานการณ์อย่างเงียบ ๆ หลังจากที่อีกฝ่ายรับสาย“แผนของคุณได้ผล!“ฉันคิดว่าตอนนี้ฮาร์วีย์คงจะตายไปแล้ว”“เฟย์? ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าโทรหาฉันโดยตรงแบบนี้”เสียงทุ้ม ๆ ของแมทธิวดังก้องมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์“ใครอนุญาตให้เธอทำแบบนี้กัน!”เสียงของเฟรยาสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว“ฉันก็แค่ดีใจมากไปหน่อย นายน้อยฟลินน์ ฉันแค่อยากแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคุณก็เท่านั้น!“ต่อให้เขาจะไม่ตาย เขาก็ต้องอยู่ในคุกอีกสองสามปี“ท้ายที่สุดแล้ว ลาสเวกัสไม่ใช่ประเทศ H ฮาร์วี
สีหน้าพยาบาทปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแฮร์ริสัน เดนนิสเพื่อนเก่าของเขาซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาจุดซิการ์แล้วพูดว่า “แฮร์ริสัน ผมว่าคุณระวังตัวเกินไปแล้ว“ฮาร์วีย์หัวเดียวกระเทียมลีบ เขาเป็นคนนอก“ถ้าเขามีอิทธิพลในประเทศ H แล้วยังไงล่ะ? ถึงเขาจะมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแล้วจะยังไง?“ถ้าเราคิดจะเล่นงานเขาขึ้นมาจริง ๆ เรากระทืบเขาได้แน่!“ก่อนหน้านี้เราไม่ได้สู้กับเขาอย่างจริงจัง เพราะเราไม่อยากทำอย่างนั้นเฉย ๆ หรอก"แต่ตอนนี้…"เดนนิสโยนเอกสารลงบนโต๊ะด้วยรอยยิ้ม“ตั้งแต่ที่คุณถูกเรียกตัวไปสอบสวน ผมได้จ้างทหารอเมริกันที่เกษียณแล้วกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำมาเพื่อจัดการกับไอ้สารเลวนั่น“ไม่นานนักเร็ว ๆ นี้เราน่าจะได้ข่าวดีกัน”"อะไรนะ?!"สีหน้าสงบของแฮร์ริสันเปลี่ยนไปในขณะนั้น เขาตกใจและหน้าซีด“คุณส่งคนไปฆ่าฮาร์วีย์เหรอ?!”"ก็ใช่น่ะสิ ทหารอเมริกันที่เกษียณแล้วจำนวนห้าสิบนาย ฉันยังมีเส้นสายในการขนส่งวัตถุระเบิดและอาวุธปืนมาที่นี่ได้อีกด้วย“คุณไม่ต้องกังวล เราจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เบื้องหลัง“ครั้งนี้เราจะเล่นงานเขาได้แน่!"คุณนี่มันเลวจริง ๆ! ถ้าส่งคนไปไล่ล่าเขา
ในขณะเดียวกัน โตโยต้า พราโด้สองสามคันขับมุ่งตรงไปที่ทางเข้าสนามแข่งม้าของฮ่องกง จ็อกกี้ คลับรถเหล่านั้นเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ แต่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารที่ไม่อาจบรรยายได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังจะปิดกั้นเส้นทางการเดินรถ แต่พวกเขาก็ต้องยั้งตัวเองไว้ด้วยความไม่เต็มใจเมื่อเห็นคนหลายคนในชุดเครื่องแบบพิเศษก้าวลงมา เหล่าเศรษฐีที่ร่ำรวยและมีอำนาจจากฮ่องกงมีทีหน้าเปลี่ยนไปหลังจากได้เห็นคนเหล่านี้พวกเขารีบก้มหน้าทำเป็นมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในไม่ช้า ผู้มาใหม่เหล่านี้ก็ถีบประตูห้องวีไอพีที่เจ็ดลงหญิงสาวเลือดเย็นเป็นผู้นำกลุ่ม เจตนาสังหารที่ควบรวมทั้งจากเธอและผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอซึมซาบเข้าไปในห้องรับรองที่หรูหราในทันทีพวกเขาเล็งปืนไปที่แขกและเหล่าผู้คุ้มกันในห้อง“วังมังกรกำลังเข้ามาจัดการคดีนี้ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณอยากจะพูดอะไรก็ย่อมได้” ผู้นำหญิงกล่าวหลังจากเปิดเผยข้อมูลของเธอ“แต่ทุกสิ่งที่คุณพูดจะถูกนำไปใช้ในชั้นศาล”คำพูดของเธอสงบและรวบรัด แต่แฝงไว้ด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรงสีหน้าของแมทธิวแย่ลงทันทีหลังจากที่เฟรยาโทรมา เขาพยายามหาคนที่สามารถบอกเขาได้ว่าเกิดอ
“ผม..ผมจะไปกับคุณ!”แมทธิวเลิกดิ้นรนแล้วมองไปที่ผู้คุ้มกันที่บาดเจ็บของเขา“แต่พวกเขาทั้งหมดไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย ได้โปรดพาพวกเขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้พวกเขาได้รับการรักษาที่จำเป็นด้วยเถอะ"ไม่ต้องกังวล เราจะไม่รังแกคนบริสุทธิ์ และจะไม่ปล่อยให้คนเลวลอยนวลด้วย“ถ้าผู้คุ้มกันของคุณไม่ทำอะไรโง่ ๆ พวกเขาก็จะไม่ตาย”แมทธิวพยักหน้าก่อนจะมองผู้คุ้มกันของเขาอย่างมีความหมาย ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ เขาต้องการให้ผู้อาวุโสในตระกูลของเขาทำอะไรสักอย่าง…ขณะที่แฮร์ริสันและแมทธิวถูกนำตัวไปสอบสวนที่วังมังกร...ฮาร์วีย์เองก็อยู่ในห้องสอบสวนของสถานีตำรวจลาสเวกัสโยอาน่านั่งอยู่ข้างหน้าเขา หลังจากเสร็จสิ้นการสอบปากคำ พวกเขาคุยกันอย่างเป็นกันเองโยอาน่าเข้าใจในทุกสิ่งที่ฮาร์วีย์ประสบแล้ว เธอโยนโทรศัพท์ให้ฮาร์วีย์แล้วพูดว่า “อีกเรื่อง คนสำคัญที่คุณพูดถึง ที่ชื่อเฟรยาคนนั้นตายแล้ว“ระหว่างความโกลาหล เธอถูกยิงด้วยกระสุน กระสุนเจาะทะลุหัวใจของเธอ เธอไม่มีโอกาสรอดเลยแม้แต่นิดเดียว“กล้องวงจรปิดทุกตัวที่สนามบินเสียทั้งหมด เราไม่มีหลักฐานเลยว่าเธอเสียชีวิตเพราะกระสุนลูกหลงหรือเพราะมีใครเจตนายิงเธอ“
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข