แม้แต่อีวอนน์ ซาเวียร์ก็ไม่สามารถเข้าออกสถานที่นี้ได้ตามอำเภอใจหลังจากที่มาถึงที่นี่เธอคุยโทรศัพท์ตั้งหลายครั้ง หลังจากที่ผ่านไปห้านาที เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็มายืนยันตัวตนของเธอ จากนั้นเขาจึงปล่อยให้ทั้งสองผ่านประตูไปด้วยความเคารพหลังจากที่เข้าไปในบ้านพักผู้ป่วยแล้วพวกเขาก็เห็นว่าสถานที่นี่ถูกเสริมความแข็งแกร่งจากภายในเช่นกันที่นั่นมีวิลล่าขนาดเล็กและขนาดกลางอยู่ทั่วสถานที่ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าผู้ป่วยแต่ละคนจะได้อยู่ในวิลล่าส่วนตัวอย่างอิสระและเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคลหลังจากที่ไปถึงวิลล่าขนาดใหญ่หลังหนึ่ง อีวอนน์ก็พาฮาร์วีย์ ยอร์กเข้าไปข้างใน ในวิลล่ามีเตียงผู้ป่วยอยู่ในห้องที่เรียบง่ายและสวยงามในขณะนี้มีชายและหญิงสองสามคนกำลังยืนอยู่ที่ขอบเตียงผู้ป่วยขณะที่กำลังคุยเรื่องบางอย่างระหว่างที่ล้อมรอบเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่มีดวงตากลมโตเด็กผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะอายุไม่เกินห้าขวบ เธอน่ารักและสวยงาม อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเธอซีดอย่างประหลาดเล็กน้อยท่ามกลางชายหญิงที่ล้อมรอบตัวเธอมีคนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของฮาร์วีย์ เขาเป็นชายชราที่มีผมหงอกแต่มีร่างกายที่กำยำและสูงใหญ่ เขาสูงเกื
เพย์ตัน ฮอแรนหัวเราะหลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กถ่อมตัวทุกวันนี้คนหนุ่มสาวต่างปรารถนาให้คนทั้งโลกรู้จักพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถเพียงเล็กน้อยก็ตามถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขาก็จะโพสต์ในกลุ่มเพราะอยากให้ทุกคนได้รับรู้หากเป็นคนอื่นที่เบนจามิน ลินช์และภรรยาของเขาเป็นหนี้บุญคุณ ทุกคนคงรู้เรื่องไปนานแล้วอย่างไรก็ตาม สำหรับฮาร์วีย์มันไม่ใช่อย่างนั้น เขากลับทำราวกับว่ามันเป็นเพียงความบังเอิญ ซึ่งทำให้เพย์ตันนับถือเขาอย่างมากในขณะเดียวกันเพย์ตันก็ข้ามขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ เขายิ้มและพูดว่า “อีวอนน์น่าจะบอกนายเกี่ยวกับทาเลีย ฮอแรน หลานสาวของฉันแล้ว“นายมั่นใจในเรื่องนี้หรือเปล่า?”ฮาร์วีย์ตอบด้วยเสียงเข้ม ๆ ว่า “ผู้อาวุโสฮอแรน ถ้าจะให้ผมบอกในตอนนี้ว่าผมมั่นใจ นั่นก็คงจะเป็นเรื่องโกหก“ผมต้องชี้แจงเรื่องหนึ่งก่อน ผมไม่ใช่หมอ ถ้านี่เป็นโรคบางอย่าง ผมจะขอให้ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาดูให้”เพย์ตันหัวเราะ “นี่ ไอ้หนู นายรู้จักผู้อาวุโสอาร์มสตรองจริงเหรอ? แต่เขาได้มาดูอาการหลานฉันไปแล้วนะสิ เขาเองก็บอกว่านี่ไม่ใช่โรคเจ็บป่วย แต่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไ
กริฟฟิน ยังพูดอย่างเย่อหยิ่งและเต็มไปด้วยการดูถูกฮาร์วีย์ ยอร์กและแม้แต่ออสการ์ อาร์มสตรองเขาทำราวกับว่าไม่มีใครในประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่สามารถรักษาอาการป่วยของทาเลีย ฮอแรนได้เพย์ตัน ฮอแรนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “คุณหมอยัง ฉันขอให้เขามาที่นี่เอง หากมีผลใด ๆ สืบเนื่องมาจากการกระทำของเขา ฉันจะแบกรับมันไว้เองและจะไม่โทษคุณ ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วง“ฝากด้วยนะน้องยอร์ก”สีหน้าของกริฟฟินแย่ลงทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเพย์ตันเขายืนตัวแข็งทื่อข้างหน้าฮาร์วีย์และพูดอย่างไม่พอใจว่า “แบกรับผลที่ตามมาเองอย่างนั้นเหรอ? คุณฮอแรน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ยังไงผมก็ยังต้องเป็นคนที่ต้องจัดการเรื่องนี้อยู่ดี!“ถ้าคุณจะปล่อยให้หมอผีคนนี้ลงมือจริง ๆ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ต่อไปผมคงจะช่วยอะไรคุณอีกไม่ได้แล้ว!”เห็นได้ชัดว่ากริฟฟินแน่วแน่กับคำพูดเขามาก ถ้าฮาร์วีย์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการรักษาทาเลีย เขาจะถอนตัวทันทีฮาร์วีย์ชำเลืองมองกริฟฟินด้วยความสนใจอย่างมาก แต่เขาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแต่เดินไปข้างหน้าแทนเขามีความมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองอย่างมาก ในเมื่
“รับผิดชอบเหรอ?“รับผิดชอบด้วยอะไร?”กริฟฟิน ยังหัวเราะเยาะ“พวกคุณจากประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่เพียงแต่คุณจะไม่รักษาอาการป่วยอย่างถูกต้อง คุณยังให้หมอผีช่วยคุณแก้ปัญหานี้อีกด้วย!“อย่าบอกนะว่าคุณจะแก้ปัญหาด้วยการร่ายมนตร์คาถา!“ตลก!”ฮาร์วีย์ ยอร์กมองกริฟฟินอย่างเย็นชา หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามเบา ๆ ว่า “ผู้อาวุโสฮอแรน ทาเลีย ฮอแรนอยู่ในสภาพนี้มานานแค่ไหนแล้วเหรอ?”เพย์ตัน ฮอแรนตกตะลึงเล็กน้อยและตอบว่า “น่าจะครึ่งปีได้”“แล้วก่อนที่เธอจะเป็นแบบนี้ เธอเคยไปที่ที่อัปมงคลบ้างไหม เช่น สุสาน หมู่บ้านร้าง หรือบ้านเก่า ๆ…” ฮาร์วีย์ถามอย่างเคร่งขรึมเพย์ตันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบว่า “เคยนะ ก่อนที่เธอจะป่วย ฉันพาเธอไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลฮอแรน”เพย์ตันอธิบายอย่างละเอียด “ตระกูลฮอแรนแห่งซานตงมั่งคั่งมานานหลายร้อยปี แต่ในช่วงสงครามในตอนนั้นเราได้ย้ายห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลฮอแรนแห่งซานตงไปยังเขตสัมปทานฝรั่งเศสของมอร์ดูเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับผลกระทบจากสงคราม“ต่อมาตระกูลฮอแรนก็ไม่เคยย้ายห้องโถงบรรพบุรุษอีก เราแค่ส่งคนใช้สองคนไปเฝ้าสถานที่นั้นตลอ
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองกริฟฟิน ยังอย่างเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “แพทย์ควรจะดูแลผู้ป่วยด้วยความรักและความเอาใจใส่ ตอนนี้อาการของทาเลีย ฮาแรนมีแต่จะแย่ลงทุกวัน“ต่อให้ผมจะเป็นหมอผีจริง ๆ แต่ตราบใดที่มันไม่ทำร้ายทาเลีย ทำไมถึงไม่ยอมให้ผมลองดูก่อนล่ะ?“หรือคุณคิดว่ามันจะแย่สำหรับคุณถ้าผมสามารถช่วยทาเลียได้จริง ๆ?!”สีหน้าของกริฟฟินเปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขากลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เขาจ้องไปที่เพย์ตันและพูดว่า “ผู้อาวุโสฮอแรน ผมเป็นแพทย์ประจำตัวของทาเลียมาโดยตลอด ดังนั้นผมจึงรู้สถานการณ์ปัจจุบันของทาเลียดีกว่าใคร ๆ“สิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้คือการพักผ่อน!“ผมจะไปที่ประเทศหมู่เกาะด้วยตัวเองและเชิญอาจารย์ของผมมารักษาเธอโดยเร็วที่สุด!“ถ้าจู่ ๆ คุณจะปล่อยให้คนอื่นรักษาเธอในตอนนี้มันมีแต่จะทำให้อาการของเธอแย่ลง!“ถ้าอาการเธอแย่ลง ต่อให้อาจารย์ของผมมา เขาก็อาจจะช่วยอะไรเธอไม่ได้!“ดังนั้นผมจึงมีคำแนะนำเพียงข้อเดียว ถ้าผู้อาวุโสฮอแรนยอมเชื่อผม ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อาการของทาเลียคงที่!“แต่หากคุณปล่อยให้คนอื่นทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ผมก็หวังว่าความพยายามที่ผ่านมาของผมจะไม่สูญเป
“หรือคุณกลัวว่าคนอื่นจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณ? คุณก็เลยทำตัวอวดรู้ แต่จริง ๆ แล้วคุณรู้สึกผิด!” อีวอนน์ ซาเวียร์กล่าวด้วยรอยยิ้มสีหน้าของเพย์ตัน ฮอแรนเย็นชาทันทีในฐานะคนจากหน่วยมังกรลับที่โดยธรรมชาติจะสนใจประเทศของตัวเองมากกว่า เขาจึงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกองกำลังต่างชาติบ่อยนักอย่างไรก็ตาม เขาพอจะรู้เรื่องของประเทศหมู่เกาะอยู่บ้างท่าทางของกริฟฟิน ยังในขณะนี้ราวกับว่าเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็ถูกจับได้ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างเฉยเมยโดยเอามือไพล่หลังว่า “ผมได้ยินมาว่าคนที่ฝึกวิชาหยินหยางจะสักรูปดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของหยินและหยาง ไว้บนหลังของพวกเขา นอกจากนี้มันยังเป็นสัญลักษณ์ให้เหล่าองเมียวจิแห่งประเทศหมู่เกาะระบุตัวตนของกันและกันด้วย“ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่รู้วิชาหยินและหยางจริง ๆ ทำไมคุณไม่ถอดเสื้อออกให้ผมดูหน่อยล่ะ?”“นี่มันมากเกินไปแล้ว! ไอ้บ้า! คุณกำลังดูถูกผม!”กริฟฟินชี้หน้าฮาร์วีย์และสบถ!จากนั้นเขาก็มองไปที่เพย์ตันด้วยความโกรธและพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้อาวุโสฮอแรน ผมเคารพตระกูลฮอแรนแห่งซานตง ผมจึงพยายามรักษาทาเลีย ฮอแรนอย่างสุดความสามารถ มั
ความเร็วของกริฟฟิน ยังถือว่าเร็ว แต่น่าเสียดายที่เพย์ตัน ฮอแรนเร็วกว่าเขาดีดนิ้ว ทันใดนั้นก็มีลมพัดมาทันทีและฉีกเศษกระดาษทั้งสองกลางอากาศพร้อมกันจากนั้นหมัดก็พุ่งออกไปพร้อม ๆ กับที่เขาก้าวไปข้างหน้าพรึ่บ!กริฟฟินที่เร่งความเร็วและพยายามจะหนีถูกหมัดของเพย์ตันชกลงกับพื้นทันที เลือดพุ่งออกทางปากของเขาในขณะที่ร่างของเขาร่วงลงกับพื้นจากนั้นเพย์ตันก็ตบเขาอีกครั้งโดยไม่แม้จะเปิดโอกาสให้กริฟฟินได้พูดอะไร ทำให้ฟันของเขาร่วงออกจากปากทั้งหมดในบรรดาฟันสีขาวที่อยู่บนพื้นมีฟันซี่หนึ่งที่ดำสนิท เห็นได้ชัดว่านั้นเป็นเขี้ยวพิษจริง ๆหากไม่มีเขี้ยวพิษนี้ กริฟฟินจะไม่สามารถฆ่าตัวตายได้อย่างไรก็ตาม นั่นยังคงไม่เพียงพอ จากนั้นเพย์ตันก็เตะแขนขาของเขาทันที!แคร้ก! ในไม่ช้าแขนขาของเขาก็หักไปหมด เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวและดิ้นได้แพทย์และพยาบาลหลายคนที่อยู่ที่นั่นตัวสั่นด้วยความกลัวแม้ว่าเพย์ตันจะดูแก่ไปหน่อย แต่หากเขาได้ลงมือมันก็ยังน่ากลัวเหนือจินตนาการทุกครั้งไม่มีใครคิดว่ากริฟฟินที่ทรงพลังจะจบลงเช่นนี้ภายในเวลาเพียงสองหรือสามวินาทีหลังจากนั้นเพย์ตันก็เตะออกไปอีกครั้งและมองไปบนหลังกริฟฟิ
อีวอนน์ ซาเวียร์ชำเลืองมองฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยท่าทางแปลก ๆ ฮาร์วีย์พูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นเรื่องปกติที่พวกชาวเกาะจะไม่ยอมแพ้“ท้ายที่สุดประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ก็มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่เกือบจะกวาดล้างพวกเขาได้“ถ้าหัวหน้าผู้ฝึกสอนฝึกฝนลูกศิษย์เพิ่มอีกสักสองสามคน จักรพรรดิแห่งประเทศหมู่เกาะคงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่!“ในกรณีนี้มันจึงสมเหตุสมผลที่เขาจะส่งคนมาที่ประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่เพียงเพื่อสร้างปัญหา”เพย์ตัน ฮอแรนถอนหายใจและพูดว่า “ตระกูลฮอแรนของเราเชื่อเสมอว่าเราไม่ควรติดต่อใกล้ชิดกับพวกชาวเกาะ น่าเสียดายที่ตระกูลฮอแรนไม่มีอำนาจตัดสินใจที่เด็ดขาดในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ“ยิ่งกว่านั้น กองกำลังบางกลุ่มและตระกูลบางรายก็ได้สูญเสียจุดยืนของพวกเขาเนื่องจากผลประโยชน์ไปนานแล้ว“บางคนยังปรุงแต่งเรื่องราวของสงครามนั้นโดยป้ายสีหัวหน้าผู้ฝึกสอนและบอกว่าเขาเป็นผู้บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของโลก“การติดต่อใกล้ชิดกับประเทศที่มีอำนาจเช่นประเทศหมู่เกาะและอเมริกาคือการร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน“ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขั้น หากวันหนึ่งเกิดมีความขัดแย้ง พันธมิตรเหล่านี้จะไม่เข้าข้างประเทศ H ท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข