“ฉันไม่ต้องการเงินของคุณ แต่ถ้าคุณยอมปล่อยแม่ฉัน ฉันจะยอมสละส่วนแบ่งห้าเปอร์เซ็นต์ของฉันให้คุณอย่างเต็มใจ” แมนดี้ ซิมเมอร์พูดอย่างฉะฉาน“ตราบเท่าที่แม่ของฉันยังครบสามสิบสอง ฉันจะ…”เพล้ง!พอลลี่ โบลตันที่เคยสุภาพและอ่อนโยนขว้างถ้วยชาลงกับพื้นด้วยความโกรธ"กล้าดียังไง?!“หัวหน้าซิมเมอร์ นี่เธอกำลังกล่าวหาว่าตระกูลแฮมิลตันลักพาตัวแม่ของเธอไปแลกกับหุ้นของเธองั้นเหรอ?!“ตระกูลของเราครอบครองธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไว้มากมาย! อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าเราจะไม่มีปัญญาเอาหุ้นคืนด้วยเงินของเราเอง?!“เราจำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยหรือไง!”สายตาของพอลลี่ดูถูกเหยียดหยามคู่กรณีเป็นอย่างมาก“ออกไปร้องแรกแหกกระเชอบอกใครต่อใครได้เลย! ไปบอกพวกเขาได้เลยว่าเราลักพาตัวแม่ของเธอไป! ดูซิว่าจะมีใครเชื่อเธอไหม!”“น่าขำอะไรแบบนี้! คิดว่าเราเป็นใคร!? พวกเราคือราชาแห่งลาสเวกัส! ทำไมเราต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย!”“พวกคนจากประเทศ H นี่ไร้สาระ! ดูก็รู้แล้วว่าคนพวกนี้คิดจะเกาะเราเป็นปลิง! พวกเขาคิดจะใช้ส่วนแบ่งห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของมอร์ดู คาสิโน พาเลซเพื่อที่จะได้สูบเลือดสูบเนื้อเรามากขึ้น แต่กลับยังกล้าเชิดหน้าชูคอไม่ห
“เซ็นสักที…”แจ็กซ์ แฮมิลตันหยิบปากกาเซ็นชื่อของมงต์บลองค์บนโต๊ะขึ้นมาแล้วยื่นให้แมนดี้ ซิมเมอร์อย่างสุภาพ“เพราะคุณเซ็นชื่อแล้ว คุณก็ออกไปได้ เราจะไม่ติดใจเอาความในเรื่องนี้อีก”เสียงไซเรนดังก้องมาจากข้างนอก ผู้บัญชาการจากสถานีตำรวจลาสเวกัสมาถึงแล้ว“ยังไม่เซ็นเหรอ หัวหน้าซิมเมอร์?” เอลลี่ พาล์มเมอร์ถามอย่างเย็นชา“ถ้าคุณยังไม่เซ็นสัญญา ทันทีที่ผู้บัญชาการจากสถานีตำรวจเข้ามาที่นี่ฮาร์วีย์ ยอร์กจะถูกคุมขัง”แมนดี้ตัวสั่นก่อนที่เธอจะพร้อมที่จะเซ็นชื่อในเอกสารเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและตบปากกาเซ็นชื่อลงกับพื้น จากนั้นรวบรวมเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย“อย่าเซ็นนะ แมนดี้!“ดูจากท่าทางของตระกูลแฮมิลตันแล้ว ต่อให้เราจะยอมเซ็น พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเราไปง่าย ๆ แน่!“ที่พวกเขาเร่งเร้าเราแบบนี้ก็เพราะพวกเขาต้องการที่จะได้หุ้นของคุณกลับคืนไปต่างหาก!“ในเมื่อพวกเขาอยากจะเล่นเกม งั้นเราก็เล่นไปกับเขาด้วย “บางทีเราอาจสร้างคาสิโน พาเลซแห่งอื่นได้ด้วยหุ้นที่เรามีด้วยซ้ำ!”“ผมอยากจะเห็นตระกูลแฮมิลตันล่มจม!”‘เขาต้องการใช้หุ้นของใบอนุญาตคาสิโนของตระกูลแฮมิลตันเพื่
"พอสักที! เลิกอวดตัวเองได้แล้ว!“คนจากประเทศ H ชอบพูดจาใหญ่โตตลอดเลยนะ! คุณคงไม่หยุดจนกว่าจะเรียกร้องความสนใจจากทุกคนได้ใช่หรือเปล่า!”ผู้บัญชาการหญิงร่างเพรียวที่ทำท่าทางราวกับกำลังผดุงความยุติธรรมเดินตรงเข้ามาในขณะพินิจมองฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“ตระกูลแฮมิลตันโทรแจ้งเรา เพราะเขาแจ้งว่าคุณทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บสองสามคน!“กรุณามากับเราเดี๋ยวนี้!”ฮาร์วีย์เมินเฉยต่อผู้บัญชาการโดยสิ้นเชิงและจ้องมองไปที่พอลลี่ โบลตันด้วยสีหน้าเย็นชา“รอก่อนเถอะ นายหญิงลำดับที่สี่!“คุณลักพาตัวแม่ยายของผม...“แถมยังทำร้ายภรรยาผมอีก…“แล้วนี่พยายามจะจับผมเข้าคุก...“จดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่คนทำเอาไว้ให้ดี“ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่นานผมก็จะได้ประกันตัวออกมา แล้วถ้าผมออกมาได้เมื่อไหร่ ผมจะสนองคุณกลับไปเป็นร้อยเท่า!“ไม่ใช่แค่ผมจะลบชื่อของตระกูลคุณออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ผมจะทำให้ใบอนุญาตคาสิโนของคุณหลุดลอยไปอยู่ในมือของตระกูลอื่นอีกด้วย!”ฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะฆ่าพอลลี่ในทันทีเขาอยากที่จะทรมานคนพวกนี้อย่างช้าๆ และทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดจากการตกนรกทั้งเป็น“นายอยากให้ตระก
ฮาร์วีย์ ยอร์กได้แต่ยักไหล่“ผมมีหลักฐานนะ คุณต้องการดูภาพวิดีโอแบบเต็มหรือเปล่า” เขาพูดอย่างใจเย็น“วิดีโอแบบเต็ม?!”ผู้ตรวจการร่างเพรียวแสดงความรังเกียจ“คุณคิดว่าสถานีตำรวจลาสเวกัสมีแต่คนโง่หรือไง?! เราได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และมีคนจงใจทำลายระบบเฝ้าระวัง หากเป็นเช่นนั้นแล้วจะมีวีดีโอหลักฐานได้ยังไง?“เพราะงั้นหลักฐานที่คุณว่า ก็คงเป็นของปลอมล่ะสิ?”“เท่าที่ฉันรู้ มีนวัตกรรมชั้นสูงที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับวิดีโอจากกล้องวงจรปิดได้“นอกจากนี้ ฉันได้สอบถามพยานทั้งหมดในสถานที่ก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาทั้งหมดล้วนให้การว่าคุณเป็นคนทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ!“คุณจะรับสารภาพไหม?! ไม่อย่างนั้นก็อย่าโทษถ้าเราต้องลงไม้ลงมือ!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ"อะไรกัน? คุณคิดว่าคุณจะโยนทุกข้อกล่าวหามาให้ผมได้แค่เพราะคนมีสิ่งที่เรียกว่าพยานน่ะเหรอ?“คนได้ตรวจสอบต้นสายปลายเหตุบ้างหรือยัง?“คุณได้ซักค้านไปบ้างแล้วหรือยัง?“คุณมีหลักฐานอะไรจากสถานที่เกิดเหตุแล้วหรือยัง?“ถ้าคุณไม่มีอะไรพวกนั้น แล้วทำไมคุณถึงพยายามยัดเยียดข้อหามาให้ผมด้วยล่ะ? คุณคิดอะไรอยู่?!"สีหน้าของผู้ตรวจการร่างเพียวเย็นชารา
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มอย่างใจเย็น“ผมโทรหาเอ็ดวิน เมนโดซา”“นายน้อยเมนโดซ่า?!”ผู้ตรวจการร่างเพียวตัวแข็งทื่อ เนื่องจากลาสเวกัสไม่ใช่เมืองที่มีขนาดใหญ่โต โดยพื้นฐานแล้วทุกคนจึงรู้จักชื่อของตัวละครหลักที่นี่แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็แสดงท่าทีหยามเหยียดออกมา“นายน้อยเมนโดซาเป็นลูกชายของผู้บัญชาการสูงสุดของลาสเวกัส เขาขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดและความยุติธรรม!“ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานีตำรวจของเราด้วย! เขาไม่ใช่คนธรรมดา!“ทำไมคนอย่างเขาจะต้องออกมาปกป้องคนที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่แบบนี้ด้วย?!"นี่นายกำลังคิดอะไรอยู่?!“ถ้าคิดที่จะโม้ ก็ช่วยโม้อะไรที่มันสมจริงกว่านี้หน่อยสิ!“หรือคิดว่าแค่เอ่ยชื่อของนายน้อยเมนโดซ่าออกมาเฉย ๆ แล้วจะทำให้เราตกใจกลัวได้?”สารวัตรหัวโล้นถอนหายใจขณะส่ายหน้า ในสายตาของผู้บัญชาการอย่างพวกเขา การที่ผู้ชายไม่เอาถ่านอย่างเขาพยายามทำตัวลึกลับเช่นนี้ถือเป็นเรื่องน่าอายอย่างที่สุดฮาร์วีย์ไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขายิ้มและตอบเพียงว่า “งั้นก็รออีกเดียวแล้วกัน คนจะได้กลืนโทรศัพท์สมใจแน่”"ก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องสารภาพเช่นกั
เอ็ดวินทำหน้าตาน่าเกลียดใส่ฮาร์วีย์และพึมพำว่า “ซีอีโอยอร์ก เวลาแบบนี้คุณยังมีกะจิตกะใจจะกินอะไรลงอีกเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มและตอบอย่างเฉยเมย “ถ้าฉันบอกว่าฉันตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเอง นายจะเชื่อฉันไหม?”เอ็ดวินผงะเล็กน้อย “คุณตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเอง?”ฮาร์วีย์พยักหน้า "ใช่"“นายไม่รู้สึกเหรอว่านับตั้งแต่ฉันมาจากมอร์ดูถึงลาสเวกัส ในช่วงสองสามวันนี้มีแต่ปัญหา?”“แม่ยายของฉันถูกลักพาตัว ฉันถูกลอบสังหารตั้งหลายหน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีบางคนจับตามองหุ้นของ สกาย คาสิโน พาเลซ ของภรรยาฉันอีกต่างหาก…”“ทุกอย่างมันบังเอิญเกินไป”“แล้วพอเอาเรื่องบังเอิญพวกนี้มารวมกัน ฉันก็เริ่มเชื่อแล้วว่าโลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอก”“มีใครบางคนกำลังวางแผนอย่างแยบคายต่างหาก”ขณะที่ฮาร์วีย์ทานอาหาร เขาก็แนะนำเอ็ดวินว่า “เอ็ดวิน นายเองก็มาจากค่ายศัสตราวุธด้วยนี่ บางทีเวลานายเจอปัญหา นายก็ควรจะคิดแก้ปัญหาให้รอบคอบ”“เช่น การปล่อยฉันออกไปตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรตรงไหน?”“หรือควรจะใช้โอกาสนี้สืบหาว่าใครอยู่เบื้องหลังทุกสิ่งแทนจะดีกว่า”เอ็ดวินเป็นคนฉลาด ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตระหนักรู้ขณะที่เขาฟังคำพูดของฮาร
สาวสวยอายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดเดินเข้ามา ล้อมรอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจลาสเวกัสกว่าสิบคนเธอมีร่างกายเข้ารูปราวกับนางแบบและมีส่วนสูงเกือบหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร สัดส่วนของเธอสมบูรณ์แบบเข้าคู่กันกับใบหน้าที่บอบบางและงดงามของเธอ เธอมีรัศมีของซีอีโอที่มีอำนาจสูงส่งแต่การแสดงออกบนใบหน้าที่น่ารักของเธอนั้นเย็นชาเกินไป เธอมีท่าทางที่มีกลิ่นอายของความหยิ่งผยอง ซึ่งทำให้ผู้ชายธรรมดา ๆ หวาดกลัวได้แม้จะไม่ได้เหลือบมองเธอหากมองอย่างใกล้ชิด เค้าโครงใบหน้าของเธอค่อนข้างคล้ายกับเอ็ดวินผู้คนรอบตัวเธอปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพอย่างสูงสุด พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังต่อหน้าเธอรูปลักษณ์ของเธอทำให้ทุกคนในห้องหายใจลำบากเจ้าหน้าที่ทั้งชายและหญิงรอบ ๆ นั้นเงียบเป็นเป่าสาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะกระตุ้นให้เกิดเรื่องใหญ่โตได้ขนาดนี้เอ็ดวินตกตะลึงชั่วครู่ เขาโพล่งออกมา “พี่ใหญ่?! ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่ได้?"ผู้มาเยือนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโยอาน่า เมนโดซา บุตรสาวคนโตของตระกูลเมนโดซา!“นายวิ่งพล่านไปทั่วขนาดนี้ฉันจะไม่มาได้ยังไง?”ใบหน้าขอ
“ใส่ร้ายคุณเหรอ?”สีหน้าที่เย็นชาของโยอาน่าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามอย่างไรก็ตาม เธอไม่สนใจที่จะถามถึงรายละเอียด เธอเพียงแต่ตะคอกอย่างเย็นชา “ยอร์ก ฉันว่าคุณคงไม่รู้ว่าที่ลาสเวกัสแตกต่างจากประเทศจีน สังคมที่นี่เคารพกฏหมายอย่างมาก!“เพียงแค่คุณเดินเข้าไปในสถานีตำรวจก็จะไม่มีใครกล้ายุ่งกับคุณแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครกล้าตั้งใจใส่ร้ายคุณแน่นอน!“คุณเรียกพี่ชายของฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องคุณไม่ใช่เหรอ?“เห็นได้ชัดว่าคุณต้องการให้เขาทำผิดกฎหมาย แต่คุณก็ยังกล้าอ้างว่ามีคนพยายามใส่ร้ายคุณ!“คุณคิดว่าฉันโง่เหรอ?“คุณยังเด็กมาก แต่คุณกลับไม่สามารถเคารพกฎของลาสเวกัสได้เมื่อคุณอยู่ที่นี่ แล้วคุณยังนำปัญหาจากประเทศจีนมาที่นี่อีกด้วย!“ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ! สิ่งเหล่านี้ใช้กับเราไม่ได้หรอก!”โยอาน่าชี้ไปที่ผู้ตรวจการหลายคนหลังจากที่พูดจบก่อนที่จะพูดต่ออย่างเย่อหยิ่ง “พวกคุณจะต้องดำเนินการคดีนี้อย่างยุติธรรม อย่าฝ่าฝืนกฎหมายเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว! เข้าใจไหม?“ฉันจะคอยติดตามทุกอย่างเอง!“เพราะฉะนั้นจึงทำแต่ในสิ่งที่ควรจะทำกับคดีนี้!“ใครก็ตามที่กล้าฝ่าฝืนกฎหมายเพียงเพื่อผลประโยชน์ส
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข