ในสายตาของสตีเว่น วอล์คเกอร์นั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระจอก ๆ ที่พอมีฝีมือ แต่แล้วไงล่ะ?สุดท้ายก็ยังต้องหาเงินเลี้ยงชีพอยู่วันยันค่ำตราบใดที่ฮาร์วีย์ทำงานในไคเซ็น กรุ๊ป เขาก็สามารถฆ่าหมอนี่ได้ทุกวิถีทาง!ในความเห็นของสตีเว่น แม้ไบรอัน โฮลท์จะใช้คนของหลงเหมิน เขาก็ยังจัดการกับฮาร์วีย์ไม่ได้หลังจากคุกเข่าในครอบครัววอล์คเกอร์ทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องนี้การใช้กำลังบดขยี้ผู้คนเป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดพนักงานสาวสวยสองสามคนเหลือบมองสัญญาโดยอัตโนมัติ จากนั้นทุกคนก็ยกมือขึ้นป้องปากด้วยความประหลาดใจหลังจากนั้น สีหน้าที่พวกเธอมองไปที่ฮาร์วีย์ก็เต็มไปด้วยความขมขื่นลูกค้าสองคนนี้จัดการได้ยากมากแม้แต่สตีเว่นก็ไม่อาตจัดการพวกเธอได้ด้วยตัวเอง แต่เขากลับต้องการให้ฮาร์วีย์จัดการเรื่องนี้ภายในสามวัน แน่นอนว่าเขาคิดจะใช้เรื่องนี้ทำให้ฮาร์วีย์ต้องเดินออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเขาเอง!เฮเซลพูดขึ้นโดยไม่ต้องคิดว่า “ผู้จัดการวอล์คเกอร์ ฮาร์วีย์เป็นพนักงานใหม่และไม่คุ้นเคยกับรายละเอียดปลีกย่อยของธุรกิจ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ให้เขา…”สต
สตีเว่น วอล์คเกอร์ตัวสั่นด้วยความโกรธเขาเป็นญาติห่าง ๆ ของจัสติน วอล์คเกอร์ ยิ่งไปกว่านั้นเขาทั้งสูง หล่อเหลา และถือว่าเป็นหนุ่มอนาคตไกลแต่คนอย่างเขาก็ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับเฮลีย์ สมิธ และแอนนา วินทัวร์จนทำให้พวกเธอเซ็นสัญญาได้สำเร็จเลยแล้วกับฮาร์วีย์ ยอร์กที่เพิ่งทำงานได้แค่สิบนาที และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจประเภทใด ในตอนนี้กลับมาบอกว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยการโทรออกเพียงครั้งเดียว?”ล้อกันเล่นรึไง?!พนักงานสาวสวยคนหนึ่งเย้ยหยันและพูดขึ้นว่า “นายน้อยวอล์คเกอร์ เด็กเส้นนี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทของเราทำธุรกิจอะไร แต่ก็ยังทำโอ้อวดถือดีอยู่ได้ หน้าหนาอะไรอย่างนี้!”พนักงานหญิงอีกคนก็เอ่ยเสริมอย่างเย้ยหยันว่า “โทรแค่กริ๊งเดียวก็ทำให้เฮลีย์กับแอนนามาถึงที่นี่ได้แล้วเหรอ? เขาคิดว่าตัวเองเป็นนายน้อยของตระกูลสิบอันดับแรกหรือไง?!”พนักงานหญิงอีกคนเม้มปากแล้วพูดขึ้นว่า “เลิกเสแสร้งสักทีเถอะ! ยิ่งตอนนี้คุณเสแสร้งมากเท่าไหร่ ต่อไปคุณก็จะยิ่งอับอายมากเท่านั้น!”ฮาร์วีย์ชงกาแฟและจิบมันเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างวางเฉยว่า “รออีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวก็รู้”“ฮาร
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองไปที่สตีเว่น วอล์คเกอร์อย่างไม่แยแส “เอาล่ะ ถือว่าคุณรับปากแล้ว!”“ฮาร์วีย์ ทำไมคุณถึงเป็นคนแบบนี้นะ?”ใบหน้าสวยของเฮเซล มาโลนเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ฉันผิดหวังจริง ๆ ฉันไม่ควรแนะนำคุณเลย!”“การที่คุณมาที่นี่ เป็นเพียงความอัปยศสำหรับฉัน!”“ฉันรู้ว่าคุณชอบกับฉัน อยากจะแสดงความสามารถของตัวเองต่อหน้าฉัน!”“และหวังให้ฉันหันมามองคุณ!“หวังจะเติมเต็มความปรารถนาตัวเอง แถมยังอยากไขว่คว้าในสิ่งที่ไม่คู่ควรอีก!”“แต่อย่าทำตัวแบบนี้ได้ไหม?”“วางศักดิ์ศรีของตัวเองลงเสียที!”“ยิ่งคุณทำตัวแบบนี้ ก็รังแต่จะทำให้ฉันเกลียดคุณ?”“ยิ่งกว่านั้น เมื่อวานฉันบอกคุณไปอย่างชัดเจนแล้วว่าการหมั้นหมายของเราสมัยเด็ก ก็เป็นแค่เรื่องไร้สาระ!”“กาจะเข้าฝูงหกได้ยังไง?!”“คุณอยากจะประสบความสำเร็จโดยอาศัยคำสัญญาบ้า ๆ บอ ๆ พวกนี้งั้นหรือ? คุณคิดว่ามันเชื่อถือได้รึไง? มันเป็นไปได้หรือ?"ในสายตาของเฮเซล ฮาร์วีย์เป็นเพียงปลิงที่คิดแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อคนอื่น!ฮาร์วีย์เพิ่งกลายเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านและเพิ่งถูกไล่ออกมา ตอนนี้เขายังคิดดจะมาเกาะแกเศรษฐีนีอย่างเธอขึ้นมาอีกทำไมเขาไม่คิดที่จะตักน้ำ
พนักงานคนอื่น ๆ ต่างตกอยู่ในความงุนงง ในขณะที่มองไปที่ผู้หญิงสองคนเฮเซล มาโลนอึ้ง!สตีเว่น วอล์คเกอร์ก็อึ้ง!นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะทำให้ผู้หญิงสองคนนี้มาที่นี่ได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว!ที่สำคัญที่สุดคือพวกเธอมาภายในเวลาครึ่งชั่วโมงได้จริง ๆ พวกเธอไม่กล้ามาสายเลยแม้แต่น้อย...นี่ นี่ นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง?สิ่งที่ทำให้เฮเซลรู้สึกรับไม่ได้ที่สุดก็คือการที่ทั้งสองคนพูดกับฮาร์วีย์ด้วยความเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นเฮลีย์ สมิธหรือแอนนา วินทัวร์ราวกับว่าฮาร์วีย์เป็นคนใหญ่คนโตเปลือกตาของสตีเว่นกระตุก “เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?!”พนักงานสาวสวยกลุ่มหนึ่งก็รู้สึกร้อนเห่อที่ใบหน้าชอบกล แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้พูดอะไร แต่ภาพนี้ก็เป็นการตบหน้าพวกเธออย่างแรง“มาได้สักที”ฮาร์วีย์ยืนขึ้นอย่างไม่ยี่หระและโยนสัญญาไปให้พวกเธออย่างไม่แยแส “นี่คือสัญญาสองฉบับที่ผมได้รับมอบหมายมาหลังจากเริ่มทำงานที่นี่ กรุณาลงนามให้ด้วย”ทำตัวแบบนี้กับลูกค้าได้เหรอ?!เขาควรให้เกียรติอีกฝ่ายมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ?ทำไมฮาร์วีย์ถึงทำเหมือนกำลังออกคำสั่งอ
เวลาบ่ายสามโมง บนถนนหลินเจียง อเวนิวห่างจากเพิร์ล ออฟ มอร์ดูไม่ถึงสามกิโลเมตรในขณะนี้ รถปอร์เช่พานาเมร่าสีแดงกำลังแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็วมีหญิงสาวสวยในชุดกี่เพ้านั่งอยู่ที่เบาะคนขับเธอสวมแว่นกันแดดสีดำ ซึ่งทำให้ใบหน้าสวยของเธอดูงดงามยิ่งขึ้นมีผู้หญิงหน้าตาพอไปวัดไปวาได้อีกคนอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารผู้หญิงคนนั้นถือปืนอยู่ในมือ แต่เธอคอยหันกลับไปด้านหลังด้วยความหวาดระแวงราวกับว่าเธอกลัวว่าจะมีใครตามมาทันหลังจากดูอยู่พักหนึ่งและยืนยันว่าไม่มีใครตามมาแล้ว ผู้หญิงบนเบาะผู้โดยสารมองไปที่อีวอนน์ ซาเวียร์ขณะขับรถและพูดว่า “คุณหนูซาเวียร์ ทำไมคุณถึงเสี่ยงออกมาแบบนี้?!”“คุณควรรู้ว่าตอนนี้เราถูกกักบริเวณอยู่!”“ถึงเราจะยังสามารถกิน ดื่มและเดินไปมาในสวนได้…”“แต่ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้า เราจบเห่แน่!”“อีกอย่าง ตระกูลก็กำลังสืบสวนเรื่องของคุณผู้หญิงอยู่ และคุณหนูก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญเช่นกัน!” “ที่คุณหนูหนีมาอย่างนี้ ไม่ใช่เป็นการยอมรับกลาย ๆ เหรอว่าคุณผู้หญิงเป็นคนทำเรื่องเหล่านั้นจริง ๆ?!”“คุณซาเวียร์ ฟังฉันนะ เราย้อนกลับไปก่อนที่พ่อบ้านอีแวนส์จะรู้เรื่องนี้เถอะ”“ไม่อย
จากนั้นฮันเดลก็แสดงสีหน้าเย็นชาและตอบอย่างเย้ยหยันว่า “โอ้ เมลานี ซาเวียร์ เธอคิดว่าฉันมองไม่ออกจริง ๆ เหรอ?”“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันไม่เห็นความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอและความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเลียแข้งเลียขานายท่านคนใหม่?”“เราอยู่ในตระกูลสมิธมาก็หลายปีแล้ว เราจะไม่เข้าใจนิสัยของพวกเขาได้ยังไง?”“เธอน่าจะรู้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่หรือไป คุณผู้หญิงกับคุณหนูซาเวียร์ก็ยังคงเป็นแพะรับบาปสำหรับข้อกล่าวหาเหล่านั้นอยู่ดี!”“คุณผู้หญิงมีความสามารถมากเกินไป และคุณหนูซาเวียร์เองก็โดดเด่นเกินไป! นี่คือสาเหตุที่เจ้าชายสมิธและคนอื่น ๆ ระวังพวกเธอมาก!”“และตอนนี้นายท่านก็สิ้นชีวิตไปแล้ว เจ้าชายสมิธและคนอื่น ๆ ต่างกำลังคิดหาวิธีที่จะแบ่งปันทรัพย์สินให้เท่า ๆ กันก็แค่นั้น พวกเขาไม่เห็นต้องสนใจด้วยซ้ำว่าความจริงคืออะไร? พวกเขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”“และนั่นเป็นเหตุผลที่สมควรสำหรับคุณหนูซาเวียร์ที่จะจากมา! หากไม่ทำเช่นนี้ เธอจะกลายเป็นสิ่งของที่ตระกูลสมิธใช้แลกกับผลประโยชน์ก็เท่านั้น!”“ฉันสนับสนุนคุณหนูซาเวียร์!”ฮันเดลไม่รู้ว่าเหตุใดอีวอนน์ ซาเวียร์จึงตัดสินใจออกจากตระกูลสมิธในเวลานี้ แต่เขาร
“ให้ตระกูลสมิธชดใช้งั้นเหรอ?”เมลานี ซาเวียร์หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่ใบหน้าของเธอแสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมา“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้คุณจะมีชีวิตรอดหรือไม่ แต่คุณกำลังพูดถึงการแก้แค้นพวกเขาเนี่ยนะ?”“คุณหนู คุณเริ่มฝันกลางวันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ในสายตาของเมลานี หากอีวอนน์ ซาเวียร์มีโอกาสได้กลับมายืนหยัดอีกครั้งและคุณผู้หญิงมีโอกาสที่จะได้ควบคุมกองกำลัง เธอก็ไม่รังเกียจที่จะติดตามพวกเขาไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวแต่พลังของตระกูลสมิธเจิดจ้าราวกับกลางวันนักฆ่ากำลังรอที่จะกำจัดทายาทสายตรงของทั้งตระกูลจาเดน สมิธป่วยหนักคุณผู้หญิงถูกคุมขัง และเทอร์รี่ สมิธก็รับช่วงต่อภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น อีวอนน์จะมีโอกาสได้ยังไง?จากปัญหาล้อมรอบตัวเธอ เธอจะทำอะไรได้นอกจากหนีไป?นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งเดียวที่เมลานีคิดคือวิธีเลียแข้งเลียขาเทอร์รี่เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เธอมั่งคั่งและได้รับเกียรติยศไปตลอดชีวิตเธอยังต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้ตัวเองมาพัวพันไปกับอีวอนน์และสำหรับการหลบหนีที่อาจหาญเช่นนี้…ดวงตาของเมลานีเป็นประกาย จากนั้นเธอก็เริ่มส่งข้อความถึงใครบางคนทางโทรศัพท์โดยไม่พูดอะไ
ฮันเดลมีสีหน้าเคร่งขรึมขณะจ้องมองเมลานี ซาเวียร์อย่างเย็นชาเมลานียิ้ม จากนั้นก็โยนปืนของเธอลงกับพื้นแล้วยกมือขึ้น เป็นสัญญาณให้พวกนั้นรู้ว่าเธอจะไม่ทำร้ายพวกเขาในเวลาเดียวกัน ชายมีหนวดเครากับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์สองสามคนก็ก้าวเท้าออกจาก โตโยต้า พราโด้คันสุดท้ายชายคนนั้นสวมแจ็กเก็ตหนัง จากท่าทางของเขาทำให้เขาดูไร้ยางอายและดุร้ายอย่างยิ่งเขาเป็นพ่อบ้านประจำบ้านตระกูลสมิธ เฟลทเชอร์ อีแวนส์!“พ่อบ้านอีแวนส์!”เมลานีรีบเข้าไปหาเฟลทเชอร์ทันทีที่เห็นเขา จากนั้นจึงคำนับด้วยความเคารพ“อีวอนน์ ซาเวียร์และฮันเดลคิดที่จะหนี แต่ฉันจับได้เขาและเธอได้คาหนังคาเขาและหยุดพวกเขาไว้!”“นั่นคือเหตุผลที่ฉันส่งข้อความถึงคุณ! ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะให้ความร่วมมือ!”“พ่อบ้านอีแวนส์ คุณต้องให้ยกความดีความชอบเรื่องนี้ให้ฉัน!”เมลานีเข้าใกล้เฟล็ทเชอร์มากขึ้นในขณะที่กำลังพูด เธอกอดแขนซ้ายของเฟล็ทเชอร์และแนบชิดอยู่ข้าง ๆ เขาฮันเดลกัดฟันหลังจากเห็นภาพนั้น อีวอนน์ไม่ได้พูดอะไรเลย เพราะการได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคน ๆ หนึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีเฟลทเชอร์เอื้อมมือไปลูบไล้ร่างกายของเมลานีแล้วยิ้ม“หัวหน้าซาเวียร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข