ฮาร์วีย์พยักหน้า“คุณบ้าบิ่นดีนะ แต่คุณใช้มันผิดที่”"อะไรของนาย?"“นายบ้าหรือเปล่า?”“นี่นายท้าทายฉันเหรอ?”แคมยิ้มเย้ยหยัน“ฮาร์วีย์ นายเป็นแค่ที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด เป็นสุนัขที่โยเอลเลี้ยงไว้!”“บางทีสิทธิพิเศษของนายอาจทำให้นายไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง พวกเขาคงทำให้นายคิดว่าตัวเองจะท้าทายฉันได้”“เรียกว่าไร้เดียงสาหรือลืมตัวดีล่ะ?”จากนั้นแคมก็ชี้ไปที่ตำรวจทั้งหมดที่นอนอยู่บนพื้น"ฉันต้องของเตือนไว้ก่อนว่าวันนี้ไม่ใชแค่นายที่จะกองลงไปกับพื้น แต่คนพวกนี้จะได้รับบาดเจ็บไปด้วย!”“ให้ฉันนับจำนวนข้อหาทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่ให้ก่อนแล้วกัน แค่นี้น่าจะเพียงพอสำหรับนายที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่หลังคุกแล้วล่ะ!”แคมเพิ่งคิดเรื่องนี้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะพบว่าความคิดนั้นไม่เลวเลยมันคงเป็นน่าขันไม่น้อย ถ้าให้ฮาร์วีย์เป็นแพะรับบาปคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่ของแคมไม่ต้องนึกถึงแผนการที่แยบยลอะไรด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเขาเพียงอย่างเดียว คนนับพันก็ยินดีที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายฮาร์วีย์กังวล แคมทำราวกับกำลังเล่นเกมแมวจับหนูมาร์คัสเคยเห็นเรื่องแบบนี้มานักต่อนักแล้ว แม้ในขณะที่เขาร่วมกับฮาร์
“คนที่ผมไม่มีทางเอาชนะได้น่ะเหรอ!?”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ฟาดเข้าที่แผ่นหลังของแคม แล้วตบเขาอีกครั้งด้วยหลังมือของตัวเองเสียงตบดังราวกับฟ้าคำรามภายห้องซ้อมที่ว่างเปล่า“ผมชนะคุณแล้วนี่ไง คุณจะทำยังไงล่ะ?”การตบทำให้เกิดรอยฝ่ามือสองข้างบนใบหน้าของแคมแต่ฮาร์วีย์ไม่คิดจะหยุด เขาเหวี่ยงมือไปที่หน้าแคมอีกสองครั้ง"คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?"“คุณขู่ผมเหรอ?”“ในสายตาของผม คุณก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขจรจัดหรอก ยิ่งบริษัทสตาร์ แชโบลของคุณยิ่งแล้วใหญ่!”“คุณเชื่อจริง ๆ เหรอว่าสตาร์ แชโบลจะกล้าลงมือ แม้ว่าฉันจะหักคอคุณทิ้ง”ฮาร์วีย์เหวี่ยงมือของเขาออกไปหลังจากที่เขาพูด ส่งให้แคมลอยไปไกลอีกฟากของห้องซ้อมแคมลอยผ่านอุปกรณ์กีฬาหลายประเภทไป สภาพโดยรอบยุ่งเหยิงมากทีเดียวการตบที่รุนแรงของฮาร์วีย์ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างแม้แต่บอดี้การ์ดที่ควรจะปกป้องแคมก็ยังป้องกันไม่ทันพวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยซ้ำ!แคม ลีคือใคร?รองตัวแทนของสตาร์ แชโบลในประเทศHเชียวนะ !พ่อของเขาไม่ใช่ใครที่ไหน ทว่าเป็นตัวแทนของสตาร์ แชโบลในประเทศ! พวกเขาทรงพลังและมีอิทธิพลอย่างมาก!แม้ว่าฮาร์วีย์จะเป็นที่ปรึกษาข
สายดำเทควันโดนั้นนับว่าแข็งแกร่งอย่างแท้จริงเมื่อเห็นปฏิกิริยาของแคม บรรดาลูกสมุนของเขาก็เริ่มให้กำลังใจและชมเชยเขาไม่รู้จบ“ฮาร์วีย์ ยังเร็วไปถ้าแกจะคุกเข่า!”“วันนี้แม้แต่โยเอลหรือยานนิคก็ช่วยแกไม่ได้!”“ถ้าไม่มีเจ้าสองคนนี้อยู่ข้างหลัง แกมันก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาเมื่อเทียบกับรองผู้แทนของเรา!”“แกคงรับการโจมตีจากเขาไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวแน่! รองผู้แทนแคมเป็นสายดำเชียวนะ! เตะเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้คอแกหักได้!”“เมื่อพูดถึงการฆ่า เทควันโดเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในโลก! คนอย่างแกไม่มีทางเข้าใจ”'ศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดสำหรับการฆ่างั้นเหรอ?'ฮาร์วีย์ยิ้มเยาะเย้ย จากสิ่งที่เขารู้ เทควันโดเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ห่วยที่สุด จากบรรดาศิลปะการต่อสู้ที่เขารู้จักไม่ต้องพูดถึงมวยไทยเลย หากมีคนฝึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานเทควันโดก็ถูกโค่นได้โดยง่ายแต่แคมไม่ได้คิดเช่นนั้น สายดำที่เขาได้รับ มอบความกล้าหาญให้เขาอย่างมาก เขาเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยท่าทางเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามและไม่แยแส“ฮาร์วีย์ ยอร์ก ฉันคิดเสมอว่าฉันหยิ่งผยองและหุนหันพลันแล่น แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแกจะเ
โดมินิกไม่สามารถยอมรับความจริงที่อยู่ตรงหน้าได้ลูกสมุนของแคมก็รับไม่ได้เช่นกัน!แม้แต่มาร์คัสที่มากับฮาร์วีย์ก็พบว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันเหลือเชื่อ!แคมตัวสั่นด้วยความโกรธเขาต้องการที่จะลงมือเองและสับฮาร์วีย์ให้เละเป็นโจ๊ก แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์จะตบเขารุนแรงอย่างนี้ศักดิ์ศรีของเขาถูกเหยียบย่ำ!แคมเป็นทุกข์และอารมณ์เสีย เขาจ้องมองฮาร์วีย์และร้องออกมาอย่างเดือดดาล “แกลอบกัดฉันอีกแล้วเหรอ!”“หน้าด้าน!”โดมินิกและคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากได้ยินว่าเป็นการลอบโจมตี ทำท่าราวกับว่าพวกเขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น‘ไม่แปลกใจเลยที่แคมจะโดนแบบนั้น! ไอ้สารเลวฮาร์วีย์มันลอบกัด!’ในการต่อสู้จริง ๆ นั้น การโจมตีแบบนั้นช่างไร้ยางอายเสียจริง!“เพี๊ยะ!”แต่ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มดูถูกฮาร์วีย์อีกหน ฮาร์วีย์ก็เดินหน้าตบหน้าเขาอย่างแรงอีกครั้ง“เพี๊ยะ!”รูปลักษณ์ที่เข้มงวดและดุร้ายของแคมหายไปเมื่อเขาถูกตบจนปลิวไปอีกครั้ง เขาทรุดตัวลงบนพื้นห่างออกไปราว 20 ฟุต เขาทิ้งรอยไว้บนพื้นและอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช“ลอบกัดงั้นเหรอ?”“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นกับคนอย่างคุณด้วย”“คุณสมควรได้รับส
"แกมันเลว! กล้าดียังไงมาแตะตัวฉัน! ฉันจะไม่ยอมแพ้แกหรอก! สตาร์ แชโบลจะไม่มีวันปล่อยให้แกรอดไปได้!”แคมกำลังเดือดดาลด้วยความโกรธที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตัวแทนของสตาร์ แชโบลถึงกับร้องลั่น! เขาไม่เคยต่ำต้อยขนาดนี้มาก่อน!น่าอับอาย เขารู้สึกราวกับถูกปล้นฮาร์วีย์ย่อตัวลงและถามอย่างใจเย็นว่า “ทำได้เหรอ?”“ฮาร์วีย์! แกมันส*รเลว!"“อยากฆ่าฉันก็เอาเลยสิ!” แคมอุทานออกมาอย่างเดือดดาลเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงการดูถูกเหยียดหยามของฮาร์วีย์"ฆ่าคุณเหรอ? ทำไมผมทำอย่างนั้น?”“ฉันมาที่นี่เพื่อให้คุณใช้หนี้ ไม่ได้มาเอาชีวิตคุณ”“ในสายตาของผม คุณควรมีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้สิ่งที่ตัวเองทำ แทนที่จะหนีความผิดด้วยการตาย ฟังดูเข้าท่าดีใช่ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้ม“คุณชนเข้ากับรถของภรรยาผม คงเพราะคุณไม่รู้วิธีใช้เบรคของรถ เพราะงั้นผมจะหักขาคุณเป็นบทเรียน ฟังดูเข้าท่าใช่ไหม?”“ฮาร์วีย์ พอเถอะ!”โดมินิกไม่สามารถทนเห็นภาพนี้ได้อีกต่อไปเขาไม่สามารถทนดูแคมขาหักได้หากเป็นเช่นนั้น ไม่มีทางที่แคมจะทนรับผลที่ตามมาได้ แม้ว่าเขาจะต้องฝืนทนรับผิดก็ตามโดมินิกก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลใด ๆ เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์และคำราม “พอแล้ว
“คุณควรหยุดสิ่งที่คุณกำลังทำ! กราบขอโทษรองผู้แทน ฟังคำสั่งของเขา แล้วใช้หนี้ด้วยการส่งภรรยาของคุณไปให้เขาซะ!”“คุณจะได้ชีวิตเดิมกลับคืนหากทำตามที่เขาบอก!”“ฉันรับประกันให้คุณได้ ว่าจะขอให้รองตัวแทนปล่อยคุณไป ถ้าคุณทำอย่างนั้น!”“ฮาร์วีย์ รองผู้แทนไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด คุณไม่เข้าใจหรอกว่าพลังของสตาร์แชโบลมากมายขนาดไหน…”โดมินิกแนะนำฮาร์วีย์อย่างขมขื่นพลั่ก!ถึงกระนั้นฮาร์วีย์ก็หักขาขวาของแคมให้หักครึ่งด้วยการขยับเท้าเพียงครั้งเดียว“ไม่ง่ายงั้นเหรอ? คุณหมายถึงอะไร?"แม้แต่แคมที่หยิ่งยโสและไม่ยอมใครก็ไม่สามารถกลั้นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเขาได้แคมอยากที่จะกลิ้งไปบนพื้น แต่ไม่มีแม้แต่แรงที่จะทำเช่นนั้น"คุณ…!"โดมินิกตกตะลึงเขาพูดทุกอย่างเพื่อเห็นแก่ฮาร์วีย์ แต่ทำไมชายคนนี้ไม่ฟังเขายังดึงดันจะเดินไปในทางนี้! เขาพยายามจะฆ่าตัวตายรึไง?!โดมินิกกระทืบพื้นเดือดดาลด้วยความโกรธ“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! คุณเป็นเลือกเองนะ! คุณเป็นคนเริ่มเรื่องยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้!”พลั่ก!ฮาร์วีย์ยิ้มแล้วหักขาซ้ายของแคม“ยุ่งอะไรด้วย?”โดมินิกแทบกระอักเลือดเขาหยิบโทรศัพท์ที่สั่นออกมา “รอก่อน
ฮาร์วีย์เหยียบมือของแคมนั่นก็เท่ากับเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของริคด้วยการที่เขาทำร้ายแคมนั้น เป็นภาพที่สร้างความตกใจต่อทุกคนไม่น้อยแต่ฮาร์วีย์ก็กล้าที่จะจู่โจมอีกครั้ง ไม่สนใจแม้ว่าหนึ่งในแปดราชาแห่งสวรรค์ของสตาร์แชโบลแห่งประเทศ H จะปรากฏตัวขึ้นนี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้ธรรมดา แต่เป็นการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของฮาร์วีย์ เขาไม่ได้สนใจสตาร์แชโบลตั้งแต่แรกอยู่แล้วชายหนุ่มที่ดูราวกับมีอายุยี่สิบต้น ๆ กล้าที่จะท้าทายอำนาจเช่นนี้ ในสายตาของทุกคนมันไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตายบางคนก็รู้สึกว่าฮาร์วีย์กำลังขุดหลุมไว้ฝังตัวเขาเองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฮาร์วีย์ก็กำลังทำร้ายแคม ทำให้โดมินิคที่มาจากสตาร์แชโบลต้องนิ่งราวกับหิน การแสดงออกของริคเองก็น่ากลัวไม่แพ้กันผู้ที่ยังยั่วยุฝั่งตรงข้ามภายใต้สถานการณ์เช่นนี้อาจจะดูเป็นคนที่งี่เง่า หรือไม่ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก ซึ่งสำหรับฮาร์วีย์แล้วกลับดูไม่เป็นอย่างนั้นดวงตาของริคกระตุก ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นคนที่สำคัญแค่ไหน เขาคิดแค่ว่าเขาสามารถแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายหากเขาปรากฏตัว แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรก“จองหองน
แสงในโรงฝึกเทควันโดไม่ค่อยมาก สิ่งนี้ทำให้เกร็กไม่สามารถเห็นใบหน้าของฮาร์วีย์ได้อย่างชัดเจนชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงที่ทุ้มน่าเกรงขาม “บุกรุกทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกาย… แล้วยังทำร้ายเจ้าพนักงาน! คุณยังมีความเคารพต่อกฎหมายอยู่ไหม!”"พาเขาออกไป! หากขัดขืนให้ยิงได้ทันที!”รอยยิ้มของฮาร์วีย์กว้างขึ้น แสดงออกถึงความรู้สึกเหยียดหยามอีกฝ่ายไม่น้อยเขาจ้องไปที่เกร็ก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ฟินช์ ผู้ชายที่แขนและขาหักบนพื้นต่างก็เป็นเพื่อนของคุณ แต่จะไม่ถามความจริงหน่อยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?”“นายรู้รึเปล่าว่าการทำร้ายเจ้าหน้าที่มันโทษหนักขนาดไหน?”“ไม่ต้องมาสอนฉัน!”“แกก่ออาชญากรรมบุกรุกและทำร้ายร่างกาย! ฉันในฐานะรองผู้บังคับบัญชาของสถานีตำรวจบัควู้ด มีหน้าที่รับตัวแกกลับไปสอบสวน!”“ถ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีก ฉันจะยิงทันที!”เกร็กย่างสามขุมเข้ามาหา เตรียมโจมตีอีกฝ่ายทันทีที่มือของเขากำลังจะแตะพื้น ชายหนุ่มก็เห็นใบหน้าของฮาร์วีย์ชัดเจนสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างลนลาน และหยุดมือเอาไว้ทันทีเกร็กโชคดีที่ได้เห็นใบหน้าของฮาร์วีย์จากระยะไกล เมื่อตอนที่ยานนิคพาเขาไปเฝ้าด้านนอกวิลล่าของฮาร์วีย์
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข