เคลลี่ขมวดคิ้วจากนั้นก็ส่ายหัวช้า ๆ“เป็นไปไม่ได้!“เด็กนั่นชอบพูดโอ้อ้วดแต่จิตใจดี“ไม่มีทางที่เขาจะบังคับให้คุณฟูจิวาระทำอะไรเลย”อีวอนน์ถอนหายใจ“ฉันเป็นพยานว่า คุณมิวะมาที่ห้องของฮาร์วีย์เมื่อคืนนี้ เธอบอกว่าหัวฝักบัวของเธอแตก เธอเลยขออาบน้ำในห้องฮาร์วีย์”“ฉันแจ้งตำรวจเรื่องนี้ไปแล้ว พวกเขาจะตัดสินฮาร์วีย์อย่างยุติธรรมแน่นอน”“หัวฝักบัวแตก? คุณกล้าแก้ตัวโง่ ๆ แบบนี้เลยเหรอ?”จูนมองอีวอนน์อย่างเย้ยหยัน“คุณซาเวียร์ คุณอาจมีตัวตนที่พิเศษและสถานะที่สูงส่ง แต่คุณไม่มีประสบการณ์ในชีวิตเลย!”“วิลล่าเราเพิ่งซื้อไปเมื่อไม่นานนี้! แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ยังไม่ได้ใช้งาน แต่คุณจะบอกว่าหัวฝักบัวแตกในวันแรกเลยอย่างนั้นเหรอ? เรื่องบังเอิญแบบนี้มีอยู่จริงเหรอ?”“อย่าว่าแต่ฉันเลย ตำรวจก็จะไม่เชื่อคุณ!”“คุณคิดว่าพวกเขาโง่หรืออะไร?”อีวอนน์ขมวดคิ้วกับคำพูดของจูนก่อนหน้านี้อีวอนน์ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้ว เมื่อพิจารณาจากคำให้การของผู้คนจากเมื่อคืนนี้แล้ว สถานการณ์ของฮาร์วีย์ดูไม่ดีนักเกือบทุกคนพูดเหมือน ๆ กันตามที่พวกเขาพูด ฮาร์วีย์มีความขัดแย้งกับมิวะเมื่อคืนนี้และขู่ว่าจะแบล็กลิสต
“แลกเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ?”อีวอนน์ชะงักด้วยความตกใจ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเฮกเตอร์มีเจตนาร้าย แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองอเพื่อฮาร์วีย์ได้เฮกเตอร์จุดบุหรี่มวนยาวแบบสบาย ๆ แล้วสูบมัน“ท้ายที่สุดคุณมิวะก็เป็นชาวเกาะ“การตายของเธออาจจะสำคัญหรือไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าพวกชาวเกาะต้องการให้มันเป็นอย่างไร“คุณก็รู้ว่าผมมีความเชื่อมโยงกับชาวเกาะนิดหน่อย ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ผมจะสามารถทำให้พวกเขาปล่อยเรื่องการตายของมิวะได้ ด้วยวิธีนี้คุณจะได้มีโอกาสที่จะทำให้สถานการณ์นี้เป็นโมฆะ“นอกจากนี้ผมยังรู้จักบางคนในสถานีตำรวจแห่งมอร์ดู ถ้าคุณให้เวลาผมครึ่งชั่วโมง ผมจะสามารถสร้างคำให้การใหม่แก่พยานทุกคนได้“ผมสามารถทำให้หลักฐานบางอย่างหายไปในอากาศได้ด้วยซ้ำ“ข่าวบนสื่อจะหายไปภายในครึ่งชั่วโมงเช่นกัน“ในระยะเวลาสั้น ๆ คุณยอร์กผู้ยิ่งใหญ่ของเราจะเดินออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บและสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหรูหราได้ต่อไป“คุณคิดว่าไง?”จูน เฮเซล และคนอื่น ๆ ตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินเฮกเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและมั่นใจพวกเขามองไปที่เฮกเตอร์ด้วยความเหลือเชื่อไอเดน ราเชล และลูกน้องรู้ดีถึงความขัดแย้งระ
อากาศภายในสถานีตำรวจมอร์ดูสาขาแรกเย็นลง ในขณะที่ห้องโถงใหญ่ตกอยู่ในความโกลาหลภายในห้องสอบสวน ฮาร์วีย์กำลังแสร้งทำเป็นนอนกอดอกอยู่บนเก้าอี้ เขาถูกขังอยู่ที่นั่นทั้งวัน หลังจากที่เขาถูกเตะส่งเข้ามาในห้องและได้รับอาหารและน้ำในเวลาที่กำหนด ก็ไม่มีใครมาคุยอะไรกับเขาเลยฮาร์วีย์เดาว่าตำรวจมุ่งความสนใจไปที่ประจักษ์พยานและหลักฐานเพื่อเอาผิดเขาอย่างหนัก บางคนพยายามค้นหาร่องรอยที่ฮาร์วีย์ออกคำสั่งขึ้นบัญชีดำมิวะแม้ว่าเขาจะถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจที่จะสอบปากคำเขาไม่รู้ว่านี่เป็นกลวิธีทางจิตวิทยาหรือเพียงเพราะว่าตำรวจกำลังพยายามปะติดปะต่อหลักฐานเข้าด้วยกัน...แม้เวลาจะผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีใครมาหาฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์ก็ไม่สนใจ ชีวิตของเขาผ่านอะไรมามาก หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่ฮาร์วีย์ก็เริ่มอนุมานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาสงสัยว่าการตายของมิวะถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วทั้งหมายสั่งตายของเธอในบ้านของเฮเซล ทั้งการเข้าหาฮาร์วีย์ไหนจะสิ่งที่เรียกว่า "คำข่มขู่" อีก... เหตุการณ์ทั้งหมดนำพาให้ทุกสิ่งเป็นเช่นในตอนนี้มิวะจะถูกสังเวย หากจำเป็นการตาย
เฮกเตอร์ช่างเป็นคนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆอย่างน้อยในสายตาของฮาร์วีย์ เฮคเตอร์ก็มีสิทธิ์ที่จะท้าทายเขาได้แกร๊ง!ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังพยายามคิดแก้ปัญหา จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกผู้ตรวจการในเครื่องแบบทางการสามคนเดินเข้ามาด้วยความองอาจผู้ตรวจการที่เดินนำเข้ามาเป็นคนเดียวกับที่เข้าจับกุมฮาร์วีย์ เขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่หรี่ลงและถามอย่างเย็นชา “ฮาร์วีย์ ยอร์ก พร้อมที่จะสารภาพหรือยัง?“อายุแค่นี้สร้างแต่เรื่องเดือดร้อน… คนอย่างนายนี่มันหนักแผ่นดินจริง ๆ!“จริงสิ ฉันลืมแนะนำตัว ฉันชื่อคริสตัน ดันเคน ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของแกรี่ แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน! ฉันเป็นหัวหน้าหน่วยของสถานีตำรวจมอร์ดูสาขาแรกแห่งนี้!“ตอนที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันมาหา เขากำชับให้ฉันดูแลนายเป็นอย่างดี“แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องสุภาพกับคนอย่างนาย!“ลูกพี่ลูกน้องของฉันเกลียดนายเข้าไส้ แต่เพราะเห็นแก่คุณซาเวียร์ เขาถึงกับขอให้ฉันปกป้องนายด้วยอำนาจทั้งหมดที่ฉันมี!“นายนี่มันไม่เอาไหนเลยจริง ๆ!คิดดูสิ นายต้องให้ศัตรูหัวใจมาคอยช่วยเหลือแบบนี้!“ถ้าพอมีสมองอยู่บ้าง นายก็ควรเริ่มสารภาพความผิดของ
"อะไรกันน่ะ? คุณจะไม่ยิงเหรอ?”ฮาร์วีย์เหวี่ยงเท้าไปรอบ ๆ และไขว่ห้าง ใบหน้าของเขายังคงว่างเปล่าและไร้ความรู้สึกผู้จัดการคนดังกล่าวทั้งหวาดกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจนั่งลงผู้ตรวจการอีกคนซึ่งมีผมสั้นจุดบุหรี่และดูอารมณ์เสีย เขาพ่นควันใส่หน้าฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ ใช่ไหม?” เขาถามอย่างเย็นชา“เรารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น“นายข่มขู่เหยื่อในงานเลี้ยงอาหารค่ำของครอบครัวมาโลน โดยการบอกว่านายจะขึ้นบัญชีดำเธอ!“มีคนอย่างน้อยยี่สิบคนจากที่เกิดเหตุที่เป็นพยานได้ว่านายพูดเช่นนั้น ไม่มีทางที่นายจะปฏิเสธข้อเท็จจริงนั้นได้”ฮาร์วีย์ยักไหล่“หัวหน้าหน่วยของคุณไม่ได้บอกว่าคุณควรดูแลผมงั้นเหรอ? ดูแลผมดีแล้วเหรอ?” ฮาร์วีย์แกล้งอย่างใจเย็น“ถ้าการพูดไปเรื่อยสามารถใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ คดีต่าง ๆ ทั่วโลกคงจะง่ายขึ้นมากใช่ไหม?”“นายกำลังบอกว่าจะไม่สารภาพงั้นเหรอ?!” ผู้ตรวจการตะคอกอย่างรุนแรงฮาร์วีย์ยิ้มและตอบอย่างสง่าพาเผยว่า “ผมไม่ได้ฆ่าใครและไม่ได้ทำร้ายใคร ในเมื่อผมรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดหรือทำอะไรให้ตัวเองต้องขายขี้หน้า แล้วผมจะสารภาพทำไม?”“นายไม่ได้ทำอะไรผิดหรือทำ
“เหยื่อไม่เชื่อว่าคุณจะทำอย่างที่ข่มขู่ไว้ได้จริง ๆ ดังนั้นคุณให้เธอดูวิลล่าของคุณเพื่อพิสูจน์ความมีอิทธิพลของคุณ“การใช้คฤหาสน์มูลค่าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์ของคุณสามารถสร้างความเสียหายทางจิตใจอย่างใหญ่หลวงให้กับเหยื่อได้“หลังจากกลับไปที่วิลล่าของครอบครัวมาโลน คุณขู่ให้เหยื่อเข้าไปในห้องของคุณเพื่อฉวยโอกาสเธอในห้องอาบน้ำ“จากการกระทำของคุณ เหยื่อจึงรู้สึกอับอายขายหน้ามากและตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง”“นี่แหละเรื่องที่เกิดขึ้น!”“เรามีทั้งพยานและหลักฐานที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้!”“นายยังไม่สารภาพอีกหรือ? ฮาร์วีย์ ยอร์ก!”คริสตันทำตัวชอบธรรมมาก ราวกับว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างที่เขาพูดฮาร์วีย์ตบมือด้วยความประหลาดใจ"ฉลาดหลักแหลม! ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด!” ฮาร์วีย์พูดด้วยความประหลาดใจอย่างมาก“ผมเคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะมีแต่ในละครเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าคุณจะมีบทละครที่ยอดเยี่ยมกว่า หัวหน้าหน่วยดันเคน!“แต่จะเป็นไปได้ไหมถ้าผมจะขอโต้แย้งในการสันนิษฐานของคุณสักหน่อย”ดวงตาของคริสตันกระตุก ใบหน้าของเขาเย็นชา เขาไม่ตอบกลับฮาร์วีย์หัวเราะอีกครั้ง“เนื่องจากผมสามารถอาศัยอยู่ในวิลล่าหมายเลข 1 ได
“ถ้าคุณบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น ผมเชื่อว่าในไม่ช้าคุณจะได้รับเอกสารทางกฎหมายจากผมแน่นอน“เพราะนี่ถือว่าคุณกำลังจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอยู่”ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ จากนั้นก็ยกถ้วยกระดาษบนโต๊ะขึ้นจิบอย่างไม่ไยดีคริสตันพิเคราะห์ฮาร์วีย์และกัดฟันพูด “ไม่แปลกใจเลยสำหรับอาชญากรเจ้าปัญญา นายรู้เรื่องกฎหมายของประเทศนี้ดีทีเดียว!“แต่ในเมื่อนายรู้กฎหมายดีขนาดนี้ แล้วทำไปทำไม?!“ฉันจะขอบอกนายไว้เลยนะ ว่าหลักฐานที่มีชัดเจนพอที่จะมัดตัวนายได้! นายไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้หรอก ต่อให้รู้กฎหมายมากขนาดไหน!“อย่าคิดว่าฉันจะปกป้องนายเพราะเห็นแก่หน้าลูกพี่ลูกน้องของฉัน!“นอกจากจะไม่ปกป้องนายแล้ว ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้นายได้รับโทษอย่างสาสม!“วิธีนี้เท่านั้นที่ฉันจะใช้สำหรับการแสดงความเคารพต่อกฎหมาย!”คริสตันทำตัวสูงส่งและทรงพลังเพียงเพื่อหยุดไม่ให้ฮาร์วีย์มาพึ่งพาเขาแต่ทุกอย่างก็เหมือนก่อนหน้านี้ ฮาร์วีย์ทำเพียงแค่หัวเราะ“ไม่ใช่ว่าผมจะหยามเกียรติคุณหรอกนะ หัวหน้าหน่วยคริสตัน แต่คุณปกป้องผมไม่ได้หรอก“ผมบอกแล้วไงว่าผมจะโทรศัพท์”“เฮ้ เฮ้ เฮ้ นายคิดว่าฉันปกป้องนายไม่ได้งั้นเ
“เท่าที่ฉันรู้ บุคคลเพียงผู้เดียวในมอร์ดูที่ชื่อลินช์คือผู้บังคับบัญชาสูงสุด เบนจามิน ลินช์! นายคงไม่ได้จะบอกฉันว่าเมื่อกี้นายเป็นคนโทรหานายท่านลินช์หรอกใช่ไหม?”คริสตันพินิจพิเคราะห์ฮาร์วีย์ด้วยในตาที่เย็นยะเยือก พยายามจับโกหกฮาร์วีย์“ถ้านายท่านลินช์เป็นคนรับสายนายจริง ๆ ฉันจะกินโทรศัพท์ทั้งเครื่องเลย!”หลังจากถูกคริสตันเย้ยหยัน ผู้ตรวจการอีกสองคนก็มองฮาร์วีย์ด้วยความขยะแขยง'ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมพยายามแสร้งทำเป็นว่าตัวเองยิ่งใหญ่งั้นหรือ?''เขาคิดว่าแค่โทรหาใครสักคนแล้วจะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไง?''ตลกอะไรอย่างนี้!'ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ ไม่ใส่ใจที่จะตอบตรง ๆ“ผมโทรหานายท่านลินช์แล้ว“เขาบอกว่าจะส่งลูกน้องที่ไว้ใจที่สุดมาแก้ปัญหานี้”“ไอ้โง่เอ๊ย! นี่นายกล้าโกหกพวกเรางั้นหรอ!”คริสตันส่งสายตาไปยังฮาร์วีย์ด้วยความชิงชังอย่างที่สุด“นายท่านลินช์เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของมอร์ดู แต่เขาไม่เคยยุ่งเรื่องของตำรวจเลย!“ถ้านายกำลังมองหาใครสักคนที่จะมีอำนาจในกรมตำรวจ นายก็ควรจะโทรหาโอทิส ไค ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสถานีตำรวจกลางมอร์ดู!“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข