ฮาร์วีย์มองดูรายชื่อผ่าน ๆ มีถึงสามในสิบตระกูลชั้นนำของประเทศ H ที่ร่วมลงทะเบียนในครั้งนี้ พวกเขาคือตระกูลจอห์นจากโกลเด้น แซนด์ตามลำดับแล้วตระกูลนี้อยู่ในอันดับที่เจ็ด ตระกูลฌองจากมอร์ดูอยู่ในอันดับที่เก้า ตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่งอยู่ในอันดับที่สิบ นอกเหนือจากนั้น องค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากก็ได้ลงทะเบียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีวงการธุรกิจดัง ๆ จากต่างประเทศ เช่นบริษัทหลักทรัพย์ มอร์แกน กรุ๊ปที่กำลังกลับมารุ่งเรืองก็ได้ให้ความสนใจในการลงทะเบียนครั้งนี้ด้วย ครั้งนี้คนเหล่านี้แนบวีซ่าธุรกิจมาด้วย จากข้อมูลที่ส่งมาดูเหมือนว่าพวกเขาเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง หลังจากดูข้อมูลแล้ว ฮาร์วีย์ก็ตัดสินใจที่จะไม่ปฎิเสธบริษัทหลักทรัพย์จากต่างประเทศเหล่านั้น ในท้ายที่สุดแล้ว หากคนเหล่านั้นต้องการที่จะลงทุนจริงจังในบัควู้ด เขาก็ยินดีที่จะต้อนรับพวกเขาเหล่านั้น แน่นอนว่าหากพวกเขาต้องการสร้างความปั่นป่วน ในบัควู้ด ฮาร์วีย์ก็สามารถส่งพวกเขาไปสู่จุดจบได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังนั่งพัก พนักงานคนหนึ่งก็รีบเข้ามาถามว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กครับ ตัวแทนจากมหาวิทยาลัย
ณ โรงแรมบัควู้ด ซาช่ากำลังง่วนอยู่กับการประชุมออนไลน์กับเหล่าบุคคลที่มีความสามารถ เพื่อรวบรวมและวางกลยุทธ์ต่าง ๆ ล่วงหน้าเพื่อที่จะได้คว้าโครงการวิจัยในวันรุ่งขึ้นให้ได้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กได้ตกลงที่จะพบกับเธอแล้ว เธอก็น่าจะได้รับโอกาสอย่างแน่นอน ด้วยวิธีการของเธอ เธอจะยอมพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร? “โอ้ ซาช่า คุณมีความสามารถมาก ๆ !” “ผู้คนมากมายไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กเสียด้วยซ้ำ!” “แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะเลือกนัดพบคุณเป็นการส่วนตัว!” “ช่วยบอกฉันที หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กไม่ได้หลงเสน่ห์ของซาช่าเข้าแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น สงสัยพวกเราทั้งหมดต้องไปที่นั่นด้วยเพื่อปกป้องเธอ!” พวกคนเหล่านี้ต่างก็หลงใหลในเสน่ห์ของซาช่าด้วยเช่นกัน และมักไม่ค่อยชอบใจหากมีใครเข้ามายุ่มย่ามกับซาช่า หัวใจของซาช่าพองโตหลังจากได้ยินคำพูดของคนเหล่านั้น เธอแสดงรอยยิ้มอันอ่อนน้อมถ่อมตน "พวกคุณทุกคน! หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้วน่า!” “หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กเป็นบุคคลที่โดดเด่นมาก ๆ เขาจะมาชายตามองหญิงสาวจากตระกูลต่ำต้อยอย่างฉันได้อย่างไรเล่า?” “ฉันคิดว่าเขา
“เอ้อ ซาช่า ยังมีเรื่องเด็ดที่ฉันยังไม่ได้บอกคุณ!”“ฉันได้ยินมาว่าเพราะฮาร์วีย์ ยอร์ก บริษัทรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์จึงมีคนมากมายมาขอคืนทรัพย์สินที่พวกเขาซื้อไปเยอะแยะเลยล่ะ! แม้กระทั่งปัญหากระแสเงินสดที่เราพูดถึงกันด้วย!”“บรรดาผู้บริหารระดับสูงในบริษัทรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่าพวกเขาจะไม่ไปทำงาน หากแมนดี้ไม่ไล่ฮาร์วีย์ออก และพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับตัวเขาและผู้คนที่ทำงานให้กับบริษัทด้วย!”“บางที บริษัทรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ อาจจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นบริษัทแรกที่ล้มละลายเพราะลูกเขยยังไม่ตายไปให้พ้น ๆ เสียทีก็เป็นได้!”ลูกน้องคนหนึ่งของซาช่ายังรายงานเรื่องอื่นอีก“ได้รับพรอีกประการหนึ่งแล้วสิ ฉันรู้ได้เลยล่ะ!”ซาช่ารู้สึกมีความสุข เธอคิดว่าการมาที่บัควู้ดครั้งนี้คุ้มค่าประการแรก เธออาจจะได้แต่งงานกับครอบครัวรวย ๆ ถ้าเธอได้พบกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กเข้านอกจากนี้ ถ้าเธอจัดการกับฮาร์วีย์ได้จนถึงจุดที่เขาต้องยอมฆ่าตัวตายไปเสีย มันคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว“โถ่ ฮาร์วีย์ ฉันจะบอกอะไรให้นะ นายไม่ควรขัดขวางคนที่นายไม่มีปัญญาจะทำอย่างนั้นเ
วันถัดมาศูนย์จัดแสดงนิทรรศการเมืองบัควู้ดกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมมีนักธุรกิจมากกว่าพันรายที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้พูดได้อย่างเต็มปากว่านี่จะเป็นหนึ่งในการประชุมการลงทุนและการร่วมมือทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดขึ้นที่ประเทศ Hซาช่า ลาร์สันและเพื่อนร่วมงานของเธอมาถึงศูนย์นิทรรศการตั้งแต่เช้าตรู่“ซาช่า ฉันอยู่ที่บัควู้ดแล้ว ฉันจะไปพบกับท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กและคุณทิม เซเปดาจากศึกษาธิการบัควู้ด เธอต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้!”“ไม่ใช่สนแต่ผู้ชาย เธอต้องได้โครงการวิจัยด้วย!”รองคณบดีแห่งมหาวิทยาลัยมอร์ดู ผู้ซึ่งเป็นพ่อทูนหัวของซาช่า ชื่อของเขาคือเพอร์ซี่ วิลเลี่ยมส์โทรศัพท์หาเธอ“วางใจได้ค่ะพ่อทูนหัวของฉัน ฉันจะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอนค่ะ!”“ในโลกนี้ไม่มีใครที่ฉันรับมือไม่ได้!”ซาช่าที่ขณะนี้มีความสุขนั้นยิ่งทำให้เธอดูสวยขึ้นกว่าเดิมเธอมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของเธอมาโดยตลอดแถมคนที่เธอเทิดทูนก็เอ่ยปากชื่นชมเธอเช่นกัน“ซาช่า คุณเก่งมากเลย! คุณทำได้ยังไง?!"“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอร์กมีอารมณ์รุนแรงมาก ไม่มีใ
พวกเขาพยายามใส่ร้ายฮาร์วีย์ทุกวิถีทางอย่างไม่หยุดหย่อนราชาแมงดาแห่งบัควู้ด เป็นตำแหน่งที่พวกเขาตั้งให้ในสายตาของคนเหล่านั้น ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้ดีไปกว่าหนูโสโครกที่ตัวสั่นอยู่ตรงมุมห้อง รอโอกาสที่จะออกจากบัควู้ดแต่ฮาร์วีย์ดันอยู่ในศูนย์นิทรรศการจริง ๆ!แถมเขายังยืนอยู่กับรองคณบดีอีก!สมองของซาช่า ลาร์สันขาวโพลนไปหมด เธอตะโกนออกไปโดยไม่รู้ตัวทันที “ฮาร์วีย์ ไอ้หนูโสโครก! แกมาทำอะไรที่นี่?! นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมาได้เสียหน่อย!”ทุกคนเงียบกริบหลังจากได้ยินคำพูดของเธอพนักงานทุกคนเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่ซาช่าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ราวกับสิ่งที่เธอนั้นร้ายกาจซาช่าเสียวสันหลังวาบเมื่อเห็นสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาสมองบอกเธอว่าที่ไม่ใช่เรื่องจริง!ในขณะนั้นเอง พนักงานคนหนึ่งเดินมาหาเธอจากด้านข้างทันที ก่อนกระซิบว่า “ตัวแทนลาร์สัน คุณกำลังพูดอะไร?! เขาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนสำคัญเชียวนะ!”“คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรึไง?! ทำไมคุณกล้าตะโกนชื่อเขาแบบนั้น?!”“หัวหน้าผู้ฝึกสอนงั้นเหรอ?”"เป็นไปไม่ได้! ฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นแค่แมงดาไม่ใช่รึไง?”"ใช่! ทุกคนในบัควู้ดรู้เรื่องที่เขาถูกขั
ซาช่า ลาร์สัน กลับมามีสติอีกครั้งหลังจากถูกเตะลงไปกองกับพื้นเธอกรีดร้องอย่างหนัก “พ่อทูนหัว ได้โปรดหยุดเถอะ! ได้โปรด! มันเจ็บ!" หลังจากได้ยินซาช่าเรียกเขาแบบนั้น เพอร์ซีย์ วิลเลียมส์ตัวสั่นหนักขึ้นอีก เขาคว้าคอซาช่า ยกเธอขึ้นแล้วตบหน้าเธออย่างต่อเนื่อง“ใครเป็นพ่อทูนหัวของหล่อน! ฮะ?!”“ใครเป็นพ่อทูนหัวของเธอกัน?!”“ถ้าเธอยังพูดอะไรไร้สาระอีก ฉันจะตีเธอให้ตาย!”เพอร์ซี่รู้ว่าเขาจบเห่แน่ ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับซาช่าหลังจากนั้นไม่นานเพอร์ซี่หยุดตบหญิงสาว ใบหน้าเล็กแสนน่ารักของซาช่าถูกทำลายจนหมดสภาพเธอกระตุกอยู่บนพื้นอย่างช่วยไม่ได้ เลือดและหยาดน้ำตาผุดขึ้นที่มุมตาของเธอเธอไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย์ ยอร์กมีตัวตนด้านนี้ถ้าเธอรู้ เธอจะปรนเปรอเขาทุกครั้งที่มีโอกาสทีเดียว! และคงไม่กล้าแม้แต่จะขัดใจเขาแม้แต่ครั้งเดียว!แต่ฮาร์วีย์ไม่คิดจะปล่อย สองพ่อลูก ที่ว่ายมาติดเบ็ดไปในตอนนั้น เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “อ้อ ผมได้ยินมาว่า ซาช่ากำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง”“คุณคงเป็นคนช่วยให้เธอได้รับตำแหน่งใช่ไหม? 'พ่อทูนหัว'?"ฮาร์วีย์เน้นไปที่คำว่า “พ่อทูนหัว” หลังจากได้ยินคำพูดเ
เมื่อชายคนนั้นพูด นอกจากต้องร่วมมือด้วยแล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นมหาวิทยาลัยมอร์ดูได้ส่งข้อความฉุกเฉินไม่นานหลังจากขอโทษประชาชนอย่างเป็นทางการและจัดการเรื่องชื่อสกุลของฮาร์วีย์ ยอร์ก และแมนดี้ ซิมเมอร์ในขณะเดียวกันนั้น ซาช่า ลาร์สันถูกเปิดโปงเรื่องที่เธอใช้เรือนร่างของตัวเองทำสิ่งที่ไม่อาจเอ่ยออกไปได้กับรองคณบดีแห่งมหาวิทยาลัยมอร์ดู ที่เธอเรียกเขาว่าพ่อทูนหัวซาช่าถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยมอร์ดูเพอร์ซี่เองก็ถูกไล่ออกเช่นกันทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โตที่หน้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งทั้งคู่ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่เพราะเรื่องฉาวโฉ่นั่น ทั้งคู่จึงกลายเป็นหมาข้างถนนที่ไม่มีใครใส่ใจจะส่งพวกเขาไปโรงพยาบาลไม่มีแม้แต่จะชายตามองว่าพวกเขาจะนอนอยู่บนพื้นมาขนาดไหนแล้วด้วยซ้ำไป พวกเขาทำได้เพียงกัดฟันทน ลุกขึ้นยืน แล้วเดินกะโผลกกะเผลกไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาด้วยตัวเองหลังจากนั้นทั้งคู่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ลือกันว่าพวกเขามีชีวิตต่อไปอย่างน่าสังเวช***เมื่อสภาการลงทุนและการร่วมมือทางธุรกิจดำเนินไปอย่างเต็มรูปแบบ ตระกูลใหญ่ บริษัท และตัวแทนธุรกิจจากต่างประเทศจำนวนมากมาถึงบัควู้ดก่อนเวลาเป้า
ที่โรงแรมบัควู้ดตัวแทนของธุรกิจขนาดใหญ่จากมอร์ดูรวมตัวกัน ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นผู้นำกลุ่มคือชาร์ลี กิบส์เขากำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะไวน์ในขณะพูดโทรศัพท์ด้วยความนอบน้อม“นายใหญ่ท็อดด์วางใจได้เลยครับ เราจำสิ่งที่คุณสั่งเราได้!”“เราจะต้องถ่ายทำภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในคืนนี้ได้แน่ ผู้หญิงคนนี้จะถูกแย่งตำแหน่งและชื่อเสียงของเธอไปครับ!”ชาร์ลีกำลังยิ้มอย่างชั่วร้ายตระกูลฌองควบคุมธุรกิจไม่กี่แห่งที่มาจากมอร์ดูจากเบื้องหลังท็อดด์ ฌองออกคำสั่งให้พวกเขาเมื่อคืนนี้ ชาร์ลีและคนอื่น ๆ มักจะทำตามที่เขาสั่งเสมอหลังจากที่ชาร์ลีวางสาย เขาก็เริ่มตักโยเกิร์ตพร้อมกับตัวแทนคนอื่น ๆ โยเกิร์ตใช้แก้อาการเมาค้างและได้ผลค่อนข้างดีทีเดียวประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา สมาชิกของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ก็ผลักประตูเข้ามาข้างในชาร์ลีแสดงสีหน้าบูดบึ้งขณะยืนอยู่ข้างหน้าเมื่อเห็นคนจำนวนมากติดตามแมนดี้“ซีอีโอซิมเมอร์ นี่มันหมายความอะไร?“เรามาที่นี่เพื่อคุยกับคุณเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อดูว่ามีหนทางที่เราทั้งคู่จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ไม่ใช่เหรอ?”“คุณพาคนมาที่นี่มากมายขนาดนี้ทำไม? คุณวางแผนจะบังคับให
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข