เบนจามิน ลินช์ส่งคนไปจัดการกับศพในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเขายังจัดทีมก่อสร้างในวันรุ่งขึ้นและนำรถขุดและรถเจาะกำแพงเข้ามาหลายคันหลังจากฮาร์วีย์ ยอร์กกินอาหารเช้าเสร็จ เขาก็พาเบนจามินและโยนา ลินช์ไปที่ห้องเก็บไวน์ห้องเก็บไวน์นี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมและมีซากสลักหักพังมากมาย มันดูอึมครึมเล็กน้อยแม้ในเวลากลางวันหลังจากตรวจสอบแผนผังสักพัก ฮาร์วีย์ก็ชี้ไปที่ทิศทางบนกำแพงแล้วพูดว่า “ทำลายมันซะ!”แม้ว่าเบนจามินจะสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของฮาร์วีย์ในไม่ช้า กำแพงหนาครึ่งเมตรถูกทำลายทิ้ง เผยให้เห็นประตูเหล็กสีเข้มด้านใน ซึ่งเป็นผลิตผลของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ฮาร์วีย์ดูเฉยชาหลังจากเห็นฉากนี้ ทว่าเบนจามินกลับรู้สึกตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคาดคิดว่าโครงสร้างดังกล่าวจะถูกซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินนี้“น้องยอร์ก นี่คือ…”ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “ถ้าผมจำไม่ผิด นี่คือห้องปฏิบัติการทางชีวเคมีที่ประเทศหมู่เกาะจัดตั้งขึ้นที่นี่ในช่วงสงครามตะวันออก”“ข่าวลือท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเท็จ”“เพียงเพราะประเทศหมู่เกาะพ่ายแพ้ในสงครามและออกจากที่นี่ไปอย่างเร่งรีบ ดังนั้นพวกเขาจึงจัด
“น้องยอร์ก นี่มันอะไรกัน…?”สีหน้าของเบนจามิน ลินช์แย่ลงอีก เขารู้สึกได้ด้วยจิตใต้สำนึกเลยว่าว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดาบเล่มนั้น แต่เขาไม่อาจบอกได้ว่าเพราะอะไรฮาร์วีย์ ยอร์กขมวดคิ้ว จากนั้นก็เหล่ตาไปชั่วขณะ จากนั้น เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด นี่ต้องเป็นศิลปวัตถุของตระกูลสึจิมิคาโดะที่สูญหายไปเป็นเวลานาน อย่างดาบปีศาจที่เรียกว่ามุรามาสะ”“แต่ตัวดาบนั้นก็สูญหายไปนานแล้ว มันไม่ควรจะอยู่ที่นี่”“นั่นหมายความว่าตระกูลสึจิมิคาโดะในตอนนั้นกำลังทำการทดลองสร้างดาบมุรามาสะเล่มใหม่โดยใช้เลือดและความกระหายสงคราม“แต่วิธีการหลอมดาบนี้ต้องล้มเหลวเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นดาบเล่มนี้คงถูกพรากไปแล้ว ไม่มีทางที่มันจะยังอยู่ที่นี่”“เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้คนจำนวนมากพากันเข้าหาตระกูลลินช์ มีโอกาสสูงที่พวกเขาพยายามจะมาชิงดาบไป”เบนจามินและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อเรื่องปรัมปราเช่นนี้ดวงตาของเบนจามินกระตุกอย่างต่อเนื่อง เขาอุทานเบา ๆ ว่า “น้องยอร์ก เราจะจัดการกับสิ่งนี้อย่างไรดี?”ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ถ้าคนจากประเทศหมู่เกาะรู้เรื่องนี้ ไ
“จัสติน วอล์คเกอร์ประกาศต่อสาธารณะว่าราเชล ฮาร์ดี้ทำเรื่องเหลวไหล และไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหลงเหมินสาขามอร์ดู เขาจะสู้กับราเชลจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง…”“ขุนพลที่ดีที่สุดของจัสติน วอล์คเกอร์จะมุ่งหน้ากลับจากโวลซิ่งมาที่มอร์ดู…”ข่าวสารทุกประเภทกระจายไปทั่ว เห็นได้ชัดว่าหลงเหมินสาขามอร์ดูได้รับการจัดระเบียบใหม่แล้วหลังจากที่ไอเดน บาวเออร์และราเชลผนวกกำลังกันเหลือเพียงจัสตินเท่านั้นที่ต้องมาเก็บกวาดกันในภายหลัง การจะจัดการกับเขามันคงไม่ยากเกินไปเมื่อมีโอกาสที่จะจัดการกับจัสตินลงได้ ทั้งหลงเหมินสาขามอร์ดูคงจะไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านกับฮาร์วีย์ ยอร์กฮาร์วีย์ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดีหลงเหมินที่แสนสูงส่งและทรงพลังในดินแดนอันยิ่งใหญ่อย่างมอร์ดูกลับตกต่ำลงเพียงนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างแท้จริงฮาร์วีย์เชื่อว่าจัสตินจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรขนาดนั้น เขาน่าจะถูกจัดการได้ง่าย ๆหลังจากได้พักผ่อนครู่หนึ่งฮาร์วีย์ก็รู้สึกหิวเล็กน้อย เขาเตรียมจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกแต่เมื่อเขาก้าวออกจากประตูหน้า โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียงของซีนเธียร์ ซิมเมอร์ดังก้องมาจากอีก
ทามารา เอโบนี่ ตัวแข็งเมื่อได้ยินคำพูดของซีนเธียร์ ซิมเมอร์ จากนั้นจึงเลิกแว่นกันแดดขึ้น“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ ในเมื่อเจ้าหญิงต้องการคู่ควงไปกับเธอ งั้นก็พาเขาขึ้นรถมาเถอะ”“แต่ฉันต้องเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะว่า เรากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานบันเทิงที่ดังที่สุดในมอร์ดู ถ้าเขาก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นที่นั่น ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้”อันที่จริงแล้ว ทามาราไม่อยากให้ฮาร์วีย์ไปแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากเธอกลัวว่าซีนเธียร์ ซิมเมอร์จะตามฮาร์วีย์ ยอร์กไป เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาเขาไปด้วยหลังจากได้ยินทามารารับปากว่าจะพาฮาร์วีย์ไปด้วย ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ก็ไปที่ท้ายรถคู่กับฮาร์วีย์ทามาราขมวดคิ้วหลังจากเห็นภาพนั้นแต่หลังจากคิดว่าชายที่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ เฟรเกรนท์ ฮิลล์ ติดตามซีนเธียร์ ซิมเมอร์ไปงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อหาอะไรทาน หลังจากพบเธอเข้าด้วยความบังเอิญ ทามาราก็สงบลงกว่าเดิม'เขาเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การพาเขาไปด้วยก็คงไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร เขาไม่สามารถขวางดาวเด่นของคืนนี้ไปได้”ทามาราเหยียบคันเร่งโดยไม่คิดอะไรอีก และรถก็ขับออกไปพร้อมกับเร่งเครื่องเสียง
“ที่ฉันไม่ปริปาก ก็เพราะซีนเธียร์ ซิมเมอร์อยากพาคุณออกมาดูโลก แต่อย่าสร้างปัญหาก็แล้วกัน!”“หลังจากที่คุณเข้าไปในห้องโถงแล้วก็หาที่นั่งทานอาหารซะนะ ซีนเธียร์ ซิมเมอร์กับฉันคงจะมีคนเข้าหามากมาย เราคงไม่มีเวลาให้คุณหรอก!”“และโปรดรักษากริยาไว้สักหน่อย! ถ้าคุณกินเหมือนหมาล่าเนื้อ คุณจะถูกหัวเราะเยาะเอา!”“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันคงอายแย่!”หลังจากได้ยินคำขู่แสนอวดดีของทามาราเอโบนี่ ฮาร์วีย์ก็กรีดยิ้มไม่เปิดปาก และมีสีหน้าเฉยเมยถ้าไม่ใช่เพราะซีนเธียร์ เขาคงไม่คิดจะมาที่นี่“อ้อ อีกอย่างหนึ่ง นายน้อยโฮลท์อาจจะอยู่ที่นี่ในไม่กี่นาทีนี้แล้ว”“คุณเห็นเขาเข้ามา โปรดรักษาระยะห่างจากซีนเธียร์เอาไว้ด้วย!”“เขาตกหลุมรักซีนเธียร์ตั้งแต่แรกเห็น นั่นเป็นเหตุผลว่าถ้าคุณเข้าใกล้ซีนเธียร์ ซิมเมอร์มากเกินไป เขาอาจจะคลุ้มคลั่งและตวาดใส่คุณเอาได้”“นายน้อยโฮลท์?” ฮาร์วีย์ถามโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็มองไปที่ซีนเธียร์ซีนเธียร์แลบลิ้นเล็ก ๆ น่ารักของเธอ จากนั้นเอ่ยเบา ๆ ว่า “พี่เขย อย่าโกรธฉันเลย นายน้อยคนนั้นชื่อไบรอัน โฮลท์เขามาจากตระกูลชั้นสูงในมอร์ดูเชียวนะ”“เขาบอกฉันว่าเขาตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกเห็น
ทั้งห้องโถงดูค่อนข้างหรูหราแต่ก็ดูทันสมัยไปพร้อม ๆ กัน นี่เป็นสถานที่โปรดสำหรับคนมีชื่อเสียงทั้งหลายจากมอร์ดูสำหรับการเข้าสังคมแต่ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่สนใจคนเหล่านั้นเลย เมื่อเห็นคนดังที่เขาคุ้นหน้าเขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองซ้ำเป็นครั้งที่สอง จากนั้นเขาก็คว้าจานของเขาและเริ่มกินฮาร์วีย์อดอาหารมาทั้งวัน ถือเป็นเรื่องดีที่มีอาหารมื้อใหญ่ที่นี่อยู่ดี นั่นจะช่วยประหยัดเวลาในการออกไปหาอาหารข้างนอกทานได้เยอะเลย"ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?"ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังเคี้ยวสเต็กสามชิ้นอยู่ น้ำเสียงแปลก ๆ ของใครบางคนก็ดังก้องอยู่ข้างหลังฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หันกลับมาและเห็นชายหนุ่มเจ้าสำอางค์สวมสูทลายตารางหมากรุกและแว่นตาขอบทองกำลังจ้อฮาร์วีย์อยู่ฮาร์วีย์ โยนสเต็กที-โบนกลับไปบนจาน จากนั้นก็เช็ดปาก"คุณคือใคร? เรารู้จักกันหรือ?"“คุณกำลังแสร้งทำเป็นไม่รู้หรือ หนุ่มน้อย?”“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่ได้ หลังจากเกาะตระกูลมาโลนกินแล้ว!”อีกฝ่ายเอ่ยปากออกมาอย่างเย็นชา"โอ้ โอ้ โอ้ คุณคือนายน้อยวอล์คเกอร์!”ฮาร์วีย์จำได้แล้วว่าคนหน้านี้คือใคร ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสตีเว่น วอล์คเกอร์นี่เองฮาร์
การกินอาหารและเครื่องดื่มในสถานที่ระดับไฮเอนด์อย่างพาราเมาท์ถือเป็นการกระทำที่น่าอายสำหรับหญิงสาวที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น'ผู้ชายคนนี้มาจากไหน?''เขาเป็นผีหิวโหยกลับชาติมาเกิดหรือไง?'หลังจากนั้นไม่นานก็มีชายวัยกลางคนสวมสูทเดินจากไป เขาดูค่อนข้างสุภาพ แต่มีแววตาดุร้ายเคลือบอยู่ในดวงตาเห็นได้ชัดว่าคนแบบนั้นเคยอยู่ในโลกใต้ดินมาระยะหนึ่งและเพิ่งเกษียณมีนามบัตรอยู่บนหน้าอกของเขา ผู้จัดการห้องรับรอง เลนนี่ ทอมป์สัน ถูกเขียนไว้บนการ์ดเลนนี่เดินไปหาฮาร์วีย์ ยอร์ก จากนั้นจึงกระแทกจานของฮาร์วีย์ลงบนโต๊ะและเอ่ยปากอย่างเย็นชาว่า “คุณครับ บัตรเชิญของคุณอยู่ที่ไหน? หรือบอกผมได้ไหมว่าใครเป็นคนพาคุณมาที่นี่?”"อะไร? ผมต้องใช้บัตรเชิญในงานร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยเหรอ?”“นี่ผมต้องให้คนอื่นเป็นคนพาเข้ามาด้วยงั้นรึ?“ที่นี่คือพระราชวังของจักรพรรดิรึไง?”ฮาร์วีย์เลิกคิ้วขึ้นชั่วขณะ จากนั้นก็คว้าทาร์ตมากินโดยไม่แยแส“ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณขอดูบัตรเชิญของคนอื่นเลย?“คุณเพ่งเล็งผมเป็นพิเศษหรือเปล่า?”เลนนี่พินิจมองฮาร์วีย์ จากนั้นแสดงนัยยะของความดูถูกเมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ของฮาร์วีย์“พาราเมา
หากพวกเขาทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ฮาร์วีย์ ยอร์กก็จะไม่ทำให้เรื่องมันยากสำหรับพวกเขา เขาไม่รังเกียจที่จะบอกถึงตัวตนของเขาให้คนเหล่านั้นฟังแต่เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเลนนี่ ทอมป์สันมาที่นี่เพื่อสตีเว่น บาวเออร์ ฮาร์วีย์จะยอมอยู่เฉยได้อย่างไร?“คุณพูดถึงความกล้าหาญชาญชัยงั้นเหรอ?”“เจ้าหนุ่ม ผมไม่ต้องใช้สิ่งนั้นมาจัดการกับคุณหรอก“แต่พูดถึงว่าทำไมคุณถึงทำแบบนี้?”เลนนี่มองฮาร์วีย์ราวกับว่าเขาเป็นคนเลวที่กู่ไม่กลับ“ในเมื่อคุณเป็นแค่ชนชั้นรากหญ้าที่ไม่ได้อยู่ในวงสังคมชั้นสูงนี้ คุณก็ไม่ควรไปเข้ามาที่โดยไม่ได้รับเชิญสิ!“คุณควรรู้ว่านอกจากจะทำให้ตัวเองต้องขายหน้าด้วยการมาที่นี่ทั้งที่ไม่รู้จุดยืนของตัวเองแล้ว คุณจะไม่ได้อะไรเลย“คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม?“ถ้าคุณเต็มใจจะออกไปจากที่นี่แต่โดยดี ผมจะออกค่าแท็กซี่ให้คุณด้วย“ฉันก็ไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายในพาราเมาท์เหมือนกัน เข้าใจใช่ไหม?”จากนั้นเลนนี่ก็ดึงธนบัตรหนึ่งร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าและกระแทกมันลงบนโต๊ะของฮาร์วีย์“พรวด!”เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังได้ทุกที่หลังจากที่ฝูงชนไม่อาจกลั้นหัวเราะได้“วันนี้เขาต้องโชคดีแน่ ๆ! เข
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข