ฮาร์วีย์จ้องมองไปที่แซมอย่างเฉยเมยและตอบอย่างไร้อารมณ์ว่า “ตกลง ผมจะให้โอกาสคุณสู้กับผม”“ผมจะใช้มือข้างเดียว และถ้าผมเผลอใช้มากกว่าหนึ่งข้าง จะถือว่าผมแพ้ เรื่องนี้จะจบลงทันที”“จองหอง!”การแสดงออกของแซมเย็นชา เขารู้สึกว่าฮาร์วีย์กำลังดูถูกเขา“ในเมื่อนายอยากฆ่าตัวตายนัก ฉันจะทำให้นายสมความปรารถนา!”แซมไม่ให้เวลาอีธานตอบโต้ใด ๆ และทำให้ฮาร์วีย์อับอายขายหน้าในทันทีแม้ว่าคนที่ถูกเรียกว่าเจ้าชายยอร์กจะมีความสามารถมาก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจะทำอะไรได้บ้าง?เขาเอาแต่ยุแหย่แซมครั้งแล้วครั้งเล่า เขามันประมาทจริง ๆ!เฟย์ และคนอื่น ๆ มองฮาร์วีย์ด้วยความสมเพชเจ้าชายยอร์กต้องบ้าไปแล้วแน่!เขาคิดจริง ๆ หรือว่าตัวตนของเขาในฐานะเจ้าชายยอร์กจะสามารถปกป้องเขาได้?อีธานออกมาแล้วและทำให้สถานการณ์ของเขาคลี่คลายลงแล้ว ทว่าฮาร์วีย์กลับไม่รู้วิธีก้าวลงจากสังเวียณ และยังต้องการที่จะต่อสู้กับแซมซึ่งมาจากหน่วยมังกรลับงั้นหรือ?หากสิ่งนี้ไม่คล้ายกับการฆ่าตัวตาย แล้วจะเป็นอะไรได้?ถึงกระนั้น การกระทำของเขาก็ยังเข้าใจได้เซาท์ไลท์มีขนาดเล็กเกินไป สำหรับที่นั่นแล้วฮาร์วีย์ดำรงตำแหน่งสูง เห็
“นี่… นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“ฮาร์วีย์มีทักษะเช่นนั้นได้ยังไง?”“ฉันคิดว่าเขาจองหองเพราะเขามีอีธานเป็นผู้สนับสนุน?!”“เขาจะเอาชนะแซม เบเกอร์ได้ยังไง?!”ปีเตอร์ ลีงุนงง และเขาก็ตระหนักได้ในทันทีฮาร์วีย์ต้องเป็นคนที่เอาชนะ สามเซียนแห่งเทควันโดและแปดราชันย์แห่งสวรรค์ผู้ล่วงลับไปแล้วแน่นอน!ตอนนี้ ปีเตอร์รู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่เขาขอให้วอลเลซ ปาร์คนักเทควันโดอันดับหนึ่งมาช่วยไม่อย่างนั้นเขามองไม่เห็นว่าเขาจะขัดขวางฮาร์วีย์ได้อย่างไร!แต่เมื่อวอลเลซไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาในขณะนี้ เขาจึงถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัวหางตาของเฟย์กระตุก เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นแซมเองก็งุนงงไปหมดในตอนแรกเขาตั้งใจจะกำจัดฮาร์วีย์ด้วยหมัดเดียวทว่าในพริบตา เขาก็ล้มลงบนพื้นเสียอย่างนั้นอีธานถอนหายใจ สีหน้าของเขาค่อนข้างดูแปลกแซม เบเกอร์พยายามฆ่าตัวตายจริง ๆถ้าแซมถอยไปตั้งแต่แรกเขาคงไม่ลงเอยแบบนี้“ยอร์ก! ฉันแซม เบเกอร์ จากตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโก! ฉันคือผู้บัญชาการของหน่วยมังกรลับ!”“ถ้านายทำกับฉันแบบนี้ ไม่ว่าใครจะสนับสนุนนายอยู่ก็ไม่สำคัญ! นายจะต้องแหลกสลายอย่างแน่นอน!”แซมที่ได้ร
ในลานบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งสตาร์แชโบลใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราว...วอลเลซ พาร์ค นักเทควันโดอันดับหนึ่ง นั่งหลับตาอยู่บนเบาะรองขณะที่ตั้งใจฟังคำพูดของปีเตอร์แม้ว่าสีของปีเตอร์จะดูไม่ดี แต่เขาก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ในการนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ทักเกิดขึ้นในตอนที่เขาเล่าเรื่องราวให้วอลเลซฟังปีเตอร์ไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องที่ตัวเองไม่แน่ใจต่อหน้าวอลเลซ เขาไม่ใช้อารมณ์และพูดไปตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่เท่านั้นวอลเลซซึ่งนั่งไขว่ห้างนิ่งราวกับรูปสลัก เขาเงียบเชียบ ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวขณะที่ความอดทนของปีเตอร์กำลังจะหมดลง ในที่สุดวอลเลซก็ลืมตาขึ้น เขาหรี่ตาลงขณะเอ่ยถาม “คุณกำลังจะหมายความว่าฮาร์วีย์ ยอร์กหรือเจ้าชายยอร์กไม่มีคนหนุนหลังงั้นรึ?”"ใช่ครับ และผมก็คิดว่าสามเซียนแห่งเทควันโดที่รอย การ์ฟิลด์พามานั้นก็พ่ายแพ้ให้กับเขา”ปีเตอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พูดต่อไป“มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเช่นนั้น น่าเสียดายที่ศพถูกทำลายไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นผมอาจตรวจพบอะไรบางอย่าง…”“เขาเป็นแค่เด็กเหลือขอที่เพิ่งจะได้ลืมตาดูโลก ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่น่าเกรงขามขนาดนั้นหรอก”“ถ้าเขาแข็งแก
แมทธิวยิ้ม “ผมไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับแซม เบเกอร์ แถมตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโกเองก็ไม่ต้องการสืบสาวราวเรื่องอะไรอีกต่อไป หน่วยมังกรลับเองก็ค่อนข้างมีน้ำใจ พวกเขาไม่อยากให้ผมกังวลเรื่องแซม”“แล้วฮาร์วีย์ ยอร์กล่ะ?”ลูคัสถามยิ้ม ๆแมทธิวเอื้อมมือไปลูบคิ้ว “ผมคงต้องยอมรับว่าเจ้าชายยอร์กมีความสามารถมากทีเดียว”“กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราส่วนใหญ่ใช้ไม่ได้ผลกับเขาในตอนนี้”“กว่าจะฆ่าเขาได้ เขาคงหืดขึ้นคอเลยล่ะ”ดวงตาของแมทธิวฉายแววทีเล่นทีจริงฮาร์วีย์ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ทำลายแผนการทั้งหมดของแมทธิว แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้แมทธิวปวดหัวเล็กน้อย แต่มันก็กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับฮาร์วีย์ในตัวของแมทธิวด้วย“ไอ้ส*รเลวนั่นมีแต่เรื่องให้ประหลาดใจ แม้แต่คนอย่างควินตัน ยอร์กก็ยังต่อต้านเขา นั่นก็ถือว่ามากเกินพอแล้วสำหรับการแสดงให้เราเห็นความสามารถของเขา” ลูคัสพูดอย่างใจเย็น“เขามีทักษะที่ไร้ที่ติ เขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้ตระกูลจัดด์เป็นผู้สนับสนุนของเขาได้ แม้แต่อีธาน ฮันต์ก็ยังสนับสนุนและเชื่อฟังเขา และนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็คงนึกภาพไม่ออก!”“อย่าลืมสิ นอกจ
“หากมีเคยข้อตกลงร่วมกันกับสตาร์แชโบล พวกเขาก็จะยุติความสัมพันธ์นั้น”“หากไม่เคยมีก็จะถูกคว่ำบาตรเช่นกัน”“ถ้าเป็นคนของรัฐบาล ไม่สำคัญว่าจะอยู่ในลำดับชั้นไหน หากมีคนที่สนับสนุนฮาร์วีย์ยอร์กแม้แต่คนเดียว สาขาในประเทศ H อันเกรียงไกรของสตาร์ แชโบล จะเพิกถอนการลงทุนทั้งหมดทันที!”“พวกเขายังขึ้นบัญชีดำคนในประเทศและบริษัทต่างชาติอีกด้วย!”“คนธรรมดาที่กล้าฝ่าฝืนจะต้องตกงานชนิดที่ว่าจะหางานไม่ได้ไปถึงชาติหน้า!”แมทธิวยิ้มกว้าง “ผมคิดว่าเราเป็นคนเดียวที่เกลียดเจ้าชายยอร์กซะอีก ดูเหมือนว่าปีเตอร์ ลีจะเป็นคนที่อยากให้หมอนั่นตายมากที่สุด!”ลูคัสยิ้มดวงตาเป็นประกาย “อย่างที่คิดเลย ลูกชายทั้งสองคนของปีเตอร์ ลีเสียชีวิตด้วยน้ำมือของฮาร์วีย์เพราะเหตุสุดวิสัย”“ปีเตอร์ ลีเป็นที่รู้จักในฐานะราชาใต้ดินในมณฑลทางตอนเหนือ คนอย่างเขาเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้วล่ะก็จะเขาต้องไม่พลาดแน่นอน”“เจ้าชายยอร์กผู้สูงศักดิ์ของเรากับสกาย คอร์ปอเรชั่นของเขาคงจะล่มสลายไปในไม่ช้า!”ลูคัสและปีเตอร์อยู่ในแวดวงสังคมเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเคยพบกันมาก่อนบ้างลูคัสรู้ว่าตัวแทนลีที่มีรูปร่างไม่สูง หุ่นท้วมและดูเป็นมิตรนั้นแท้
เวลา 5 โมงเย็น…บัควู้ดตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทุกหัวระแหงฮาร์วีย์ ยอร์ก คือเจ้าชาย ยอร์ก!ทุกคนไม่รู้ว่าฮาร์วีย์คือใคร แต่พวกเขารู้ว่าเจ้าชายยอร์กคือใครเจ้าชายยอร์กแห่งสกายคอร์ปอเรชั่น จุดยอดสุดแห่งเซาท์ไลท์และบุรุษหมายเลขหนึ่งของบัควู้ด!แต่ฮาร์วีย์คือใคร?ลูกเขยคนสำคัญของตระกูลซิมเมอร์ สัญลักษณ์ของแมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน!ตามข่าวลือกล่าวว่าสาเหตุที่ฮาร์วีย์สามารถก่อตั้ง สกาย คอร์ปอเรชั่น และกลายเป็นเจ้าชายแห่งยุคได้ ก็เพราะเขาใช้ประโยชน์จากสายสัมพันธ์ของตระกูลซิมเมอร์ และสูบเลือดสูบเนื้อตระกูลซิมเมอร์จนหมดตัว!”พอมีข่าวออกมาทุกคนก็ค่อนข้างเกิดคำถามในไม่ช้า สตาร์ แชโบลเป็นเจ้าแรกที่ออกมาโพนทะนาให้สาธารณชนล่วงรู้ตัวตนที่สะพรึงของฮาร์วีย์ โดยกล่าวหาว่าเขาร่วมมือกับชาวต่างชาติและกำจัดตระกูลยอร์กแห่งเซาท์ไลท์ เพราะกระหายในอำนาจและเงินทอง เขาเหยียบย่ำบรรพบุรุษชาวยอร์กเพื่อก่อตั้งสกาย คอร์ปอเรชั่นสตาร์ แชโบลรังเกียจที่จะต้องร่วมมือกับบริษัทเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจคว่ำบาตรสกาย คอร์ปอเรชั่นเสียใครก็ตามถือหางฮาร์วีย์ในวันที่สกาย คอร์ปอเรชั่นเข้าตลาด
ความเงียบงันก่อตัวขึ้นในห้องนั่งเล่นสีหน้าของแมนดี้ยากเกินจะคาดเดา ในขณะที่สีหน้าของซีนเธียร์ดูแปลกไป เธอดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่พูดสายตาของไซม่อนที่มีต่อฮาร์วีย์นั้นซับซ้อนจนไม่อาจเข้าใจได้สำหรับลิเลียน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ความโลภ และความหวั่นเกรงเล็ก ๆ ควินน์และผู้อาวุโสซิมเมอร์กำลังมองฮาร์วีย์อย่างพินิจพิเคราะห์ มีทั้งความหวาดกลัวและความเกลียดชังในดวงตาของพวกเขา แต่ก็มีความโลภปนเปอยู่ไม่น้อยเช่นกันฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่ฝูงชน “ผู้อาวุโสคุณยังไม่ตายนี่ วันนี้มีเวลามาที่บ้านของเราได้ยังไง”แกร๊ง!ผู้อาวุโสซิมเมอร์หยิบถ้วยชาขึ้นมาและทุ่มมันลงพื้น ใบหน้าของเขาบูดบึ้ง“ฮาร์วีย์ แกกล้าดียังไง?!”“ใช้ทรัพย์สมบัติและเส้นสายของตระกูลซิมเมอร์ แอบชักใยพวกเขาเพื่อก่อตั้งสกาย คอร์ปอเรชั่น!”“แถมแกยังกล้าโพนทะนาว่าตัวเองคือเจ้าชายยอร์กอีก!”“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าชายฌองเปิดโปงแก แกคิดจะปิดบังเราไปอีกนานแค่ไหน?!”"ฉันเตือนแกไว้เลย! แกต้องให้คำอธิบายเรื่องนี้กับเรา!”“ถ้าแกไม่ส่งยกหุ้นของสกาย คอร์ปอเรชั่นมาให้เรา เราจะได้เห็นดีกัน!”ฮาร์วีย์หัวเราะกั
ลิเลียนจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความคาดหวังที่พวกเขากำลังพูดถึงไม่ใช่เงินหนึ่งพันเหรียญแต่เป็นสินทรัพย์นับแสนล้าน!หากเธอสามารถครอบครองมันได้ เธอก็ไม่ต้องกลัวว่าชาตินี้จะอดตาย!เมื่อนึกถึงชีวิตหรูหราที่รออยู่เบื้องหน้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแต่คำพูดของเธอทำให้ไซม่อนตะลึงงัน เขาพยายามพูดให้เธอเลิกสนใจเรื่องนี้ “หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของฮาร์วีย์…”เพี๊ยะ!ลิเลียนตบไซม่อนทันทีและตวาดลั่น “ทรัพย์สินของฮาร์วีย์เหรอ?! เขาใช้ทรัพสินย์และเส้นสายของซิมเมอร์เพื่อให้ได้เงินทองพวกนั้นมา! แน่นอนว่าพวกมันเป็นของคนในตระกูลซิมเมอร์!”“ฉันไม่ได้บอกให้เขายกทุกอย่างให้เรา ฉันแค่บอกว่าฉันจะเก็บไว้ให้เขาเพื่อตัวเขาเอง! ฉันก็ไว้หน้าเขาแล้วนี่!”“แล้วนี่คุณยังมาออกตัวแทนเขาอยู่อีกเหรอ?”"ฉันเข้าใจแล้ว คุณคงช่วยเขาโอนทรัพย์สินด้วยใช่ไหม?!”ไซม่อนทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นคนที่สุขุมที่สุดในนั้น เขารู้ดีว่าทรัพย์สินของตระกูลซิมเมอร์ไม่มีทางมีมูลค่าถึงแสนล้านเหรียญได้การหวังจะฮุบทรัพย์สินทั้งหมดของสกาย คอร์ปอเรชั่นจากฮาร์วีย์จะไม่ใช่เรื่องไร้ยางอายเกินไปหรือ?อาวุโสซิมเมอร์
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข