เมื่อนึกถึงสถานการณ์นั้น ฮาร์วีย์ก็กล่าวว่า “นายน้อยวอล์คเกอร์ ชาวเกาะคนนั้นไม่ใช่แค่คนธรรมดา“ผมคิดว่าพวกเราควรจะไปรวมตัวกันที่อื่นดีกว่า“คืนนี้เป็นงานเลี้ยงของนายน้อยดันแคน อย่าสร้างปัญหาไปมากกว่านี้เลย”“ไม่ใช่คนธรรมดา? หมายความว่าอะไรกันแน่?”สตีเว่นรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนแรก แต่คำพูดของฮาร์วีย์คล้ายกับการคาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดของเขาโดยตรง“เขาเป็นแค่หมูชาวเกาะ! เขาจะทำอะไรเราได้?“ลุงของผมเป็นรองหัวหน้าสาขาหลงเหมินของมอร์ดู!“ศิษย์ของหลงเหมินจะมาช่วยผมทันทีที่ผมเรียกพวกเขา เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย!“แม้ว่าจะไม่มีใคร ผมเองก็เป็นศิษย์ของหลงเหมินเช่นกัน!“เราไม่ได้อยู่ในยุคเก่า ๆ อีกแล้วนะฮาร์วีย์ นี่ไม่ใช่ยุคที่เราจะต้องคุกเข่าต่อผู้ที่รุกรานเรา!“คุณต้องยืนหยัดเพื่อตัวเอง!“แต่คุณก็เป็นแค่คนบ้านนอกอยู่ดี ผมเข้าใจดีถ้าคุณจะกลัวผู้มีอำนาจ“แต่พวกชาวเกาะ…“เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาไม่ได้พ่ายแพ้ต่อหัวหน้าของประเทศในระหว่างสมรภูมิยูโร-อเมริกาหรอกเหรอ?“แล้วอย่างนี้พวกเขาจะทำอะไรพวกเราได้?”พวกระดับสูงของไคเซนกรุ๊ปหัวเราะเยาะฮาร์วีย์อย่างเย็นชาโดยไม่สำนึกผิด หลังจากที่ได้เ
“อย่าสนใจคนต่ำต้อยคนนี้เลยอีวอนน์ มานั่งข้างนายน้อยดันแคนมา“เขาจะปกป้องเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!ขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งกับการดูถูกฮาร์วีย์ เฮเซลก็ถือโอกาสลากอีวอนน์ไปนั่งข้างแกรี่“ดูเธอสิ ได้รับการปกป้องจากนายน้อยดันแคนเสมอ“ในฐานะเจ้ามือ เธอไม่ควรจะดื่มให้กับเขาหน่อยเหรอ?“ดื่มเบียร์ให้หมดแล้วไปร้องเพลงซะ!“ฉันจะบอกเธอให้นะ นายน้อยดันแคนเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มาก! เขาร้องได้ดีกว่ามือใหม่หลายคนเลย!“ฉันไม่คิดว่าจะมีโอกาสมากนักที่ใครจะได้ยินเขาร้องเพลง! เธอค่อนข้างโชคดีเลยนะอีวอนน์”เฮเซลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อีวอนน์และแกรี่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แน่นอนว่าเธอจะไม่ต้องการให้ฮาร์วีย์ได้ครองผู้หญิงที่โดดเด่นเช่นนี้“คุณก็พูดเดินไปคุณมาโลน ผมต่างหากที่ควรจะดื่มให้คุณซาเวียร์“ท้ายที่สุดเธอก็เป็นคนที่ให้โอกาสผมในการหาเงินมากขึ้นและได้ต่อสู้กับมืออาชีพที่แท้จริง นี้คือสิ่งที่ผมต้องการมาทั้งชีวิต ผมจึงควรจะเป็นคนที่ขอบคุณเธอ”แกรี่หยิบขวดแชมเปญออกมาพลางยิ้มอย่างอบอุ่น ด้วยการสะบัดนิ้วขวาของเขา จุกของขวดก็หลุดออกทันทีภาพที่เห็นนั้นทั้งเท่ห์และสง่างาม ทำให้ผู้คนโห่ร้องอย่างตื่นเต้นฮ
ในชั่วพริบตา ชายในชุดคาราเต้หลายสิบคนก็เดินเข้ามาแม้ว่าพวกเขาจะไม่สูง แต่พวกเขาทั้งหมดก็ดูแข็งแรงมากและมีรอยสักที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีเฉพาะคนจากท้องถนนในประเทศหมู่เกาะเท่านั้นที่มีมันบนร่างกายของพวกเขาฮาร์วีย์ ยอร์กชำเลืองมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าคนเหล่านั้นเป็นเหล่าหัวหน้าของประเทศหมู่ชาวเกาะคนที่โดนพวกเขากระทืบอย่างยับเยินก็มาด้วย ซึ่งก็คือคุโบมูระ อากาเนะ ที่เพิ่งถูกไล่ไปเมื่อก่อนหน้านี้“เจ้านาย คนจีนพวกนี้ที่ทำร้ายผม!“พวกเขาไม่มีเกียรติเลย!”คุโบมูระชี้ไปที่สตีเว่น วอล์คเกอร์และคนอื่น ๆ ในขณะที่พูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่นหลังจากนั้นชายชาวเกาะที่มีใบหน้าเหมือนผู้หญิงและอารมณ์เย็นชาก็เดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆความสูงของเขาเกือบ 1.70 เมตร ซึ่งถือได้ว่าสูงในหมู่พวกชาวเกาะยิ่งกว่านั้น เขายังเผยออร่าที่มีเฉพาะขุนนางของประเทศหมู่เกาะที่มีเท่านั้น ในขณะเดียวกันเขายังถือแก้วเหล้าสาเกไว้ในมือและจ้องมองสตีเว่นอย่างระมัดระวังขณะที่ดื่ม จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะ “น่าสนใจ แกกล้าดียังไงมาทำร้ายคนของฉัน? กล้าดีจริง ๆ!”ภาษาจีนของเขาขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่น้ำเสียงของเขาซ้ำซากจำเจราวหุ่นยนต์คำ
เสียงที่คมชัดดังขึ้น ชายชาวเกาะไม่สามารถหลบได้และถูกแกรี่ ดันแคนตบจนต้องถอยห่างออกไปสองสามก้าว ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกวิงเวียนและหูของเขาก็ส่งเสียงวิ้ง ๆจากนั้นแกรี่ก็ตบเขาด้วยหลังมืออีกครั้งก่อนที่ชายชาวเกาะจะทันได้โต้ตอบเพี๊ยะ!การตบครั้งนี้ทำให้ฟันของชายชาวเกาะกระเด็นออกไปหลังจากที่ตบสองครั้ง แกรี่ก็หยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดมือ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ฉันยั่วแกแล้ว แล้วยังไงต่อ?"ชายชาวเกาะกุมหน้าตนเองและตกตะลึงไปชั่วขณะเขามีสถานะค่อนข้างสูงในโรงฝึกของชินดัน เวย์ เขาไม่เคยโดนดูถูกแบบนี้มาก่อนจากนั้นเขาก็มองแกรี่ด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ เขาคำรามว่า “ไอ้สารเลว!“กล้าตบฉันได้ยังไง?“รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?“มานี่! ช่วยฉันฆ่าไอ้สารเลวคนนี้ที!”ชายชาวเกาะในชุดคลุมคาราเต้มากกว่าหนึ่งโหลที่อยู่รอบตัวเขาเคลื่อนไหวพร้อมกันและโจมตีแกรี่ตามคำสั่งของเขาปัง ปัง ปัง!แม้ว่าแกรี่จะแกล้งทำเป็นเสแสร้ง แต่ชื่อเสียงของเขาในฐานะแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อโอ้อวดเท่านั้นเขาสงบและไม่เร่งรีบขณะที่ต่อยพวกเขาทีละคนพลางดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อหลังจาก
“ก่อนที่จะเรียกพวกเขามา คุณควรบอกพวกเขาด้วยว่าแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอยู่ที่นี่แล้ว ดูสิว่าพวกเขาจะกล้าปรากฏตัวหรือเปล่า?!”แกรี่ ดันเคนมีจิตใจที่ฮึกเหิม ในตอนนี้เขายืนเอามือไพล่หลังทำท่าทางราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามผู้ไร้พ่ายซึ่งดูท่าจะไร้เทียมทานจิโร่ อากาโนะเย้ยหยันแล้วพูดผ่านโทรศัพท์ว่า “พี่ ผมถูกซ้อม!“อยู่ที่...”เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มระดมพล เฮเซล มาโลนก็เริ่มประหม่า “นายน้อยดันเคน แบบนี้จะทำให้เรื่องยิ่งแย่ลงหรือเปล่า? อย่างไรซะพวกเขาก็เป็นคนที่ทรงอิทธิพล…”อีวอนน์ ซาเวียร์ซึ่งอยู่ข้าง ๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน และพูดว่า “เราเอาตัวเองออกจากปัญหาพวกนี้ดีกว่า ไปกันเถอะ"ฮาร์วีย์ ยอร์กยังนิ่งเฉย เขาได้แต่มองดูฉากนี้ด้วยความสนใจอย่างมากเขาสนใจคนที่เรียกกันว่านักดาบที่ดีที่สุดของชินดัน เวย์เขาอยากเห็นกับตาว่าความมั่นใจของชาวประเทศหมู่เกาะพวกนั้นมาจากไหน ถึงได้กล้าทำอะไรตามอำเภอใจในมอร์ดูเช่นนี้“คุณมาโลน คุณซาเวียร์ เราต้องออกจากที่นี่ไปเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้งั้นเหรอ?“ชื่อของผมคือแกรี่ ดันเคนไม่ใช่แค่คำคุย พวกคุณคิดว่าผมจัดการเรื่องนี้ไม่ได้งั้นเหรอ?“วันนี้ผมอย
จิโร่ อากาโนะหยิ่งยโสอย่างมากในขณะนี้ เขาก้าวไปข้างหน้า ชี้ไปที่จมูกของแกรี่ ดันเคนแล้วตะโกนว่า “แกกล้าดียังไงมาตบฉัน? แกคงไม่รู้สินะว่าตัวเองควรยืนอยู่ตรงไหน? ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ฆ่าแก อย่ามาเรียกฉันว่าจิโร่ อากาโนะ!“สำหรับผู้ชาย หักแขนหักขาพวกเขาให้หมด ส่วนสาว ๆ จับมัดแล้วส่งไปที่บ้านฉัน!“สาวสวยน่ะดีเสมอนั่นแหละ!“วันนี้ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าต่อหน้าชาวประเทศหมู่เกาะอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกโง่นี่จะเชิดหน้าชูคอไปได้สักกี่น้ำ!”จิโร่ อากาโนะชี้ไปที่แกรี่ และกัดฟัน “โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอ้สารเลวนี่ ฉันจะส่งมันไปที่ก้นแม่น้ำและให้มันได้รู้ผลของการมายั่วโมโหฉัน!”ความมั่นใจของจิโร่ อากาโนะในขณะนี้พุ่งทะยานถึงขีดสุด เขาระบายความโกรธทันทีหลังจากถูกตบเข้าที่ใบหน้า"เกิดอะไรขึ้น?"ในขณะเดียวกัน มีคนออกมาจากด้านหลังของฝูงชนหลายคนผู้ที่เดินนำมาคือชาวประเทศหมู่เกาะที่มีความสูงเกือบหนึ่งเมตรเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร เขาสวมสูทสีขาวและถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนที่มีใบหน้าเคร่งขรึมแขกทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เริ่มคุยกันหลังจากเห็นคน ๆ นี้“เขาคือเรียว อากาโนะจริง ๆ เขามาปรากฏตัวแบบนี้ พวกหน้าโง่นี่เสร็จแน่!”
คำพูดคำจาที่ไพเราะของเฮเซล มาโลนทำให้ดูราวกับว่าตัวตนของเธอในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ทำให้เธอดูคล้ายกับพวกชนชั้นสูงของสังคมสิ่งสำคัญที่สุดคือในขณะนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวมากแม้ว่าแกรี่ ดันเคนจะมีทักษะสูง แต่ก็มีคู่ต่อสู้มากมาย และทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือเฮเซลคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะใช้เงินไม่กี่พันดอลลาร์เพื่อจัดการเรื่องนี้“เฮเซล มาโลน? อินฟลูเอนเซอร์?”เรียว อากาโนะมองอย่างเย้ยหยัน“คนที่ทำตัวกระตุ้งกระติ้งบนอินเทอร์เน็ต คิดว่าฉันต้องเกรงใจเธอรึไง?“อีกอย่าง ความทะนงตัวของเธอมันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เรื่องนี้มันมีแค่ถูกหรือผิดเท่านั้น“ใครทำผิดต้องยอมรับผิด!“ใครที่ตบฉันจะต้องชดใช้“แค่คุกเข่าและขอโทษตอนที่ฉันยังอารมณ์ดีดีกว่า ฉันอาจพิจารณาทำสิ่งที่ผ่อนปรนกว่านี้เล็กน้อย”“คุกเข่าขอโทษ?” แกรี่ยืดตัวตรงในทันที จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและเหล่ไปที่เรียว อากาโนะ “นักดาบที่ดีที่สุดของชินดัน เวย์ โดโจในมอร์ดูงั้นเหรอ?"ฉันจะบอกนายให้ ไม่ว่าจะถูกหรือผิดฉันก็จะจัดการเรื่องนี้อย่างแน่นอน!“และลูกน้องขยะ ๆ ของพวกนายทั้งหมดจะต้องถูกฉันกำจัด!“คืนนี้ ไม่ใช่แค่เราจะไม่ขอโทษ แต่น้องชายของนา
ฝูงชนทั้งหมดอ้าปากค้างด้วยสีหน้าไม่เชื่อจิโร่ อากาโนะตกใจที่เขาถูกตบ เขากอบกุมใบหน้าของตัวเองไว้และพยายามเงยหน้าขึ้นมองไปยังฝั่งตรงข้ามจากนั้นเขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ตบเขาไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นเรียว อากาโนะ พี่ชายของเขา เฮเซล มาโลนและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างก็ตกตะลึงเกิดอะไรขึ้น?ทำไมเรียว อากาโนะผู้เต็มไปด้วยความมั่นใจในตอนนี้ถึงตบจิโร่ด้วยหลังมือเช่นนี้?เขาเป็นนักดาบที่ดีที่สุดของชินดัน เวย์เชียวนะ ทำไมจู่ ๆ เขาถึงกลัวขึ้นมา?เป็นไปได้ไหมว่าเขาคงจะจำได้แล้วว่าแกรี่ ดันเคนคือใคร?ใช่แล้ว!ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!แม้ว่าเรียว อากาโนะจะค่อนข้างโดดเด่น แต่เมื่อเขาได้รู้ว่าแกรี่ เป็นใครเขาก็เกิดกลัวขึ้นมา“พี่ใหญ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”จิโร่ อากาโนะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงตบเขาฮาร์วีย์ ยอร์กดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางความสับสนของทุกคนทันทีที่เรียว อากาโนะปรากฏตัว ฮาร์วีย์ก็รู้ว่าเขาน่าจะรับราชการทหารของประเทศหมู่เกาะและได้เข้าร่วมในสงครามยุโรป-อเมริกัน ด้วยซ้ำในตอนนั้นกองทัพของประเทศหมู่เกาะ พ่ายแพ้ราบคาบ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่บุคคลนี้จะจำเขาได
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข