“ไอ้สารเลวนี่มันจองหองจริง ๆ!”เดนเวอร์ชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์อย่างเดือดดาลด้วยความโกรธ“ต่อให้นายจะต่อสู้เป็นแล้วจะทำไม?!” เขาตะโกนลั่น“อย่างมากนายก็เป็นได้แค่นักสู้ที่ดี! แต่ยังไงนายก็จะไม่สามารถทำอะไรในที่อย่างฮ่องกงได้หรอก!“คอยดูนะ! ฉันจะเรียกนายของฉันมาที่นี่! แล้วฉันจะทำให้นายต้องเสียใจที่ได้เกิดมาเป็นคน!“ฉันจะทำให้นายต้องเสียใจกับทุกอย่าง!”เดนเวอร์สบถ สีหน้าของเขาคล้ำด้วยความโกรธ“โอ้ จะเรียกกำลังเสริมมางั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ โดยไม่สะทกสะท้าน“ดีเลย ฉันจะให้เวลานายสิบนาที“อยากโทรเรียกใครมาก็เอาเลย“หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”“ได้! ฉันทำแน่!”เดนเวอร์ตอบอย่างเหยียดหยามก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์ออกมาเพื่อกดโทรออก“นายน้อยฟลินน์ ชายคนหนึ่งจากประเทศ H พยายามกดขี่ผมในถิ่นของนาย!“คุณต้องมาช่วยผม!”หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ เดนเวอร์ก็จ้องฮาร์วีย์อย่างเย็นชา“ถ้านายกล้าจริงก็รอดู!“ฉันจะบอกให้ว่านายตายแน่! ตายแน่ ๆ!“นายไม่มีวันรู้หรอกว่าในฮ่องกงมีคนที่คนต่ำต้อยอย่างนายไม่ควรมีเรื่องด้วยมากแค่ไหน!”วรู้มมม!สิบนาทีต่อมารถฮัมเมอร์ก็จอดตรงหน้าบรีวู้ด บา
แมทธิวกอดอกและเดินเข้าหาฮาร์วีย์ เขากล่าวอย่างเย็นชา “หนุ่มน้อย“การที่นายสามารถเอาชนะฮิโรชิได้หมายความว่านายจะต้องต่อสู้ได้เก่งเลยทีเดียว“แต่น่าเสียดายที่ที่นี่คือฮ่องกงไม่ใช่ประเทศ H“ไหนบอกฉันสิว่านายมาจากตระกูลไหน หรือมีพลังอะไร“ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าอะไรทำให้นายกล้าอวดดีในที่อย่างฮ่องกงได้!“และฉันขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่านายไม่ได้ตายดีแน่ไม่ว่าใครจะหนุนหลังนายอยู่ก็ตาม!“มันน่าเสียดาย แต่มันไม่มีทางอื่น พวกเราชาวฮ่องกงชอบรักษาชื่อเสียงของตัวเอง เรารับไม่ได้หรอกที่ใครก็ไม่รู้จากประเทศ H จะมาอวดเก่งต่อหน้าพวกเรา!“ท้ายที่สุดเราก็ไม่สามารถยอมให้ตัวเองอับอายได้!”ฮาร์วีย์จิบไวน์อย่างใจเย็นและยิ้มราวกับไม่มีอะไรให้ต้องกลัว“ช่างกดขี่จังเลยนะนายน้อยฟลินน์! น่าเกรงขามจริง ๆ“แต่ถ้าคุณจะเข้าข้างเดนเวอร์โดยไม่สนด้วยซ้ำว่าใครถูกหรือผิด คุณไม่กลัวเหรอว่าคุณอาจจะเจอกับคนที่มีอำนาจมากกว่าคุณ?”แมทธิวคิดในใจว่าเสียงของฮาร์วีย์ฟังดูคุ้นเคย แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก ด้วยแสงไฟของบาร์ที่สลัว เขาจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของฮาร์วีย์ได้ชัดแม้ในขณะที่เขากำลังเดินเข้าใกล้ฮาร์วีย์แมทธิวกอดอกและเย
“โลกกลมจังเลยนะนายน้อยฟลินน์“คงจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้เราได้มาพบกันที่นี่ ดื่มอะไรก่อนสิ”ฮาร์วีย์วางขวดไวน์หลุยส์ที่ 13 ที่เกือบจะเต็มขวดลงแล้วยิ้มอย่างอบอุ่น“ถ้าคุณดื่มจนหมด ผมจะปล่อยคุณไป”ฮาร์วีย์ยกแก้วของเขาขึ้นและรินไวน์ลงพื้น ทำให้พื้นเปื้อนเป็นคราบเขาเหลือบมองแมทธิวขณะที่ยังคงยิ้มอยู่คนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นใครกล้าทำตัวจองหองต่อหน้าแมทธิว‘เขาหมายความว่าอย่างไรที่เขาจะปล่อยนายน้อยฟลินน์ไปถ้าเขาดื่มหมด?’หากการกระทำของแมทธิวถือว่าหยิ่งผยอง การกระทำของฮาร์วีย์ก็ถือว่าอหังการ!ซิสเตอร์สิบสามและคนอื่น ๆ จ้องฮาร์วีย์อย่างเย็นชา ไม่มีใครได้ยินว่าแมทธิวเรียกฮาร์วีย์ว่าอย่างไร พวกเขาจึงไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะพูดแบบนี้กับแมทธิวท้ายที่สุดเขาก็คือ แมทธิว ฟลินน์นะ!หนึ่งในสี่นายน้อยแห่งฮ่องกง และผู้สืบทอดตระกูลฟลินน์!แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดของฮ่องฮงก็ยังต้องเคารพเขาในลาสเวกัส ราชาแห่งการพนันยังต้องเลี้ยงข้าวแมทธิวเมื่อเขาไปเยี่ยม!ทว่า ฮาร์วีย์กลับปฏิบัติกับแมทธิวเหมือนขยะ!เขาไม่กลัวถูกลงโทษเลยเหรอ?เดนเวอร์หัวเราะอย่างโกรธเก
สีหน้าของเดนเวอร์ขมขื่นราวกับว่าเขากำลังทานมะระ เขาพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิงสีหน้าของซิสเตอร์สิบสามก็น่าสนใจเช่นกัน ปากของเธออ้ากว้างมาก กรามของเธอห้อยต่ำจนแทบจะหล่นลงพื้นฮิโรชิถึงกับลืมที่จะยืนขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“นายน้อยฟลินน์ถูกบังคับให้ดื่มเหรอ?”ตอนแรกขวดไวน์หลุยส์ที่ 13 เกือบจะเต็มขวดโดยยังมีไวน์เหลืออยู่ประมาณ 16 ออนซ์ แต่แมทธิวกลับกระดกทั้งขวดโดยไม่ลังเลที่ยิ่งกว่านั้นคือ ฮาร์วีย์ทำตัวจองหองกับสถานการณ์ทั้งหมด ทุกคนจึงรู้สึกขุ่นเคืองและไม่อาจยอมรับความจริงได้พวกเขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าทำไม แต่พวกเขาก็พอจะเข้าใจได้ว่าแมทธิวกลัวชายที่อยู่ตรงหน้าเขา และว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่ใครที่ควรจะมีเรื่องด้วยหึ!ไม่นานหลังจากนั้นแมทธิวก็เกือบจะถึงกับอาเจียนหลังจากที่กระดกจนหมดขวดปกติเขาจะเป็นคนคอแข็ง แต่การดื่มมากขนาดนั้นในรวดเดียวทำให้เขามึนหัวนิดหน่อยแต่เนื่องจากเขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถ เขาจึงสามารถควบคุมตัวเองได้หลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ“อย่างที่คาดไว้จากหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งฮ่องกงเลย! คุณนี่คอแข็งจริง ๆ” ฮาร์วีย์ชมด้วยรอยยิ้มตาของแ
เพี๊ยะ!ก่อนที่เดนเวอร์จะทันได้พูดต่อ ตาของแมทธิวก็กระตุกอย่างรุนแรงแล้วเขาก็ยกมือ วินาทีต่อมาเขาก็เหวี่ยงมือไปบนใบหน้าของเดนเวอร์และส่งเดนเวอร์กลิ้งไปกับพื้นทันใดนั้นเขาก็ตามไปยกเดนเวอร์ขึ้นจากพื้นและตบเดนเวอร์อีกหลายครั้งเพี๊ยะ!“นายตาบอดหรือไงเดนเวอร์?! นายไม่รู้จักเจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์เหรอ?!”เพี๊ยะ!“นายรู้จักแต่การกลั่นแกล้งคนอื่นและสร้างปัญหาเท่านั้นเหรอ?! คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือไง?!”เพี๊ยะ!“ถ้านายยังจะทำให้เจ้าชายยอร์กขุ่นเคืองต่อ ต่อให้เขาจะปล่อยนายไป แต่ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่!”การตบของแมทธิวนั้นไร้ความปรานีอย่างยิ่ง ใบหน้าของเดนเวอร์บวมไปหมดและฟันบางซี่ก็หลุดออกมาหลังจากที่ต้องทนรับแรงตบแต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนใบหน้าของเดนเวอร์นั้นกลับด้านชาเมื่อเขาได้ยินคำกล่าวอ้างของแมทธิว ในขณะนั้นเขากลัวความตายอย่างยิ่ง“เจ้าชายยอร์กแห่งเซาท์ไลท์เหรอ?!”ฮ่องกง ลาสเวกัส และเซาท์ไลท์อยู่ห่างกันเพียงมหาสมุทรเดียว ข่าวจากทั้งสามแห่งจะถูกแบ่งปันเสมอเมื่อแมทธิวและควินตันประสบความสูญเสียครั้งใหญ่และถูกไล่ออกจากเซาท์ไลท์ เดนเวอร์ก็ได้รับรู้เรื่องนี้โดยทันทีถ้าอย่าง
ตาของแมทธิวกระตุกอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์คำพูดเหล่านั้นเรียบง่ายแต่ตรงกับความคิดของแมทธิวโดยสมบูรณ์เดนเวอร์ซึ่งกำลังคร่ำครวญอยู่บนพื้นคงจะไม่คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ราชาแห่งการพนันในตำนานจะต้องคิดทบทวนอย่างแน่นอนหากเขาได้รับข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาจะต้องคิดว่าแมทธิวกำลังพยายามให้ตระกูลแฮมิลตันจัดการเรื่องสกปรกของเขา!หากเป็นเช่นนั้น…แววตาของแมทธิวสั่นคลอนด้วยความตื่นตระหนก ตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าเขากำลังสู้กับคนที่อยู่เหนือกว่าเขามาก“นายควรจะรู้ว่าอะไรดีไม่ดีสำหรับคุณนะนายน้อยฟลินน์“ฉันคิดว่าราชาแห่งการพนันคงจะไปคุยกับนายเป็นการส่วนตัวในไม่ช้า”แมทธิวเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว เขากลัวจนไม่กล้าพูดอะไร เขาทำได้เพียงจ้องพื้นอย่างว่างเปล่าเพราะหวาดกลัวเกินกว่าจะคิดเรื่องอื่นเขาได้รับความอัปยศอดสูอย่างเต็มที่และทั่วถึง เขารู้มาโดยตลอดว่าปัญหาจะกลับมากัดกินเขาในไม่ช้าก็เร็ว“เอาล่ะ พาคนพวกนี้ออกไปซะ นอกจากซิสเตอร์สิบสาม เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ฮาร์วีย์ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาโดยไม่มีท่าทีว่าจะกลับในเร็ว ๆ นี้ตาของแมทธิวกระตุกอีกครั้ง เขาไม่กล้า
“ทุกอย่างดูเหมือนจะดีหลังจากที่ฉันไปลาสเวกัสและฮ่องกง แต่ตอนนี้เราได้ข้อมูลสำคัญมาชิ้นหนึ่ง…“คนเหล่านี้จะเล่นงานคนใกล้ชิดของฉันเพียงเพื่อฆ่าฉัน“ตอนนี้แมนดี้คือเป้าหมายที่ดีที่สุดของพวกเขา“ฉันจะต้องทำให้พวกเขาเข้าใจผิด พวกเขาจะต้องคิดว่าฉันกลัว“พวกเขาจะเริ่มคิดว่าฉันถูกบังคับให้หย่ากับแมนดี้ แล้วพวกเขาจะคิดว่าพวกเราห่างกันหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในลาสเวกัสและฮ่องกง ฉันมั่นใจว่าทุกคนที่หมายปองฉันจะต้องยินดีที่ได้ยินแบบนั้น ถูกไหม?“เพียงหลังจากนั้นเท่านั้นที่คนที่อยู่เบื้องหลังในลาสเวกัสและฮ่องกงถึงจะเริ่มปรากฏตัวให้เห็น…”ไทสันผงะ“เข้าใจแล้วครับ แต่ที่มอร์ดู…” ไทสันเริ่มพูดขึ้นเบา ๆ“โทรหาอีธานแล้วบอกเขาว่าฉันสั่งให้เขารับผิดชอบความปลอดภัยของตระกูลซิมเมอร์“เขาเป็นเทพสงคราม เขาควรจะจัดการกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นได้” ฮาร์วีย์อธิบาย“อีกอย่าง หาบัตรเข้าเยี่ยมให้ฉันด้วย“พรุ่งนี้ฉันจะไปพบพอล เมนโดซา ผู้บัญชาการสูงสุดของลาสเวกัส”…ณ เวลาเที่ยงคืน ภายในโกดังแห่งโชคลาภสถานที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายปี แต่ได้เลิกกิจการไปเมื่อหลายสิบปีก่อนเนื่องจากที่ตั้งของสถานประ
ชายหน้าเหลี่ยมเคาะใบหน้าของลิเลียนเบา ๆ แล้วยิ้ม“น่าสนใจ พวกเราก็นึกว่าคุณเป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะพอมีสมองอยู่บ้าง อย่างน้อยคำพูดของคุณก็สามารถทำให้ผมประทับใจขึ้นมานิดหน่อย“แต่น่าเสียดายที่ทั้งคุณและผมไม่มีสิทธิ์ได้ตัดสินใจได้ว่าคุณจะตายหรือไม่...”ร่างกายของลิเลียนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว“ได้โปรดเถอะ! ปล่อยฉันไปเถอะนะ!“เอาแบบนี้ดีไหม? ฉันมีเงินเก็บอยู่ไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์ ฉันจะแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่ง!”ชายหน้าเหลี่ยมไม่ได้ตอบอะไร เขายืนขึ้นและหัวเราะเบา ๆ อย่างเย็นชา ก่อนที่จะหยิบโทรศัพธ์ของเขาขึ้นมาแล้วกดโทรออก“เจอลิเลียนแล้วครับท่านยอร์ก เธอยังมีชีวิตอยู่“ดูเหมือนว่าแก๊งค์บรีวู้ดจะขังเธอไว้เพื่อเรียกค่าไถ่“เอายังไงต่อดีครับ? คนของผมบอกว่าผู้ชายคนนั้นได้สอบปากคำซิสเตอร์สิบสามไปแล้ว เขาจะต้องมาที่นี่ในไม่ช้า“ทำไมเราไม่จัดฉากที่นี่และเซอร์ไพรส์เขาหน่อย?”“ฆ่าเธอเลย”เสียงที่เย็นชาดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่งของสาย“ฆ่าเธอเหรอ? แต่ท่านยอร์ก เธอยังมีค่า…”ชายหน้าเหลี่ยมตัวสั่น แน่นอนว่าลิเลียนได้เกลี้ยกล่อมเขาสำเร็จแล้วและเขาก็รู้สึกสนใจในข้อเสนอของเธอ“ฉั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข