เมื่อได้ยินความสงสัยของซาช่า ซีนเธียร์พูดเสริมไปอีกว่า “มิสซาช่า เขาเป็นพี่เขยของหนูเองค่ะ และเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดของหนู หนูคิดว่าเขาสามารถเป็นตัวแทนของครอบครัวหนูได้”“มิสซาช่า ถ้าคุณรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา หนูจะให้คุณพ่อคุณแม่มาพูดคุยกับคุณแทนค่ะ”เมื่อได้ยินคำตอบของซินเธีย ซาช่าก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเขาเป็นพี่เขยของเธอเขาก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้”“โอ้ เธออยู่ด้วยไม่ได้นะ เพราะนี่เป็นการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเธอ”ซีนเธียร์พยักหน้าเป็นคำตอบและรีบเดินออกไป พร้อมวางเอกสารจำนวนมากเกี่ยวกับครอบครัวของเธอให้ซาช่าเธอมั่นใจในตัวพี่เขยของเธอ เธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องกังวลตราบใดที่พี่เขยของเธออยู่ที่นี่ด้วยหลังจากที่ซีนเธียร์ออกไปแล้ว ซาช่าก็พลิกดูเอกสารด้วยใบหน้าที่เย้ยหยันจากนั้นเธอก็มองฮาร์วีย์และส่งรอยยิ้มแปลก ๆ “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ใครจะคิดว่าเราจะได้พบกันในสถานการณ์แบบนี้!”“ใครจะไปคิดว่าคนที่หยิ่งยโสอย่างคุณจะกลายเป็นลูกเขยที่ดูเหมือนจะไม่มีค่าอะไรเลย?”ซาช่าหัวเราะเยาะ เอกสารระบุอย่างชัดเจนว่าฮาร์วีย์แต่งงานในตระกูลซิมเมอร์ฮาร์วีย์ไม่สนใจและตอบอย่างสบาย ๆ ว่า
ทุกคนล้วนเห็นพ้องไปกับซาช่า ทุกคนล้วนเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของเธอตอนนี้พวกเขารับรู้ความคิดของซาช่าที่มีต่อฮาร์วีย์ ยอร์ก พวกเขาจึงเลือกเข้าข้างเธอและเยาะเย้ยฮาร์วีย์ซาช่าโบกมือให้พวกเขาและเย้ยหยัน “ไม่ ไม่ ไม่ เรายังต้องดำเนินการตรวจสอบประวัติกันก่อน!”“เราเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดู ดังนั้นเราควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นเราจะรายงานให้มหาวิทยาลัยทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง?”เมื่อได้ยินคำพูดของซาช่า สาวกผู้ภักดีเหล่านั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยพวกเขาคิดว่าซาช่าจะฉลาดขนาดนี้ ถ้าหากพวกเขาไม่ทำตามนั้น พวกเขาอาจถูกรายงานพฤติกรรมหลังจากกลับไปแต่เมื่อพวกเขาดำเนินการจนเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด จะไม่มีใครสามารถพูดใส่ร้ายอะไรกับพวกเขาได้“ไปเตรียมตัวเถอะฮาร์วีย์ การสัมภาษณ์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” ซาช่าทำท่าทางเชิญฮาร์วีย์แม้ว่าฮาร์วีย์จะเห็นว่าซาช่ามีท่าทีอย่างไร แต่เขาก็ต้องอดทนเพื่อการศึกษาต่อของซีนเธียร์ถ้าไม่อย่างนั้น มันคงไม่ใช่ลำบากที่จะต้องกับไปเจอหน้าพ่อแม่ของซีนเธียร์หลังจากสั่งให้คนจัดเตรียมกล้องสำหรับการบันทึกการสัมภาษณ์แล้ว ซาช่าก็เข้
“ฉันอยากบอกคุณฮาร์วีย์”“คุณไม่มีความละอายใจเลย!”“ครั้งที่แล้วฉันให้โอกาสคุณ ฉันไม่ดูถูกคุณ ไม่เพียงแต่คุณไม่เห็นค่ามัน แต่คุณยังไล่ฉันออกจากงานด้วย!”“แต่นั่นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร คนที่มีความสามารถอย่างฉันก็ยังอยู่เหนือคนอื่นได้!”“ตอนนี้ฉันยังมีอำนาจตัดสินใจว่าน้องสะใภ้ของคุณจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยหรือเปล่า!”“เพียงหนึ่งประโยคที่ออกจากปากฉันก็สามารถกำหนดครึ่งชีวิตที่เหลือของเธอได้!”“หรือแค่ประโยคเดียว ฉันก็สามารถทำลายชื่อเสียงและชีวิตของคุณได้!”ซาช่าลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแสดงท่าทางเหนือกว่า พลางจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์หัวเราะเยาะ “การปีนบันไดเข้าสังคมด้วยการใช้ร่างกายมันก็คงจะอยู่ได้ไม่นานนัก และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถ้าคุณยังคงสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้แม้ว่าคุณจะแก่และอ่อนแอลง มาอวดผมอีกครั้งแล้วกัน”ฮาร์วีย์จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าซาช่า ลาร์สันคนนี้มาถึงทุกวันนี้ได้ด้วยการเอาตัวเข้าแลก“เฮอะ! งั้นเหรอ? ผ่านไปกี่ปีแล้วแต่ฉันยังปีนป่ายขึ้นไปสูงไม่เคยหยุด! เพื่อเป็นข้อมูลนะ ฉันจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูในไม่ช้านี้!”
วินาทีแรกที่เธอเห็นอีวอนน์ ซาช่ารู้สึกเป็นปรปักษ์กับเธอทันทีเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นอุปสรรคใหญ่ในแผนการให้ได้มาซึ่งเจ้าชายยอร์กแต่เมื่ออีวอนน์ลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอ ซาช่าก็เพียงแค่ส่งรอยยิ้มแห่งชัยชนะไปให้นั่นเป็นเพราะว่าคนที่มีประสบการณ์อย่างซาช่ารู้สึกได้ทันทีว่าอีวอนน์ยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์นี่หมายความว่าอีวอนน์ไม่ได้เป็นอะไรไปมากเลขาฯเป็นโอกาสที่ดีของซาช่าเธอเชื่อว่าเสน่ห์ของเธอจะทำให้เจ้าชายยอร์กตกหลุมรักเธอได้อย่างแน่นอนหลังจากจับมือกันอย่างให้เกียรติกันแล้ว อีวอนน์เหลือบมองที่นามบัตรของซาช่าและพูดว่า “มิสซาช่า เจ้าชายยอร์กยังไม่สะดวกที่จะให้เข้าพบ” อีวอนน์เกิดความประทับใจแรกพบที่ไม่ดีต่อซาช่าผู้หญิงคนนี้มีออร่าแห่งตัณหาราคะแผ่ไปทั่วจนทำให้เธอไม่อยากจะให้เข้าพบกับฮาร์วีย์เลยดังนั้นเธอจึงพูดปฏิเสธซาช่าออกไปซาช่าสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังจากอีวอนน์ทันทีที่เธอส่งยิ้มให้“เลขาซาเวียร์ ฉันยังคิดว่าคุณควรไปรายงานให้เจ้าชายยอร์กทราบก่อน พวกเรามาจากมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูอยากที่จะเปิดสาขาในบัควู้ด คุณเองก็คงจะรู้จักถึงมาตรฐานและชื่อเสียงด้านการศึกษาของมหาวิยาลัยบั
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ โยเอลเหงื่อตกทันทีแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการต่อสู้ในวงการธุรกิจจะโหดร้ายเพียงใด แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงโยเอลพยายามสงบสติอารมณ์และเปลี่ยนเรื่อง “ท่านประธานยอร์ก ผมขอตรง ๆ กับคุณ ทุกวันนี้มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในวงการธุรกิจของบัควู้ด”“แม้แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของบัควู้ด ทางการได้จัดประชุมมาสองสามครั้งติดต่อกัน และในที่สุดก็ตัดสินใจจะจัดการประชุมส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดบริษัทต่างชาติ”“แน่นอนว่าบัควู้ดจะไม่เปิดรับนักธุรกิจที่มีแรงจูงใจแอบแฝง คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ?” โยเอลถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเคารพแม้จะผ่านทางโทรศัพท์ก็ตามเขาไม่กล้าแสดงกิริยาอาการดูหมิ่นเหยียดหยามใด ๆ ออกมาต่อหน้า ‘ชายคนนี้’หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ฮาร์วีย์ตอบว่า “นี่เป็นความคิดที่ดี ผู้เฒ่าเกรแฮม”“วงการธุรกิจของบัควู้ดต้องหาและรวบรวมทรัพยากรอีกครั้ง ควรมีบริษัทดี ๆ มาลงทุนด้วย นั่นเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้คุณตัดสินใจได้เลย ผมพร้อมจะสนับสนุนคุณ” โยเอลมีอาการลังเลแล้วถามออกไป “แต่ผมมีข้อกังวลนะท่านประธานยอร์ก! ถ้าเราจัดกา
“อย่างไรก็ตาม ฉันยังได้ยินมาอีกว่าในการประชุมส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้ อำนาจทั้งหมดจะตกไปอยู่ในมือของที่ปรึกษาที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลของบัควู้ด ถ้าเธอสามารถทำคะแนนกับที่ปรึกษาได้ เราจากมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูก็จะสามารถลงทุนในโครงการที่เราสนใจในอนาคตได้ง่าย ๆ เหมือนปลอกกล้วยเข้าปากอย่างแน่นอน!” “ซาช่า เธอต้องรู้เอาไว้นะว่าเรามีนักวิจัยและเงินทุนอยู่มากโข และเราจะสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำถ้าเราได้เข้าร่วมโครงการ!” ซาช่าทำท่าทางฉงนเหมือนเด็กไร้เดียงสาในอีกฟากฝั่งของโทรศัพท์ “แต่คุณพ่อคะ ฉันไม่อยากทำมันเลย!” “ฉันขอโทษสำหรับเรื่องนี้นะ แต่ซาช่า เธอจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างแน่นอนหลังจากเรื่องนี้สำเร็จ!” ซาช่ายิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น นี่คือสิ่งที่เธอรอคอยมานานแสนนาน ณ บ้านซิมเมอร์ ซีนเธียร์และแมนดี้ที่กำลังคุยกันอยู่ จู่ ๆ แมนดี้ก็มองข้ามคู่สนทนาตรงหน้าไปเมื่อเธอเห็นฮาร์วีย์กำลังเดินเข้ามา “เรื่องวิทยากรเป็นอย่างไรบ้าง?” “มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ” ฮาร์วีย์ตอบพรางพยักหน้า แมนดี้ยิ้มกว้างและพูดขึ้นว่า “ดีเลย ซีนเธียร์นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยแห่งมอร์
”ที่ดิฉันได้มีโอกาสมาเซาท์ไลท์ในครั้งนี้ ดิฉันได้พบกับสุดยอดผู้ปกครองของนักเรียนหลาย ๆ ท่าน และดิฉันเองก็รู้สึกยินดีมาก ๆ ที่ได้พบกับทุก ๆ ครอบครัว ดิฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรหลานของผู้ปกครองในเซาท์ไลท์นั้นมันยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ” ในวิดีโอซาช่ากำลังพูดอย่างฉะฉานและดูเป็นมืออาชีพมาก ๆ อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็เปลี่ยนเรื่อง “แต่ทว่าในระหว่างการตรวจสอบผู้ปกครองทั้งสิบในครั้งนี้ ดิฉันได้พบกับบุคคลแปลก ๆ มันทำให้ดิฉันแอบสงสัยว่าผู้ปกครองของนักเรียนคนนี้กำลังมีปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า?” “ไม่ว่านักเรียนคนดังกล่าวจะมีคุณสมบัติพอที่จะลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูได้หรือไม่!” ไซม่อนและลิเลียนต่างก็รูสึกตกตะลึงกับคำพูดเหล่านั้น เพราะนี่คือบันทึกการตรวจสอบของซีนเธียร์ จู่ ๆ กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? ขณะนี้ทั้งคู่เริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป “ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้ว ดิฉันไม่ควรที่จะเปิดเผยข้อมูลผู้ปกครองของนักเรียน… แต่ทว่ามหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูก็ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลามากกว่าร้อยปีแล้ว และเรายึดมั่นในทัศนคติของการรับผิดชอบต่อนักเรียนทุก
ฮาร์วีย์สูดลมหายใจเข้าลึก เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกใส่ร้ายเช่นนี้ วิดีโอนี้อัปโหลดอยู่บนเว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดู และวีดีโอนี้มันส่งผลกระทบอย่างมาก แม้ว่าฮาร์วีย์จะไม่ได้สนใจผลกระทบจากมันมากนัก แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับซีนเธียร์ในการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพียงแค่มหาวิทยาลัยแห่งมอร์ดูเพียงเท่านั้น แต่เป็นไปได้ว่ามหาวิทยาลัยทุก ๆ แห่งในประเทศอาจจะไม่ยอมรับเธอด้วย เห็นได้ชัดว่าไซม่อนและลิเลียนเองก็คิดถึงผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน และในตอนนี้การแสดงออกของพวกเขาก็ค่อนข้างที่จะดูเคร่งเครียด สิ่งที่พวกเขากำลังรู้สึกเสียใจเป็นที่สุดในเวลานี้ก็คือเหตุใดพวกเขาจึงไว้วางใจฮาร์วีย์ ทั้งสองควรเข้าร่วมในการตรวจสอบผู้ปกครองด้วยตัวเอง แมนดี้ยังคงค่อนข้างอยู่ในอาการสงบ เธอขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “คุณพ่อ คุณแม่ ซีนเธียร์ ไม่ต้องเป็นกังวลไป หนูคิดว่ามีบางอย่างที่มันผิดปกติไปเกี่ยวกับวิดีโอนี้ เรื่องนี้มันดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ฮาร์วีย์ คุณรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม? มีความขัดแย้งอะไรระหว่างพวกคุณสองคนบ้างหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าขณะนี้แมนดี้สามารถสงบสติอารมณ์ได้มากพอสมควร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข