ชายในชุดสีสว่างรีบวิ่งตรงมาทางนี้ เขามีบอดี้การ์ดส่วนตัวหลายคนคอยปกป้องเดินตามเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายผู้เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์แห่งประเทศ J สตีฟ ลี นั่นเอง“ประธานลีครับ! ประธานลี!”บร็อกที่ยังนอนกองอยู่กับพื้นแทบจะกระโดดเหยง ๆ ขึ้นมาพอเห็นอีกฝ่าย“ท่านมาจริง ๆ ด้วยครับ ท่านประธานลี!”“ท่านต้องให้ความยุติธรรมกับผมนะครับ!”“ไอ้เขยขยะแต่งเข้าบ้านคนนั้นมาสร้างความวุ่นวายที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว เขาพูดอะไรสักอย่างว่าท่านย้ายทรัพย์สินทุกอย่างในแผนกธุรกิจของเซาท์ไลท์ให้มันไปแล้ว!”“ท่านต้องบอกผมนะครับ! มันโกหกใช่ไหม?!”“สตาร์ แชโบลทรงพลังมากจะตายไป! พวกเราไม่กลัวคนจากประเทศ H หรอก!”“เร็วสิครับท่านประธานลี! บดขยี้ไอ้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียคนนี้ที! หักขามันเลย!”บร็อกพ่นวาจาอย่างเกรี้ยวกราดขณะชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยิ่งยโสเขายังปฏิเสธความจริงเรื่องพลังและสถานะของฮาร์วีย์อยู่เขาหวังว่าเจ้านายของเขา สตีฟ ลี ชายผู้มีสถานะสูงเป็นพิเศษจะเหยียบย่ำฮาร์วีย์ให้ตายได้แต่สตีฟกลับรีบเดินไปทางฮาร์วีย์ด้วยตัวสั่น ๆ เรียกได้ว่าสั่นมากจนสตีฟแทบจะล้ม เขาเ
ดวงตาของสตีฟกระตุก ใบหน้าของเขาถอดสีจนหมดแต่หากไม่มีคำสั่งของฮาร์วีย์ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาหลังจากคุกเข่าลงไปเมื่อคืนนั้น ความกล้าของเขาก็สูญสิ้นไปหมด เขาไม่กล้าจะต่อกรกับฮาร์วีย์อีกต่อไปเขาไม่กล้าแม้แต่จะติดต่อกับปีเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาทำได้แค่เตรียมการย้ายทรัพย์สินทุกกระบวนการให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้“พอแล้ว ถ้าผมไม่อนุญาต เขาจะไม่มีสิทธิ์พูดแม้แต่น้อย” ฮาร์วีย์กล่าวขณะยิ้มจาง ๆ “ตอนแรก คุณใช้การทำสัญญาเป็นการหลอกล่อให้ภรรยาผมดื่มเหล้า คุณเอาแต่บังคับให้เธอดื่ม พูดซ้ำไปซ้ำมา จนคนอื่นเขารู้กันหมดแล้วว่าคุณกำลังทำอะไร”“แล้ววันนี้ คุณยังเอาแต่ยั่วโมโหผมซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่มีเหตุผลอีก ผมอยากจะไล่คุณออกเพื่อลดปัญหาของพวกเราเหลือเกิน”“ทำไมคุณถึงชอบทำตัวน่าโมโหขนาดนี้นะ?”“สตีฟ ทุกคนจากประเทศ J เขาไม่รู้เรื่องรู้ราวเหมือนหมอนี่กันหมดเลยหรือเปล่า หรือเพราะคุณไม่ได้สอนสุนัขของตัวเองให้มีมารยาท?”“ถูกเจ้าหมอนี่เห่าใส่ตลอดทำให้ผมรำคาญเป็นอย่างมากเลยล่ะ”สตีฟตัวสั่นพอได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ เขาตอบกลับขณะสั่นไปทั้งตัวที่ใส่รองเท้าบู๊ต “ซีอีโอยอร์กครับ ผมไม่ได้สั่งส
อาเวลหยิบกล่องไม้โบราณจากมือหนึ่งในลูกน้องของเขาขึ้นมา เขาเปิดมันต่อหน้าฮาร์วีย์ ข้างในกล่องมีอัญมณีสีแดงดุจเลือดอยู่เม็ดหนึ่งอัญมณีนั้นเป็นสีแดงก่ำ แต่มีริ้วเข้มข้างใน ดูมีค่าพอสมควร“ซีอีโอยอร์กครับ อัญมณีเม็ดนี้คืออัญมณีของแม่ทัพในตำนาน ว่ากันว่าแม่ทัพโบราณถูกฝังไปพร้อมกับอัญมณีเม็ดงามเม็ดนี้ครับ”“ผมได้ยินมาจากตาแก่ว่าคุณเชี่ยวชาญด้านการประเมินค่าวัตถุโบราณ ผมก็เลยเอาของขวัญชิ้นนี้มาให้คุณครับ ถือว่าเป็นคำอวยพรเล็ก ๆ จากผม”ฮาร์วีย์ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบอัญมณีเลย แต่กลับจ้องมันอยู่ชั่วขณะใหญ่“คุณเสียเงินให้เจ้านี่ไปมากเท่าไหร่?”อาเวลยิ้มแล้วตอบกลับมา “ก็ไม่มากครับ ราคาประมาณ 1.5 ล้าน เงินขี้ประติ๋วมาก”“1.5 ล้านเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างสงบนิ่ง“ขอบคุณพระเจ้าที่ผมรู้ว่าคุณเป็นเจ้านายกลุ่มนักเลงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจจริง ๆ ของตระกูลไนส์เวลล์”“ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมอาจจะบีบคอคุณจนตายไปพร้อมกับทั้งครอบครัวคุณเลยก็ได้”อาเวลถึงกับช็อก“ซีอีโอยอร์ก ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ?”“ผมซื้ออัญมณีนี้มาจากร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ที่เพิ่งเปิดใหม่นะครับ! ร้านที่หนึ่งใ
ณ เวลาสิบโมงเช้า ฮาร์วีย์และอาเวลปรากฏตัวที่เขตขายวัตถุโบราณของบัควู้ดฮาร์วีย์มาเพื่อสังเกตการณ์ความสนุกสนานและเพื่อมาดูว่าใครคือเจ้าของร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์กันแน่ รวมถึงมาดูว่าพวกเขาไปเอาความกล้าจากไหนที่มาเล็งเขาเป็นเป้าหมายถ้าสมมุติว่าร้านขายของเก่าตระกูลฟลินน์เป็นธุรกิจของพวกคนตระกูลลีโอจากฮ่องกง เขาก็พอจะเข้าใจได้แต่เขาไม่เคยเจอใครจากตระกูลฟลินน์มาก่อนเลย เขาเลยไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงลงทุนทำอะไรแบบนี้ไม่นานนัก คนหลายคนก็มารุมล้อมหน้าทางเข้าร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์นักเลงคนที่ยืนอยู่หน้าสุดถีบประตูพัง จากนั้นกลุ่มนักเลงคนอื่น ๆ ก็เดินดาหน้าเข้าไป ทุกคนต่างมีสายตาอาฆาตแค้นลูกค้าในร้านกลัวจนตัวสั่น พวกเขารีบถอยหลังกลับไปเพื่อหลีกทางให้“พวกคุณเป็นใคร? จะมาทำอะไรกัน?”พนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในร้านทำท่าราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูอันตราย รปภ.บางคนเริ่มหยิบกระบองไฟฟ้าออกมากวัดแกว่งไล่พวกนักเลงแล้วอาเวลเดินตึง ๆ เข้ามาในร้านแล้วเตะแจกันโบราณทิ้ง เขาคำราม “ดาร์เรน ฟลินน์! โผล่หัวออกมาที่นี่ เดี๋ยวนี้!”ฮาร์วีย์เดินตามอาเวลไปอย่าง
ถ้าไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์ค้นพบความจริงเรื่องอัญมณีปลอมแล้วล่ะก็ เหตุการณ์มันจะออกมาเลวร้ายมากทำไมดาร์เรนยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปได้อีกล่ะพวกเขาต่างก็เป็นนักเลง แกล้งทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์สารกัมมันตรังสีซึ่งสกัดด้วยวิธีไฮเทคที่แอบซ่อนอยู่ในอัญมณีสีเลือดราคาแพงอย่างนั้นเหรอ?ถ้าผลออกมาว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของตระกูลฟลินน์แล้วล่ะก็ อาเวลยอมตัดหัวตัวเองเลย!อาเวลจ้องไปทางดาร์เรนด้วยสายตาเย็นชา “ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง ดาร์เรน ยอมรับมาว่าแกทำอะไรลงไป แล้วฉันจะปล่อยให้แกรอดชีวิต”“ถ้าแกรอให้ฉันเล่าความผิดแกให้ฟังล่ะก็ แกจะไม่มีโอกาสได้เปิดร้านอีกต่อไป คนอื่นนี่แหละที่ต้องมาเปิดฝาโลงแก!”สีหน้าหดหู่แวบขึ้นมาบนใบหน้าของดาร์เรนครู่หนึ่ง แต่เขารีบสลัดมันทิ้งไป เขาหัวเราะเบา ๆ “ผมไม่รู้จริง ๆ ครับว่าผมทำอะไรผิดไป ช่วยบอกผมที!”ก็เป็นปกติ ที่จะมีบางสิ่งที่ดาร์เรนไม่กล้ายอมรับอาเวลเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาพลางโบกมือ ลูกน้องคนหนึ่งของเขาหยิบกระเป๋าใบหนึ่งขึ้นมาวางบนเคาน์เตอร์แล้วเปิดมันออกอัญมณีสีเลือดที่แตกกระจายและสารกัมมันตรังสีก็อยู่ข้างในกระเป๋าใบนั้นลูกค้าที่ต่างสงสัยเรื่องว่าเ
ของปลอมในวงการวัตถุโบราณแทบจะไม่มีความหมายอะไร ในเมื่อทุกคนต่างก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ต่อให้พวกเขาถูกหลอก พวกเขาก็จะปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยการเสียเงินเปล่าไปในสายงานนี้หมายความว่าคน ๆ นั้นยังเก่งไม่มากพอ แทบจะโทษคนอื่น ๆ ไม่ได้เลยแต่การซ่อนสารกัมมันตรังสีไปทำร้ายคนอื่นนี่มีค่าเท่ากับการดีดตัวเองออกนอกวงการดวงตาของดาร์เรนกระตุก รอยยิ้มฝืน ๆ ฉายขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ดั่งอัญมณีสีขาว“นายน้อยไนส์เวลล์ครับ ต้องมีข้อผิดพลาดบางอย่างแน่นอน! ผมเป็นคนที่นำเจ้าอัญมณีนี้มาที่นี่เอง ผมถึงกับประเมินอัญมณีเองด้วยซ้ำ เพราะมันมีลักษณะพื้นผิวที่ดีมาก ถ้าหากมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะก็ ผมไม่มีทางขายมันให้คุณแน่นอน…”“เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที!”อาเวลพูดตัดบทดาร์เรนในทันควัน“พวกเราที่นี่ก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เข้าประเด็นเลยดีกว่า ในเมื่อแกพยายามจะพิสูจน์ว่าแกไม่ได้มีจุดประสงค์มุ่งร้าย งั้นก็ได้ กลืนเจ้านี่ลงไปให้หมดสิ นอกจากฉันจะเชื่อแกแล้ว ฉันจะยอมคุกเข่าขอโทษแกด้วย! ฉันจะยอมให้ร้านวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์เทคโอเวอร์ตลาดวัตถุโบราณทั้งหมดของบัควู้ดไปได้เลย!”“แต่ถ้า
ชื่อที่พูดออกมาทำให้ฮาร์วีย์สับสนเฟย์ ก็อดดาร์ดเป็นบุคคลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในฮ่องกง อันที่จริง ทั้งในสังคมของประเทศจีนเลยต่างหากว่ากันว่าเธอเป็นคนที่เจ้าแผนการอย่างถึงที่สุด ช่วงที่เธอยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เธอได้พบกับเศรษฐีวัย 80 บนเครื่องบินชั้นเฟิสต์คลาสจากนั้นเธอก็แต่งงานเข้าตระกูลเศรษฐีคนนั้นตั้งแต่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ พอเธอเรียนจบ สามีวัย 80 ปีของเธอก็เสียชีวิตลง ส่งผลให้ทรัพย์สินจำนวนมากของเขาส่งต่อมาถึงมือเธอในกลุ่มสังคมวงในของชนชั้นปกครองที่ฮ่องกง เฟย์มีฉายาว่า ‘แม่ม่ายดำ’แม้ว่าเธอจะมีเล่ห์กลหรือแรงจูงใจก็ตาม แต่เธอก็มีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา เธอใช้ชีวิตที่สมบูรณ์อู้ฟู่อยู่ในฮ่องกง ลาสเวกัส และเซาท์ไลท์ ใบหน้าของเธอปรากฏบนนิตยสารเช่นกันไม่มีใครคิดว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ฮาร์วีย์เลิกคิ้วเมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอาเวลเฟย์มีชื่อเสียงพอตัวด้านการประเมินคุณภาพวัตถุโบราณ และฉายาของเธอก็ฟังดูน่ากลัวใช้ได้ ตระกูลไนส์เวลล์ย่อมไม่อยากไปทำให้คนอย่างเธอโกรธแน่แต่เธอกลับมากล่าวถือหางเข้าข้างร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์
เฟย์ส่งรอยยิ้มหยอกล้อให้อาเวล“เอาล่ะ ฉันจะเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน นายเคยได้ยินหรือนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง ใช่ไหมล่ะ?”“ต่อให้ไม่เคย ก็ต้องเคยได้ยินเรื่องตระกูลใหญ่ทั้งสี่ในฮ่องกงมาบ้างแหละเนอะ?”เฟย์ทำสีหน้าของคนมั่นใจว่าตัวเองกำลังชนะ“ตระกูลใหญ่ทั้งสี่น่ะมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกัน คุณหนูทั้งสี่แห่งฮ่องกงก็สนิทกันเหมือนพี่น้องเลยล่ะ!”“นายต้องเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอยู่แล้วสิ”สีหน้าของกลุ่มคนที่ฟังอยู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้นฮ่องกงไม่ใช่สถานที่ที่ความเจริญห่างจากบัควู้ดมาก มันเป็นเมืองใหญ่นานาชาติที่อยู่ในระดับเดียวกับโวลซิ่งและมอร์ดูที่ฮ่องกง ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ยืนอยู่จุดสูงสุดของเมืองข่าวลือว่ากันว่า แม้ในแต่ละตระกูลจะมีปากเสียงกัน แต่ถ้าหากเกิดศึกเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมจะร่วมมือกันได้ทุกเมื่อตระกูลใหญ่ตระกูลเดียวอาจจะไม่น่ากลัวมากแต่ถ้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลของฮ่องกงรวมพลังกัน ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่สิบตระกูลในประเทศ H ก็ต้องกลัวสำหรับเมืองอย่างบัควู้ดที่อยู่ใกล้กับฮ่องกงแล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกงรวมกันนั้นเป็นอะไรที่มหาศาลมากตอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข