ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เป็นที่รู้จักของผู้บังคับบัญชาลำดับที่สองของมอร์ดู”เซค สมิธตอบอย่างเย็นชา “ไม่ต้องมาทำเป็นยิ้ม!“ผมรู้เรื่องของนายกับอีวอนน์ ซาเวียร์แล้ว“แถมยังเป็นเพราะคุณด้วยที่หลานสาวของของผมสร้างปัญหาให้กับตระกูลสมิธและต่อต้านการนัดบอดกับเฮกเตอร์ ธอมป์สัน“ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมคงไม่ยุ่งเรื่องของคนหนุ่มสาวอย่างพวกนายและเรื่องของนายด้วย นายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ“แต่ตอนนี้สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิม นายตกเป็นผู้ต้องสงสัย ฉันหวังว่าต่อจากนี้ไปนายจะอยู่ให้ห่างจากอีวอนน์“เพื่อที่นายจะไม่ทำร้ายทั้งเธอแล้วก็ตัวนายเอง!”เซคดูเย็นชา เด็กบ้านนอกที่ดวงดีพอจะทำเงินได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในบัควู้ด...ไม่เพียงแต่เขาปฏิเสธที่จะให้คำอธิบายที่น่าพอใจหลังจากเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม แต่เขายังคิดที่จะใช้ทางลัดอีกด้วย?แน่นอนว่าเซครังเกียจคนแบบนี้อย่างสุดขั้วหัวใจฮาร์วีย์หรี่ตาและพูดอย่างเฉยเมยหลังจากพินิจพิเคราะห์เซคอย่างระมัดระวัง “คุณสมิธ ไม่ว่าคุณจะมองผมยังไง ผมก็ต้องชี้แจงสองเรื่องให้คุณรู้“เรื่องแรก ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม“เรื่องที่สอง
เซค สมิธก้าวออกไปในทันทีเนื่องจากเบนจามิน ลินช์ไปประชุมที่โวลซิ่ง เซคซึ่งเป็นผู้บัญชาการลำดับที่สองจึงมีหน้าที่รับผิดชอบงานทั้งหมดของรัฐบาลมอร์ดูอย่างเต็มที่คำพูดเพียงประโยคเดียวจากเขามีน้ำหนักมากกว่าคำพูดมากมายจากฝากของโอทิส ไคนอกเหนือจากสิ่งอื่นใด แค่ประโยคที่ว่า “บังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม” ก็ไม่มีใครกล้าหักหาญเรื่องนี้ในตอนแรก ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินการกับเรื่องทุกอย่างอย่างรวดเร็วเช่นนั้น เขาแค่ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่ามีใครบ้างที่กำลังชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้แต่ในเมื่อเซคออกหน้ามาขนาดนี้ เขาก็ยินดีที่จะใช้อิทธิพลของอีกฝ่ายเพื่อให้เรื่องนี้ยุติลงอย่างยุติธรรมและถูกต้องหลังจากที่เซคหน้าเคร่งขรึมและโอทิสผู้ซึ่งกำลังตะลึงก้าวออกไปจากห้อง คริสตัน ดันเคนและคนอื่น ๆ ก็ส่งอาหารเช้าเลิศรสเข้ามาในทันที พวกเขายังปลดกุญแจมือฮาร์วีย์ไปด้วย ทำให้เขามีอิสระขึ้นในระดับหนึ่งการสอบสวนหลังจากนั้นกลับกลายเป็นเรื่องสุภาพอย่างยิ่ง พวกเขาไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งและไม่มีการวางตัวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปทุกคนมีหัวคิด ความสัมพันธ์และอิทธิพลของฮาร์วีย์ประจักษ์แจ้งต่
ซากุระ มิยาโมโตะยิ้มและพูดว่า “เปล่านะคะ นี่เป็นฝีมือของเจ้าชายเทอร์รี่ สมิธ“ดูเหมือนเขาจะเผลอพูดเรื่องนี้ขึ้นระหว่างรับประทานอาหารเช้า“และหลังจากที่เซค สมิธได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เขาก็พาคนไปที่สาขาแรกของสถานีตำรวจมอร์ดูทันที“มีข่าวว่าโอทิส ไค คนสนิทของเบนจามิน ลินช์ออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว และเขาก็ไม่อาจจัดการกับเรื่องของฮาร์วีย์ ยอร์กได้อีกต่อไป“ทั้งเบนจามินและโยนา ลินช์ต่างอยู่ในโวลซิ่งด้วยกันทั้งคู่ และที่นั่นค่อนข้างยุ่งเหยิงไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถกลับมาได้อีกระยะหนึ่ง“ตอนนี้ ไม่ว่าฮาร์วีย์จะทรงพลังแค่ไหนและสถานะของเขาจะสูงส่งเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์เพราะเขาถูกขีดเส้นเอาไว้แล้วว่าจะไม่มีวันได้ออกมา”ซากุระดูเหมือนจะคาดหวังในตัวเทอร์รี่มาก เธอกระซิบ "การเคลื่อนไหวของเจ้าชายเทอร์รี่ สมิธย่อมเป็นการทรมานร่างกายและจิตวิญญาณของเขาได้อย่างแน่นอน!"จากนั้น เฮกเตอร์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ซากุระ ดูเหมือนว่าชาวประเทศหมู่เกาะอย่างเธอจะฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง“เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดหรือไง? หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้?“ฉันกำลังจะบอกว่าเธอทำพลาด เข้าใจไหม?”ซากุระผงะไปชั่ว
เฮกเตอร์ ทอมป์สันยิ้มอย่างอ่อนโยนและแสดงสีหน้าเฉยเมย แต่คำพูดของเขาทำให้อุณหภูมิรอบตัวต่ำลงอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขารีบปล่อยมือและเดินไปที่หน้าต่าง เขามองไปที่ศูนย์กลางของมอร์ดูที่สูงตระหง่านอยู่ไม่ไกล“มีอีกอย่างที่เธอลืมไป“เซค สมิธและตระกูลสมิธอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้“เซคอุทิศตนให้กับงานราชการอย่างสุดหัวใจ และเขายังได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา“นอกจากความสามารถและภูมิหลังแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่ฝักฝ่ายใด และทุกการกระทำของเขานับว่ายุติธรรมอย่างที่สุด“ไม่สำคัญว่าคนเหล่านั้นจะมาจากสิบตระกูลอันดับหนึ่งหรือเป็นแค่คนธรรมดา เขาจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน“การที่เขาเข้ามายุ่งเรื่องนี้ มันคาดเดาได้ยากว่าจะส่งผลดีหรือร้ายแก่เรา “ในแง่หนึ่ง เขาจะป้องกันไม่ให้เบนจามิน ลินช์แทรกแซงในเรื่องนี้และจะเข้าไปสรุปร่องรอยของหลักฐาน“แต่ในทางกลับกัน ในขณะนี้เราต้องหยุดการกระทำอื่น ๆ ทั้งหมด เราจะพลาดและทิ้งร่องรอยในเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้!“ไม่อย่างนั้น หากเราถูกเซคจับได้ เราจะสูญเสียทุกอย่าง!“แม้ว่าหลักฐานที่มีอยู่จะชัดเจนในตอนนี้ แต่มันอาจเปลี่ยนจาก
ในที่สุดเฮกเตอร์ทอมป์สัน ก็หันกลับมาหลังจากได้ยินชื่อของอีวอนน์ ซาเวียร์เขาเหลือบมองซากุระ มิยาโมโตะเบา ๆ แล้วพูดด้วยความสนใจอย่างมากว่า “ผู้หญิงคนนี้น่าหลงใหลจะตาย“หรือฉันควรจะพูดว่าในบรรดาลูกสาวเศรษฐีคนอื่น ๆ ที่อยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูง เธอถือว่าค่อนข้างโดดเด่นและชาญฉลาด “เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นห่วงฮาร์วีย์มาก แต่พอฉันเสนอข้อตกลงกับเธอ เธอก็ยังปฏิเสธ แม้ว่าเธอจะถูกข้อเสนอนั้นล่อลวงเอาก็ตาม“ในความคิดของฉัน เธอไม่ได้ทั้งรักหรือเกลียดฮาร์วีย์ ยอร์ก“แต่ว่าเธอมีความเชื่อมั่นในตัวฮาร์วีย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าฮาร์วีย์สามารถหลุดพ้นจากเรื่องนี้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องมีใครช่วยเหลือ“ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา”เฮกเตอร์ดูเสียใจ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ตรวจสอบเหตุผลที่อีวอนน์มั่นใจขนาดนั้นก็ตาม...แต่เขายังคงรู้สึกกังวลเล็กน้อยอย่างน้อยเมื่อพิจารณาจากตัวตนของฮาร์วีย์แล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรได้ตามอำเภอใจยิ่งไปกว่านั้น ในมอร์ดูก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และสถานการณ์ของที่นี่ก็ค่อนข้างซับซ้อนผู้คนจากทั้งในและนอกประเทศกำลังจับตามองมอร์ดูอยู่ในขณะนี้ การเคลื่อน
“คืนลูกสาวให้ฉัน! ทวงความยุติธรรมให้ฉัน!“ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด! คนหัวหงอกต้องมาจัดงานศพให้คนหัวดำ!“กำหนดโทษฆาตกรอย่างฮาร์วีย์ ยอร์ก!“ทุกวันนี้แค่มีเงินก็คิดจะทำอะไรก็ได้หรือ?!”ป้ายขนาดยักษ์ถูกดึงออกมา แต่ละป้ายมีคำที่เปื้อนเลือดเขียนอยู่ยิ่งไปกว่านั้น วิดีโอสั้นของมิวะ ฟูจิฮาระ และฉากที่เธอถูกฮาร์วีย์ข่มขู่ก่อนหน้านี้ฉายบนจอยักษ์อีกสองจอลูกเล่นเหล่านั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวต่างชาติหลายคนถึงกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโดยไม่รู้ตัวอย่างไรเสีย ทุกคนก็ชอบเสพความบันเทิงซึ่งถือเป็นความตื่นเต้นที่มีอิทธิพลมากที่สุด ไม่นาน คุณป้าสองสามคนก็เริ่มตะโกนโดยใช้โทรโข่งว่า “ขอความยุติธรรมให้พวกเราด้วย! เอาลูกสาวฉันคืนมา!”เสียงตะโกนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและฟังดูเศร้าสร้อยในขณะเดียวกัน คุณป้าอีกหลายคนกำลังร้องไห้ขณะที่ถือรูปของมิวะ ฟูจิฮาระ และเริ่มแจกใบปลิวไปทั่วไม่นานเรื่องก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว นักข่าวบางสื่อติดใจและกำลังจะรายงานเรื่องนั้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาพยายามทำให้เรื่องบานปลายและสร้างแรงกดดันจากสังคม ทำให้สถานีตำรวจและรัฐบาลตกอ
ใบหน้าของไคท์ วอล์คเกอร์ ไอเดน บาวเออร์ ราเชล ฮาร์ดี และคนอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุเปลี่ยนไปพร้อมกัน การที่อีกฝ่ายเปิดเผยตัวตนของฮาร์วีย์ ยอร์กจะทำให้พวกเขาพลิกเป็นผู้ชนะในเกมนี้ทันที อย่างไรก็ตาม ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะอย่างแน่นอนเมื่อตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ถูกเปิดเผยพรึ่บ!เมื่อบรรยากาศของสถานที่เริ่มรุนแรงขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเกิดขึ้นไม่ไกล จากนั้นทุกคนก็เห็นกองธนบัตรหล่นลงอยู่เหนือร้านค้าโดยรอบไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนเอื้อมมือไปรับเงินที่ตรงหน้าเขา ในวินาทีต่อมาเขาก็ตะโกนขึ้น"เงิน!“มันคือเงิน!"ใช่! เงินมหาศาลทีเดียว!"ฝูงชนที่มาเสพความบันเทิงเริ่มคุ้มคลั่ง ทุกคนรีบเร่งอย่างบ้าคลั่งหลังจากเห็นเงินตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับหิมะในขณะเดียวกันใครจะยังสนใจข่าวพวกนั้น? ใครจะยังสนใจความจริง? ใครจะยังคงสนใจเรื่องตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์?รวมไปถึงบรรดานักข่าวที่ต่างก็ตื่นเต้นเช่นกันพวกเขาจะได้รับโบนัสเท่าไหร่สำหรับการรายงานข่าวใหญ่สักข่าว? หนึ่งร้อยยี่สิบหกดอลลาร์? หรือหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดดอลลาร์?แต่ตอนนี้มีธนบัตรจำนวนมากตกลงมาจากท้องฟ้า หากพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจสามารถคว้าเงินเ
ในขณะเดียวกัน เคธี่ ไพรซ์ก็ฟื้นคืนภาพลักษณ์ที่ว่ากันว่าเธอเป็นคนปากร้าย และเธอก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะไปจัดการกับเหล่าป้า ๆ ที่ทำงานล้มเหลวอย่างน่าสมเพชสำหรับเรื่องแบบนี้ มันจะได้ผลดีที่สุดในการทำครั้งแรกเท่านั้น เมื่อทำครั้งแรกไม่สำเร็จ ต่อให้พวกเขาอยากจะทำอีกรอบรัฐบาลก็คงไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากสบถเสร็จ เคธี่ก็เงยหน้าขึ้นมองอีวอนน์ ซาเวียร์ผู้ซึ่งมีรูปลักษณ์และรูปร่างที่แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังต้องอิจฉาอีวอนน์ก้าวไปข้างหน้าและจุดธูปให้มิวะ ฟูจิฮาระ แต่เธอไม่ได้คุกเข่าคำนับ เธอเดินไปนั่งตรงข้ามกับเคธี่หลังจากทำความเคารพผู้เสียชีวิตเสร็จ “นายหญิงไพรซ์ คนตายไปแล้วไม่มีทางฟื้นคืนมาได้ ฉันเสียใจเรื่องคุณมิวะ ขอแสดงความเสียใจด้วย”“ขอบคุณสำหรับความห่วงใย คุณซาเวียร์”เห็นได้ชัดว่าเคธี่รู้จักอีวอนน์ ในขณะนี้ เธอโบกมือเป็นสัญญาณให้คนรอบข้างออกไป แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณซาเวียร์ มันบอกว่าคุณมีเรื่องที่ข้อตกลงกับฉัน ฉันขอถามได้ไหมว่าข้อตกลงอะไรบ้าง?”อีวอนน์พูดเบา ๆ ว่า “ฉันต้องการหลักฐานที่จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฮาร์วีย์ ยอร์กได้”เคธี่ผงะไปชั่วขณะ จากนั้นเธอก็พูดอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข