“ฮาร์วีย์! พอได้แล้ว!”ในที่สุดไคท์ก็พูดขึ้น“นี่มันงานเลี้ยงวันเกิดของฉันนะ ฉันไม่ต้องการเห็นการนองเลือด”“ก็ได้ เห็นแก่แฟนของผม ผมจะไม่ฆ่าคุณ”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและตบเขาอีกครั้งราวกับว่าต้องการเน้นย้ำความเจ็บปวดของคำพูดอันโหดร้ายของเขาหลังจากนั้นเขาก็มองเลนนี่ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ “เมื่อกี้เหมือนคุณจะพูดอะไรใช่ไหม?”“ทีนี้คุณจะพูดอะไรได้อีก?“ผมจะไม่ยืดเยื้อนะ คุณทำตามกฏของพาราเมาท์ที่คุณย้ำแล้วย้ำเล่าด้วยความภาคภูมิใจได้เลยเลนนี่ที่กลัวฮาร์วีย์ขึ้นมาแล้วพูดโพล่งออกมาว่า “ตามกฏแล้ว ขโมยจะต้องถูกตัดนิ้วหนึ่งนิ้ว และคนที่มีส่วนร่วมในการใส่ร้ายก็จะต้องได้รับบทลงโทษเดียวกันฮาร์วีย์ตบหน้าของเลนนี่เบา ๆ และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามกฏซะ ผมจะรอดูการตัดสินของคุณ”ใบหน้าของไบรอันและทามาราถอดสีไบรอันกุมหน้าตัวเองและตะโกนว่า “นายกล้าดียังไงถึงได้ตบผม ยอร์ก! รอดูนะ ฉันจะฆ่านาย!“นายคงไม่รู้สินะว่าพี่ชายของฉันเป็นเจ้าของพาราเมาท์! นายกล้าตบฉันในที่ของเขา! นายตายแน่!”ฮาร์วีย์ไม่สนใจคำเหน็บแนมของไบรอันและเพียงแต่จ้องเลนนี่ต่อไปแทนสีหน้าของเลนนี่น่าอึดอัดมากหากเป็นนิ้วของฮาร์วี
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที…บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้องโถง พวกเขาต่างดูแข็งแกร่งและดูเหมือนพวกที่สามารถต่อยได้หลายร้อยปอนด์ฮาร์วีย์จิบน้ำผลไม้ในขณะที่หรี่ตาสำรวจเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลาย เขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าผู้คนเหล่านี้เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมจากท้องถนนเลนนี่กุมศีรษะของตนเองหลังจากที่เห็นพวกเขากำลังเดินเข้ามา สายตาอาฆาตแค้นของเขาจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ชายหัวโล้นคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า เขาดูเหมือนว่าจะสูงมากกว่าหกฟุต เขาไม่มีขนคิ้ว ผิวของเขาซีดมากและเขาเปล่งความดุร้ายอย่างประหลาดเขาก้าวไปข้างหน้าและมองฮาร์วีย์นิ่ง ๆ ก่อนที่จะหยิบไวน์แดงหนึ่งขวดและกระดกดื่มมันหลังจากที่เขากระดกไปมากกว่าครึ่งขวด เขาก็หรี่ตามองฮาร์วีย์แล้วเย้ยหยัน “ไอ้หนุ่ม ได้ยินว่าคุณกล้าตีหัวผู้จัดการทอมป์สันที่พาราเมาท์ของเราอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่คือถิ่นของเรา คุณก็น่าจะรู้ คุณนี่ช่างกล้าจริง ๆ!”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”ชายหัวโล้นหรี่ตาเป็นการขู่ “ไอ้หนุ่มนี่ไม่เลวแฮะ แต่คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?”ฮาร์วีย์ยังคงเฉยเมย “ทำไมคุณไม่บอกผมล่ะว่าคุณเป็นใคร?”ชายหัวโล้นแสยะยิ้ม
ชายในชุดสูทสีขาวที่ดูโอ่อ่าหาที่เปรียบมิได้โผล่ออกมาจากฝูงชนและเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ทันทีเขาเป็นมืออาชีพที่แท้จริง เขาเป็นบอดี้การ์ดของบิ๊กฟลายและได้ช่วยบิ๊กฟลายต่อสู้ในสมรภูมินองเลือดในมอร์ดูมาหลายครั้งแล้วเขาดึงมีดสั้นออกมาแล้วเหวี่ยงมันไปที่คอของฮาร์วีย์“อ๊า!”เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นจากฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องนี้จะบานปลายมาถึงจุดนี้คืนนี้ฮาร์วีย์อาจตายที่นี่เลยก็ได้!ซินเธียร์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “พี่เขย ระวัง!”น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอ“อ่อน!”ขณะที่มีดสั้นกำลังจะถึงตัวฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ก็ยิ้มอ่อน ๆ ขณะที่ยื่นสองนิ้วออกไปจับมีดไว้อย่างง่ายดายแกร๊ง!เสียงที่คมชัดชายในชุดสูทสีขาวที่โอ่อ่าชะงักไปชั่วขณะพร้อมกับเจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาที่ค่อย ๆ จางหายไป“เป็นไปได้ยังไง?!”ฮาร์วีย์จับมีดสั้นของเขาได้อย่างง่ายดาย การจับของฮาร์วีย์นั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้เขาไม่สามารถก้าวไปได้แม้แต่ก้าวเดียวหลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงของแตกดังตามมา ใบมีดที่คมกริบหักและชายชุดขาวก็เคลื่อนไปข้าง“อ๊าก!”ใบมีดที่หักปลิวไปแทงเขาทันทีเขา ผู้ที่ฆ่าค
บิ๊กฟลายไม่คิดว่าไพ่ตายของเขา ซึ่งเป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่เขาพามาในคืนนี้ จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยเมื่อเจอกับชายหนุ่มคนนี้ทักษะของเขาน่ากลัวมาก!น้อยครั้งนักที่บิ๊กฟลายจะได้เห็นชายผู้มีความสามารถเช่นนี้ แม้จะอยู่บนถนนของมอร์ดูมานานหลายปีแล้วก็ตามอย่างไรก็ตาม เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าใหญ่ของท้องถนน หลังจากที่พ่ายแพ้แล้วเขาจึงไม่ได้คิดที่จะระดมใครมาเพิ่มเขารู้ดีว่าในขณะนี้คนของเขาไม่สามารถเอาชนะฮาร์วีย์ได้อยู่แล้วเว้นแต่ว่าเขาจะโทรขอความช่วยเหลือจากเดนเซล วอชิงตันหรือลูคัส ฌองอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องอับอายอย่างยิ่งหากเขาขอให้คนใหญ่คนโตสองคนนั้นช่วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เมื่อคิดได้ดังนั้น บิ๊กฟลายก็ระงับความโกรธของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ผมจะทำเป็นไม่รู้เห็นเรื่องของคืนนี้ แต่ผมรับรองไว้เลยว่าเราจะได้เจอกันอีกแน่”ฮาร์วีย์ไม่สนใจเรื่องนั้นแต่อย่างใด “ขอโทษผมและให้การรตัดสินที่น่าพึงพอใจกับผมก่อน”“ผมขอโทษครับ คืนนี้ผมสะเพร่าเอง!”เมื่อพูดจบบิ๊กฟลายก็เริ่มตัดนิ้วหัวแม่มือของเลนนี่ ไบรอัน และทามาราด้วยตัวของเขาเองนิ้วที่ขาดสามนิ้วถูกวางลงตรงหน้าฮาร์วีย์ บิ
ถึงอย่านั้นไบรอันและทามาร่าก็ยังคงเงียบ เดนเซล วอชิงตันแห่งมอร์ดูไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนเขาสามารถอยู่รอดท่ามกลางผู้คนที่มีอำนาจสูงสุดได้ และการบริหารพาราเมาท์ของเขาก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความกล้าหาญของเขา“พี่เดนเซล!”เมื่อไบรอันเห็นเดนเซลวางคันธนูและลูกธนูลง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและรินชาร้อนให้เดนเซลทันที“ผมได้ยินมาว่าพี่ไปแข่งกับปรมาจารย์ยิงธนูของประเทศหมู่เกาะมา ดูจากฝีมือพี่เมื่อกี่แล้ว พี่คงจะชนะผู้ที่เรียกกันว่าปรมาจารย์ยิงธนูแล้วใช่ไหมครับ?“ผมว่าไม่มีใครในมอร์ดูสู้พี่ได้หรอก!เดนเซลไม่แยแส “คำแนะนำจากผู้อื่นอาจช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของตนได้ แม้ว่าความเป็นมาของพวกชาวเกาะจะไม่ดีเท่าประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ แต่ทักษะการฆ่าของพวกเขาไปถึงจุดสูงสุดหลังจากที่พัฒนามานับพันปีแล้ว“แม้ว่าคู่แข็งยิงธนูของฉันจะเป็นถึงปรมาจารย์กันทั้งหมด ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ“เขาลือกันว่าที่ประเทศหมู่เกาะมีนักดาบด้วย หวังว่าสักวันฉันจะมีโอกาสได้ประลองฝีมือกับเขาบ้าง!”จากนั้นเดนเซลก็ถามไบรอันว่า “แล้วมีอะไรเหรอ? ทำไมถึงมาหาฉันแต่เช้าเลย?”“พี่เดนเซล เมื่อคืนผมอยู่ที่พาราเมาท์และมีคนสั่งให้ตัดนิ้วผม!
ไบรอันหายใจเข้าลึก ๆ และเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว “พี่เดนเซล เรื่องมันเป็นอย่างนี้!”เขาเล่าเหตุการณ์ที่โชคร้ายเมื่อคืนนี้ให้เดนเซลฟังและจบด้วยข้อความเศร้าใจว่า “พี่เดนเซล ไม่ใช่ว่าผมทำอะไรไม่ได้นะ แต่ไอ้สารเลวนั่นต้องมีของดีแน่นอน!“แม้แต่บิ๊กฟลาย ที่เป็นถึงลูกน้องหมายเลขหนึ่งของพี่ ก็เกือบจะถูกเขาฆ่าแล้ว!“จนสุดท้าย เขาทำให้บิ๊กฟลายตัดนิ้วผมด้วย!“พี่เดนเซล เขาไม่ให้เกียรติพี่เลย พี่ต้องคืนความยุติธรรมให้ผมนะ!”“เขามาจากไหน?” เดนเซลจ้องไบรอันที่รู้สึกอายอย่างมาก “ในเมื่อเขากล้าที่จะสร้างปัญหาในพาราเมาท์ เขาคงจะมีแบ็คอัพ ถูกไหม?”เปลือกตาของไบรอันกระตุก “นายน้อยวอชิงตัน ผมสืบเรื่องนี้เมื่อคืนแล้ว เขาไม่มีแบ็คอัพเลย เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดที่มีทักษะที่ดี“เมื่อคืนนี้รุ่นน้องของพี่บิ๊กฟลายต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ผมกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลาย ผมจึงไม่ได้บอกให้คนของเราลงมือ“นอกจากนี้ ตอนนั้นคุณวอล์คเกอร์ก็อยู่ที่เกิดเหตุด้วย เราไม่สามารถใช้อาวุธปืนอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ไอ้สารเลวนั้นจึงได้กล้าอวดดี!”เดนเซลนั่งลงบนเก้าอี้ทรงกลมที่มีที่เท้าแขนก่อนที่จะจิบชาและพูดว่า “คุณต้องการให้ฉัน
“ฮะ?”ไบรอันผงะไปครู่หนึ่งโดยไม่เข้าใจว่าเดนเซลหมายถึงอะไรเดนเซลกล่าวต่อว่า “คุณวอล์คเกอร์คือผู้หญิงที่เจ้าชายฌองชอบ ดังนั้นเราจึงต้องใช้วิธีพิเศษในการจัดการกับผู้คนรอบตัวเธอ“ไอ้สารเลวนั่นเหยียบย่ำคุณต่อหน้าคนอื่น ๆ และคุณก็คิดแต่ว่าจะฆ่าเขาอย่างเดียว แผนของคุณมันง่ายเกินไป!“ถ้าไคท์รู้เข้า เธอจะต้องไม่พอใจเจ้าชายฌองมากกว่าเดิม“ไคท์มาจากหลงเหมิน หลงเหมินเป็นเบื้องหน้าของรัฐบาลในยุคของนักดาบ พวกเขาเน้นความยุติธรรมและความภักดีมากที่สุด!“หนึ่งในสาเหตุที่ไคท์ปฏิเสธเจ้าชายฌองก็เพราะว่าเธอรู้สึกว่าเจ้าชายฌองเป็นคนไม่ดีที่ประพฤติตัวเลวทรามต่ำช้า“ดังนั้นหากเราจะทำเรื่องนี้ เราไม่สามารถที่จะทำมันได้ลับ ๆ ไม่ การทำลายเขาในที่สาธารณะจะดีที่สุด…”เดนเซลคิดก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไอ้สารเลวนั่นต่อสู้เก่งไม่ใช่เหรอ?”“เมื่อเร็ว ๆ นี้ไอเดน บาวเออร์และราเชล ฮาร์ดี้ร่วมมือกันเพื่อจะต่อสู้กับรองหัวหน้าวอล์คเกอร์ไม่ใช่เหรอ?”“หาโอกาสให้ฮาร์วีย์ได้เป็นนักสู้ของรองหัวหน้าวอล์คเกอร์!”“ถ้าฮาร์วีย์ถูกสังหารในขณะที่ต่อสู้กับราเชลจะดีกว่า แบบนั้นจะไม่น่าสนใจกว่าเหรอ?”“ใช่ ใช่ ใช พวกเราเข้
ที่วิลล่า บ้านเลขที่ 1 ในแฟรเกรินท์ ฮิลล์ซีนเธียร์ในกางเกงขาสั้นกำลังนั่งอยู่ที่บาร์ในห้องนั่งเล่นเช้านี้เธอตื่นขึ้นมาด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะอย่างไรเธอจะต้องได้คำตอบในเรื่องบางอย่างฮาร์วีย์เปิดเตา “ซีนเธียร์ ให้ฉันต้มบะหมี่ให้ไหม?”“ฉันไม่กิน!”ซีนเธียร์ตะคอกและพูดต่อ “พี่เขยยังไม่ได้อธิบายอะไรให้ฉันฟังเลย พี่กับไคท์ วอล์คเกอร์เป็นอะไรกัน? พี่ยังให้เธอเป็นแฟนพี่ด้วย! พี่ไม่กลัวว่าพี่สาวฉันจะรู้เรื่องเหรอ?”ฮาร์วีย์เงยหน้าขึ้นและพูดอย่างแผ่วเบาว่า “หยุดยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ได้แล้วเด็กน้อย”“และถ้าเธอนั่งที่บาร์อีก ฉันจะลากเธอลงมาและตี“พี่ไม่เคยบอกอะไรฉันเลย!“พี่เขย พี่กับไคท์ วอล์คเกอร์เป็นอะไรกันรึเปล่า?!”ฮาร์วีย์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าฉันบอกว่าไม่ คุณจะเชื่อฉันไหม?”ซีนเธียร์พยักหน้าทันที “เชื่อสิ!”“แต่พี่ต้องบอกความจริงกับฉันทั้งหมด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สบายใจ!”“ถ้าพี่ไม่บอก ฉันฟ้องพ่อแม่และพี่สาว!“พวกเขาจะมามอร์ดูเร็ว ๆ นี้ พี่คิดจริง ๆ เหรอว่าเพียงเพราะมอร์ดูอยู่ไกลพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมพี่ได้?”คำพูดของซีนเธียร์ทำให้ฮาร์วีย์ปวดหัว เขาถอนหายใจแ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข